ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 6 วางเดิมพัน
บทที่ 6 วางเดิมพัน
เซียวชูหรันทำเอาคนในตระกูลเซียวช็อกกันหมด!
ทุกคนคิดว่าเซียวชูหรันต้องบ้าไปแล้วแน่ๆ!
จะออกหน้าก็ต้องดูเวลาหน่อยสิ!มาออกหน้าตอนนี้ นอกจากตายแล้วยังจะมีจุดจบยังไงได้อีก?
ตี้เหากรุ๊ปเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในเมืองจินหลิง เขาจะมาสนใจตระกูลเซียวได้ยังไง?ใครไปเจรจาก็ไม่สำเร็จกลับมาทั้งนั้น!
เซียวไห่หลงพูดดูถูกอย่างอดไม่ได้:“ชูหรัน เธอคิดว่าคนอย่างเธอเนี่ยนะจะร่วมเซ็นสัญญากับตี้เหากรุ๊ปได้?”
เซียวเวยเวยน้องสาวแท้ๆของเซียวไห่หลง และมีศักดิ์เป็นลูกพี่ลูกน้องของเซียวชูหรันพูดเยาะเย้ย:“พี่ชูหรัน พี่เป็นใคร ตี้เหากรุ๊ปเป็นใคร พี่วู่วามไปเจรจาแบบนี้ อย่าทำให้ตระกูลเซียวของเราขายหน้าเลย!”
มีคนพูดเสริมขึ้น:“ใช่ เมื่อถึงตอนนั้นถ้าเกิดเธอโดนตี้เหากรุ๊ปไล่ออกมา คนทั้งเมืองจินหลิงคงหัวเราะเยาะตระกูลเซียวกันสนุกปากแน่!”
เซียวชูหรันได้ยินเช่นนั้น ทำให้แก้มแดง และรู้สึกอับอายมากๆ
ตั้งแต่แต่งงานกับเย่เฉิน สถานะของเธอในตระกูลนั้นตกต่ำลงมาก นับวันยิ่งโดนละเลยขึ้นเรื่อยๆ เหมือนบีบให้เธอออกไป แม้กรพทั่งพ่อกับแม่ก็หัวเราะเยาะไปกับเขาด้วย
เธอคิดว่า หากครั้งนี้สามารถเจรจาโปรเจกต์นี้ของตี้เหากรุ๊ปๆได้ เธอคงมีหน้ามีตาในตระกูลมากๆ
ที่สำคัญที่สุด คือพ่อกับแม่จะได้ปฏิบัติอย่างยุติธรรม
แต่ตอนนี้ทุกคนหัวเราะเยาะกันหมด ทำให้เธออดที่จะถอดใจไม่ได้
เธอจ้องเย่เฉินด้วยความกลัดกลุ้ม เธอไปเชื่อคำพูดของเขาได้ยังไงกัน?ถ้ารู้เร็วกว่านี้คงไม่ออกหน้าแบบนี้……
เมื่อนายหญิงใหญ่เซียวได้ยินที่ทุกคนพูด ก็โกรธมาก
ตนถามไปตั้งหลายรอบแต่ก็ไม่มีใครรับหน้าที่นี้ ตอนนี้เซียวชูหรันเสนอตัวแล้ว คนพวกกลับทำให้เธอเสียกำลังใจอีก!
ถึงแม้นายหญิงใหญ่เซียวจะไม่ชอบเซียวชูหรัน แต่ตอนนี้เธอรู้สึกว่าเซียวชูหรันยอมช่วยแบ่งเบาภาระตนแล้วล่ะ ไม่เหมือนคนพวกนั้น ที่รู้แต่จะทำให้ตนไม่พอใจ!
โดยเฉพาะหลานที่ตนรักที่สุดอย่างเซียวไห่หลง มันน่าผิดหวังซะจริงๆ!
ดังนั้นนายหญิงใหญ่เซียวจึงรู้สึกกับเซียวชูหรันเปลี่ยนไปไม่น้อย
เธอจึงรีบพูดขึ่นทันที:“ในเมื่อคนอื่นไม่อยากทำก็ไม่ต้องพูดไร้สาระแล้ว!ความร่วมมือกับโปรเจกต์ของตี้เหากรุ๊ปในครั้งนี้ ให้ชูหรันไปเจรจา!”
เซียวชูหรันทำได้ฝืนพูด:“คุณย่าไม่ต้องห่วงนะคะ หนูจะทำอย่างสุดความสามารถ”
ทันใดนั้นเซียวไห่หลงก็พูดเย้ยหยันออกมา:“ทำอย่างสุดความสามารถจะไปช่วยอะไรได้?สุดท้ายถ้าทำไม่ได้ก็ทำให้ตระกูลขายขี้หน้าอยู่ดี!”
เย่เฉินถามอย่างยิ้มเยาะ:“เซียวไห่หลง นายพูดไม่ดีแบบนี้กับชูหรันเพื่ออะไร?หรือนายคิดว่าตระกูลเซียวไม่มีคุณสมบัติพอที่จะร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ป?”
เซียวไห่หลงคิดไม่ถึงว่าไอ้คนไร้ประโยชน์อย่างเย่เฉิน จะกล้าปริปากพูดในการประชุมของตระกูล อีกทั้งยังเป็นการพูดประจบด้วย
เมื่อมองนายหญิงใหญ่เซียว เธอมีท่าทีโมโหเล็กน้อย เขาจึงรีบอธิบายทันที:“ฉันไม่ได้หมายความแบบนั้น ฉันแค่คิดว่าเซียวชูหรันไม่มีทางเจรจาสำเร็จก็แค่นั้น!”
เย่เฉินยิ้ม แล้วถามเขา:“แล้วถ้าเกิดชูหรันเจรจาสำเร็จล่ะ?เรามาวางเดิมพันกันหน่อยไหม?”
เซียวไห่หลงพูดเย้ยหยัน:“เอาสิ เดิมพันก็เดิมพัน คิดว่าฉันกลัวนายงั้นเหรอ?นายว่ามาสิว่าจะเดิมพันอะไร?”
เย่เฉินพูด:“ถ้าชูหรันเจรจาสำเร็จ นายต้องคุกเข่าก้มหัวให้ฉัน3ครั้ง ต่อหน้าทุกคนในบ้าน แล้วพูดดังๆว่าฉันผิดไปแล้ว แต่ถ้าชูหรันเจรจาไม่สำเร็จ ฉันจะทำทุกอย่างที่พูดมาให้นายเอง นายคิดว่าไง?”
“ฮ่าๆๆๆ!”เซียวไห่หลงหัวเราะร่าขึ้นมาทันที:“แกนี่มันรนหาที่ตายจริงๆ!ได้ ฉันจะพนันกับนาย!”
เย่เฉินพยักหน้าอย่างพอใจ พลางพูด:“ทุกคนในที่นี้เป็นพยานนะ ถ้าใครกลับคำ ขอให้พ่อแม่ปู่ย่าตาย!”
เย่เฉินตั้งใจพูดคำว่าย่าตายให้ดังฟังชัด เกรงว่าพอเซียวไห่หลงแพ้แล้วจะกลับคำ
พูดเช่นนั้น เซียวไห่หลงไม่กล้ากลับคำแล้วจริงๆ เพราะถ้าเป็นแบบนั้นก็เท่ากับแช่งย่าเขา มันเท่ากับว่าให้นายหญิงใหญ่ตายไม่ใช่เหรอ?เมื่อถึงตอนนั้นนายหญิงใหญ่เซียวไม่ปล่อยมันไว้แน่!
“ได้!”เซียวไห่หลงไม่รู้ว่าเย่เฉินวางกับดักไว้ แต่กลับคิดว่ายังไงตัวเองก็ไม่มีทางแพ้แน่อนอน
เขาจึงยิ้มแล้วพูด:“ทุกคนเป็นพยาน ฉันจะรอนายมาคุกเข่าก้มหัวให้ฉัน!”
เซียวชูหรันตกใจและขยิบตาให้เขา แต่ไม่คิดว่าเขาจะเมินเฉย
นายหญิงใหญ่เซียวไม่ได้สนใจการเดิมแบบนี้พันนี้นัก ที่เธอเป็นห่วงที่สุดก็คือ จะเข้าไปอยู่ในรายชื่อผู้ร่วมมือของตี้เหากรุ๊ปได้หรือไม่ ถ้าหากทำได้ อย่าว่าแต่ให้เซียวไห่หลงคุกเข่าให้เย่เฉินเลย แม้แต่ให้เซียวไห่หลงเรียกเย่เฉินว่าพ่อ เธอก็ไม่แคร์แม้แต่น้อย
เธอจึงพูดขึ้น:“วันนี้ประชุมกันแค่นี้ ชูหรัน แกมีเวลาแค่3วันในการที่จะได้สัญญามา เลิกประชุม!”
……
กลับถึงบ้าน พ่อตาแม่ยายก็ด่าเย่เฉินกับเซียวชูหรันทันที
แม่ยายหม่าหลันโพล่งพูดออกมาอย่างร้อนรน:“ชูหรัน แกบ้าไปแล้วเหรอ ไปเชื่อคำพูดของเย่เฉินได้ยังไง สติเลอะเลือนตอบรับหน้าที่นี้มาได้ไงห้ะ!”
พ่อตาเซียวฉางควนก็ดุด่าเย่เฉินเช่นกัน:“เย่เฉินนะเย่เฉิน เจ้าคนไร้ประโยชน์นี่ ทำลายลูกสาวฉันซะย่อยยับเลย!”
จากนั้นพ่อตาก็พูดด้วยสีหน้าโมโห:“ถ้าชูหรันมาสามารถเจรจาความร่วมมือกับตี้เหากรุ๊ปได้ ต้องโดนคนในตระกูลเบียดเบียนแน่ ส่วนแกก็ต้องคุกเข่าก้มหัวให้เซียวไห่หลงต่อหน้าทุกคน ถึงตอนนั้นแกไม่คิดว่าฉันจะขายขี้หน้าบ้างรึไง?”
เย่เฉินพูดอย่างจริงจัง:“พ่อครับ แม่ครับ ขอแค่ชูหรันเจรจาสำเร็จ ทุกอย่างก็จะคลี่คลายไม่ใช่เหรอ?”
“ เจรจา เจรจา เจรจา!เจรจากับผีนะสิ!”
พ่อตาด่าเป็นชุด:“แกรู้ไหมว่าตี้เหากรุ๊ปเก่งกาจแค่ไหน?พวกเขาจะมาสนใจตระกูลเซียวได้ยังไง!”
เย่เฉินพูดอย่างยิ้มๆ:“ไม่แน่เขาอาจจะสนใจก็ได้นะครับ?ผมคิดว่าชูหรันไม่มีปัญหา ยังไงก็สามารถเซ็นสัญญานั่นได้แน่นอน ”
แม่ยายพูดดูถูกอยู่อีกด้าน:“แกคิดว่างั้นเหรอ?แกคิดว่าตัวเองเป็นเจ้าของตี้เหากรุ๊ปเหรอ?เป็นแค่คนไร้ประโยชน์ ช่วยอะไรก็ไม่ได้ ยังจะกล้าคุยโวโอ้อวดอีก!