ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 643
บทที่ 643
อู๋ตงไห่ถอนหายใจด้วยความโล่งอก เพราะในที่สุดคลิปวิดีโอบนติ๊กต็อกก็ถูกลบออกไปจนหมดแล้ว เขาไม่คิดว่าตอนนี้บริษัทติ๊กต็อกทั้งหมด ได้ถูกตระกูลเย่ที่อยู่เมืองเย่นจิงซื้อเรียบร้อยแล้ว
ตระกูลเย่เมืองเย่นจิง ใช้เงินแปดหมื่นห้าพันล้านหยวน ซื้อบริษัทติ๊กต็อกทั้งหมด
ข่าวนี้ยังไม่ได้ถูกปล่อยออกไป คนของตระกูลเย่ได้เริ่มเข้ามาดูแลติ๊กต็อกทั้งระบบแล้ว
สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือ กู้คืนบัญชีที่ถูกลบของหลิวหมิง และในขณะเดียวกันก็กู้คลิปวิดีโอยอดนิยมที่ถูกลบไป
หลังจากนั้น ช่างเทคนิคก็จัดการตั้งค่า ให้ผู้ใช้ติ๊กต็อกทุกคนทั่วประเทศ เมื่อเปิดเข้ามาดูติ๊กต็อก คลิปวิดีโอแรกที่ทุกคนจะเห็น ก็คือคลิปวิดีโอรายการเล่นตลกนี้บนหน้าจอ!
อู๋ตงไห่ไม่รู้ว่าเรื่องนี้ได้เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือ ขณะที่เขากำลังรอเฮลิคอปเตอร์อยู่ จู่ ๆเขาก็ได้รับโทรศัพท์จากอู๋ฉีอีกครั้ง
อู๋ฉีกล่าวด้วยความตื่นตระหนกว่า “พ่อ เกิดอะไรขึ้น ทำไมเมื่อเปิดเข้าไปดูติ๊กต็อกก็เจอคลิปวิดีโอรายการเล่นตลกเลย?! ตอนนี้ยอดไลค์เกินสองล้านแล้ว ผมถามหลาย ๆ คนแล้ว พวกเขาต่างบอกว่าเมื่อเปิดเข้าไปดูติ๊กต็อก ก็จะเจอคลิปวิดีโอรายการเล่นตลกเป็นคลิปแรกเลย!”
“อะไรน่ะ?!” อู๋ตงไห่อุทานด้วยความตกใจ แล้วกล่าวว่า “ลูกแน่ใจเหรอ? พ่อได้ใช้เงินไปเจ็อสิบล้านเพื่อแก้ปัญหานี้แล้ว ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะทำให้คลิปวิดีโอนี้โผล่ขึ้นมาอีก!”
อู๋ฉีกล่าวอย่างมั่นใจว่า “ผมมั่นใจแน่นอน ผมเองก็เห็นคลิปวิดีโอด้วยตัวเอง ขอแค่เปิดเข้าไปดูติ๊กต็อกก็จะเห็นคลิปวิดีโอนั้น ผมถามคนรับใช้หลายคนแล้ว หน้าติ๊กต็อกของพวกเขาก็เป็นเช่นนี้ พ่อ ตอนนี้พวกเราควรทำอย่างไรดีครับ….. ”
อู๋ตงไห่กล่าวอย่างหน้าดำคร่ำเครียดว่า “พ่อจะตรวจสอบดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่!”
พูดจบ ก็วางสายทันที ให้อู๋ซินเปิดเข้าไปดูติ๊กต็อก
ผลเป็นอย่างที่ว่าจริง ๆ!
เมื่อเปิดเข้าไปดูติ๊กต็อก วิดีโอที่หลิวกว่างกับหลิวหมิงโพสต์จะเป็นค่าเริ่มต้นเลย!
เขารู้สึกโมโหมาก แล้วโทรหาบุคคลที่แก้ช่วยปัญหาภาวะวิกฤตทันที แล้วด่าว่า “เหล่าสวี แม่งฉิบหาย คุณล้อเล่นกับฉันเหรอ? ทำไมคลิปวิดีโอนั้นถึงถูกปล่อยออกมาอีก?! และยังคงเป็นค่าเริ่มต้นที่ผู้ใช้ทุกคนก็เห็นได้!”
อีกฝ่ายพูดอึดอัดว่า “อั้ยหยา เหล่าอู๋ ฉันเพิ่งได้รับข่าวว่า เรื่องนี้คุณจะตำหนิฉันไม่ได้น่ะ เหตุผลหลักคือตระกูลเย่ที่เมืองเย่นจิงเพิ่งซื้อบริษัทติ๊กต็อกไปเมื่อสักครู่ ด้วยเงินสดแปดหมื่นห้าพันล้าน ทำให้อีกฝ่ายไม่ลังเลขายไปทันทีเลย…..”
“คุณพูดอะไรน่ะ?!” อู๋ตงไห่จะบ้าแล้ว กล่าวด้วยความตะลึงว่า “ตระกูลเย่ซื้อบริษัทติ๊กต็อกทั้งหมดแล้ว?”
“ใช่ครับ!” เหล่าสวีกล่าวอย่างอึดอัดว่า “เมื่อสักครู่นี้เอง พวกเขาติดต่อกับเจ้าของติ๊กต็อก แล้วก็เสนอราคาซื้อด้วยเงินสด อีกฝ่ายก็ตกลงโดยไม่ลังเล อย่างที่ทราบกันดีว่าช่วงนี้เศรษฐกิจโลกไม่ค่อยดีนัก เจ้าของผู้ประกอบการต่างต้องการเปลี่ยนธุรกิจเป็นเงินสด เมื่อเห็นราคาที่สูงเช่นนี้ และเป็นการจ่ายโดยตรงแบบจ่ายครั้งเดียว มันก็ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะลังเล…..”
ขณะที่พูด อีกฝ่ายก็รีบกล่าวขึ้นว่า “เหล่าอู๋ คุณก็อย่าโมโหเลย เงินเจ็ดสิบล้านนั้น ฉันจะไม่เตะต้องมัน ฉันจะให้ฝ่ายการเงินโอนกลับคืนให้คุณทันที! เรื่องคราวนี้ฉันต้องขอโทษจริง ๆ ฉันไม่สามารถทำอะไรได้จริง ๆ!”
อู๋ตงไห่รู้สึกตกตะลึง!
จุดประสงค์ของตระกูลเย่คืออะไร?
แล้วตระกูลใหญ่ขนาดนั้น ทำไมถึงระรานตระกูลเล็กอย่างตัวเองได้ยังไง?
ตนเองก็ไม่ได้ล่วงเกินตระกูลเย่! ก็แค่สุนัขรับใช้ห้าคนของตนเอง ได้ทำร้ายคนรับใช้ของตระกูลเย่ที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง แต่ก็ไม่จำเป็นต้องตอบโต้ตัวเองอย่างบ้าคลั่งขนาดนี้เลย?
เพื่อทำให้ตนเองอับอายขายหน้า ถึงขนาดต้องซื้อบริษัทติ๊กต็อกเลยหรือ? !
ตอนนี้อู๋ตงไห่ยังไม่อยากเชื่อว่า ลูกเขยแต่งเข้ายาจกเย่เฉิน จะมีอะไรเกี่ยวข้องกับตระกูลเย่ที่เมืองเย่นจิง
ในใจของเขารู้สึกตามสัญชาตญาณว่า สองเรื่องนี้เป็นคนล่ะเรื่องกัน
เรื่องหนึ่งคือเขาได้ล่วงเกินเย่เฉิน แล้วเย่เฉินก็ทำร้ายลูกน้องของเขาจนบาดเจ็บ แล้วบันทึกวิดีโอการเล่นตลกของหลิวกวงกับหลิวหมิง
อีกหนึ่งคือคนรับใช้ของตนเองได้ล่วงเกินตระกูลเย่ แล้วตระกูลเย่ก็ปกป้องคนรับใช้ เริ่มจากเฉินจื๋อข่าย ไปจนถึงตระกูลเย่ที่เมืองเย่นจิง พวกเขาเริ่มมีปัญหากับตนเอง
มันต้องเป็นเรื่องบังเอิญที่เหตุการณ์ทั้งสองนี้ประจวบเหมาะชนกันบนติ๊กต็อก น่าจะเป็นเพราะว่าตระกูลเย่เห็นคลิปวิดีโอนี้แล้ว ต้องการใช้คลิปวิดีโอนี้เพื่อทำให้ตระกูลอู๋อับอายขายหน้า แต่พบว่าตนได้ลบวิดีโอโดยผ่านประชาสัมพันธ์ที่ช่วยแก้ช่วงวิกฤต ดังนั้นพวกเขาก็เลยซื้อบริษัทติ๊กต็อกเสียเลย
แค่อยากซื้อ ก็ซื้อด้วยเงินสดแปดหมื่นห้าพันล้าน แสดงให้เห็นว่าเป็นตระกูลใหญ่อันดับต้น ๆ!