ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 2608
บทที่ 2608
เย่เฉินกลอกตามองไปที่เขา ยกมือขึ้นตบเข้าไปที่หน้า
“เปรี๊ยะ! ”
ตบฉาดนี้ ทำให้ซูจือหยูและชูรั่วหลีล้วนแต่ตกตะลึง!
ซูโสว่เต้าก็อึ้งไปโดยสิ้นเชิง ถามด้วยความโกรธแค้นในใจ : “ทำไม? ฉันแม่งทำไมเหรอ? ทำไมคุณต้องมาตบฉันอีก? แถมยังมาตบหน้า
ฉันต่อหน้าภรรยาและลูกสาวของฉันด้วย!
หันใดนั้นย่เฉินก็พูดถามด้วยความเยือกเย็น :”ซูโสว่เต้า แกมันช่างหน้าไม่อายซะเหลือเกิน หลังจากที่ซูรั่หลีหายตัวไป แกได้ตามหาเธอ
จริงๆไหม? ”
“ฉัน…” ซูโสว่เต้าอิ้งไปครู่หนึ่ง
“ใช่ ฉันเคยไปตามหาเธอไหม? ”
“ไม่แน่นอน”
“นั่นเป็นเพราะว่า ฉันหมดปัญญาที่จะตามหาจริงๆ! ”
“เธอหายตัวไปในทะเลนกว้างใหญ่ กองกำลังทั่วทั้งญี่ปุ่นล้วนแต่หาตัวเธอไม่เจอ ฉันชูโสว่เต้าจะไปมีปัญญาที่ไหนกันล่ะ?”
“ก็เพราะว่ารู้ตั้งนานแล้วว่าโอกาสมีน้อยก็ไม่เลยไม่ได้สนใจ เพราะงั้นก็เลยไม่ได้มีความคิดที่จะตามหาเธอจริงๆ”
“ยิ่งไปกว่านั้น ฉันถูกคุณท่านกดดันมาตลอด ไมสามารถโยกย้ายทรัพยากรได้เลย ชายชราเพิ่งจะขายซูรั่วหลีไปไม่นาน ถ้าหากว่าฉันไป
ตามหาเธอโดยทันที งั้นก็เป็นการขัดต่อคุณท่านแล้วนะสิ”
“เพราะงั้น ฉันจึงไม่ได้ไปตามหาเธอจริงๆ…”
“หรือกล่าวอีกนัยหนึ่งว่า ตบฉาดนี้ของเย่เฉิน ไม่ได้สูญเปล่า..”
คิดมาถึงตรงนี้ เขาก้มหน้าอย่างละอายใจ พูดกล่าวอย่างสำลักว่า : “รั่วหลี ตอนที่ลูกโดนพวกญี่ปุ่นจับตัวไป พ่ออยากที่จะช่วยลูกมาก
จริงๆนะ ปู่ของลูกบอกพ่อว่าจะช่วยเหลือลูก แต่คิดไม่ถึงว่า เขาจะคุยเรื่องเงื่อนไขที่สกปรกพวกนั้นกับกองกำลังป้องกันตนเองภาคฟื้นดินญี่ปุ่น
ลับหลั่งพ่อ…”
น้ำตาของซูรั่วหลีไหลลงมาทันที
เธอก็เดาออก คนที่ต้องการขายตัวเองจริงๆ จะต้องเป็นปู่ซูเฉิงเฟิง
แต่ว่า เมื่อคิดถึงว่าพ่อกลับว่าไม่พยายามที่จะช่วยตัวเอง ไม่ได้ทำเรื่องะไรที่เป็นความจริง จิตใจของเธอก็รู้สึกเยือกเย็นบ้างแล้ว
เธอรู้สึกว่า แม้ว่าตัวเองเป็นลูกสาวนอกสมรส ก็ถือว่าเป็นเลือดเนื้อเชื้อไขของซูโสวเต้า
เลือดเนื้อของตัวเองถูกคนขายเช่นนี้ ถึงขั้นที่ว่าไม่รู้เป็นตายร้ายดียังไง เขาไม่ทำอะไรสักอย่าง ช่างไร้ซึ่งมนุษยธรรมมากเลยจริงๆ
เย่เฉินเห็นเธอร้องไห้ ยิ้มเล็กน้อย พูดปลอบใจว่า : “รั่วหลี คุณก็ไม่ต้องเป็นกังวล อย่าว่าแต่คุณที่เป็นลูกนอกสมรสเลย แม้ว่าเป็นซูจือห
ยูลูกสาวคนโต เขาก็ไม่ได้ช่วยอะไรเช่นกัน และก็ไม่ได้ใช้ความพยายามอะไรเลย คนๆนี้ไม่มีความน่าเชื่อถือแต่อย่างใด ทุกสิ่งอย่างที่เขาอยาก
ได้ ก็แค่ตำแหน่งของผู้นำตระกูลซู ไม่ว่าจะใช้ชีวิตของใครมาแลก เขาไม่สนใจอะไรทั้งนั้น”
ซูรั่วหลีได้ฟังคำพูดของเย่เฉิน พยักหน้าเบาๆแล้ว
ครั้งก่อนเธอเคยไปจับลูกชายคนรองของตระกูลซูซูโสวเต๋อกับเยเฉิน เพราะงั้นตั้งแต่ครั้งนั้น ก็รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับตู่ไหชิงและซูจือห
เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ แล้วคิดถึงตัวเองอีกครั้ง สีหน้าของเธอก็ยิ่งเพิ่มความผิดหวังขึ้นมาอีก
ในความคิดเธอแล้ว ตระกูลซูเป็นสุสานของความผูกพันทางจิตใจระหว่างญาติและความเป็นมนุษย์ สำหรับสมาชิกของตระกูลซูแล้ว บน
โลกใบนี้ ไม่มีสิ่งใดที่ไม่สามารถเสียสละและยอมแพ้ไปได้
ซูโสว่เต้าเห็นสายตาที่ลูกสาวทั้งสองคนมองมาที่ตัวเอง ล้วนแต่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเย็นชาอย่างมาก ในใจของคนทั้งคนพังทลาย
เรียบร้อยแล้ว
เขาคุกเข่าลงกับฟื้น พูดพร้อมร้องไห้โฮเสียงดังว่า : “อหยู รั่หลี เป็นเพราะพ่อไม่ได้ทำหน้าที่ของความเป็นพ่อให้ดี เพราะพ่อไม่ได้
ปกป้องพวกลูกไว้ให้ดี พ่อผิดไปแล้ว ฟอผิดเอง …พ่อผิดเอง…”
ซูรั่วหลีหันหน้าไปเลยทันที หันหลังให้ซูโสว่เต้าพร้อมเช็ดน้ำตา และซูจือหยู น้ำตาไหลราวกับน้ำพุที่พรั่งพรูออกมาไม่หยุดตั้งนานแล้ว
ในเวลานี้ เย่เฉินมองไปที่ซูโสว่เต้า พูดตำหนิด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า : “ซูโสว่เต้า! แกเป็นศัตรูกับพ่อแม่ของฉัน จัดตั้งพันธมิตรต่อต้าน
ตระกูลเย่ ถึงขั้นมีความเป็นไปได้สูงมากที่จะมีหน้าที่รับผิดชอบการเสียชีวิตของพ่อแม่ฉัน แต่ฉัน กลับว่าช่วยเหลือสายเลือดของตระกูลซูของ
แกกว่าหลายครั้ง!”
“ที่เกียวโต ฉันเคยช่วยลูกชายของแกซูจือเฟย ลูกสาวซูจือหยู! ”
“ที่โตเกียว ฉันก็ได้เคยช่วยชีวิตลูกสาวนอกสมรสของแกไว้ซูรั่วหลี! ”
“ที่จินหลิง ฉันเคยช่วยเหลือกรรยาของแกตู้ให่ชิงไว้ และยังช่วยชีวิตลูกสาวของคุณซูจือหยู! ”
“เรื่องที่ทอดทิ้งน้ำตู้ไปจะไม่พูดถึง ฉันเคยช่วยคนสามคนและสี่ชีวิตของตระกูลซูไว้ ! ”
“ซูโสว่เต้า! ที่แกพูดเมื่อกี้ ยินยอมที่จะใช้ชีวิตของแก มาแลกเปลี่ยนกับวิตของลูกสาวทั้งสองคน ตอนนี้ลูกสาวทั้งสองคนของแกก็ยืน
อยู่ที่นี่อย่างปลอดภัยดีแล้ว ถึงเวลาที่ควรจะต้องรักษาสัญญาแล้ว!!! “