ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 540
บทที่ 540
สีหน้าของอู๋ตงไห่นั้นไม่ดีเลย
ตัวเองลงทุนไล่คนจน และพวกยากไร้ กลุ่มนั้นไปได้ แต่เขากลับทำให้ตัวเองถึงกับสำลักจนไปต่อไม่ได้งั้นเหรอ?
พอเห็นท่าทางของซือเทียนฉีแล้ว เขาก็แทบอยากจะตบลงไปที่หน้าของซือเทียนฉี เพราะเขาเคยผ่านการเอาคืนแบบนี้ตอนไหนกันละ?·
แต่พอมาคิดดีๆ แล้ว เขาก็ยังไม่กล้าทำอะไรซือเทียนฉี
ยังไงซือเทียนฉีก็เป็นถึงหมอเทวดาอันดับหนึ่งของประเทศ และเป็นหมอแพทย์แผนจีนอันดับต้นๆ ไม่รู้ว่าเบื้องหลังนั้นมีคนใหญ่คนโตคนไหนที่เคยให้เขารักษามาแล้วบ้าง แถมพวกตระกูลใหญ่ในเย่นจิงเองก็มีเงินมากมาย ถ้าหากว่าตัวเองจัดการเขาละก็ เกรงว่าจะเป็นการหาเรื่องใส่ตัว
ดังนั้น เขาจึงทำได้แค่อดทนเอาไว้ เพื่อไม่ให้พลั้งมือ จากนั้นเขาก็สบถขึ้นมา : “หมอซือ ท่านเองก็เป็นหมอผู้มีใจเมตตาคนหนึ่ง ทำไมวันนี้ถึงได้เลอะเทอะแบบนี้ ขนาดยังไม่ดูอาการลูกผมเลย แต่บอกว่ารักษาไม่ได้แล้ว ?”
แล้วเขาก็พูดต่อ: “ท่านไม่ต้องใช้แรงเลยก็ได้ ขอแค่ท่านยอมพบกับลูกผมก่อน ค่อยพูดคำนี้ออกมา ดังนั้น หมอซือ ขอร้องให้ท่านออกหน้าหน่อย ไปที่ซูหางสักครั้งเถอะนะ!”
ซือเทียนฉีพูดเสียงแข็ง: “อู๋ตงไห่ ลูกชายคุณมีความประพฤติยังไง คุณไม่รู้เหรอ?อย่าพูดถึงคุณเลย ขนาดผมยังได้ยินคนพูดเรื่องอดีตของเขาเลย ไปเรียนไม่ตั้งใจเรียน อวดแต่บ้านรวย แล้วก็ไประรานหญิงสาวไปทั่ว แถมยังมีนิสัยชอบล้างสมองหญิงสาว แล้วก็ควบคุมจิตใจคนอื่น แล้วยังทำให้หญิงสาวทำร้ายตัวเองแถมเกือบฆ่าตัวตายเพื่อความสนุก เพื่อศักดิ์ศรี คนแบบนี้ ถึงซือเทียนฉีต้องตาย ก็ไม่มีทางรักษาอย่างแน่นอน !”
ในตอนนี้อู๋ตงไห่นั้นเดือดจนสุด!
ในใจเขานั้นคิดแต่ว่า ตาแก่แซ่ซือคนนี้ ทำให้ตัวเองอดทนมาครึ่งวันแล้ว ให้สิ่งดีๆ กลับไม่เอาดันอยากโดนเล่นงาน แกรนหาที่ตายจริง!
ทันใดนั้น เขาก็พูดเสียงแข็งทันที: “ซือเทียนฉี ท่านหมายความว่า ท่านต้องการจะต่อกรกับตระกูลอู๋ให้ได้ใช่ไหม?”
ซือเทียนฉีพูดเสียงเรียบ: “คุณจะคิดยังไง มันก็สิทธิ์ของคุณ แต่ว่าไม่ว่าคุณจะพูดยังไง ผมก็ไม่มีทางไปรักษาลูกชายคุณ!ท่านทั้งสองเชิญกลับไปเถอะ”
อู๋ตงไห่มองด้วยสายตาอาฆาต แล้วพูดขึ้น: “ดูแล้ว ถ้าคนตระกูลอู๋ไม่ทำอะไรที่จินหลิงบ้าง ก็คงไม่มีใครเกรงกลัวสินะ”
พูดจบ เขาก็หันไปจ้องหน้าซือเทียนฉี แล้วถามขึ้น: “แซ่ซือ ท่านอยากจะลิ้มรสการลงโทษที่ตามมาจากผลพวงนี้งั้นเหรอ?”
“ผลพวงเหรอ?” ซือเทียนฉีหัวเราะออกมา แล้วพูดขึ้น: “หรือว่าตระกูลอู๋เตรียมจะฆ่าผมงั้นเหรอ?”
อู๋ตงไห่ส่งสายตาอาฆาตแค้นมา ในขณะนั้น เขาตัดสินใจจะลงมือจริงๆ
แต่เขาก็ทราบดีว่า ซือเทียนฉีคือคนที่ฆ่าไม่ได้
ถ้าฆ่าเขาแล้ว เกิดมีคนตำแหน่งสูงและมีอำนาจมากอยากจะเชิญเขาไปรักษา ก็เท่ากับว่าตัวเองได้หาเรื่องใส่ตัวแล้ว
ทุกอย่างเงียบลง อู๋ตงไห่จึงพูดขึ้นด้วยสีหน้าไม่พอใจ: “การฆ่าท่านนั้นไม่ดี แต่ว่า ท่านไม่แยแสตระกูลอู๋ของเราขนาดนี้ ถ้ามีคนเอาไปพูดต่อ ตระกูลอู๋คงอับอายอย่างมาก!ดังนั้นผมจะทำให้ท่านรู้ว่า การล่วงเกินตระกูลอู๋ที่เป็นตระกูลอันดับหนึ่งในเจียงหนาน ผลที่ตามมามันคืออะไร”
พอเสียงเงียบลง เขาก็หันไปตะคอกบอดี้การ์ดข้างๆ: “ไปเรียกคนมา ทำลายร้านนี้ให้สิ้นซาก!!!”
ซือเทียนฉีโมโหจนร้องขึ้นเสียงดัง: “อู๋ตงไห่ คุณกล้าเหรอ!”
อู๋ตงไห่สบถออกมา แล้วก็ด่าทอเขาด้วยความโมโห: “แซ่ซือ ผมรู้ว่าท่านรู้จักคนใหญ่คนโตไม่น้อย ถ้าบอกว่าจะฆ่าท่านจริงๆ ผมคงต้องไตร่ตรองดีๆ ก่อน แต่ถ้าพังร้านยาของท่าน ทำไมผมจะไม่กล้า?”
พูดจบ อู๋ตงไห่ก็ขึ้นเสียง: “ผมจะบอกท่านให้ ต่อไปถ้าท่านซือเทียนฉีจะเปิดร้านละก็ ท่านเปิดร้านไหน ผมก็จะทำลายร้านนั้น ผมก็อยากรู้เหมือนกัน ใครจะกล้าออกหน้าแทนท่าน !”