ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 787
บทที่ 787
คำพูดที่เล่านี้ของเย่เฉิน ทำให้พ่อตาตื่นตัวขึ้นมาทันที
ในเวลานี้เขาถึงจะตระหนักถึง การหลบหนีไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหา มีเพียงแค่เผชิญหน้ากับปัญหา ถึงจะแก้ไขปัญหาได้สิ้นซาก นี้ถึงเป็นวิธีที่แก้ไขได้ดีที่สุด
ถ้าหากตัวเองคิดอยากจะอยู่อิงแอบแนบกายกับหานเหม่ยฉิง งั้นก็ต้องหย่าร้างกับหม่าหลัน
มีเพียงหย่าร้างเท่านั้น ตัวเองถึงจะเปิดเผยความบริสุทธิ์อย่างตรงไปตรงมาได้ และแต่งงานหานเหม่ยฉิง
คิดมาถึงตรงนี้ อารมณ์ของเขาก็ดีขึ้นเยอะเลย พูดกับเย่เฉินว่า : “ได้ ฉันเข้าใจแล้ว คุณไปขอความช่วยเหลือจากเพื่อนเถอะ ฉันจะไปสอบถามกับคนอื่นเรื่องหย่าร้าง รอแม่คุณกลับมา ฉันค่อยพูดถึงเรื่องหย่าร้างกับเธอ”
หลังจากที่บอกลากับพ่อตา เย่เฉินก็เรียกรถไปที่โรงแรมป๋ายจินฮ่านกง
เฉินจื๋อข่ายได้รอเขาอยู่ที่นี่แล้ว
ผู้จัดการของโรงแรม เชิญเย่เฉินไปที่ห้องทำงานของเฉินจื๋อข่ายด้วยความเคารพ
เมื่อประตูห้องทำงานปิดลง เฉินจื๋อข่ายรีบพูดด้วยความเคารพว่า : “คุณชาย ขอโทษจริงๆนะครับ ยังต้องให้คุณลดตัวมาหาผมถึงที่นี่ ควรจะเป็นผมที่ไปหาคุณถึงจะถูก”
เย่เฉินโบกไม้โบกมือ พูดว่า : “ฉันมาหานายจะได้พูดกันง่ายๆหน่อย นายไปหาฉันก็ไม่ค่อยสะดวกที่จะอธิบายเท่าไหร่”
พูดแล้ว เขาก็เอ่ยปากถามว่า : “แม่ยายที่ขโมยเงินไปกว่าสองหมื่นล้านคนนั้น ตอนนี้อยู่ที่สถานกักขังเป็นอย่างไรบ้าง ?”
“ค่อนข้างแย่ครับ” เฉินจื๋อข่ายพูดว่า: “เธอกลายเป็นศัตรูของทุกคนที่อยู่ในห้องขัง ได้ยินว่าเหมือนว่าตั้งแต่ที่เข้าไปข้างในก็ไม่กินข้าวเลยสักคำ”
เย่เฉินพยักหน้าเบาๆ พูดด้วยสีหน้าที่นิ่งเฉยว่า : “ทั้งหมดนี้เป็นเพราะเขาหาเรื่องใส่ตัวเอง จะโทษคนอื่นก็ไม่ได้”
เฉินจื๋อข่ายที่อยู่ข้างๆกล่าวอย่างจริงจังว่า : “คุณชาย ผมคิดไม่ถึงจริงๆ ผู้หญิงแบบนี้เมื่อเห็นเงินฝากสองหมื่นกว่าล้าน จู่ๆก็ไม่มีความเกรงกลัวแต่น้อย และก็ไม่มีความกังวลสักนิด ถึงขนาดที่ว่าไม่คิดดูอย่างละเอียดเลยว่าทำไมในบัตรใบนั้นถึงได้มีเงินเยอะขนาดนี้ คิดไม่ถึงว่าจะกล้าโอนเงินทั้งหมดของไปยังบัตรของตัวเอง คนๆนี้ช่างกล้าหาญซะเหลือเกิน! ”
เย่เฉินยิ้มๆ พูดว่า : “แม่ยายของฉันคนนี้ ทั้งชีวิตนี้รักเงินมากที่สุด ตอนนั้นเธอเป็นมือที่สามระหว่างพ่อตาของฉันและรักแรกพบของเขา เป็นเพราะว่าตอนนี้ครอบครัวของพ่อตาฉันค่อนข้างมั่งคั่ง ถือเป็นทายาทเศรษฐีที่ได้มาตรฐาน ผลสุดท้ายเธอคิดไม่ถึงว่า หลังจากที่ได้แต่งานแล้ว สภาวะในครอบครัวของพ่อตาฉันก็ยิ่งแย่ลงเรื่อยๆ อย่างรวดเร็วก็กลายเป็นไม่ได้ร่ำรวยอะไร ทั้งชีวิตของคนๆนี้วิ่งเข้าหาแต่เงิน แต่กลับว่าไม่ได้เงินอะไร ดังนั้นในใจก็รู้สึกเก็บกดมาตลอด จนผิดเพี้ยนไปแล้ว ”
เฉินจื๋อข่ายพูดว่า : “คุณชาย จริงๆแล้วผมอยากแนะนำคุณว่า ทางที่ดีที่สุดคือปล่อยให้แม่ยายคนนี้ของคุณอยู่รับบทเรียนในนี้ให้นานๆหน่อย อย่างน้อยก็ขังเธอสัก 3ปี 5ปี หากไม่ได้อย่างน้อยก็ขังไว้สักปีครึ่งก็ได้ ตอนนี้เพิ่งจะขังได้ไม่ถึงสองวัน คุณจะปล่อยเธอออกมาแล้วเหรอ? ”
เย่เฉินพยักหน้า พูดว่า : “ปล่อยเธอออกมา สิ่งสำคัญคือทำให้ภรรยาของฉันเจ็บปวด แต่ถ้าหากเธอออกมาแล้วยังไม่ซื่อสัตย์อีก ฉันยังมีวิธีอื่นจัดการเธออย่างช้าๆ”
พูดแล้ว เย่เฉินก็พูดอีกว่า : “จริงสิ พรุ่งนี้เช้านายไปออกหมายเรียกตัวเธอมาสอบปากที่สถานีตำรวจนะ เหมือนกับที่ฉันบอกนายเมื่อครั้งก่อน หานักแสดงที่หาได้ออกมาให้หมด เตรียมอุปกรณ์การแสดงทั้งหมดให้เรียบร้อย ถึงตอนนั้นแสดงฉากใหญ่ให้เธอดูหน่อย”
เฉินจื๋อข่ายโพล่งพูดออกไปทันทีว่า : “คุณชายวางใจได้ครับ ผมจะเตรียมการทุกอย่างไว้ให้เรียบร้อยแน่นอน”
เย่เฉินพูดอย่างนิ่งๆ : “ที่ฉันมาหานาย หลักๆเลยก็คือมาคุยลำดับขั้นตอนกับนายอีกครั้ง เมื่อถึงตอนนั้นห้ามเกิดข้อผิดพลาดอะไรเด็ดขาด ”
เฉินจื๋อข่ายพยักหน้า พูดว่า : “คุณชาย งั้นเรามาเริ่มพูดลำดับขั้นตอนกันเถอะครับ!”