ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 522
บทที่ 522
ในตอนนี้ เซียวฉางควนพูดขึ้นอย่างดีใจ : “เออใช่ ที่รัก คุณเอาเงินให้ผมสองหมื่นหยวนสิ พรุ่งนี้ผมมีนัดเลี้ยงข้าว”
“เลี้ยงข้าวเหรอ?” หม่าหลันกระอักกระอ่วนขึ้นมาทันที แล้วถามขึ้น: “คุณเลี้ยงข้าวใครทำไมถึงใช้เงินถึงสองหมื่นหยวน?!”
เซียวฉางควนพูดขึ้นอย่างภาคภูมิใจ: “ก็ก่อนหน้านี้ผมได้เข้าร่วมสมาคมศิลปะจีนจินหลิง พอดีตอนนี้ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการยังว่างอยู่ ผมเลยอยากจะได้ตำแหน่งนี้!ก็เลยอยากจะเลี้ยงข้าวประธานกับคณะกรรมการผู้จัดการ เพื่อเชื่อมสัมพันธ์ให้ใกล้ชิดกันมากขึ้น”
เขาพูดพร้อมกับสีหน้าที่พอใจมาก: “ถ้าผมได้ตำแหน่งกรรมการผู้จัดการละก็ ต่อไปวงการของโบราณในจินหลิง ผมก็จะเป็นคนมีชื่อเสียงขึ้นมาแล้ว!”
หม่าหลันรีบต่อว่าขึ้นมาทันที : “คุณจะบ้าเหรอห้ะ?เลี้ยงข้าวอะไรตั้งสองหมื่นหยวน?คุณคิดว่าบ้านเราผลิตเงินเองเหรอ?ฉันไม่ให้!”
เซียวฉางควนรีบพูดขึ้นมาทันที: “โถ่ ที่รัก ก็ไม่ใช่ว่าผมพยายามจะเขยิบขึ้นไปอีกขั้นหรอกหรือ!ถ้าได้ตำแหน่งนี้ ต่อไปโอกาสที่จะเข้าใกล้การเขียนพู่กันจีนและภาพวาดโบราณ ก็จะไม่ยิ่งง่ายขึ้นเหรอ โอกาสที่จะได้ของก็จะยิ่งมากขึ้น ความสามารถในการหาของของผมนั้นคุณก็ไม่ใช่ว่าไม่เคยเห็นมาก่อนนะ เก็บได้ครั้งเดียวก็ขายได้เป็นแสนแล้ว!”
หม่าหลันก็เริ่มร้อนตัว แล้วพูดต่อ: “แต่ก็ไม่ควรจะเลี้ยงถึงสองหมื่นหยวนนะ!คุณคิดว่าเงินในครอบครัวนั้นได้มาง่ายๆ เหรอ?”
เซียวฉางควนพูดขึ้นอย่างโมโห: “เงินที่ผมใช้ไป ยังไงผมก็จะหาคืนมาให้ได้อยู่แล้ว!ไม่อย่างนั้นก็ถือซะว่าผมยืมคุณแค่นั้น พอใจไหม?”
หม่าหลันจึงพูดขึ้นอย่างดูถูก: “กับอีแค่ความสามารถห่วยๆ ของคุณใครมันจะไม่รู้ ถึงจะได้เป็นกรรมการบ้าบออะไรนั่นมันสูงส่งแล้วมันยังไง?ฉันว่าคุณเองก็ไม่ต่างจากเย่เฉินหรอก เริ่มจะกลายเป็นคนที่เอาแต่หลอกคนนั้นคนนี้ไปวันๆ เหมือนกันแล้ว!”
เซียวฉางควนโมโหมากขึ้นแล้ว: “คุณนี้มัน ทำไมคุณชอบเอาแต่ดูถูกผมอยู่ได้?”
หม่าหลันทำเสียงสบถ: “ก็ฉันจะดูถูก แล้วจะทำไม?จะบอกให้นะ อยากได้เงินเหรอ ฉันไม่มี!”
พูดจบ หล่อนก็สะบัดตัว แล้วเดินออกไปจากห้องด้วยความโมโหทันที
เซียวฉางควนรู้สึกหดหู่อย่างมาก
นังคนนี้ กำลังเป็นบ้าอะไร?
แค่สองหมื่นหยวนจะไม่ให้ตัวเองเลยเหรอ?
ยังไงเขาก็เคยหามาได้ตั้งมากมาย!
เขากำลังคิดว่าจะไปหาหล่อนที่ห้อง แต่เย่เฉินก็รีบมาขวางไว้ พร้อมกับพูดขึ้นด้วยท่าทางยิ้มๆ : “พ่อ ในเมื่อแม่ไม่ยอมให้ ถึงพ่อจะไปตอแยยังไงก็ไม่มีประโยชน์หรอกนะ”
เซียวฉางควนพูดขึ้นด้วยความโมโห : “แต่ว่าพ่อบอกพวกนั้นไปแล้ว ว่าจะเลี้ยงข้าวพวกเขาน่ะสิ!ในกระเป๋าตอนนี้ก็มีแค่พันหยวน จะไปพอได้ยังไง!”
แล้วเขาก็พูดต่อ : “ประธานของเราก็ได้ตกปากรับคำแล้ว ว่าโอกาสที่จะได้ตำแหน่งของพ่อนั้นสูงมาก แต่ก็ต้องดูว่าพ่อจะทำได้ดีมากแค่ไหน!”
พอเย่เฉินได้ยินแบบนั้น ในใจก็รู้สึกทนไม่ไหว
ตามที่จางเอ้อเหมาเอาแต่หลบหน้าเขาทุกวัน โทรไปก็ไม่รับ ไม่ยอมตอบวีแชท และพอเห็นเขาที่ตลาดของโบราณ ก็หนีหัวซุกหัวซุนไม่สนใจแผงขายของของตัวเองเลยสักนิด
คนแบบนี้ ยังกล้าจะเข้าไปอยู่ในสมาคมศิลปะจีน ก็เหมือนกับเป็นแกะดำในกลุ่มแล้ว
แต่ว่า เรื่องนี้เย่เฉินไม่มีทางจะพูดออกไป แล้วเขาจึงหันไปพูดกับเซียวฉางควน: “พ่อ ผมพอจะมีเงินเก็บส่วนตัวอยู่บ้าง เดี๋ยวผมโอนให้ในวีแชทสองหมื่นละกันนะ!”
พอเซียวฉางควนได้ยิน ก็ดีใจจนพูดไม่ถูก : “โห่ ลูกเขยที่ดีของพ่อ!แกช่วยพ่อได้มากเลย!”
เย่เฉินถอนหายใจ พอหลังจากโอนให้เขาในวีแชทแล้ว ก็พูดขึ้น: “ชูหรันใกล้จะกลับมาแล้ว ผมไปทำกับข้าวก่อนนะ”
เซียวฉางควนได้รับเงินแล้ว ก็รีบพูดเอาใจเขาทันที : “ดีมากลูกเขย เดี๋ยวพ่อช่วยล้างข้าวเอง!”
———-