ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2275 ยกเลิกพันธสัญญาแล้วจริงหรือ?
ตอนที่ 2275 ยกเลิกพันธสัญญาแล้วจริงหรือ?
………………..
หากคนอื่นพูดเช่นนี้ต่อหน้าอวี้เชียน เป็นไปได้อย่างมากว่าตอนนี้หัวก็จะหลุดออกจากบ่าแล้ว
แต่ถวนจื่อไม่เหมือนกัน
อวี้เชียนได้ยินเช่นนั้นก็ไม่ได้รู้สึกโกรธ แต่กลับรู้สึกสงสัยมากกว่า
เขากวาดสายตาสำรวจถวนจื่อครู่หนึ่ง จากนั้นก็ถอนหายใจออกมาอย่างไม่สามารถปิดบังได้
“…ยังไม่โตเต็มวัยก็สามารถกลายร่างเป็นมนุษย์ได้แล้ว สมแล้วที่เป็นสายเลือดบริสุทธิ์…”
ก่อนหน้านี้เขาเคยได้ยินมาบ้าง แต่เมื่อได้เห็นกับตาตัวเอง เขาถึงได้รู้ว่าหงส์ทองคำตัวนี้มีพรสวรรค์สูงส่งระดับไหน
มิน่าล่ะอี้เจาถึงยอมทุกข์ทนทรมาน และปิดผนึกภูเขาศักดิ์สิทธิ์เฟิ่งหวงเอาไว้อย่างแน่นหนา ให้คนในเผ่าทุกคนอยู่ในสภาวะจำศีล และไม่ยอมปล่อยตัวนางออกมา!
“เจ้าคือถวนจื่ออย่างนั้นหรือ?”
ความหงุดหงิดภายในใจของอวี้เชียนจางหายไปทั้งหมด น้ำเสียงของเขาตอนนี้นุ่มนวลและสุภาพมากกว่าตอนที่คุยกับฉู่หลิวเยว่เสียอีก
ถวนจื่อกอดคอของฉู่หลิวเยว่แน่น แล้วพูดอย่างระแวดระวัง
“ห้ามเรียกชื่อของข้านะ!”
ฉู่หลิวเยว่ตบหลังของนางเบาๆ จากนั้นก็เช็ดน้ำตาบนหางตาของนาง แล้วพูดปลอบว่า
“ถวนจื่อไม่ร้องนะ อาเยว่ไม่มีทางทิ้งเจ้า”
ถวนจื่อเม้มปากแน่น เหมือนต้องการจะร้องไห้อีกครั้ง สุดท้ายก็ยังอดทนเอาไว้ นางพยักหน้าอย่างแรง
“อื้อ! ข้าก็จะอยู่กับอาเยว่!”
เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์นี้ อวี้เชียนก็ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
จากที่เขาวางแผนเอาไว้ก่อนหน้านี้ หลังจากที่เขาให้ฉู่หลิวเยว่และถวนจื่อยกเลิกพันธสัญญากันแล้ว เขาก็ต้องการตัดการติดต่อสื่อสารของพวกนางทั้งสองคน
แต่ดูจากตอนนี้ หากเขาทำเช่นนั้น เขาจะต้องได้รับแรงกดดันอย่างมหาศาลแน่นอน
สายเลือดบริสุทธิ์ของหงส์ทองคำนั้นหาได้ยากยิ่ง หลังจากรอมาหลายปีขนาดนี้ ไม่ว่าอย่างไรก็ห้ามเกิดปัญหาอะไรก็ตาม
เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็พูดขึ้นมาว่า
“ในเมื่อพวกเจ้าทั้งสองยืนหยัดกันขนาดนี้ เช่นนั้น…พวกเราก็ถอยคนละก้าวก็แล้วกัน หลังจากนี้เจ้ามาหาถวนจื่อได้เดือนละหนึ่งครั้ง…”
“เสินสื่อลำดับที่สอง เมื่อครู่นี้ข้าเพิ่งพูดว่าตลอดเวลา”
ฉู่หลิวเยว่เน้นย้ำ
อวี้เชียนชะงักไปเล็กน้อย
“ครึ่งเดือน”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มออกมา
“ในเมื่อเสินสื่อลำดับที่สองไม่มีความจริงใจขนาดนี้ พวกเราก็ยากจะตกลงกันแล้ว”
“เจ้า…”
อวี้เชียนกัดฟันกรอด
น้อยครั้งมากที่เขาจะถูกบีบบังคับให้จนมุมเช่นนี้ แต่ผู้หญิงที่อยู่ตรงหน้า…
ทั้งสองฝ่ายอยู่ในทางตันไม่สามารถพูดคุยต่อได้ ในที่สุดอวี้เชียนก็พูดขึ้นว่า
“ได้! ตกลงตามนั้น!”
ไม่ว่าอย่างไรก็ตาม โดยรอบของภูเขาเฟิ่งหมิงก็มีม่านพลังกั้นอยู่ แล้วปกติแล้วก็ไม่ค่อยมีใครมาที่นี่
หากนางต้องการจะมาก็ให้นางมา ดูซิว่านางจะสามารถทำอะไรได้
“แต่ข้าขอเตือนเจ้าอะไรบางอย่าง ภูเขาเฟิ่งหมิงแห่งนี้ สำหรับหงส์ทองคำแล้วจะเป็นสถานที่บำเพ็ญเพียรที่ดีที่สุด แต่สำหรับมนุษย์ มันจะไม่ใช่แบบนั้น หากเจ้ายืนยันว่าจะมา ข้าก็ไม่ขวาง ตราบใดที่เจ้าทนมันได้ก็เท่านั้น”
อวี้เชียนพูดเสียงทุ้มต่ำ
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกยิ้มขึ้น
แต่นางกลับมองไปยังถวนจื่อที่ยังอยู่ในอ้อมกอด จากนั้นก็พูดปลอบเสียงเบา
“ถวนจื่อไม่ต้องกลัวนะ เจ้าแค่เปลี่ยนที่ฝึกบำเพ็ญเพียรเท่านั้น ไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะแวะมาหาเจ้าเป็นครั้งคราวอยู่แล้ว ว่าอย่างไร?”
น้ำตาหยดใหญ่ไหลออกมาจากดวงตากลมโตของถวนจื่อ ร่างเล็กร้องไห้สะอึกสะอื้น แต่นางก็ไม่ได้พูดอะไรมาก และพยักหน้าหน่อยน้อย
“ได้”
นางรู้ว่าสำหรับตอนนี้ ทางเลือกนี้เป็นทางเลือกที่ดีที่สุดแล้ว
ฉู่หลิวเยว่กดจูบหน้าผากของนางอย่างปวดใจ
“เด็กดี”
เมื่อเห็นดังนั้น อวี้เชียนก็ไม่สามารถพูดอะไรได้อีก
เขาสะบัดแขนเสื้อขึ้น หยกขาวก้อนหนึ่งที่มีขนาดเท่าฝามือก็ลอยออกมา
“นี่คือตราหยกของข้า หลังจากนี้หากเจ้าต้องการจะเข้ามาในภูเขาเฟิ่งหมิง ก็ใช้ของชิ้นนี้”
ฉู่หลิวเยว่รับป้ายหยกสีขาวไป
“ขอบคุณเจ้าค่ะเสินสื่อลำดับที่สอง”
“ไม่เป็นอันใด”
อวี้เชียนยกคางขึ้น
“เอาล่ะ เจ้ายกเลิกพันธสัญญาได้แล้ว”
…
ถวนจื่อได้ยินดังนั้นก็กอดคอฉู่หลิวเยว่แน่นขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ปลอบนางอยู่ครู่หนึ่ง ถวนจื่อถึงได้ยอมปล่อยมืออย่างไม่เต็มใจ จากนั้นก็ยืนอยู่ตรงหน้าของนาง
ทั้งสองคนเผชิญหน้ากัน
ฉู่หลิวเยว่มองตาของถวนจื่อ จากนั้นก็หลับตาลง
ลำแสงแบบเดียวกันก็พุ่งออกมาจากกลางฝ่ามือของนาง
ลำแสงสองสายประสานกันอยู่กลางอากาศ แรงกดดันคล้ายมีคล้ายไม่มี
อวี้เชียนยืนมองอยู่ด้านข้าง สายตาของเขาขยับเล็กน้อย
ลมปราณของสายเลือดบริสุทธิ์ไม่ธรรมดาเลยจริงๆ!
แม้กระทั่งอี้เจาที่เปิดเส้นชีพจรสายที่เจ็ดแล้วก็ยังไม่สามารถเปรียบเทียบได้
แม้ฉู่หลิวเยว่จะเอาชนะในการเจรจาครั้งนี้ได้ แต่ยังดีที่มันคุ้มค่า
ตู้ม!
เสียงหนึ่งระเบิดขึ้น
ลำแสงทั้งสองสายที่ประสานกันก็ถูกทำลายจนมอดไหม้!
อวี้เชียนมั่นใจว่า เมื่อเป็นเช่นนี้พันธสัญญาของฉู่หลิวเยว่และถวนจื่อต้องจบสิ้นลงแล้วแน่นอน!
เขาสาวเท้าขึ้นมาด้านหน้า
“ถวนจื่อ ตามข้ามา…”
เขาพูดขึ้น พร้อมยื่นมือออกไป
แต่ในตอนนั้นเอง สีหน้าของเขาก็แข็งค้างขึ้นมาอย่างกะทันหัน
เขาเห็นว่าระหว่างคิ้วของถวนจื่อมีอักขระยันต์ตัวหนึ่งสว่างวาบขึ้น!
จากนั้นลมปราณที่คุ้นเคยก็แผ่กระจายออกมาจากในร่างกายของนาง
เมื่ออวี้เชียนเห็นการเคลื่อนไหวดังนี้ เขาก็ขมวดคิ้วแน่นขึ้น แล้วหันกลับไปมองทางฉู่หลิวเยว่อย่างรวดเร็ว!
สายตาของเขาเย็นชาและคมกริบดุจดั่งมีด ไม่ว่าใครที่ถูกมองก็จะต้องรู้สึกเจ็บปวดเสียดแทงกระดูก!
หัวใจของฉู่หลิวเยว่สั่นสะท้าน แล้วรีบเงยหน้าขึ้นมองทันที
สายตาของทั้งสองคนประสานกัน ทันใดนั้นก็มีเปลวเพลิงกระจายออกมา!
สายตาของเขาเสมือนจริง อีกทั้งยังแฝงด้วยแรงกดดันอันมหาศาล!
เขาถามขึ้นมาอย่างเชื่องช้าว่า
“ซั่งกวนเยว่ เจ้ายกเลิกพันธสัญญาแล้วจริงหรือ?”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่ตึงเครียดขึ้นมาทันที!
………………..