เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า - ตอนที่ 2927 อันตรายที่ไม่คาดคิด / ตอนที่ 2928 กระตุกหางเสือ
- Home
- เซียนหมอหญิงยอดนักฆ่า
- ตอนที่ 2927 อันตรายที่ไม่คาดคิด / ตอนที่ 2928 กระตุกหางเสือ
ตอนที่ 2927 อันตรายที่ไม่คาดคิด
เฟิ่งจิ่วกวาดสายตาสำรวจทาสหญิงห้าสิบคนนั้น หลังจากถามคำถามทดสอบสองสามประโยค นางก็เลือกคนออกมาได้จำนวนหนึ่ง จากนั้นก็ถามคำถามอีกหนึ่งรอบ ประมาณสามสิบนาทีต่อมา นางเลือกออกมาได้สิบสองคน
“เอาสิบสองคนนี้แหละ!” นางหันไปมองเหลิ่งหวา “คิดเงินให้ในราคาหนึ่งร้อยเหรียญทองต่อหนึ่งคน อย่าลืมเอาสัญญาทาสกลับมาด้วย”
“ขอรับ” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะหันไปมองผู้ดูแลที่อยู่ข้างๆ บอกให้เขาพาไปคิดเงิน
ผู้ดูแลคนนั้นได้ยินก็หันไปมองเจ้านายของตนแวบหนึ่ง พอเห็นเจ้านายโบกมือจึงค่อยพาเหลิ่งหวาเดินออกไป
“คุณหนูไม่อยากติดค้างหนี้น้ำใจผู้แซ่ถานหรือ” ชายหนุ่มหัวเราะเสียงต่ำ ก่อนถามว่า “คุยกันมานานขนาดนี้ ยังไม่ทราบว่าคุณหนูชื่ออะไรเลย”
“คนก็ซื้อแล้ว ตอนนี้ข้าไม่ต้องการอะไรเพิ่มเติมอีก คุณชายถาน ข้าขอลา” เฟิ่งจิ่วเอ่ย นางพยักหน้าเล็กน้อย ก่อนหมุนตัวเดินออกไปโดยไม่มองหน้าเขาแม้แต่น้อย
ชายหนุ่มเห็นดังนั้นก็เพียงยิ้มบางๆ ไม่ได้เอ่ยปากรั้งแต่อย่างใด เพียงจ้องมองเงาร่างที่เดินจากไปอยู่เนิ่นนาน ก่อนออกคำสั่งว่า “ไป ไปสืบประวัติของนางมา”
“ขอรับ” ทั้งที่บริเวณนั้นไม่มีคนอยู่ แต่กลับได้ยินเสียงคนตอบรับดังขึ้น
เฟิ่งจิ่วกลับมาที่รถม้า พูดกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อว่า “ซื้อมาสิบสองคน ห้องครัวสี่คน ในเรือนแปดคน ข้าว่าน่าจะพอแล้วนะ”
“อืม คนที่เจ้าเลือกมา ไม่มีอะไรผิดพลาดอยู่แล้ว” เซวียนหยวนโม่เจ๋อดึงให้นางนั่งลง ก่อนรินชาใส่ถ้วยที่วางอยู่บนโต๊ะตัวน้อยในรถม้า
“อีกเดี๋ยวพวกเราไปดูยาที่หอขายยาในเมืองนี้กันว่ามียาระดับใดบ้าง!” เฟิ่งจิ่วเอ่ย พลางยกน้ำชาขึ้นมาจิบหนึ่งคำ ก่อนจะวางลง จากนั้นก็หยิบขนมอบขึ้นมากินหนึ่งชิ้น
“ดี” เซวียนหยวนโม่เจ๋อรับคำ ทั้งสองนั่งอยู่บนรถม้าไม่นาน ก็ได้ยินเสียงของเหลิ่งหวาดังขึ้น
“นายท่าน พาคนมาแล้ว สัญญาทาสก็เอามาแล้ว จะให้พาพวกนางกลับไปก่อนหรือไม่”
“ให้เว่ยเฟิงพาพวกนางกลับจวนก่อนเถอะ! สั่งให้ชิงเฉิงเตรียมชุดบ่าวรับใช้ที่เหมือนกันให้พวกนาง และบอกให้เหลิ่งซวงอบรมพวกนางสักหน่อย จากนั้นก็แบ่งหน้าที่ให้พวกนางด้วย” เฟิ่งจิ่วที่อยู่ในรถม้าออกคำสั่ง
“ขอรับ” ทั้งสองที่อยู่ข้างนอกรับคำ เว่ยเฟิงพาหญิงสาวทั้งสิบสองคนออกไป ส่วนพวกเฟิ่งจิ่วก็ออกจากตลาดทาสแห่งนี้ไป และมุ่งหน้าไปยังที่อื่นต่อ
บนถนนใหญ่ เหมือนมีคนกำลังมีเรื่องกัน ด้านหน้ามีคนมากมายรุมล้อมอยู่ รถม้าเคลื่อนผ่านไปไม่ได้ ด้วยเหตุนี้ หลัวอวี่จึงเอารถม้าไปจอดเทียบไว้ข้างถนน ก่อนจะรายงานสองคนที่อยู่ข้างในว่า “นายท่าน เจ้าตำหนัก ข้างหน้าเหมือนมีคนกำลังสู้กันอยู่ รถม้าวิ่งผ่านไม่ได้ขอรับ”
“อ้อมไปไม่ได้หรือ” เซวียนหยวนโม่เจ๋อถาม
“หอขายยาที่ใหญ่ที่สุดในเมืองอยู่ข้างหน้านี้แล้ว ต้องผ่านถนนเส้นนี้เท่านั้นจึงจะไปที่นั่นได้” หลัวอวี่ที่สำรวจเส้นทางมาก่อนแล้วตอบคำถาม
“ในเมื่อเป็นอย่างนี้ เช่นนั้นก็รอก่อนเถอะ!” เซวียนหยวนโม่เจ๋อบอก เขาเองก็ไม่ได้รีบร้อน จึงนั่งดื่มชากินของว่างกับเฟิ่งจิ่วอยู่ในรถม้า
ตอนที่ได้กลิ่นหอมที่โชยเข้ามาจากข้างนอก เฟิ่งจิ่วเลิกผ้าม่านมองออกไป ก่อนจะพูดกับเหลิ่งหวาว่า “เหมือนข้าจะได้กลิ่นหอมของเกาลัด เจ้าไปดูว่าที่ไหนมีขาย แล้วซื้อกลับมาหน่อย”
“ได้” เหลิ่งหวารับคำ ก่อนจะหันไปมองรอบๆ ก่อนเห็นว่าตรงมุมถนนมีชายชราตั้งแผงลอยขายอยู่ จึงเดินไปซื้อกลับมา แล้วยื่นให้เฟิ่งจิ่วที่อยู่ข้างใน
เสียงต่อสู้กันดังมาจากข้างหน้า ได้ยินเสียงกระทบกันของกระบี่และดาบรางๆ พวกเขาไม่ได้ออกไปดูอย่างอยากรู้อยากเห็น เพียงนั่งกินของว่างอยู่ในรถม้าต่อไป แต่กลับนึกไม่ถึงว่าการต่อสู้ด้านหน้าจะดุเดือดขึ้นเรื่อยๆ ผู้คนที่รุมล้อมอยู่ข้างหน้าค่อยๆ แยกย้ายกันไป กระทั่งสุดท้ายคนที่กำลังสู้กันอยู่นั้นก็เคลื่อนตัวเข้าใกล้พวกเขา…
………………………………….
ตอนที่ 2928 กระตุกหางเสือ
เห็นพลังกระบี่ฟาดฟันมาทางนี้ หลัวอวี่กับเหลิ่งหวาสีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย รีบชักกระบี่ยาวตวัดพลังกระบี่ออกไปสองสาย ฟันพลังกระบี่ที่พุ่งเข้ามาให้ขาดสะบั้นกลางอากาศ
“ชิ้งๆ!”
กระแสพลังสองสายพุ่งออกไป ปะทะเข้ากับพลังกระบี่สายนั้น เพียงแต่ขณะเดียวกันกับที่สลายพลังกระบี่นั้น ก็ยังคงมีกระแสพลังเล็กๆ สายหนึ่งพาดผ่านรถม้าไป ทิ้งร่องรอยไว้บนรถม้าหนึ่งรอย
กระแสพลังเล็กๆ สายนั้นทิ้งร่องรอยเอาไว้ หลัวอวี่กับเหลิ่งหวาตวัดสายตามองคนข้างหน้าด้วยความเย็นชา เวลานี้ ผ้าม่านบนรถม้าถูกเฟิ่งจิ่วเลิกขึ้น
เซวียนหยวนโม่เจ๋อสีหน้าขรึมลงเล็กน้อย เขาจ้องออกไปข้างหน้าด้วยสายตาดุดัน แม้จะมีผ้าม่านรถม้ากั้นอยู่ แต่เขาก็ยังรู้ว่าเมื่อครู่หากไม่ได้หลัวอวี่กับเหลิ่งหวาสลายพลังกระบี่ที่พุ่งเข้ามา พลังกระบี่สายนั้นคงจะฟันมาโดนรถม้าของพวกเขาแล้ว
เฟิ่งจิ่วที่เลิกผ้าม่านขึ้นชะโงกหน้าออกมา นางยื่นมือไปลูบรอยบนรถม้าเส้นนั้น ก่อนบอกว่า “คุณภาพไม่ค่อยดีจริงๆ หากเป็นรถที่สั่งทำ ก็คงไม่ถูกกรีดเป็นรอยง่ายๆ อย่างนี้”
นางบอก ขณะมองไปข้างหน้าก็เห็นองครักษ์แปดคนในชุดรัดกุมกำลังรุมโจมตีผู้ฝึกตนสี่คน วรยุทธ์ขององครักษ์แปดคนนั้นอยู่ระดับเซียนเหินแล้ว ขณะที่สี่คนนั้นเป็นชายสามหญิงหนึ่ง ชายสองคนดูอายุประมาณยี่สิบห้า ส่วนอีกคนดูเหมือนจะอายุประมาณสี่สิบห้าสิบปี ส่วนหญิงสาวคนนั้นอายุแค่สิบเจ็ดสิบแปดเท่านั้น แต่รูปโฉมกลับงดงามเพริศพริ้งยิ่งนัก
ในอีกด้านหนึ่ง บุรุษในชุดสีทองหรูหรา ข้างกายมีองครักษ์วัยกลางคนสองคนคอยคุ้มกัน สายตาของเขากำลังจ้องไปที่หญิงสาวนางนั้นด้วยแววตาลุ่มหลงอย่างไม่อาจละสายตา
เพราะการต่อสู้ของทั้งสองฝ่ายเคลื่อนเข้ามาใกล้รถม้า สายตาของชายในชุดหรูหราจึงหันมาสะดุดเข้ากับนาง แล้วก็ไม่เหนือความคาดหมาย นางเห็นประกายความตะลึงลานในความงามพาดผ่านดวงตาของเขา ถึงขั้นที่อีกฝ่ายทำท่าจะพุ่งตัววิ่งเข้ามา แต่กลับถูกองครักษ์สองคนนั้นคุ้มกันเอาไว้ก่อน
เฟิ่งจิ่วเห็นอย่างนั้นก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย นางปล่อยผ้าม่านลง ตั้งใจจะให้หลัวอวี่บังคับรถม้าออกไป แต่กลับรู้สึกได้ว่ารถม้าโยก หลัวอวี่กับเหลิ่งหวาที่อยู่ข้างนอกตวาดเสียงเกรี้ยว
“ลงมา!”
เสียงกระบี่และดาบปะทะกันดังขึ้นนอกรถม้า กอปรกับการสั่นสะเทือนที่เกิดขึ้น ทำให้น้ำชาบนโต๊ะสาดกระจายไปทั่ว เซวียนหยวนโม่เจ๋อขมวดคิ้ว รวมพลังวิญญาณกลางฝ่ามือแล้วซัดขึ้นไปข้างบน
“บึ้ม!”
“อ๊าก! อั่ก…”
เสียงระเบิดดั้งบึ้ม ทุกคนที่อยู่รอบด้านเห็นคนที่กำลังต่อสู้กันอยู่บนรถม้ากระเด็นลอยออกไป แต่ละคนเมื่อร่างตกพื้นก็กระอักเลือดออกมา
ผู้ฝึกตนที่ล้มถูกอีกสามคนที่เหลือพยุงขึ้นมาอย่างรวดเร็ว ก่อนจะฉวยโอกาสหนีไป ส่วนองครักษ์พวกนั้นที่นอนล้มอยู่บนพื้นกลับไม่ได้โชคดีมากนัก แต่ละคนแค่จะยืนยังทำไม่ได้ รู้สึกเพียงเจ็บปวดอวัยวะภายใน เมื่ออ้าปากก็มีเลือดกระอักออกมา
ชายในชุดหรูเห็นอย่างนั้นก็อดตะลึงไปไม่ได้ แม้แต่องครักษ์สองคนที่คุ้มกันเขาอยู่ตอนนี้ยังหน้าเปลี่ยนสี พวกเขาไม่มีเวลาแม้แต่จะไปไล่ตามคนกลุ่มนั้น ต่างรีบช่วยกันประคองคนให้ลุกขึ้นแล้วถอยไปอยู่อีกด้านหนึ่ง มีเพียงองครักษ์วัยกลางคนสองคนนั้นที่ก้าวเข้ามา
“พวกข้าล่วงเกินท่านโดยไม่ได้ตั้งใจ ต้องขออภัยจริงๆ ได้โปรดอภัยให้พวกข้าด้วย” ชายวัยกลางคนทั้งสองประสานมือพูดกับคนในรถม้า
เฟิ่งจิ่วเห็นน้ำชาที่หกกระจายก็ได้แต่ถอนหายใจ ลุกขึ้นและเดินออกมาพร้อมกับเซวียนหยวนโม่เจ๋อ เมื่อคนทั้งสองปรากฏสู่สายตาของทุกคน เสียงอุทานและชื่นชมก็ดังมาจากรอบด้านอย่างไม่ขาดสาย
………………………………….