ผมได้สืบทอดมรดกร้อยพันล้าน - 877
พอเจี่ยงหมิงได้ยินดังนั้น ก็พูดประชดขึ้นมาทันที “โหเย่เฉิน นายนี่แน่เหมือนกันนะ เวลาคุยโวโอ้อวดขึ้นมา ไม่ได้คิดหน้าคิดหลังเลยนะ!”
เย่เฉินยิ้มบางๆแล้วพูดว่า “มีอะไรที่ต้องคุยโม้ล่ะ? ถ้านายไม่เชื่อ งั้นพวกเราก็รูดบัตรกันล่วงหน้าเลย คนละแสนหยวน วันนี้ก็กินกันในราคา2แสนนี่แหละ นายว่าไง? ”
เจี่ยงหมิงฟังจบ ก็พูดอย่างสนใจว่า “พูดจริงนะ? ”
เย่เฉินก็หยิบเอาโทรศัพท์ออกมา แล้วก็เปิดจื่อฟู่เป่า แล้วพูดกับพนักงานว่า “มา สแกนจ่ายครับ”
เจี่ยงหมิงเห็นดังนั้น ก็ตื่นเต้นจนต้องลุกขึ้น
ที่ตนเองคิด ก็คือจะสั่งอาหารมื้อนี้เยอะหน่อย แล้วพอตนเองไปเบิกเอาค่าอาหาร ก็จะได้เยอะขึ้น แต่ไอ้พวกเด็กกระจอกในบ้านเด็กกำพร้าพวกนี้ ก็บ่นกันพึมพำ น่ารำคาญเสียจริง
ตอนนี้เย่นเฉินยอมจ่าบกับตนเองคนละครึ่ง แถมยังจ่ายไปครั้งเดียวเลย1แสน นี่มันไม่ใช่เอาเงินมาให้ตนเองฟรีๆ หรอกหรือนี่?
ตนเองก็จ่าย1แสน แต่ว่าสามารถเบิกเป็นบิล2แสนได้ ตอนกลับไปก็จะพูดกับเถ้าแก่ว่า อาหารมื้อนี้ได้เลี้ยงให้กับแขกคนสำคัญ อาจจะคุยงานกันได้ราคา10ล้าน พอถึงตอนนั้นเถ้าแก่ก็คงให้ตนเองเบิกค่าใช้จ่ายง่ายๆ เลย
ตอนนี้เขาคิดดีแล้วว่า เอาชีวิตไว้สำคัญที่สุด!
หลอกให้ไอ้สองคนที่อยากจะมาหาเงินกับตนเองก่อน จากนั้นพอกลับบริษัทไป ก็ไปเบิกค่าอาหารมา2แสน แล้วแก้ปัญหาของหม่าจงเหลียงก่อน
ส่วนเถ้าแก่จะมาคิดบัญชีย้อนหลังหรือไม่นั้น ก็ยังไม่ต้องคิดกันตอนนี้
เพราะถึงอย่างไรสำหรับตนเองแล้ว หม่าจงเหลียงเป็นตัวอันตรายสำหรับตนเองมากที่สุด
จากนั้น เขาก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมา แล้วพูดกับเย่เฉินว่า “ได้ ในเมื่อนายใจเด็ดแบบนี้ งั้นผมก็จ่าย1แสนเหมือนกัน!”
ป้าหลี่ก็ห้ามทั้งสองคน แต่เย่เฉินก็โบกปัด แสดงท่าทางว่าไม่ต้องกังวล
สำหรับเย่เฉินแล้ว ข้าวมื้อหนึ่ง ไม่ว่าจะจ่ายเป็นแสน หรือสองแสน ก็แค่ขนหน้าแข้งเส้นเดียว ที่เขาอยากทำ ก็คือไม่ให้เจี่ยงหมิงทำสำเร็จตามแผน
พนักงานก็เอาเครื่องสแกนรับเงินมา ใช้ระบบสแกนคิวอาร์โคด สแกนรับเงินจากจือฟู่เป่าของทั้งสองคน สแกนไปคนละหนึ่งแสนหยวน
พอตรวจสอบดูว่ามีเงิน2แสนเข้าระบบแล้ว เจี่ยงหมิงก็มีใบหน้ายิ้มแย้ม พูดว่า “ในเมื่อเป็นแบบนี้ งั้นพวกเราก็สั่งของดีๆ กันหน่อยแล้วกันนะ!น้องๆ เอาเหล้า อาหาร ของทะเลดีๆ ทั้งหลาย ขึ้นโต๊ะให้หมดเลย คิดตามงั้น2แสนนั่นเลย วันนี้จะใช้เงิน2แสนให้หมด ไม่ให้เหลือสักหยวนเดียว!”
พนักงานก็คิดไม่ถึงว่า วันนี้จะได้เจอแขกที่ใจใหญ่ขนาดนี้ ก็เลยรีบยิ้มพูดว่า “วางใจครับ ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้ เดี๋ยวจะเอาแชมเปญมาให้ก่อนเลยครับ!”
พอได้ยินว่าได้จะลิ้มลองมื้ออาหารราคา2แสน เพื่อนๆ ทุกคนที่โต๊ะ ต่างก็ตื่นเต้นกันจนอดใจไม่ได้
โดยเฉพาะจ้าวโจ๋วเยว่ที่ทำหน้าไม่ดีเมื่อครู่นี้ ตอนนี้ก็ดีใจยิ้มจนปากจะฉีกถึงหูอยู่แล้ว!
เมื่อครู่เขากังวลไม่อยากจะจ่ายเงินเยอะ แต่ตอนนี้เห็นว่าอาหารมื้อละ2แสนวันนี้ มีคนจ่ายให้แล้ว ตนเองไม่ต้องออกสักหยวนเดียว เขาก็ตื่นเต้นจนอยากจะรีบไปเข้าห้องน้ำ เพื่อจกคอเอาสิ่งที่กินลงไปก่อนหน้า อ้วกออกมาให้หมด
แบบนี้ท้องก็จะได้ว่าง แล้วก็กินของดีๆ ลงไปแทน
คนกระจอกก็มักจะเป็นแบบนี้ ถ้ามีเรื่องที่ต้องให้มันเสียเงินไปทำ มันก็ลำบากใจกว่าการถูกรุมกระทืบเสียอีก แต่ถ้าเรื่องไหนไม่ต้องให้มันไปเสียเงิน หรือไม่ก็ให้คนอื่นเสียเงิน มันก็จะวิ่งรี่เข้าไปเร็วกว่าใครเลย แถมยิ้มหน้าบานมีความสุขกว่าใครๆ อีก
พูดง่ายๆ ก็คือ พวกกินอย่างเดียวไม่ยอมจ่าย
ไม่นาน พนักงานก็ยกกุ้งมังกร หอยเป๋าฮื้อ และอาหารทะเลมาเสิร์ฟ แถมยังมีลูกหมูหันทั้งตัว กรอบนอกนุ่มใน กลิ่นหอมตลบอบอวลไปหมด
จ้าวโจ๋วเยว่ก็กินอาหารรสโอชะไปด้วย ดื่มแชมเปญไปด้วย พยายามยัดเข้าปากไปอย่างไม่คิดชีวิต
———–