ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2323 ข้าทำสิ่งต่างๆ อย่างตรงไปตรงมาเสมอ
ตอนที่ 2323 ข้าทำสิ่งต่างๆ อย่างตรงไปตรงมาเสมอ
………………..
จิ่วหลงมองแม่นางที่อยู่ตรงหน้าด้วยความประหลาดใจ
กระบี่เมื่อครู่ แม้ว่าเขาจะออกแรงเพียงสามส่วน แต่ก็ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนทั่วไปจะต้านทานได้
ทว่าฉู่หลิวเยว่กลับสกัดมันออกไปอย่างง่ายดาย
ช่วงนี้เขาได้ยินชื่อนี้อยู่หลายครั้ง เพราะนางได้ก่อเรื่องใหญ่มากมายในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์
จนกระทั่งตอนนี้ จิ่วหลงเพิ่งรู้ว่าพลังของนาง…เหนือกว่าผู้แข็งแกร่งระดับเทพศักดิ์สิทธิ์มากจริงๆ
“เจ้าออกมาจากประตูแดนสวรรค์?”
จิ่วหลงเอ่ยถามขึ้นอย่างสงสัย
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มพลางพยักหนัก
“อย่างใดข้าก็ไม่ได้ออกมาครั้งแรกเสียหน่อย เหตุใดเสินสื่อลำดับที่เก้าถึงต้องแปลกใจขนาดนั้นด้วยเล่า”
จิ่วหลงถึงกลับพูดไม่ออกไปครู่หนึ่ง
เขาแค่รู้สึกว่าเรื่องนี้มันเหลือเชื่อเกินไป
ผู้ฝึกตนส่วนใหญ่ในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์อาจไม่ได้ก้าวออกจากประตูแดนสวรรค์แม้แต่ก้าวเดียวตลอดชีวิต ยิ่งไม่ต้องพูดถึงการมายังอาณาจักรเสิ่นซวี่
และคนเหล่านั้นที่ขึ้นมาจากอาณาจักรเสิ่นซวี่ ล้วนถือเป็นเกียรติที่ได้เข้าสู่พระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ จึงยิ่งไม่ต้องคิดถึงเรื่องการออกไปจากที่นี่
ผู้ที่เข้าและออกครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างฉู่หลิวเยว่เช่นนี้มีน้อยมากจริงๆ
การเข้าออกบ่อยครั้งเช่นนี้ แม้แต่เสินสื่อก็ยังไม่มากเท่านี้!
ตอนนี้เสินสื่อลำดับที่เจ็ดรับผิดชอบดูแลประตูแดนสวรรค์ไม่ใช่หรือ? แล้วปล่อยให้นางออกมาได้ครั้งแล้วครั้งเล่าเช่นนี้ได้อย่างใด?
“ที่สำคัญคือนางไม่มีตราแห่งสายเลือดศักดิ์สิทธิ์ด้วยซ้ำ!”
นี่ไม่ยิ่งเกินจริงไปหรอกหรือ
จิ่วหลงจ้องมองนางอย่างระแวดระวังและเอ่ยถามขึ้น
“เจ้ามาทำอันใดที่นี่”
แม้ว่านางจะออกจากพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์มาได้ แต่ก็มีสถานที่มากมายที่นางสามารถไปได้ เหตุใดนางถึงเลือกมาที่สุสานสังหารเทพ
หากเกี่ยวข้องกับเนื้อเพลงฉินส่วนสุดท้าย จิ่วหลงจึงอดสงสัยไม่ได้
ฉู่หลิวเยว่กะพริบตา
“ลูกน้องทั้งสองของข้าอยู่ที่นี่ ข้ามาที่นี่จะเป็นเรื่องแปลกอันใด แต่สำหรับเสินสื่อทั้งสองท่าน…ที่จู่ๆ ก็ออกจากตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์และมาอยู่ที่นี่ อีกทั้งยังขับไล่คนอื่นๆ ออกไปหมด…นี่ท่านกำลังทำอันใดกันแน่?”
จิ่วหลงพูดขึ้นด้วยท่าทีแข็งกร้าวและเคร่งขรึม
“เจ้าไม่มีสิทธิ์มาถามเรื่องนี้!”
ฉู่หลิวเยว่พูด ‘อ่อ’ ออกมา
“ดูเสินสื่อทั้งสองท่านจะไม่ยอมเอ่ยปาก…เช่นนั้นก็ช่างเถอะ”
ขณะที่พูดนางก็หันไปพยักหน้าให้ชีหานและลั่วเฟิงที่อยู่ข้างหลัง
“ไปเถอะ”
เมื่อพูดจบและกำลังเดินไปทางสุสานเทพศักดิ์สิทธิ์
“หยุดนะ!”
จิ่วหลงกับสีเยี่ยนไม่คาดคิดว่าฉู่หลิวเยว่จะเดินเข้าไปโดยไม่พูดแม้แต่คำเดียว นั่นแสดงว่านางไม่ได้สนใจพวกเขาเลย!
ฉู่หลิวเยว่ชะงักฝีเท้าและหันไปถามว่า
“เหตุใดหรือ เสินสื่อทั้งสองยังมีเรื่องอันใดอีกหรือ?”
จิ่วหลงกัดฟันแน่น
“คำพูดเหล่านั้นที่พวกข้าพูดไปก่อนหน้านี้ ดูเหมือนพวกเจ้าจะทำเป็นหูทวนลมอย่างนั้นหรือ”
“คำพูด? คำพูดอันใดหรือ?”
จิ่วหลงรู้สึกอึดอัดจนพูดไม่ออก
ชีหานจึงรีบอธิบายต่อว่า
“นายท่าน พวกเขาไล่ผู้ฝึกตนทุกคนทั้งหมดออกไปจากที่นี่แล้ว หากท่านมาไม่ทัน เกรงว่าพวกเราก็คงจะถูกไล่ออกไปด้วยเช่นกัน…”
ฉู่หลิวเยว่เลิกคิ้วขึ้น
“อ้อ เรื่องนี้…”
หลังจากที่เข้ามานางก็พูดว่าบนเส้นทางไม่เห็นผู้คนอื่นเลย ที่แท้ล้วนถูกจิ่วหลงและสีเยี่ยนขับไล่ออกไปจนหมด
เช่นนั้นสิ่งที่พวกเขาต้องการทำก็ยิ่งกระจ่างชัดอย่างมาก
ฉู่หลิวเยว่หันไปมองทางจิ่วหลงและสีเยี่ยน
“เช่นนั้นช่างบังเอิญเสียจริง การมาในครั้งนี้ข้ามีเรื่องสำคัญที่ต้องทำ เกรงว่าคงยังไปไม่ได้ในตอนนี้ หวังว่าเสินสื่อทั้งสองจะเข้าใจ”
แม้คำพูดจะเป็นเช่นนั้น แต่ท่าทางและน้ำเสียงของนางกลับเป็นธรรมชาติอย่างยิ่ง โดยไม่มีความรู้สึกขอโทษแม้แต่น้อย
เห็นได้ชัดว่านางไม่ได้กำลังขอร้อง แต่เพียงแค่บอกให้ฝ่ายตรงข้ามรู้ถึงทางเลือกและการตัดสินใจของนาง
…นางต้องการอยู่ที่นี่!
สีเยี่ยนขมวดคิ้วและพูดขึ้นด้วยเสียงเย็นชา
“ซั่งกวนเยว่ ก่อนหน้านี้เจ้าก่อเรื่องจนมากเกินไปในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ เพราะเห็นแก่ถวนจื่อ เหล่าเสินสื่อจึงไม่ได้เอาผิดเจ้า แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเจ้าจะทำตามใจได้ หากเจ้ายังไม่ฟังคำเตือนอีกเช่นนี้ อย่าหาว่าพวกข้าไม่เกรงใจ!”
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ยกขึ้นเป็นส่วนโค้งจางๆ
“ขออภัยที่ต้องพูดตามตรง แต่ดูเหมือนว่าเหล่าเสินสื่อไม่เคยช่วยอันใดข้าเป็นพิเศษเลยมิใช่หรือ เหตุใดถึงทำท่าทีเหมือนมอบสิ่งของมากมายให้ข้า?”
สีเยี่ยนชะงักไปครู่หนึ่ง และรู้สึกรำคาญใจมากขึ้น
ในพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์เสินสื่อมีสถานะสูงส่ง ปกติไม่ว่าจะพูดหรือทำอันใด คนผู้น้อยก็จะปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด มีน้อยคนนักที่จะคัดค้าน หรือกล้าที่จะตอบโต้กลับต่อหน้า ยิ่งแทบไม่มี
แต่ตอนนี้ฉู่หลิวเยว่กลับทำทุกอย่างที่กล่าวมา และยังคงมีท่าทีที่ไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย
ใครที่มอบความกล้าให้กับนาง!
“ซั่งกวนเยว่ เจ้าแน่ใจว่าจะอวดดีเช่นนี้ต่อไป?”
จิ่วหลงยกกระบี่ยาวในมือขึ้นและชี้ตรงไปที่นางอย่างมั่นคง
“เสินสื่อ ต่อให้เก่งกาจก็ยังเป็นเพียงเสินสื่อ!”
หากเขาใช้พลังทั้งหมด ฉู่หลิวเยว่คงไม่มีทางตอบโต้ได้เลย!
เมื่อเผชิญหน้ากับแสงกระบี่อันหนาวเหน็บ ฉู่หลิวเยว่ขยิบตาและยิ้มออกมา
“เสินสื่อทั้งสอง หากข้าเดาไม่ผิด พวกท่านก็มาตามหาเนื้อเพลงฉินส่วนสุดท้ายเหมือนกันใช่หรือไม่ ในเมื่อทุกคนมีเป้าหมายเดียวกัน เหตุใดไม่ร่วมมือกันก่อน เพื่อหาเนื้อเพลงฉินให้เจอ ส่วนเรื่องอื่นค่อยว่ากันทีหลัง?”
คำพูดนี้ทำให้จิ่วหลงและสีเยี่ยนสีหน้าเปลี่ยนไปทันที
เรื่องนี้เป็นสิ่งที่เสินสื่อลำดับที่หนึ่งมอบหมายให้พวกเขาสองคนโดยเฉพาะ แต่นางรู้เรื่องนี้ได้อย่างใด!
เมื่อเห็นปฏิกิริยาของทั้งสอง ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกสนใจขึ้นมาอย่างมาก
สายตาของนางกวาดตามองทั้งสองคน จากนั้นนางเอ่ยถามอย่างช้าๆ ขึ้นว่า
“ทั้งสองท่านก็ตามหาเนื้อเพลงฉินถึงที่นี่แล้ว คงยังไม่รู้ว่า…เนื้อเพลงฉินก่อนหน้านี้ได้ยอมรับข้าเป็นเจ้าของแล้วใช่หรือไม่?”
“เจ้าพูดอันใด!”
จิ่วหลงกับสีเยี่ยนอุทานออกมาด้วยความตกใจ
ฉู่หลิวเยว่ยักไหล่
ดูเหมือนยังไม่รู้จริงๆ…
“ในเมื่อเสินสื่อลำดับที่หนึ่งมอบหมายเรื่องนี้ให้พวกท่าน เหตุใดถึงไม่บอกเรื่องนี้ให้พวกท่านรู้?”
มีคนไม่มากที่รู้ว่านางเป็นเจ้าของเนื้อเพลงฉิน และหนานจิ่นซูเป็นหนึ่งในนั้น
เขาเลือกที่จะบอกตำแหน่งของเนื้อเพลงฉินส่วนสุดท้ายให้เสินสื่อลำดับที่หนึ่งรู้ จึงไม่มีเหตุผลที่จะไม่บอกเรื่องนี้
ยิ่งไปกว่านั้นการมีอยู่ของเสินสื่อลำดับที่หนึ่ง น่าจะรู้เรื่องเหล่านี้ทั้งหมดเป็นแน่ มิเช่นนั้นจะมีคุณสมบัติอันใดที่เรียกว่าเป็นเสินสื่อลำดับที่หนึ่งได้ และเป็นผู้ดูแลพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ทั้งหมดกันเล่า?
แต่ที่น่าแปลกคือ คนสองคนนี้กลับไม่รู้?
“เจ้า”
จิ่วหลงเตรียมลงมือทันที!
แต่ฉู่หลิวเยว่กลับยกฝ่ามือขึ้นอย่างไม่รีบร้อน
“ช้าก่อน เสินสื่อลำดับที่เก้า ข้าได้บอกแล้วว่าเนื้อเพลงฉินทั้งสองส่วนอยู่กับข้า และมันเป็นของข้า หากท่านฆ่าข้าในตอนนี้ ท่านจะไม่ได้อันใดเลยแม้แต่ส่วนเดียว”
หากนางตาย เนื้อเพลงฉินทั้งสองส่วนจะกระจัดกระจายและซ่อนตัวอีกครั้ง จนไม่มีทางหาเจอ
เว้นเสียแต่สมองจะมีปัญหา ไม่เช่นนั้นพวกจิ่วหลงคงไม่ลงมือกับนางได้โดยง่าย
นี่คือเหตุผลที่ฉู่หลิวเยว่กล้าพูดตรงๆ เช่นนี้
อย่างใดเสียเรื่องนี้ก็ปิดบังไม่ได้อยู่แล้ว ไม่สู้พูดกันอย่างตรงไปตรงมาเสียดีกว่า
“เจ้ากล้าข่มขู่พวกข้า?”
จิ่วหลงกัดฟันถามขึ้น
ฉู่หลิวเยว่ถอนหายใจด้วยความเหลืออด
“ข้าแสดงออกชัดขนาดนี้ พวกท่านทั้งสองสองดูไม่ออกหรือ”
นางเป็นคนทำอันใดตรงไปตรงมาเสมอ แม้แต่การข่มขู่คนก็ยังทำอย่างเปิดเผยและซื่อตรง
เนื้อเพลงฉินสองส่วนแรกอยู่กับนาง ถ้ามีความสามารถ…ก็มาแย่งไป?
นางไม่กลัวตาย แต่ไม่รู้ว่าพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์จะกลัวหรือไม่หากสุดท้ายเรื่องนี้จะวุ่นวายจนไม่ได้อันใดเลย?
………………..