แม่สาวเข็มเงิน - ตอนที่ 536 : ความผูกพันทีลึกซึ'งของพีและน้อง
คําดูถูกทีกงหย่าหรูปั’ นแต่งมาฟ้ององค์หญิงเต๋อหลงโดยหาว่าเจียงป่ าวชิงเป็ นคน พูดใส่นาง ถือว่าเป็ นคําดูถูกร้ายแรง ใครได้ฟังและคิดตามก็จะพอเข้าใจว่าทําไม นางถึงเลือกทีจะไปกระโดดนํ’าฆ่าตัวตาย
หลีอันหรูตกตะลึง “ไม่! ตอนนั’นข้าอยู่ในเหตุการณ์ด้วย แม่นางเจียงไม่ได้พูด อะไรสักคํา นางไม่ได้พูดอย่างทีถูกกล่าวหาเลย”
เจิ’งเหวินจู่ขมวดคิ’ว “แม่นางหลี ถ้าอย่างนั’นเจ้าอธิบายได้ไหมล่ะว่าถ้าแม่นาง เจียงไม่ได้พูดอะไรในตอนนั’น แล้วทําไมแม่นางกงถึงวิงหนีไปในสภาพนั ‘นได้ ? ข้าคิดว่ามันสมเหตุสมผลดีทีวิงออกไปเพราะถูกแม่ นางเจียงพูดจาล่วงเกินใส่”
เจิ’งเหวินจู่พูดอย่างมันใจเพราะคิดว่ าตนเองพูดไปตามเหตุตามผล หลีอันหรูยืนขึ’นทันที “แต่ข้ากล้ารับรองว่าแม่นางเจียงไม่ได้พูดเช่นนี’จริง ๆ”
กงหย่าหรูเงยหน้าขึ’นมอง “หลีอันหรู ทีเจ้าออกตัวแทนเจียงป่ าวชิงขนาดนี’ก็ เพราะว่าเจ้าชอบพีชายเจียงป่ าวชิงและอยากแต่งงานกับพีชายของนางไม่ใช่รึ ?”
หลีอันหรูไม่คิดว่ากงหย่าหรูจะรู้เรืองนี’ นางขมวดคิ’วแต่ไม่ได้ปฏิเสธ “ถึงยังไง เรืองสองเรืองนี’ก็ไม่เกียวกัน”
เจิ’งเหวินจู่พูดขึ’น “หากยึดตามกฎบ้านเมือง เรืองนี’จะตัดสินตามคําให้การของคน ใกล้ชิดไม่ได้ ดังนั’นสองเรืองนี’ถือว่าเกียวข้องกันเพราะถือว่าเป็นจุดทีน่าสงสัย และน่าเอามาคิด” นางส่ายหน้าเล็กน้อยก่อนจะพูดต่อ “นอกเสียจากแม่นางหลี จะรับรองว่าจะไม่แต่งเข้าไปในตระกูลเจียงอย่างแน่นอน คํายืนกรานของเจ้าถึง จะพอเชือถือได้บ้าง”
ใบหน้าหลีอันหรูซีดลงเล็กน้อย แต่ในขณะเดียวกันเจียงป่ าวชิงส่ายหน้าเพือบอก ให้นางไม่จําเป็นต้องเข้ามายุ่งเกียวกับเรืองนี’
กงหย่าหรูมันใจว่ าเจียงป่ าวชิงไม่กล้าพูดเรืองทีนางเคยอยู่ในหมู่บ้านฟู่ กุ้ยต่อหน้า ผู้คนมากมายเช่นนี’
เจียงป่ าวชิงรู้สึกขบขัน กงหย่าหรูคนนี’พยายามอย่างมากในการทําให้ตัวเองได้ แต่งงานกับกงจี’จนถึงกับไม่สนใจแม้กระทังประวัติเลวร้ายเก่ า ๆ ของตัวเองด้วย ซํ’า แต่นางกลับไม่เข้าใจอยู่เรืองหนึงว่าตัวนางเองถูกมองว่าเป็ นเพือนทีถูกชิวเพ่ย โหลวทอดทิง’
แผนการดึงเจียงป่ าวชิงลงนํ’าอย่างบ้าคลังของกงหย่ าหรูในตอนนี’ ในสายตาของ ของกงหย่าหรูมันคือการปูทางให้นางได้ตบแต่งเข้าไปในตระกูลกง แต่ในสายตา ของเจียงป่ าวชิง นีไม่ต่างอะไรกับการดึงคนอืนให้ฆ่าตัวตายไปด้วยกัน
องค์หญิงเต๋อหลงมองสํารวจเจียงป่ าวชิงด้วยสายตาลึกซึ’ง “เจ้ายังมีอะไรจะพูด อีกไหม ? คําพูดเมือครู่นั’นไม่ค่อยเข้าท่าเลยจริง ๆ”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า “จริงอย่างทีองค์หญิงกล่าวเจ้าค่ะ คําพูดแบบนั’นไม่เข้าท่า จริง ๆ การคาดเดาของทุกคนในตอนนี’ต่างก็อิงจากการทีกงหย่าหรูจิตใจบอบชํ’า นีหมายความว่าอาการจิตใจบอบชํ’าของนางสามารถกลายเป็ นหลักฐานว่าข้าดูถูก เหยียดหยามนางงั’นหรือเจ้าคะ ?”
เจียงป่ าวชิงเงียบไปครู่หนึงก่อนจะพูดกับเจิ’งเหวินจู่ “แม่นางเจิ’ง ข้าต้องขอโทษ ด้วยทีต้องนําแม่นางมายกตัวอย่าง ถ้าหากว่าข้าวิงออกไปด้วยสภาพจิตใจบอบชํ ‘า ในตอนนี’ แล้วข้าก็ไปบอกกับคนอืน ๆ ว่าแม่นางพูดจาดูถูกเหยียดหยามข้าจนข้า อยากฆ่าตัวตาย แล้วทีนี’ทุกคนก็เลยคาดเดาและโทษว่าแม่นางเป็ นคนทําให้ข้าจะ ฆ่าตัวตาย แม่นางสามารถยอมรับการคาดเดานี’ได้หรือเปล่าล่ะ ?”
คนเราถ้าไม่โดนกับตัวเองก็คงไม่รู้สึกทุกข์ร้อน เจิ’งเหวินจู่ครุ่นคิดอย่างเอาใจเขา มาใส่ใจเรา ในทีสุดนางก็พยักหน้ายอมรับ “อืม แม่นางเจียง เจ้าพูดได้อย่างมี เหตุผลมาก ข้าถูกหลอกด้วยตาของตัวเอง เจ้าไม่สามารถสลัดข้อสงสัยได้ว่าเจ้า
ไม่ได้ดูถูกเหยียดหยามแม่นางกง แต่ในขณะเดียวกันแม่นางกงเองก็ไม่สามารถ พิสูจน์ได้เช่นกันว่าโดนเจ้าพูดจาดูถูกมาจริง ๆ”
เจียงป่ าวชิงพยักหน้า “ในเมือไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าข้าไปพูดจาดูถูกนางหรือ ไม่ได้พูด งั’นตอนนี’ทุกคนก็ควรเลิกสงสัยข้า จริงไหม ?”
เจิ’งเหวินจู่ครุ่นคิด จากนั’นนางก็พยักหน้าอย่างตรงไปตรงมา
กงหย่าหรูตกตะลึงทันที เจิ’งเหวินจู่เป็ นพยานบุคคลทียอดเยียมทีชิวเพ่ยโหลวบอก มา นางไม่คิดเลยว่าต้องมาพ่ายแพ้เพราะพยานบุคคลทียอดเยียมคนนี’
องค์หญิงเต๋อหลงปรบมือด้วยใบหน้ายิมแย้ม ‘ “อื’ม แม่นางเจียงช่างวาทศิลป์ เป็ น เลิศ แต่ตอนนี’…” องค์หญิงค่อย ๆ หุบยิม’ “ยังไงก็ต้องมีคําอธิบายให้กับเรืองนี’ ใช่ไหม ?”
เจียงป่ าวชิงรู้ว่าคําว่า “เรืองนี’” ทีออกมาจากปากขององค์หญิงเต๋อหลงไม่ได้ หมายถึงการทะเลาะวิวาทระหว่างหญิงสาวอีกต่อไปแล้ว
กงหย่าหรูหนอกงหย่าหรู เจ้าก่อเวรก่อกรรมจนทําให้ตัวเองต้องไม่มีชีวิตรอดเอง เช่นนั’นก็อย่าโทษคนอืนทีไม่ช่วยเจ้าแล้วกัน!
เจียงป่ าวชิงหลุบสายตาลง “จริงอย่างทีองค์หญิงกล่าว เรืองนี’แค่ดูว่าใครเป็ นคน ก่อเรืองก็ได้แล้วเจ้าค่ะ”
กงหย่าหรูยังคงคุกเข่าอยู่บนพื’นด้วยนํ’าตาคลอเบ้า นางฟังบทสนทนาระหว่างองค์ หญิงเต๋อหลงกับเจียงป่ าวชิงอย่างงุนงงและไม่เข้าใจว่าพวกนางหมายถึงอะไรกัน แน่
องค์หญิงเต๋อหลงมองกงหย่าหรูอย่างคลุมเครือ แต่ในแววตากลับเต็มไปด้วย ความเกลียดชังและเอือมระอา
“เอาล่ะ เรืองวันนี’ให้มันจบลงตรงนี’” องค์หญิงเต๋อหลงมองทุกคนด้วยแววตา ตักเตือน “พวกเจ้าเข้าใจทีข้าหมายถึงหรือไม่ ?”
นีหมายถึงต้องการปิ ดปากทุกคน กงหย่าหรูงงเป็นไก่ตาแตก “องค์หญิงเจ้าคะ… ข้า…”
องค์หญิงเต๋อหลงไม่อยากสนใจกงหย่าหรูอีกจึงส่งสายตาให้แม่นมหวังทีอยู่ ด้านข้าง
“แม่นางกง เชิญกลับไปพักผ่อนกับข้าน้อยเถอะเจ้าค่ะ” แม่นมหวังดูอ่อนโยน แต่ความเป็นจริงนางกระชากกงหย่าหรูขึ’นมาอย่างบีบบังคับกลาย ๆ
กงหย่าหรูอยากหันกลับไปตะโกนอะไรสักอย่างแต่แม่นมหวังไม่ให้โอกาสนาง แม้แต่นิดเดียวและฉุดกระชากลากนางออกไป
พวกคุณหนูทุกคนในห้องโถงต่างมองดูฉากนี’อย่างเงียบ ๆ
หลังจากทีองค์หญิงเต๋อหลงจัดการเรืองนี’เสร็จแล้วก็อ้าปากหาวเหมือนรู้สึก เหนือยมากอย่างนั’น
และในขณะนี’ มีคนเข้ามาด้วยสีหน้าร้อนรน หลังจากทีคนผู้นั’นพูดอะไรกับองค์ หญิงเต๋อหลง สีหน้าขององค์หญิงก็เปลียนเป็ นยําแย่ทันทีพลันจับทีพักแขนบน เก้าอี’อย่างแน่น “ส่งคนไปหาเพิม—— ”
ชายคนนั’นรีบไปทําตามคําสังทันที ส่วนเจียงป่ าวชิงก็ก้มหน้าและทําเป็ นมองไม่ เห็น
……
ช่วงเวลาทีเจียงป่ าวชิงก้าวออกมาจากจวนองค์หญิงเต๋อหลง นางรู้สึกผ่อนคลาย อย่างทีนางไม่ได้รู้สึกมานาน
หลินยู่หยุนตามออกมาแล้วจับมือเจียงป่ าวชิงพร้อมพูดด้วยเสียงแผ่วเบา “วันนี’ เจ้าได้รับความไม่เป็ นธรรม แต่ข้าเชือว่าเจ้าไม่มีส่วนเกียวข้องกับเรืองนี’ แม้ท่าน ป้าจะเค้นถามบ้าง แต่ท่านก็เป็ นคนทีฟังเหตุผลผู้อืน”
เจียงป่ าวชิงเป็ นฝ่ ายพลิกมือจับมือหลินยู่หยุน ก่อนจะพูดกําชับเสียงเบา “เกรงว่า ช่วงนี’ราชสํานักคงวุ่นวายเล็กน้อย ไม่รู้ว่ามันจะกระทบไปถึงหลังบ้านของ ครอบครัวองค์หญิงหรือเปล่า ถึงยังไง องค์หญิงก็ต้องระวังหน่อยนะเจ้าคะ”
หลินยู่หยุนนึกถึงองค์ชายสามทีช่วยชิวเพ่ยโหลวแล้วก็รู้สึกกลัวขึ’นมาเล็กน้อย ทว่าก็พยักหน้าตอบรับ
หลังจากทีเจียงป่ าวชิงกําชับ นางก็โบกมือให้หลินยู่หยุนแล้วพูดขึ’นยิม ๆ ‘ “อีก สองสามวันข้าค่อยไปเยียมทีจวนองค์หญิงนะเจ้าคะ”
หลินยู่หยุนพยักหน้าอย่างหนักแน่น ทันใดนั’น เจียงฉิงก็โผล่ศีรษะออกมาจาก หน้าต่างรถม้าแล้วโบกมือให้หลินยู่หยุน “พีหลิน ยังมีข้าด้วย ข้าก็จะไปด้วยเจ้า ค่ะ”
ในทีสุดหลินยู่หยุนก็ยิม’
รถม้ากลับไปทีจวนเจียง เจียงป่ าวชิงไปเขียนจดหมายทีห้องตําราโดยไม่สนใจที จะพักผ่อนเลย นางเขียนส่วนสําคัญของวันนี’ลงไปในจดหมายแล้วเรียกกานซุ่ยอ อกมาเพือฝากให้เขานําจดหมายไปส่งให้กงจี’
นางรู้ว่าด้วยอํานาจของกงจี’ เขาคงจะรู้เรืองนี’ได้อย่างรวดเร็ว แต่นางยังคงกังวล มากจึงอดเขียนไปหาเขาไม่ได้
เมือกานซุ่ยออกไปส่งจดหมาย เจียงป่ าวชิงค่อยรู้สึกผ่อนคลายและไปนอนลงบน เตียง
วันนี’ผ่านไปอย่างเหนือยล้าจริง ๆ
ไม่นาน… นางก็ผล็อยหลับไป และเป็ นไปตามทีคาดไว้ สถานการณ์ในเมืองหลวง กําลังเปลียนแปลงอย่างรวดเร็ว
เป็ นเหมือนทีเจียงป่ าวชิงคาดการณ์ ช่วงนี’จวนฉานเฟิ งโฮ่วเผยแพร่ข่าวลือ มากมายเกียวกับแม่นางชิวเอ้อคนนั’น โดยบอกว่าผูกคอตายแต่ไม่สําเร็จ หรือไม่ก็ พูดกันว่าอดอาหารเพือพิสูจน์ความบริสุทธิG ของตัวเองอะไรทํานองนั’น
ทุกคนต่างรู้สึกเห็นอกเห็นใจมาก แม่นางชิวเอ้อมีดวงชะตาทีดี เดิมทีนางควรได้ เป็ นพระชายาขององค์รัชทายาท แต่กลับเปลียนจากพระชายาขององค์รัชทายาท ไปเป็ นพระชายาของพระราชบุตรแทน เป็ นใครก็ทนไม่ไหวกันทั’งนั’น
แต่ทุกคนก็ครุ่นคิดอีกครั’ง ไม่ใช่สิ ดวงชะตาของแม่นางชิวเอ้อคนนี’คือการได้ แต่งงานกับคนทีสวรรค์ลิขิตไว้ หรือว่าองค์ชายสามต่างหากทีเป็ นคนทีสวรรค์ ลิขิตไว้
ช่วงนี’ในราชสํานักมีเรืองวุ่นวาย องค์ชายสามคุกเขาต่อหน้าตําหนักบูรพาของ องค์รัชทายาทโดยแบกกิงไม้หนามไว้บนหลัง ว่ากันว่าเขาเริมคุกเข่าตั’งแต่ตอน กลางดึกจนถึงตอนเช้าของอีกวัน เอาเสียจนตัวเองหน้าซีดเป็นลมไปเลยทีเดียว
หลังจากทีองค์รัชทายาทเห็นน้องชายทีแบกไม้หนามมาขอให้ลงโทษ เขาก็ตกใจ จนหน้าถอดสีและรีบประกาศเรียกหมอหลวงทันที หลังจากทีหมอหลวงช่วยให้ องค์ชายสามฟื’ นขึ’นมาแล้ว สองพีน้องก็กอดคอกันร้องไห้ คนหนึงบอกว่าตอน นั’นแม่นางชิวเอ้อตกอยู่ในอันตราย เขาไม่ทันได้คิดอะไรมากมายจึงกระโดดลง ไปช่วยอีกฝ่ าย แต่เมือมาลองคิดในภายหลังก็นึกขึ’นได้ว่าแม่นางชิวเอ้อเป็ นสตรีที เกือบกําหนดว่าจะต้องอภิเษกกับพีชายใหญ่แล้ว การทีเขามาถูกเนื’อต้องตัวนางใน
ตอนช่วยนางขึ’นจากนํ’ามันเป็ นเรืองทีไปเปลียนแปลงเรืองการอภิเษกสมรสของ พีชายใหญ่ ซึงก็ถือว่าเขาบังเอิญทําเรืองไม่เหมาะสมไปเสียแล้ว
แต่ในขณะเดียวกัน องค์รัชทายาทก็บอกว่าเรืองนี’ไม่สามารถโทษน้องสามได้ การ ช่วยชีวิตคนนั’นดีกว่าการสร้างเจดีย์เจ็ดชั’น เห็นคนตกนํ’า ครั’ นจะให้น้องสามยืนดู แม่นางชิวเอ้อตายไปโดยไม่ทําอะไรเลยอย่างนั’นก็ไม่ได้
อย่างไรก็ตาม ในเมือน้องสามกับแม่นางชิวเอ้อถูกเนื’อต้องตัวกันแล้ว และยังเป็ น ท่ามกลางสายตาของผู้คนมากมายก็แสดงว่าทั’งสองมีวาสนาต่อกัน ถ้าอย่างนั’น น้องสามก็ควรอภิเษกสมรสกับนางจะดีกว่า
สองพีน้องเถียงกันไปมา คนเป็ นน้องรีบพูดว่าตอนนั’นมันฉุกละหุกจริง ๆ แม่นาง ชิวเอ้อกับพีชายใหญ่เป็ นคู่สร้างคู่สมกัน ไม่ใช่เขา
ส่วนคนเป็ นพีก็ปฏิเสธว่าเขากับนางยังไม่ได้เจรจาเรืองการจับคู่กันเลย หมึกทีจะ ใช้เขียนเจรจาเรืองนี’ยังไม่มีเลยด้วยซํ’า แบบนี’จะถือว่าจับคู่กันแล้วได้อย่างไร ยังไงซะให้น้องสามอภิเษกกับแม่นางชิวเอ้อจะดีกว่า
และไหนตอนนี’แม่นางชิวเอ้อยังมีคํานินทาจากผู้คนทีว่า… นางพยายามฆ่าตัวตาย พิสูจน์ความบริสุทธิG ถ้าน้องสามยังไม่ไปสู่ขอนางอีก เกรงว่าแม่นางคนนี’จะมีแต่ ความหมดหวังเท่านั’น
สองพีน้องปฏิเสธกันไปมาอีกพักใหญ่ สุดท้ายองค์ชายสามก็เช็ดนํ’าตา ดูท่าคน เป็ นน้องอย่างเขาเท่านั’นทีต้องรับผิดชอบเรืองนี’
ต่อมา ผู้คนกว่าครึ งเมืองหลวงก็ได้รับรู้โดยถ้วนทัวกั นว่าองค์ชายสามเชิญแม่สือ อย่างเป็ นทางการแล้วขนสินสอดกว่าครึ งถนนเล็ก ๆ ไปสู่ขอแม่นางชิวเอ้อถึงที เรือนของนาง