ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2606
บทที่ 2606
ในเวลานี้ซูจือหยูก็พุงมาถึงตรงหน้าของชูโสว่เต้า โพล่งพูดถามว่า : “พ่อ ทำไมปู่เขาจะต้องทำแบบนี้ด้วย? ! ทำไมเขาต้องฆ่าแม่
ด้วย? ! ”
ซูโสว่เต้าพูดอย่างรู้สึกผิดมากว่า : “ปู่ของแกเขา…ไตล์พฤติกรรมของเขาก็เป็นแบบนี้แหละ…อีกอย่างเขาพุ่งเป้ามาที่แม่ของแกเพียงคน
เดียว ไม่ได้อยากจะจัดการแก เพียงแค่คิดไม่ถึงว่าตอนนั้นแกก็อยู่ด้วย…”
ซูจือหยูโพล่งพูดออกมาด้วยความโกรธอย่างไม่อาจจะเก็บซ่อนไว้ได้ : “จัดการแม่ของหนูกับจัดการหนูมันแตกต่างกันตรงไหน ? ! เขา
ให้คนมาทำร้ายแม่ของหนูตาย ไม่เคยคิดเหรอว่า ต่อไปหนูก็จะมาแก้แค้นเขา? !
ซูโสว่เต้าไร้คำพูดไร้ค่ตอบโดยทันที
ช่วงที่ลังเล เขาก็ทอดถอนใจด้วยความเศร้า พูดว่า : “ฉันจะมีทางเลือกอื่นได้ยังไงล่ะ? แค่ปู่ของแกพูดมาประโยคเดียว ฉันก็จะต้องไสหัว
ไปออสเตรเลียชั่วข้ามคืนเลย ; เขาพูดอีกประโยคหนึ่ง ฉันก็ต้องกลับมาจากออสเตรเลียชั่วข้ามคืนเลย ทรัพยากรของตระกูลซูเขาก็ควบคุมอยู่
ในกำมือทั้งหมด ทุกคนในตระกูลซูล้วนแต่ถูกเขาควบคุมและจัดการไว้หมดแล้ว …
ซูจือหยูพูดถามด้วยความโมโหว่า : “ซูรั่วหลีก็เป็นลูกสาวของพอ ตอนนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาจะเป็นตายร้ายดียังไง ที่เป็นแบบนี้ก็เพราะปู่ หนูกับ
แม่เกือบตายที่จินหลิง เขาก็เป็นคนคอยงกรอยู่เบื้องหลังเช่นกัน สามคน สามชีวิต ยังไม่เพียงพอที่จะให้พอแก้แค้นเพื่อพวกเราอีกงั้นเห
รอ? ! ”
ซูโสว่เต้ารู้สึกบอายขายขี้หน้าแทบตาย สองมือปิดบังใบหน้าพร้อมร้องให้อย่างขึ่นขม : “ฉัน…นก็คิดนะ! แต่ว่าฉันมีทางเลือกอะไร
บ้าง? ไปจากตระกูลซู แตกคอกับปู่ของแก ทรัพยากรที่ฉันสามารถโยกย้ายมาได้ เกรงว่ไม่ถึง1%ใน100ของตระกูลซู อย่าว่าแต่แก้แค้นเพื่อ
พวกแกเลย แม้แต่จะปกป้องตัวเองยังยากเลย เพราะงั้นฉัน …เพราะงั้นฉันจึงทำได้เพียงกล้ำกลืนความอัปยศอดสู ทุกอย่างรอจนถึงได้ตำแหนง
ผู้นำตระกูลซูมาครอบครองแล้วค่อยมาปรึกษาหารือกันให้ดี…”.
ซูจือหยูส่ายๆหน้าแล้ว พูดด้วยสีหน้าที่ผิดหวังอย่างมากว่า : “อ หนูเข้าใจพ่อ ถึงแม้จะได้ตำแหน่งผู้นำตระกูลซูมา คุณก็ไม่มีทางแก้
แค่นให้กับพวกเรา คุณก็จะทำแค่เป็นผู้นำตระกูลของคุณให้ดีๆส่วนเรื่องอื่นๆ ล้วนแต่เป็นเพียงแค่หมอกควันที่ผ่านตาก็เท่านั้น”
ซูโสว่เต้าโบกมืออย่างไม่หยุดหย่อน : “ไม่…ไม่มีทาง…พ่อจะเป็นคนแบบนี้ได้ยังไงกัน….
ในเวลานี้เย่เฉินพูดด้วยน้ำเสียงที่เยือกเย็นว่า : “ยังจะพูดว่าแกไม่ใช่คนแบบนี้อีกนะ ตอนที่ลูกสาวทั้งสองคนของแกไม่รู้ว่าเป็นตายร้ายดี
ยังไง แกทำอะไรอยู่? พูดต่อหน้าภรรยาและลูกของแกสิ ทำไมแกต้องมาที่จินหลิง? ”
ซูโสว่เต้าโพล่งพูดออกมา : “ฉันมาจินหลิง แน่นอนว่าต้องการตามหาที่อยู่ของพวกเธอสองคน”
“แกหาแล้วเหรอ? ” เย่เฉินยิ้มพร้อมเอ่ยพูด : “ทั่วทุกจินหลิงล้วนแต่มีคนของฉันคอยสอดส่องอยู่ทั้งนั้น ฉันไม่เคยได้ยินเลยว่าแกกำลัง
ตามหาพวกเธอสองคนจริงๆ ฉันรู้เพียงแค่ว่า แกมายังจินหลิงอย่างเงียบๆ เข้าพักที่โรงแรมปัายจินานกงอย่างเงียบๆ เพื่อที่จะได้เข้าใกล้นางาฮิ
โกะ อิโตะที่มาจากประเทศญี่ปุ่น”
“ส่วนที่ว่าทำมแกต้องมาหาเขาด้วย นั่นก็เป็นเพราะว่าใบอนุญาตขนส่งของตระกูลซูของพวกแกถูกเพิกถอนแล้ว ตอนนี้เกิดความเสีย
หายมากในทุกวัน เพราะงั้นพวกแกอยากที่จะทำงานร่วมกันกับนางาฮิโกะ อิโตะ โดยการใช้ธุรกิจการขนส่งที่ถูกห้ามข้ามฟากไปยังญี่ปุ่นอย่าง
เงียบๆ ฉันพูดถูกไหม? ! ”
“ฉัน…ฉัน น…” ซูโสว่เต้าพูดไม่ออกเลยทันที พูดอีกๆอักๆว่า : “นี่เป็นหน้าที่ที่พ่อฉันให้ฉันทำ ฉันไม่กล้าที่จะไม่เซื่อฟัง….
เย่เฉินพูดเยาะเย้ย : “พอได้แล้วมั้งซูโสว่เต้า เมื่อกี้ซูจือหยุพูดได้ถูกต้องมาก สิ่งที่สำคัญในสายตาของแกจริงๆ คือตำแหน่งของผู้นำ
ตระกูลของตระกูลซู ไม่ใช่ความรักที่ลึกซึ้งต่อลูกอะไรเลย เพื่อตำแหน่งนี้ ไม่ว่าอะไรแกก๊สามารถพลีชีพได้ รวมถึงญาติพี่น้องที่สนิทที่สุด! ”
ซูโสว่เต้าปฏิเสธอย่างแรง”ไม่ใช่! ไม่ใช่แบบนั้นอย่างที่คุณคิดนะ! ฉันยินยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูกสาวของฉัน เพียงแค่ก่อนหน้านี้ฉัน
มีความสามารถไม่พอจริงๆ! มีความสามารถไม่พอ! ”
“เหรอ? งั้นเหรอ? ” เย่เฉินมองไปยังซูสว่ต้า ถามอย่างเยือกเย็นว่า : “ซูโสว่เต้า แกบอกว่าแกยอมที่จะทำทุกอย่างเพื่อลูกสาวของแก
คำพูดเหล่านี้เป็นเรื่องจริงเหรอ? ”
ซูโสว่เต้าพูดอย่างไม่ลังเลเลยสักนิดว่า : “ฉันขอสาบานต่อพระเจ้า! ”
เย่เฉินพยักหน้า ยิ้มพร้อมพูดว่า : “ฉันยังจำได้อีกว่าเมื่อกี้แกยังพูดว่า ยินยอมที่จะใช้ชีวิตของแก มาแลกเปลี่ยนกับชีวิตของลูกสาวทั้ง
สองคน งั้นตอนนี้ก็เป็นการทดสอบว่าแกจริงใจใช่หรือไม”
พูดจบ เขาก็หันหลังกลับ พูดกับเฉินจี๋อข่ายที่อยู่นอกประตูว่า : “ไป ไปเชิญตัวแขกอีกท่านหนึ่งมา! ”
เฉินจื่อข่ายรู้อยู่แล้วว่าแขกอีกท่านหนึ่งที่เขาพูด ก็คือซูรั่วหลี!
ดังนั้น เขาพูดอย่างไม่ลังเลเลยว่า : “ครับ คุณชาย ท่านกรุณารอสักครู่ ผมจะไปเชิญมาเดี๋ยวนี้ ! “