novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 737 คลุ้มคลั่ง

  1. Home
  2. พลิกชะตาชายาสยบแค้น
  3. ตอนที่ 737 คลุ้มคลั่ง
Prev
Next

ตอนที่ 737 คลุ้มคลั่ง

“มู่จวินฮานเอ๋ยมู่จวินฮาน ตั้งแต่ที่ข้ารู้จักนางจนถึงตอนนี้หัวใจของนางก็มีเพียงเจ้า นางเอาแต่ปฏิเสธข้าครั้งแล้วครั้งเล่าจนข้าอยากจับนางมามัดไว้ข้างกาย แต่ข้าไม่มีทางปฏิบัติต่อนางเช่นนั้น”

“ส่วนเจ้าน่ะหรือ ? นางเต็มใจที่จะอยู่ข้างกายเจ้า แล้วเหตุใดเจ้าถึงมิเห็นค่านางบ้าง เหตุใดข้างกายของเจ้ามักมีสตรีมากมายอยู่ร่ำไป…ทว่าข้าสามารถทิ้งทุกอย่างได้เพื่อนาง ! ”

เมื่อฟางหลิงซู่เปลี่ยนเรื่องพูด จู่ ๆ เขาก็นึกถึงเรื่องราวที่ผ่านมาของตน แววตาจึงแปรเปลี่ยนเป็นความสับสนแต่แล้วก็มีความอ่อนโยนแฝงอยู่

“คนที่ทำให้ข้าต้องหลับไปนานเพียงนั้น มิใช่เจ้าหรือไร ! ”

ทันใดนั้นสีหน้าของฟางหลิงซู่ก็แสดงความเจ็บปวดออกมา ตัวเขากำลังจมอยู่กับความทุกข์ที่สูญเสียอันหลิงเกอไปจึงนำปัญหาทั้งหมดโยนมาที่มู่จวินฮานและแววตาของเขาก็ดูดุร้ายขึ้นมาทันที

เมื่อเรื่องเป็นเช่นนี้ ฟางหลิงซู่ก็เดินเข้ามาใกล้มู่จวินฮานอีกครั้ง ในขณะที่ทุกคนยังมิรู้ว่าเกิดอันใดขึ้น เขาก็คว้าตะขอที่ดึงตัวมู่จวินฮานไว้แล้ว

ตอนที่อันหลิงเกอเห็นภาพ ตะขอนั้นก็ถูกฟางหลิงซู่ดึงออกจากตัวมู่จวินฮานจึงทำให้เนื้อของมู่จวินฮานถูกเกี่ยวออกมาด้วย อันหลิงเกอจึงตกใจจนร้องไห้

“อ๊าก ! ” เหมือนเสียงกรีดร้องของมู่จวินฮานจะดังก้องไปทั่ววังหลวง บรรดานกที่อยู่บนต้นไม้ก็เหมือนรับรู้ถึงบรรยากาศที่โหดร้าย พวกมันต่างกระพือปีกบินออกไปทันที

ตะขอนั้นอยู่บนตัวเขามาหลายวันแล้ว มันยึดติดกับเนื้อหนังหรือแม้แต่กระดูกอย่างแน่นหนา ดังนั้นการที่ฟางหลิงซู่ดึงออกมาทั้งอย่างนี้ก็เหมือนดึงกระดูกออกจากตัวเขาทั้งเป็น ทำให้มู่จวินฮานเจ็บปวดยิ่งนัก

แต่ยังมิรอให้มู่จวินฮานได้พักหายใจ ฟางหลิงซู่ก็เข้าไปคว้าตะขอด้านขวาอีกครั้งแล้วดึงมันออก ครั้งนี้มู่จวินฮานมิเหลือแรงจะร้องอีก จากนั้นตัวเขาก็หล่นลงกระแทกพื้นโดยแรง

เดิมทีตัวมู่จวินฮานถูกแขวนไว้ด้านบนโดยอาศัยตะขอสองอันนี้ เมื่อไม่มีตะขออยู่แล้วตัวเขาก็หล่นลงมานอนกองกับพื้นพร้อมเลือดที่ไหลอาบทันที ส่วนร่างของเขาก็ยังสั่นสะท้านจนมิอาจควบคุมได้

เมื่ออันหลิงเกอเห็นฉากนี้ก็มิสามารถทนเห็นมู่จวินฮานถูกทำร้ายอีกต่อไป แต่ชิงเฟิงจับตัวนางไว้ตลอดทำให้ไม่อาจเคลื่อนไหวไปไหนได้ น้ำตาของอันหลิงเกอไหลออกมามิหยุด แต่บุรุษทั้งสองคนในคุกใต้ดินมิรู้สึกถึงมันเลย

เวลานี้ฟางหลิงซู่ใช้เชือกยกตัวมู่จวินฮานขึ้นอีกครั้งโดยที่แขนทั้งสองข้างถูกดึงขึ้นด้านบน ทำให้บาดแผลฉีกขาดกว่าเดิม ทว่าคราวนี้มู่จวินฮานทำราวกับมิรู้สึกอันใดเพราะปล่อยตัวให้ถูกแขวนตามใจอีกฝ่าย

“อ๋องมู่ เหตุใดเจ้ามีสภาพเยี่ยงนี้ได้ ทั้งอับจนหนทางและสกปรก ถ้าอย่างไรข้าช่วยทำความสะอาดให้เจ้าดีหรือไม่ ? ”

ขณะมองท่าทางทรมานของมู่จวินฮาน ฟางหลิงซู่ก็รู้สึกมีความสุขยิ่งนัก ตัวเขาได้เดินมาหยุดอยู่ที่โต๊ะด้านข้างแล้วหยิบไหสุราขึ้นมา

แม้มู่จวินฮานรู้ว่าอีกฝ่ายต้องการทำสิ่งใด แต่ไม่มีแรงที่จะดิ้นรนอีกแล้ว ส่วนอันหลิงเกอและชิงเฟิงที่มองการกระทำของฟางหลิงซู่อยู่ด้านบนก็อดตัวสั่นมิได้เพราะคาดมิถึงว่าฟางหลิงซู่จะโหดเหี้ยมเพียงนี้

ทุกคนต่างรู้เรื่องที่ฟางหลิงซู่สังหารอดีตประมุขเผ่าและรัชทายาท แต่สังหารอย่างไรนั้นมีน้อยคนที่รู้ การที่ฟางหลิงซู่โดนกดขี่มาเป็นเวลานานจึงทำให้นิสัยของเขาโหดเหี้ยมเช่นเดียวกับอดีตประมุขเผ่าปิงชวน

แค่เขามิอยากยอมรับเท่านั้น เมื่อเผชิญกับความเจ็บปวดที่ต้องสูญเสียทุกคนไป ท้ายที่สุดจิตใจของฟางหลิงซู่ก็ปลดปล่อยด้านมืดออกมาและเผยให้ทุกคนเห็นโดยไร้การปิดบัง

จากนั้นฟางหลิงซู่ก็เปิดปากไหสุราออก หลังดมกลิ่นหอมของสุราแล้วก็เทสุราทั้งหมดลงบนบาดแผลของมู่จวินฮาน

เมื่อสุราสัมผัสกับบาดแผลแล้วความปวดแสบถึงกระดูกก็ผุดขึ้นมา มู่จวินฮานรู้สึกเหมือนกำลังถูกไฟเผาก็มิปาน

ส่วนฟางหลิงซู่ก็มองมู่จวินฮานทรมานอยู่เยี่ยงนั้น ทั้งยังใช้กระบี่ในมือแทงไปที่บาดแผลอีกด้วย ทางฝั่งมู่จวินฮานก็แทบหมดสติ แต่ฟางหลิงซู่จะยอมให้เป็นเช่นนั้นได้หรือ

ในขณะที่มู่จวินฮานกำลังจะหมดสติ ฟางหลิงซู่ก็หยิบแมงป่องมาวางไว้บนตัวทำให้มู่จวินฮานเจ็บปวดกว่าเดิมจนแทบฝืนทนมิไว้

จากนั้นฟางหลิงซู่ก็หยิบตะขอบนพื้นขึ้นมาอีกครั้ง ราวกับตะขออันนั้นได้เปล่งแสงมืดมนออกมาทำให้มู่จวินฮานอดตัวสั่นมิได้

“อ๋องมู่ ในเมื่อเจ้าตกอยู่ในมือข้าแล้ว ข้าก็ต้องต้อนรับเจ้าให้ดีหน่อย” หลังกล่าวจบ ฟางหลิงซู่ก็นำตะขออันนั้นมาไว้ตรงหน้ามู่จวินฮานพร้อมแกว่งมันไปมา จากนั้นก็ยกมันขึ้น

ท่าทางของฟางหลิงซู่ทำให้อันหลิงเกอรู้ว่าหากวันนี้เขาไม่ทรมานมู่จวินฮานจนตายก็ไม่มีทางหยุดมืออย่างแน่นอน

เมื่อคิดได้เยี่ยงนั้น อันหลิงเกอจึงทนมิไหวอีกต่อไป นางไม่อาจทนเห็นตะขอแสนหนาวเหน็บอันนั้นเข้าไปในร่างมู่จวินฮานได้อีกแล้ว !

หน้าต่างคุกใต้ดินถูกชิงเฟิงเปิดออก ส่วนอันหลิงเกอก็พลิกตัวเข้าไปในคุกได้ทันที

ทำให้ตะขอให้มือของฟางหลิงซู่ที่เข้าใกล้มู่จวินฮานโดนอันหลิงเกอกระโดดขวาง แม้รู้ดีว่ามิอาจหยุดมันไว้ได้ทัน

แต่นางก็ลงมาขวางหน้ามู่จวินฮานทั้งอย่างนั้น ทำให้ตะขอเจาะเข้าในเนื้อของนาง และอึดใจนั้นมู่จวินฮาน ฟางหลิงซู่และชิงเฟิงล้วนตกตะลึง

ฟางหลิงซู่ยังมิทันได้สติ อันหลิงเกอก็ใช้มือดึงตะขออันนั้นออกจากไหล่แล้วก็ไม่มองไปยังฟางหลิงซู่แม้แต่น้อย นางหันมาตัดเชือกให้มู่จวินฮานแทน

การกระทำที่แสนกะทันหันเยี่ยงนี้ทำให้ฟางหลิงซู่ลืมห้ามนางและได้แต่มองนางอยู่เช่นนั้น ส่วนไหล่ของอันหลิงเกอมีเลือดไหลออกมามิหยุดและสีหน้าของนางก็ซีดกว่าเดิมเพราะบาดแผลเมื่อหลายวันก่อนยังมิฟื้นตัวดี

มู่จวินฮานก็เผยสีหน้าเป็นห่วงออกมา แต่ตอนนี้ตัวเขาก็ไม่เหลือแรงจะเอ่ยอีกแล้วจึงได้แต่ปล่อยให้อันหลิงเกอช่วยเหลือ อันหลิงเกอมิได้รีบพาเขาออกไปเพราะสิ่งที่นางต้องทำคือการถ่วงเวลาให้ชิงเฟิงเตรียมตัวให้พร้อมเสียก่อน

“ฟางหลิงซู่ เมื่อก่อนข้ามองเจ้าผิดไปจริง ๆ ” อันหลิงเกอมิได้สนใจบาดแผลบนไหล่ แต่หันไปมองฟางหลิงซู่ด้วยดวงตาที่เต็มไปด้วยน้ำใส คำพูดของนางทำให้ฟางหลิงซู่ได้แต่ยืนตกตะลึงอยู่ตรงนั้น

ฟางหลิงซู่คาดมิถึงว่าจะได้เจออันหลิงเกอในสถานการณ์เช่นนี้และคาดมิถึงว่านางจะมาเห็นทุกอย่างที่เขาทำกับมู่จวินฮาน

ในเวลานี้น้ำตาของนางเป็นเหมือนคำกล่าวโทษ ทำให้ฟางหลิงซู่รู้สึกปวดใจทันที

ทว่าการบุกเข้ามาทางหน้าต่างของอันหลิงเกอเมื่อครู่ได้ไปกระตุ้นพวกทหารองครักษ์ ตอนนี้นอกคุกใต้ดินจึงถูกล้อมไว้ทั้งหมดและชิงเฟิงที่ซุ่มอยู่ข้างนอกก็อดเหงื่อตกมิได้

อันหลิงเกอก็ทราบสถานการณ์ในขณะนี้แล้ว

ขณะมองรอบทิศทางที่เต็มไปด้วยทหารยามและองครักษ์ นางก็รู้ว่าวันนี้ไม่มีทางพามู่จวินฮานออกไปได้แน่นอน อันหลิงเกอจึงเงยหน้ามองฟางหลิงซู่ เดิมทีนางหลงเข้าใจผิดว่ารู้จักเขาดีแต่มันมิใช่เช่นนั้นเลย ในสถานการณ์เช่นนี้นางได้ตัดสินใจอย่างกล้าหาญและเด็ดขาดแล้ว

“ฟางหลิงซู่ ข้าจักอยู่ที่นี่ แต่เจ้าต้องปล่อยเขาไป” เสียงของอันหลิงเกอดังก้องไปทั่วคุกใต้ดิน ทำให้ชิงเฟิง มู่จวินฮานและฟางหลิงซู่ได้ยินอย่างชัดเจน