เซียนอมตะ 2,500 ปี [我只有两千五百岁] - บทที่ 137 ปรมาจารย์ฮัวถูกวางยาพิษ! อันตรายถึงชีวิต!
บทที่ 137 ปรมาจารย์ฮัวถูกวางยาพิษ! อันตรายถึงชีวิต!
ซูเย่มาถึงที่นี่แล้ว
ผู้ร่วมลงทุนเปิดสาขาในหอประชุมยังไม่ได้กลับกันไป
แต่ละคนยังแสดงความยินดีให้กันและกันอยู่
พวกเขารู้ดีว่าตราบใดที่ได้รับสิทธิ์ในการเปิดสาขามา ก็จะสร้างกำไรให้ได้อย่างแน่นอน และยังเป็นถึงกิจการที่ยั่งยืนยาวไปตลอดชีวิต ไม่มีทางถูกกำจัดออกไปจากตลาด
ทุกคนตื่นเต้นเป็นอย่างมาก
โดยเฉพาะตอนที่เห็นซูเย่ บรรยากาศก็ยิ่งครึกครื้นไปมากกว่าเดิม
“ขอเชิญทุกท่านนั่งลงก่อนครับ ผมมีบางอย่างจะบอก”
ซูเย่กล่าวจบ ทุกคนก็แยกย้ายกันไปหาที่นั่ง
“ทุกท่านครับ” ซูเย่เดินขึ้นไปบนเวทีและกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ในเมื่อได้เซ็นสัญญาแล้ว จากนี้ก็ถือว่าพวกเราจะได้ร่วมงานกันในอนาคต สิ่งต่อไปที่ทุกท่านต้องทำคือการหาตำแหน่งที่ตั้ง งสาขา ลงมือตกแต่งร้าน และอื่น ๆ ทุกท่านคงจะได้อ่านข้อตกลงอย่างละเอียดก่อนที่จะเซ็นสัญญาแล้วใช่ไหมครับ?”
ทุกคนพยักหน้าตอบรับ
“หากได้อ่านกันแล้ว ผมเชื่อว่าพวกท่านคงจะเห็นสัญญาข้อหนึ่ง ซึ่งเกี่ยวกับข้อจำกัดในการตกแต่งร้าน”
ซูเย่กล่าวต่อ “เหตุผลที่ว่าทำไมสัญญาข้อนี้ถึงถูกยกขึ้นมา ก็เพื่อให้ทุกท่านได้ระมัดระวังมากขึ้น เนื่องจากพวกเรากำลังจะเริ่มต้นทำกิจการเพื่อเด็กเล็ก โดยมีจุดประสงค์เพื่อช่วยเหลื อเหล่าพ่อแม่รุ่นใหม่จัดการกับโรคภัยของลูกน้อย ไม่ใช่เพิ่มปัญหาให้กับพวกเขา”
“ผมจึงต้องเตือนทุกท่านเอาไว้อย่างเคร่งครัด ว่าวัสดุที่นำมาตกแต่งห้ามก่อให้เกิดสารมลพิษฟอร์มัลดีไฮด์ ทุกอย่างจะต้องได้รับการตรวจสอบอย่างละเอียด หากได้เข้าร่วมแล้ว พวกท่านจะ ะต้องทำให้ดีที่สุด ห้ามทำลายชื่อเสียงของกิจการ อย่าให้อะไรมาส่งผลเสียทำร้ายเด็กได้!”
“แน่นอนว่าทางเราจะจัดการเตรียมแผนการตกแต่งร้านแบบพื้นฐานเอาไว้ให้ และจะมีเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องในด้านนี้ไปตรวจสอบ เมื่อไรที่พบว่าการตกแต่งไม่ได้มาตรฐาน หรือมีบางปัจจัยที่ มองข้ามความปลอดภัยของเด็ก ทางเราก็มีสิทธิ์ที่จะตัดท่านออกจากการร่วมงาน”
“หวังว่าทุกท่านจะระมัดระวังกันเป็นอย่างยิ่งนะครับ”
กล่าวจบ ทุกคนในห้องก็พยักหน้า
พวกเขาล้วนเต็มไปด้วยจิตวิญญาณอันแรงกล้า
เงินลงทุนแรกเข้าตั้งสูงขนาดนั้น พวกเขาจะฆ่าตัวตายเพียงเพราะเรื่องวัสดุที่ใช้ในการตกแต่งทำไม?
พอได้ออกปากตักเตือนไปแล้ว ซูเย่จึงรู้สึกโล่งใจขึ้นเล็กน้อย
หลังจากส่งทุกคนกลับไปแล้ว เขามองไปยังหลี่เผียวชุนและเว่ยเย่ชิง เอ่ยขึ้นมาด้วยสีหน้าจริงจังว่า “ฉันมีคำถาม พวกนายตอบได้ไหม?”
“อะไรเหรอ?”
ทั้งสองผงะ
พวกเขาสงสัยว่ามีอะไรที่ตัวเองทำได้ไม่ดีพอหรือเปล่า
ซูเย่จึงเอ่ยถามขึ้นมาทันที
“การเตรียมการของตระกูลเจิ้งไปถึงไหนแล้ว?”
“หือ?”
ทั้งสองผงะไปอีกครั้ง พร้อมทั้งจ้องมองซูเย่กลับ
แต่ก่อนที่จะได้ตอบออกมา พวกเขาก็ตั้งสติได้เสียก่อน
หลี่เผียวชุนพ่นลมออกมาและกล่าว “ถึงจะร่วมมือกันแต่ก็ให้มันอยู่แค่ในเรื่องงาน ไม่ต้องคิดจะหลอกให้พวกเราหลุดพูดอะไร ฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น!”
“ใช่ ใช่ ใช่” เว่ยเย่ชิงเสริมทันทีพร้อมพยักหน้า
ซูเย่เม้มปากอย่างช่วยไม่ได้
สองคนนี้ไม่หลงกลเขา!!
เขาจึงส่ายหัวและเดินออกจากหอประชุมมาอย่างเสียดาย
…..
คืนนั้น
ย่านมหาวิทยาลัยเมืองจี้หยาง
ชายหนุ่มผู้มีคิ้วสูงดูชั่วร้ายและเต็มไปด้วยความมั่นใจ เดินยิ้มผ่านจัตุรัสกลางไปยังเส้นทางเปลี่ยว ตรงไปสู่ส่วนที่เงียบที่สุดของย่านนี้
มาจบลงที่ลานว่างไร้ผู้คน
“ตรงนี้แหละ”
“ดีมากเลย ไม่มีคนมาวุ่นวายแน่”
หลังจากมองไปรอบกาย มุมปากของเขาก็เผยอยกขึ้นเล็กน้อย
ทันใดนั้นร่างของเขาก็ลอยขึ้นสูง
ไม่ก่อให้เกิดเสียงใด ๆ อย่างกับว่าลอยอยู่ในอวกาศ
มองกวาดไปทั่วลาน
และกลับลงมาสู่พื้นดิน
จากนั้น
เขาหยิบหลอดแก้วออกมาจากกระเป๋ากางเกง ในนั้นมีของเหลวใสขนาดเท่าเม็ดข้าวอยู่
“ไปเลย”
เขากล่าวออกมาพร้อมรอยยิ้มแสนเย็นยะเยือก
“เอาล่ะ…”
ทันใดนั้นของเหลวใสกลายเป็นห้าสีและลอยออกมา
ภายใต้การควบคุมของพลังงานที่อธิบายไม่ได้ ผสานเข้ากับสายลมแผ่วเบา มันจึงลอยไปยังสวนแห่งหนึ่ง
ผ่านหน้าต่าง เข้าไปในบ้าน
และหยดลงไปบนถ้วยชาร้อน ๆ อย่างเงียบเชียบ
สามนาทีถัดมา มือเหี่ยวย่นคู่หนึ่งได้ยกถ้วยชาขึ้นดื่ม
ภายนอก ในมุมอับ
ชายหนุ่มที่ล่องลอยอยู่ในอากาศแอบมองผ่านช่องของหน้าต่าง เมื่อเห็นว่าชายชราได้ดื่มชาเรียบร้อยแล้ว มุมปากของเขาก็ฉีกยิ้มออกกว้างทันที และหลังจากที่ลงสู่พื้นดินแล้ว เขาก็ เดินจากไป
“ซูเย่ผู้น่าสงสาร อีกเดี๋ยวแกก็จะได้ฟังข่าวร้าย ฉันหวังว่าแกจะรับได้นะ ไม่อย่างนั้นคงไม่สนุก”
……
วันต่อมา
เวลา 6:50 น.
เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นและปลุกซูเย่ให้ตื่นจากการฝึกตน
เมื่อนำโทรศัพท์ออกมาดู พบว่าเป็นหลี่เคอหมิง
“ครับ ศิษย์พี่?” ซูเย่รับสาย
“อยู่ไหน?” หลี่เคอหมิงเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงผิดปกติ
“เมืองจี้หยางครับ มีอะไรเหรอ?” ซูเย่รีบถามกลับทันที
“อาจารย์ติดพิษ” น้ำเสียงของหลี่เคอหมิงเต็มไปด้วยความกังวล “มาที่นี่เดี๋ยวนี้!”
“อะไรนะ?!” ซูเย่ตกใจ “ได้ครับ ผมจะไปเดี๋ยวนี้!”
เขาวางสายและรีบวิ่งไปในย่านมหาวิทยาลัยทันที
ไม่เรียกแท็กซี่
ซูเย่กระตุ้นพลังปราณเพื่อเร่งความเร็วในการวิ่ง เนื่องจากยังเป็นเวลาเช้า จึงไม่มีคนเดินถนนมากนัก เขามาถึงด้านนอกสวนของปรมาจารย์ฮัวในไม่ช้า
ยังไม่ต้องเข้าไป ซูเย่ก็ได้ยินเสียงร้องไห้ของภรรยาอาจารย์ดังมาถึงข้างนอก
คิ้วขมวดแน่น
ซูเย่รีบตรงเข้าไปทันที
มาถึงห้องนอนของปรมาจารย์ฮัว
ขณะนั้น คุณหญิงได้นั่งอยู่ข้างเตียง ดวงตาของเธอแดงก่ำและเต็มไปด้วยน้ำตา
ในห้อง นอกจากหลี่เคอหมิงแล้ว เหล่าคณบดีของมหาวิทยาลัยแพทย์แผนจีนจี้หยางเองก็อยู่ด้วย สีหน้าของทุกคนดูบิดเบี้ยว โดยที่ใบหน้าของหลี่เคอหมิงนั้นเศร้าหมองกว่าใครและเต็มไ ไปด้วยความวิตกกังวล
“เกิดอะไรขึ้นครับ?” ซูเย่รีบเอ่ยถาม
เพียงแค่มองไปที่ปรมาจารย์ฮัว ก็พบได้ทันทีว่าใบหน้าของเขาไร้เลือด ลมหายใจแผ่วเบา ทุกอย่างผิดปกติไปหมด!
“ยังไม่รู้แน่ชัดเลย!” หลี่เคอหมิงตอบเสียงแข็ง “ฉันไม่รู้ว่าเป็นพิษอะไร แต่อาการร้ายแรงมากในตอนนี้!”
ซูเย่รีบตรงเข้าไปตรวจสอบอาการของปรมาจารย์ฮัว
หลังจากตรวจสอบ สีหน้าของเขาเองก็ไม่น่ามองขึ้นมา
ติดพิษจริง!
และมันไม่ใช่พิษธรรมดา!
ไม่สามารถตรวจพบได้ด้วยการวินิจฉัยปกติ แต่เมื่อเขาใช้พลังปราณในการตรวจสอบ จึงสัมผัสได้ว่ามีพิษชนิดพิเศษที่อยู่ในร่างกายของปรมาจารย์ฮัว
โดยพิษได้กระจายไปทั่วทั้งร่างแล้ว เป็นอันตรายต่อชีวิตอย่างมาก
โชคยังดีที่เขายังหายใจ
มันเกิดอะไรขึ้นกันแน่?
ลองวิเคราะห์ต่อไป
ซูเย่ก็โมโหขึ้นมา!
มีเพียงการวินิจฉัยด้วยพลังปราณเท่านั้นที่จะตรวจพบ พิษในร่างของปรมาจารย์ฮัวไม่ใช่พิษธรรมดา
“ผมจะช่วยอาจารย์เองครับ พวกท่านออกไปกันก่อน” ซูเย่กล่าว
“เธอจะช่วย?” ผู้อำนวยการขมวดคิ้วมองซูเย่ กล่าวขึ้นอย่างลังเลใจว่า “แต่ รถพยาบาลกำลังจะมาแล้ว ปรมาจารย์ฮัวเป็นสมบัติของชาติในวงการแพทย์แผนจีน ต้องห้ามมีอะไรผิดพลาด หากยังไม่ มีการรักษาที่แน่นอน ก็อย่าทำอะไรผลีผลามจะดีกว่า”
ผู้นำคนอื่นพยักหน้าตามกัน
เมื่อหลี่เคอหมิงจะห้ามปรามซูเย่บ้าง เขาก็พลันนึกถึงปาฏิหาริย์มากมายที่ไม่สามารถบรรยายได้ในอดีต ทำให้ก่อเกิดเป็นแสงแห่งความหวังขึ้นมา รีบมองไปหาซูเย่และเอ่ยถาม “เธอรักษา ได้จริงใช่ไหม?”
สถานการณ์ตอนนี้ร้ายแรงมาก อาจารย์เหลือเพียงแค่ลมหายใจสุดท้าย ไม่มีทางกระตุ้นการทำงานอื่นของร่างกายได้เลย
การปฐมพยาบาลเบื้องต้นทั้งหมดที่มีอยู่ล้วนไม่ได้ผล
นั่นก็เป็นอีกเหตุผลที่ทำให้เขาไม่กล้าลงมือต่อ
“ครับ” ซูเย่พยักหน้าอย่างจริงจัง
“ได้! ไปกันเถอะครับทุกท่าน” หลี่เคอหมิงมองไปยังผู้นำทั้งหลาย “ซูเย่เป็นศิษย์น้องของผมและลูกศิษย์คนสุดท้ายของอาจารย์ ผมเชื่อมั่นในตัวเขา! คุณนายก็ต้องเชื่อในตัวเขานะ ครับ เสี่ยวเย่ไม่มีทางลงมือทำอะไรโดยที่เขาไม่มั่นใจหรอกครับ”
“เสี่ยวเย่ ได้โปรด” คุณนายลุกยืนขึ้น จับมือของซูเย่เอาไว้และกล่าวออกมาโดยที่ยังมีดวงตาแดงก่ำ
“ไม่ต้องเป็นห่วงครับ” ซูเย่พยักหน้าตอบรับอย่างแรง “อาจารย์จะต้องไม่เป็นอะไร ผมสัญญา!”
เมื่อได้ยินเช่นนั้น เธอจึงพยักหน้า และน้ำตายิ่งไหลออกมามากขึ้นอีก
พอเห็นภาพนี้ เหล่าคณบดีก็ไม่กล้าขัดขวาง ได้แต่เดินตามหลี่เคอหมิงออกมาข้างนอก
ประตูปิดลง
“เนตรสวรรค์ ทำงาน!”
ซูเย่ตะโกนออกมาเบา ๆ ใช้งานพลังสวรรค์ทันที
เนตรสวรรค์นั้นมีความสามารถในการมองทะลุ ทว่าทำได้เพียงเฉพาะบนร่างของเด็กอายุต่ำกว่าสิบขวบเท่านั้น
หากเกินกว่านั้น จะเห็นได้เพียงลาง ๆ
แต่แค่นี้ก็เพียงพอสำหรับซูเย่แล้ว!
ภายใต้พลังของเนตรสวรรค์ สภาพการทำงานภายในร่างกายของปรมาจารย์ฮัวถูกเปิดเผย
อวัยวะเต็มไปด้วยพลังงานสีดำ!
พลังงานเหล่านี้กำลังกัดกินอวัยวะภายในอย่างต่อเนื่อง แม้แต่เนื้อและกระดูกก็ด้วย!
เนื่องจากพลังงานสีดำที่เต็มไปทั้งร่างกาย
หยางกำเนิดในร่างของปรมาจารย์ฮัวถูกกัดกินไปจนเกือบหมด มีร่องรอยเหลืออยู่เพียงบริเวณสะดือ
เสมือนกับแสงเทียนท่ามกลางความมืดมิด ต่อสู้อย่างสุดความสามารถเพื่อไม่ให้ถูกกลืนกิน และมีท่าทีที่จะมอดดับลงได้ทุกเมื่อ
“หืม?”
ซูเย่เปิดเสื้อบริเวณท้องของปรมาจารย์ฮัวออกทันที
มีเข็มปักอยู่บนจุดเสินเชว่ของปรมาจารย์ฮัว!
เป็นเพราะเข็มนี้ ที่ทำให้เขายังมีลมหายใจอยู่!
ไม่อย่างนั้น เศษเสี้ยวของหยางกำเนิดนี้คงจะถูกกลืนกินไปด้วย และปรมาจารย์ฮัวก็จะตาย!
สายตาของซูเย่เต็มไปด้วยความสงสัย แต่ก็ไม่มีเวลาให้คิดถึงที่มาของเข็ม เขาต้องรีบลงมือช่วยเหลือเดี๋ยวนี้
ก่อนอื่น ต้องปกป้องอวัยวะภายในของปรมาจารย์ฮัว
ฝ่ามือของซูเย่กดลงไปตรงสะดือของปรมาจารย์ฮัวเบา ๆ จากนั้นปล่อยพลังปราณกำเนิดใส่จุดเสินเชว่โดยตรง
แม้ว่าจะมีเข็มต่อชีวิตไว้ให้ แต่พลังงานสีดำก็ยังคงแข็งแกร่งเกินไป
เสี้ยวสุดท้ายของหยางกำเนิดจะคงอยู่ได้ไม่นาน จึงทำได้เพียงต้องเริ่มปกป้องจากจุดนี้ก่อน
เมื่อพลังปราณเข้าสู่ร่างกาย พลังงานสีดำก็เหมือนหวาดกลัว รีบร่นถอยออกห่างไปอย่างรวดเร็ว
บริเวณสะดือที่เคยมีพลังงานสีดำ ขณะนี้ถูกขับไล่ออกไปจนหมด
หยางกำเนิดเสี้ยวสุดท้ายได้รับการปกป้องเรียบร้อย
ซูเย่จึงควบคุมพลังปราณให้ไหลไปตามร่างของปรมาจารย์ฮัวอย่างรวดเร็ว ขับไล่พลังงานสีดำออกไปจากอวัยวะภายในทั้งหมด
เมื่ออวัยวะภายในปลอดภัย ก็พบว่าพลังงานสีดำเริ่มจับตัวกันอยู่ตามเส้นเลือดและกระดูก ซูเย่ส่งพลังปราณกำเนิดเข้าไปอีกชุด
ปกป้องเส้นเลือดและกระดูกสำเร็จ
จากนั้นแบ่งการควบคุม เริ่มไล่พลังงานสีดำตั้งแต่หัวจรดเท้า
ขับเคลื่อนไปตามเส้นลมปราณ และวิ่งไปทั่วตลอดทาง
ผลักพลังงานสีดำไปอย่างรุนแรงจนถึงจุดหย่งฉวน
เพียงไม่กี่นาที
ทั้งเท้าของปรมาจารย์ฮัวก็เต็มไปด้วยพลังงานสีดำ
ด้วยการขยับนิ้วชี้ของซูเย่ พลังปราณรูปเข็มแทงลงไปบนจุดหย่งฉวน
ได้ชี่
เข็มพลังปราณสลายไป
ช่วงเวลาถัดมา ของเหลวสีดำหนืด มีกลิ่นเหม็น ได้ไหลออกมาจากจุดหย่งฉวนของปรมาจารย์ฮัว
หลังจากผ่านไปครู่ใหญ่
พิษในร่างปรมาจารย์ฮัวก็ถูกชำระล้างออกไปจนหมด ซูเย่เหงื่อท่วมตัว พลังปราณในร่างแห้งเหือด ใบหน้าซีดเซียว
หลังจากพิษหยดสุดท้ายไหลออกมา ซูเย่จึงปิดจุดหย่งฉวนที่เท้าของปรมาจารย์ฮัว
จากนั้นรีบหาเข็มที่อยู่ในห้อง ฝังลงไปยังจุดไป่ฮุ่ย โดยใช้วิธีการเดียวกับตอนที่ช่วยเติมหยางกำเนิดให้เจิ้งหวูปิ้ง
เดิมทีแล้ว หยางกำเนิดเหลือแค่เพียงเศษเสี้ยว ทว่าตอนนี้เริ่มฟื้นคืนเพิ่มกลับมา
จนเมื่อไปถึงจุดที่ไม่สามารถเติมได้อีก ซูเย่จึงหยุดลง
ในที่สุดก็ช่วยชีวิตปรมาจารย์ฮัวไว้ได้สำเร็จ แม้ว่าจะเติมหยางกำเนิดให้แล้ว แต่ร่างของเขาก็ยังอ่อนแออยู่เนื่องจากความชรา จำเป็นจะต้องใช้เวลาเพื่อให้กลับมาเป็นปกติ ทำได้เพีย ยงรอคอยไปอย่างช้า ๆ เท่านั้น