ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2324 การพบกับท่านเทพ
ตอนที่ 2324 การพบกับท่านเทพ
………………..
จิ่วหลงและสีเยี่ยนคาดไม่ถึงเลยว่าฉู่หลิวเยว่จะใช้วิธีนี้
นางยอมรับตรงๆ ว่าเนื้อเพลงฉินทั้งสองส่วนอยู่กับนาง และใช้มันเป็นเครื่องต่อรองในการข่มขู่พวกเขา ทำให้พวกเขาไม่กล้าลงมือฆ่านาง!
ตรงไปตรงมาเช่นนี้ แม้แต่เวลาตั้งรับยังไม่เหลือให้พวกเขาเลย
สิ่งที่น่าหงุดหงิดที่สุดคือ หลังจากทั้งสองคนคิดอย่างรอบคอบแล้ว ก็พบว่าการที่ฉู่หลิวเยว่กล้าหยิ่งผยองเช่นนี้ ไม่ใช่ไม่มีเหตุผล”
…หลังจากที่รู้เรื่องนี้แล้ว แม้ว่าพวกเขาจะโกรธเกลียดนางมากเพียงใด แต่ก็ไม่กล้าทำอันใดนางจริงๆ
“ในเมื่อพวกท่านก็ต้องการหาเนื้อเพลงฉิน ข้าก็ต้องการหาเนื้อเพลงฉิน เช่นนั้นเราร่วมมือกัน ไม่ดีกว่าหรือ”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้มจนตาหยีพลางเอ่ยถามขึ้น
จิ่วหลงพูดขึ้นด้วยความโกรธจนแทบระงับอารมณ์ไม่อยู่
“ดีอันใดกัน! ซั่งกวนเยว่ เจ้าคิดว่าคนอื่นเป็นคนโง่กันหมดหรือไง!”
เนื้อเพลงฉินทั้งสองส่วนได้ยอมรับนางเป็นเจ้าของแล้ว แม้จะหาอีกส่วนที่เหลือเจอ เก้าในสิบส่วนมันก็คงจะตกไปอยู่ในมือของนางอยู่ดี!
ในเรื่องนี้ถือว่านางมีข้อได้เปรียบที่แข็งแกร่งอย่างมาก!
แม้ทั้งสองฝ่ายจะร่วมมือกันจนหาเนื้อเพลงฉินเจอ สุดท้ายก็เป็นเพียงความยากลำบากเพื่อให้นางได้รับประโยชน์ไปคนเดียวเท่านั้น!
ตอนนี้แม้แต่ให้พวกเขาป้องกันนางยังสายเกินไปแล้วจะให้ร่วมมือกับนางอีกอย่างนั้นหรือ
ฉู่หลิวเยว่แสดงสีหน้าผิดหวังและยกมือขึ้นอย่างจนใจ
“ดูแล้วท่านทั้งสองคงไม่ยอมสินะ ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้น…พวกเราต่างคนต่างอยู่ ใช้ความสามารถของตนเป็นเดิมพันเป็นอย่างใด เนื้อเพลงฉินนี้ ใครหาเจอก่อนก็เป็นของคนนั้น”
จิ่วหลงและสีเยี่ยนมองหน้ากัน
แน่นอนว่าพวกเขาไม่อยากตอบรับข้อเสนอของฉู่หลิวเยว่
เดิมทีนางเป็นเจ้าของเนื้อเพลงฉิน การหาเนื้อพลงฉินจึงได้เปรียบมากกว่าพวกเขาอยู่มาก
แต่หากไม่ยินยอม…ดูจากท่าทีของนางแล้ว เป็นไปได้ว่าจะก่อเรื่องวุ่นวายต่อไป
แต่พวกเขาก็ไม่สามารถทำอันใดนางได้!
หลังจากผ่านไปสักพัก สีเยี่ยนส่งสายตาให้จิ่วหลงพลางหันไปมองฉู่หลิวเยว่และพูดว่า
“ในเมื่อเจ้ายืนกรานเช่นนี้ ไม่ใช่ว่าพวกข้าจะไม่ตอบรับ แต่พวกข้าก็มีเงื่อนไขเช่นกัน”
“เสินสื่อ เชิญพูด”
“จะหาเนื้อเพลงฉินเจอหรือไม่ ทุกคนก็ต้องพึ่งพาความสามารถของตนเอง แต่ผู้ที่นำเนื้อเพลงฉินกลับไปที่พระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ได้สำเร็จจึงจะถือเป็นผู้ชนะที่แท้จริง! เมื่อถึงตอนนั้น ไม่ว่าผลจะเป็นอย่างใด อีกฝ่ายห้ามเข้ามาพัวพันแย่งชิงอีกต่อไป!”
ฉู่หลิวเยว่เม้มริมฝีปากแดงเล็กน้อย
บอกได้ว่าสองคนนี้โน้มน้าวไม่ง่ายขนาดนั้น ที่แท้ก็ตั้งใจเอาไว้แบบนี้
ต้องเข้าใจว่าจากที่นี่ไปพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ มีระยะทางที่ไกลพอสมควร
ระหว่างทางจะเกิดอันใดขึ้นบ้าง ใครจะคาดเดาได้?
แม้ว่านางจะหาเจอก่อน พวกเขาก็ยังสามารถแย่งชิงระหว่างทางและยึดมันมาเป็นของตนเองได้
ในท้ายที่สุด พวกเขาก็ยังสามารถบรรลุเป้าหมายได้อยู่ดี
ฉู่หลิวเยว่เป็นเทพศักดิ์สิทธิ์ ส่วนชีหานและลั่วเฟิงที่ยืนอยู่ข้างหลังนางล้วนเป็นเทพขั้นสูง
ส่วนจิ่วหลงและสีเยี่ยนที่อยู่ฝั่งตรงข้ามนั้นกลับมีขั้นพลังปราณที่สูงกว่าเทพศักดิ์สิทธิ์
นี่ไม่ใช่การรังแกกันอย่างโจ่งแจ้งหรอกหรือ?
หากพวกเขาลงมือ ต่อให้ฉู่หลิวเยว่ทุ่มสุดกำลัง ก็ไม่มีทางสู้พวกเขาได้
เห็นได้ชัดว่านี่เป็นการแย่งชิง
อย่างใดก็ตามหลังจากที่ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอย่างจริงจังอยู่ครู่หนึ่ง นางกลับพยักหน้าด้วยความยินดี…ตกลงรับข้อเสนอ!
“ได้สิ”
การตอบรับอย่างกระทันหันเช่นนี้ของฉู่หลิวเยว่ ทำให้จิ่วหลงและสีเยี่ยนตกตะลึงไปชั่วขณะ
“แต่มีอยู่เรื่องหนึ่งที่ต้องพูดให้ชัดเจน การกลับไปพระราชวังมายาศักดิ์สิทธิ์ หมายถึงแค่ข้ามประตูแดนสวรรค์หรืออย่างอื่นกันแน่? ถ้าพวกท่านยืนกรานว่าต้องเข้าไปในตำหนักมายาศักดิ์สิทธิ์ถึงจะนับ งั้นก็เท่ากับข้าแพ้ตั้งแต่แรกแล้วสิ?”
ฉู่หลิวเยว่ยักไหล่เบาๆ
“แน่นอนว่านับจากตอนที่ข้ามประตูแดนสวรรค์!”
สีเยี่ยนพูดเสริมขึ้น
แม้ไม่รู้ว่าเหตุใดฉู่หลิวเยว่ถึงเลือกตอบตกลง แต่เงื่อนไขนี้เห็นได้ชัดว่ามีประโยชน์ต่อพวกเขา จะไม่ใช้ก็เสียเปล่า
หากพวกเขาทั้งสองสามารถหาเนื้อเพลงฉินส่วนสุดท้ายได้ก็ถือเป็นเรื่องดีที่สุด
แต่ถ้าถูกฉู่หลิวเยว่ตัดหน้าไปก้าวหนึ่งโดยไม่ได้ตั้งใจ เช่นนั้นก็แค่แย่งมันกลับมาก็เท่านั้น
เพียงแค่ไม่ทำให้นางถึงแก่ชีวิต เรื่องอื่นๆ ก็ยังอยู่ในการควบคุมของพวกเขาไม่ใช่หรือ
ในที่สุดอารมณ์ของจิ่วหลงก็สงบลงเล็กน้อย
“ในเมื่อได้ตกลงกันแล้ว เช่นนั้น…”
ตูม!
ทันใดนั้นเสียงดังสนั่นขึ้นจากที่ไกลออกไป!
จิ่วหลงและสีเยี่ยนหันไปมองในทันที
เสียงนี้ดังมาจากส่วนลึกของสุสานเทพศักดิ์สิทธิ์…มีคนเข้าไปแล้ว!
ทั้งสองคนสบตากัน
จิ่วหลงรู้ในทันทีว่าเกิดอันใดขึ้น เขามองฉู่หลิวเยว่ด้วยความโกรธอย่างยิ่งและพูดขึ้น
“เจ้าพาคนมาด้วยอย่างลับๆ”
ฉู่หลิวเยว่ยิ้ม ดวงตาโค้งราวกับพระจันทร์เสี้ยว
“ข้าก็ไม่เคยบอกว่าข้ามาคนเดียว”
“เจ้า”
จิ่วหลงโกรธจนกัดฟันแน่น!
ที่แท้สิ่งที่พูดมาทั้งหมดก่อนหน้านี้ ก็แค่เพื่อถ่วงเวลา!
สีเยี่ยนขมวดคิ้วแน่น
“ช่างเถอะ ตอนนี้ไม่ใช่เวลามาโต้เถียงกับนาง รีบเข้าไปดูก่อนว่าเกิดอันใดขึ้นเป็นเรื่องที่สำคัญกว่า!”
การเคลื่อนไหวนี้เกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ไม่ใช่สิ่งที่ผู้ฝึกตนทั่วไปจะทำได้อย่างแน่นอน
ต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นในสุสานเทพศักดิ์สิทธิ์เป็นแน่!
บางที…อาจเกี่ยวข้องกับเนื้อเพลงฉินส่วนสุดท้าย!
จิ่วหลงจ้องฉู่หลิวเยว่ด้วยสายตาแข็งกร้าวและพูดขึ้น
“ซั่งกวนเยว่ เจ้าอย่าพึ่งดีใจเร็วเกินไป! คนที่หัวเราะได้เป็นคนสุดท้ายเท่านั้นถึงจะเป็นผู้ชนะ!”
ฉู่หลิวเยว่กลับคร้านที่จะสนใจพวกเขาทั้งสองคน นางจึงหันไปมองชีหานและลั่วเฟิงแทน
“ไป!”
ทันทีที่พูดจบ นางเขย่งปลายเท้าเล็กน้อย ร่างเพรียวบางหายวับจากที่เดิมและพุ่งตรงไปยังส่วนลึกของสุสานทันที!
ชีหานและลั่วเฟิงตามไปติดๆ!
โชคดีที่บาดแผลของทั้งสองไม่ร้ายแรงนัก อีกทั้งเมื่อครู่ฉู่หลิวเยว่กับจิ่วหลงและสีเยี่ยนก็ต่อสู้กันอยู่พักใหญ่ ตอนนี้พวกเขาพักฟื้นจนเกือบหายดีแล้ว จึงรีบตามไปอย่างรวดเร็ว
จิ่วหลงสบถออกมา และมุ่งหน้าไปพร้อมกับสีเยี่ยนในทันที!
…
จิ่วหลงและสีเยี่ยนมีขั้นพลังปราณสูงกว่าฉู่หลิวเยว่และพวกของนาง ในเวลาเพียงไม่อึดใจก็แซงหน้าพวกเขาไปได้
พวกเขาทั้งสองรีบมุ่งหน้าไปยังทิศทางที่เสียงดังขึ้นโดยไม่หยุดแม้แต่น้อย
ผ่านไปประมาณครึ่งชั่วยาม พวกเขาก็มองเห็นร่างหนึ่งจากที่ไกลๆ
นั่นคือชายหนุ่มที่ยืนหันหลังให้พวกเขา สวมชุดขาวดั่งหิมะ รูปร่างสูงเพรียวและสง่างาม
เขาเอามือข้างหนึ่งไพล่หลัง พื้นที่ตรงหน้าเริ่มบิดเบี้ยวและยุบตัวลงอย่างต่อเนื่อง ดูดกลืนพลังรอบข้างไปเรื่อยๆ!
แม้จะเป็นเพียงเงาข้างหลัง แต่กลิ่นอายที่เย็นชาและสูงศักดิ์ของเขาก็ยังคงปรากฏอย่างชัดเจน
จิ่วหลงขมวดคิ้ว
“นี่คือคนที่มากับซั่งกวนเยว่หรือ”
เหตุใดมองดูแล้ว…รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติ?
ถึงแม้เขาจะบอกไม่ได้ผิดปกติที่ใด แต่ในใจกลับรู้สึกกังวลอย่างบอกไม่ถูก
แต่เขาก็รีบกำจัดความรู้สึกนี้ทิ้งไปอย่างรวดเร็ว
“เจ้าเป็นใคร! กล้าดีอย่างใดที่ร่วมมือกับซั่งกวนเยว่และหลอกลวงพวกข้าทั้งสอง!”
จิ่วหลงตะโกนถามเสียงดังด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม!
เมื่อได้ยินเสียงของของคนผู้นั้นจึงหันมา
บนใบหน้าที่งดงามราวกับปีศาจ บัดนี้ดูเหมือนถูกปกคลุมด้วยชั้นน้ำแข็งบางๆ
ดวงตาหงส์อันลึกล้ำที่ทรงพลังหาใครเทียบ!
“จิ่วหลง สีเยี่ยน พวกเจ้ากล้าขึ้นมากจริงๆ”