novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 734 ทำร้ายนางไปแล้ว

  1. Home
  2. พลิกชะตาชายาสยบแค้น
  3. ตอนที่ 734 ทำร้ายนางไปแล้ว
Prev
Next

ตอนที่ 734 ทำร้ายนางไปแล้ว

ชิงเฟิงคาดมิถึงว่าท้ายที่สุดคนที่ทำร้ายอันหลิงเกอจะเป็นฟางหลิงซู่ เนื่องจากตนก็เคยเห็นความดีที่ฟางหลิงซู่มีต่ออันหลิงเกอมาก่อนหน้านี้ แต่อีกฝ่ายได้เปลี่ยนเป็นคนเช่นนี้ไปเสียได้

“ชิงเฟิง พวกเรากลับไปช่วยจวินฮานกันเถิด” อันหลิงเกอคิดได้บางอย่างจึงรีบลุกจากเตียง แต่ชิงเฟิงก็ขวางไว้เสียก่อน

“พระชายาโปรดใจเย็นก่อน ท่านเป็นอันใดไปแล้วขอรับ ? ” ชิงเฟิงมองอันหลิงเกอด้วยสีหน้ามึนงง ตอนนี้นางยังบาดเจ็บสาหัสอยู่และแขนก็เพิ่งได้รับการรักษา จักไปช่วยมู่จวินฮานตอนนี้ได้อย่างไร

“ฟางหลิงซู่ ฟางหลิงซู่แค้นจวินฮานมาก เขาแค้นจวินฮานมาโดยตลอด” คำพูดของอันหลิงเกอค่อนข้างติดขัด เมื่อครู่นางเพิ่งนึกถึงเรื่องครั้งนั้นที่ฟางหลิงซู่ต้องนอนหลับใหลไปนานอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง นางจึงเข้าใจทุกอย่างทันที

“ฟางหลิงซู่ไม่ให้อภัยเรื่องที่เกิดขึ้นในครั้งนั้นแน่นอน ! ”

เมื่อคิดได้เช่นนี้ อันหลิงเกอก็รู้สึกตื่นตระหนก เพราะนางไม่รู้ว่าฟางหลิงซู่จะทำอันใดมู่จวินฮานบ้าง แต่พอนึกถึงเรื่องของอวีหลันกงจู่แล้วก็รู้ทันทีว่าฟางหลิงซู่จะไม่เลิกราโดนง่าย

ทว่าชิงเฟิงส่ายหน้าปฏิเสธเพราะตอนนี้เขายังปล่อยนางไปมิได้ พวกเขายังไร้แผนการที่รัดกุมมากพอ อีกทั้งจำนวนคนมีน้อยจึงให้ไปเสี่ยงมิได้

อันหลิงเกอเห็นท่าทางหนักแน่นของชิงเฟิงแล้ว นางก็ตระหนักได้ว่าเมื่อครู่วู่วามมากเกินไป

ตอนนี้ฟางหลิงซู่ไม่มีสิ่งใดมาขู่ให้มู่จวินฮานสั่นคลอนได้จึงไม่อาจนำตราอาญาสิทธิ์มาไว้ในครอบครอง

ขอเพียงมู่จวินฮานมิยอมมอบตราอาญาสิทธิ์ออกมา อีกฝ่ายก็ไม่มีทางสังหารเขา แต่พอคิดว่ามู่จวินฮานต้องทนรับการทรมานเหล่านั้นแล้ว อันหลิงเกอก็รู้สึกปวดใจขึ้นมา

ตอนนี้ฟางหลิงซู่เข้ามาในคุกใต้ดิน หลังได้รับรายงานว่ามู่จวินฮานมิได้โดนช่วยเหลือออกไป มีเพียงนักโทษนิรนามห้องด้านข้างเท่านั้นที่ถูกช่วยออกไปและเขาก็ต้องหัวเราะออกมา

“ฮ่าฮ่าฮ่า อาชาแกร่งก็มีวันล้มเหมือนกันหรือไร ? ” ฟางหลิงซู่หัวเราะเสียงดังลั่น เขาทราบถึงความสามารถของชิงเฟิงมาโดยตลอด แต่คราวนี้ชิงเฟิงผิดพลาดจนช่วยผิดคน ช่างน่าขำเสียจริง

เวลานี้ประมุขเผ่าก็อยู่ที่นี่ด้วยเช่นกัน เขายืนอยู่ด้านข้างฟางหลิงซู่โดยมิกล่าวอันใดออกมา แต่มองไปที่ห้องขังอันว่างเปล่าจากนั้นก็หันไปมองรอยยิ้มสบายใจในแววตาของมู่จวินฮานก็รู้ทันทีว่าอีกฝ่ายได้พบอันหลิงเกอแล้ว

จากนั้นประมุขเผ่าก็หันไปมองฟางหลิงซู่ที่ตอนนี้กำลังหัวเราะเยาะว่าชายชุดดำผู้นั้นช่วยผิดคนโดยมิรู้เลยว่าคนที่ถูกช่วยออกไปก็คืออันหลิงเกอที่เฝ้าฝันและอยากพาหนีไปนั่นเอง

เมื่อเห็นเช่นนี้แล้วประมุขเผ่าก็อดหัวเราะออกมามิได้ เขายังไม่กล่าวอันใดออกมาเพราะในเมื่อตอนนี้มิได้ตราอาญาสิทธิ์มาครองก็ปล่อยให้บุรุษทั้งสองทะเลาะกันเอง

สงครามในครานี้เผ่าปิงชวนสูญเสียไปอย่างมหาศาล ประมุขเผ่าจึงตั้งตาคอยกองทัพ 50,000 นายมาโดยตลอด แต่คาดมิถึง…ว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้เพราะมู่จวินฮานมินำตราอาญาสิทธิ์ออกมาเด็ดขาด

จากนั้นประมุขเผ่าก็เดินออกไป ก่อนจากก็ยังหันไปมองฟางหลิงซู่ด้วยสายตายากจะหยั่งถึงแล้วถอนหายใจออกมาเพราะตอนนี้ฟางหลิงซู่ได้สูญเสียความรักไปแล้ว

แต่ฟางหลิงซู่มิรู้ตัวและเมื่อประตูห้องขังปิดลงก็ทำให้คุกใต้ดินหลงเหลือเพียงฟางหลิงซู่และมู่จวินฮาน ตอนนี้ได้มองฟางหลิงซู่ที่อยู่ตรงหน้าแล้วมู่จวินฮานก็รู้สึกอยากหัวเราะออกมา

“ฟางหลิงซู่ เจ้ามิรู้สึกว่าตัวเองน่าขันบ้างหรือ ? ” น้ำเสียงของมู่จวินฮานแหบพร่าฟังแทบมิได้ยินเพราะตอนนี้เขาไร้กำลังแล้ว แต่ก็มิอยากให้ฟางหลิงซู่ดีใจเกินไปและอยากทำให้อีกฝ่ายเจ็บปวดบ้าง

“น่าขันหรือ ? คนที่น่าขันเป็นเจ้าต่างหาก อ๋องมู่” ฟางหลิงซู่คิดเพียงว่ามู่จวินฮานกำลังพยายามดิ้นรนและยั่วโทสะจึงได้กล่าวเช่นนี้ออกมา

“ข้าหรือ ? หึ ! อย่างน้อยข้าก็จำเกอเอ๋อได้ และตอนนี้นางก็มิได้อยู่ในมือพวกเจ้าแล้ว” มู่จวินฮานเอ่ยออกมาพร้อมรอยยิ้มเย้ยหยัน แต่ฟางหลิงซู่ได้ยินก็รู้สึกโมโหจนตัวสั่นเพราะมิรู้ว่าอันหลิงเกออยู่ที่ใด เมื่อได้ฟังเช่นนี้จึงรู้สึกกระวนกระวายขึ้นมา

“อ๋องมู่ เจ้าคงเสียสติไปแล้วกระมัง เหตุใดจึงชอบพูดเพ้อเจ้อเช่นนี้ ช่วงหลายวันมานี้เจ้ามิได้ออกจากที่นี่แม้แต่ก้าวเดียวแล้วเจ้าจะพบอันหลิงเกอทั้งรู้เบาะแสของนางได้เยี่ยงไร ? ”

เมื่อลองคิดให้ดีแล้วฟางหลิงซู่ยังเข้าใจว่านี่เป็นการพยายามดิ้นรนของมู่จวินฮานจึงยิ้มเยาะออกมา เพราะตอนนี้มู่จวินฮานสูญเสียอิสรภาพ แม้แต่ตัวเองยังเอามิรอดแล้วจักรู้เบาะแสของอันหลิงเกอได้อย่างไร

“ฮ่าฮ่า ไกลสุดขอบฟ้าแต่อยู่ใกล้เพียงตาเห็น นางอยู่ใกล้สายตาเจ้าถึงเพียงนี้ แต่เจ้ากลับมองมิเห็นนาง” หลังจากนั้นมู่จวินฮานก็หัวเราะออกมาเสียงดังลั่น เมื่อได้ยินคำกล่าวของฟางหลิงซู่แล้วก็รู้ว่ามิได้รักอันหลิงเกออย่างแท้จริง

มิรู้เป็นเพราะเหตุใด หลังได้ฟังประโยคนี้ของมู่จวินฮานจบแล้ว ฟางหลิงซู่ก็หันไปมองห้องขังด้านข้างโดยมิรู้ตัว ตอนนี้คราบเลือดที่เกิดจากฝีมือการทำร้ายนางในเวลานั้นได้แห้งไปแล้ว

“อ๋องมู่ เจ้าคงเลอะเลือนไปเองมากกว่า” ขณะที่พูดเสียงของฟางหลิงซู่ก็สั่นเครือเล็กน้อย จากนั้นความทรงจำมากมายก็หลั่งไหลเข้ามาในสมองจนทำให้เขาเริ่มกลัวว่าคนที่เขาลงมือทำร้ายไปจะเป็นอันหลิงเกอจริง และถ้าเป็นเยี่ยงนั้นนางก็คงรับรู้ความจริงทั้งหมดแล้ว…

นึกมาถึงตรงนี้ ฟางหลิงซู่ก็ทนมิไหวอีกต่อไป เขารีบวิ่งออกจากคุกใต้ดินเพื่อไปถามคนผู้หนึ่งซึ่งเป็นคนเดียวที่รู้ความจริงทุกอย่างและเขาอยากรู้ว่าเป็นแผนการของอีกฝ่ายจริงหรือไม่

“ไม่น้อมส่ง ประมุขหอกู่พิษ”

ขณะมองฟางหลิงซู่วิ่งออกไปอย่างรีบร้อน มู่จวินฮานก็พูดทิ้งท้ายพร้อมรอยยิ้ม แม้ตอนนี้บาดแผลบนร่างกายจะสร้างความเจ็บปวดแสนสาหัส แต่มู่จวินฮานก็มิแยและไม่กลัวตาย เนื่องจากตอนนี้อันหลิงเกอปลอดภัย และเขาก็เชื่อมั่นในความสามารถของชิงเฟิงด้วย

“เพราะเหตุใด ! ”

ฟางหลิงซู่เพิ่งเข้ามาในตำหนักของประมุขเผ่าก็เอ่ยถามด้วยความโกรธทันที ตอนนี้ประมุขเผ่ากำลังดื่มโอสถอยู่ พอเห็นฟางหลิงซู่เดินเข้ามาก็รู้ทันทีว่าเป็นเพราะเรื่องใด แต่คาดมิถึงว่าฟางหลิงซู่จะโมโหร้ายมากเพียงนี้จนมิสามารถระงับอารมณ์ได้

“เจ้าอยากถามเรื่องใดหรือ ? อยากถามว่าเหตุใดข้ามิบอกความจริงต่อเจ้าหรือเพราะเหตุใดเจ้าจึงจำมิได้ว่าคนผู้นั้นคือนาง ? ”

ตอนนี้ประมุขเผ่ามิคิดรักษาความสัมพันธ์อย่างที่เคยทำอีกต่อไป ตรงกันข้ามคือกล่าวด้วยน้ำเสียงเชิงตำหนิอีกด้วย เพราะในความเป็นจริงแล้วฟางหลิงซู่เป็นคนที่จดจำนางมิได้และทำร้ายนางเอง

“เจ้า ! ” ตอนนี้ดวงตาของฟางหลิงซู่แดงก่ำ จากนั้นก็พุ่งเข้าไปบีบคอประมุขเผ่าทันที

บัดนี้ฟางหลิงซู่ก็ต้องทุบหม้อข้าวแล้วเพราะในเมื่อศึกสุดท้ายไร้อันหลิงเกออยู่ด้วย เรื่องอื่นก็ไร้ความหมาย

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าใครสามารถชนะสงครามในครั้งนี้ได้และใครคือประมุขกันแน่ ? ” ตอนนี้ฟางหลิงซู่ใจเย็นลงแล้วแต่มือที่บีบลำคอประมุขเผ่ายังคงเดิม

เขาต้องการเอาชีวิตประมุขเผ่าเพื่อชดเชยความรู้สึกระหว่างตนและอันหลิงเกอ เมื่อเห็นท่าทีเช่นนี้ของฟางหลิงซู่แล้ว ประมุขเผ่าก็เริ่มหวาดกลัวขึ้นมา

“เจ้ากล้าหรือ ? ” ตอนนี้ประมุขเผ่าพยายามดิ้นรนเอาชีวิตรอดเพราะรู้ว่าฟางหลิงซู่กล้าทำเรื่องเช่นนี้ เนื่องจากตอนนี้ฟางหลิงซู่กำลังร้อนใจแล้วจะยั้งมือได้เยี่ยงไร

“เจ้ายังจำได้หรือไม่ว่าเป็นคนทำให้เผ่าปิงชวนเดินมาถึงจุดนี้และเป็นคนทำลายความสัมพันธ์ระหว่างเผ่าปิงชวนกับราชสำนักต้าโจว ! ”

เมื่อกล่าวถึงเรื่องแผ่นดินแล้ว อารมณ์ของฟางหลิงซู่ก็ปั่นป่วนกว่าเดิม มือที่บีบลำคอประมุขเผ่าก็ออกแรงแน่นขึ้นเรื่อย ๆ