novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

พลิกชะตาชายาสยบแค้น - ตอนที่ 746 ตื่นจากฝัน

  1. Home
  2. พลิกชะตาชายาสยบแค้น
  3. ตอนที่ 746 ตื่นจากฝัน
Prev
Next

ตอนที่ 746 ตื่นจากฝัน

พอนึกถึงเรื่องเหล่านั้นอันหลิงเกอก็รู้สึกราวกับฝันไปเพราะมิอาจย้อนเป็นเหมือนเดิมได้อีก สำหรับอันหลิงเกอแล้ว การมีความรักของมู่จวินฮานและมิตรภาพของฟางหลิงซู่ถือเป็นสิ่งมีค่าที่สุด

แต่ตอนนี้นางไม่เหลืออันใดแล้ว

อันหลิงเกอรอฟางหลิงซู่อยู่ในห้องด้วยท่าทีเหม่อลอยเพราะรู้ว่าต่อไปสิ่งใดจะเกิดขึ้นกับตน พอฟางหลิงซู่มาถึงแล้ว ร่างกายที่นางเก็บไว้ให้มู่จวินฮานเพียงคนเดียวก็จะตายไปพร้อมกับความรู้สึก

มิรู้ว่าเพราะเหตุใดวันนี้อารมณ์ของอันหลิงเกอถึงได้อ่อนไหวมากเหลือเกิน

นางครุ่นคิดเรื่องราวในอดีตตลอดเวลา คิดถึงมู่จวินฮานและฟางหลิงซู่ในอดีตด้วย

หากมิได้ผ่านเรื่องราวมากมายเยี่ยงนี้ บางทีเมืองจิงก็อาจเป็นสถานที่ดีสุด แต่ในค่ำคืนนั้นอิสรภาพของนางหายไปและมู่จวินฮานก็บาดเจ็บสาหัส แผ่นดินของนางก็เกือบไม่มีอยู่อีกต่อไป

สิ่งสำคัญคือวันนั้นนางได้รู้ความจริงทั้งหมด รู้ถึงใบหน้าที่แท้จริงของฟางหลิงซู่และความในใจของมู่จวินฮาน ทุกสิ่งที่ได้รับรู้ทำให้นางต้องเจ็บปวดอยู่เช่นนี้

หากเป็นไปได้นางเลือกที่จะไม่รู้อันใดเลยยังดีเสียกว่า นางอยากปล่อยให้ตนซาบซึ้งใจต่อฟางหลิงซู่และกลายเป็นคนแปลกหน้าสำหรับมู่จวินฮานไปเรื่อย ๆ

อย่างน้อยจุดจบคงมิต้องเจ็บปวดมากเพียงนี้เพราะตอนนี้นางเจ็บราวกับหัวใจถูกมีดเฉือน

แม้อันหลิงเกอมิต้องการสูญเสียพวกเขาไปแต่ก็ทำอันใดมิได้ ท้ายที่สุดนางก็สูญเสียทุกอย่างไปแล้ว อีกทั้งตอนนี้ถูกบังคับให้เป็นพระชายาหัวเผ่าปิงชวนและตัดเยื่อใยกับมู่จวินฮานด้วย

ในขณะที่อันหลิงเกอกำลังจมอยู่กับความคิด ฟางหลิงซู่ก็เดินเข้ามาในห้องแล้ว

เมื่ออันหลิงเกอเงยหน้าขึ้นก็เห็นฟางหลิงซู่สวมชุดสีเหลืองทอง ทันใดนั้นนางก็มีคำพูดนับหมื่นนับพันอยากเอ่ยกับเขา

ฟางหลิงซู่ก็สังเกตเห็นท่าทางของอันหลิงเกอจึงรู้ว่านางมีบางอย่างอยากจะเอ่ย

วันนี้เขานำสุราชั้นดีมาด้วย พอเห็นท่าทีของอันหลิงเกอแล้ว เขาก็ยกสุราขึ้นมาวางบนโต๊ะ

จากนั้นทั้งคู่ก็นั่งดื่มสุราด้วยกัน ทำให้รู้สึกเหมือนได้ย้อนไปในอดีตอีกครั้ง มันทั้งสงบ และเป็นกันเองเสียเหลือเกิน

เวลาผ่านไป ไม่มีใครเอ่ยสิ่งใดออกมาเพราะมัวแต่ดื่มกันอยู่เช่นนั้น อันหลิงเกอมิรู้ตัวว่าดื่มเข้าไปเท่าไรแล้ว ตอนนี้จึงอยากพูดสิ่งที่อยู่ในใจออกมา

ส่วนฟางหลิงซู่ก็มองออกว่าตอนนี้นางเริ่มเมาแล้ว แต่เขาเป็นคนคอแข็งจึงยังมีสติครบถ้วน

“ฟางหลิงซู่ หากเรายังเป็นเหมือนอดีตก็คงดี” ขณะที่พูดน้ำตาของอันหลิงเกอค่อย ๆ ไหลอาบแก้ม น้ำเสียงของนางก็แสนอ้างว้างและฟางหลิงซู่ก็รับฟังทุกคำ

เมื่อฟางหลิงซู่ได้ยินก็ตกตะลึงทันที นางมิได้เรียกชื่อและมิได้ทำตัวสนิทสนมกับเขามานานเท่าไรแล้ว

เขาจึงเงยหน้ามองอันหลิงเกอ ตอนนี้ดวงตาทั้งสองข้างของนางกำลังจะปิด เห็นได้ชัดว่าเมามากแล้ว

“ตอนนั้นข้าอยากยกหัวใจให้เจ้าจริง ๆ เหตุใดข้าต้องรู้เรื่องทั้งหมดนี้ ! ” ทันใดนั้นอันหลิงเกอก็ร้องไห้หนักกว่าเดิม หารู้ไม่ว่าน้ำตาทุกหยดของนางเหมือนน้ำกรดที่รินรดลงกลางใจของฟางหลิงซู่

พอฟางหลิงซู่ได้ยินนางกล่าวเช่นนี้ก็สติหลุดทันที เมื่อครู่นางบอกว่าจะยกใจให้เขาแล้วหรือ ? แต่เพราะกลอุบายของประมุขเผ่าคนก่อน นางจึงรู้ความจริงทุกอย่าง

ฟางหลิงซู่ทำใจมิได้จึงยกสุราขึ้นดื่มจอกแล้วจอกเล่า ตอนนี้อันหลิงเกอเมาเป็นที่เรียบร้อยแล้วจึงมิได้ดื่มต่อ แต่นางก็ยังพูดกับเขามิหยุด

“ฟางหลิงซู่ จวินฮาน มู่จวินฮาน ฟางหลิงซู่” เหมือนนางจะแยกคนตรงหน้ามิออกแต่คงกำลังคิดถึงพวกเขาอยู่

เนื่องจากบุรุษทั้งสองพัวพันอยู่ในชีวิตนาง ทำให้นางต้องเจ็บปวดจนแทบหายใจมิออก แม้จะเมาแล้วก็ยังสามารถพูดต่อได้

“ตอนนั้นบุตรของข้าต้องตายเพราะเจ้า” อันหลิงเกอเริ่มมิรู้ตัวแล้วว่ากล่าวสิ่งใดออกมา นางแค่นึกสิ่งใดได้ก็กล่าวออกมาทันที

ส่วนฟางหลิงซู่ได้แต่นั่งฟังเรื่องราวที่ทำให้นางต้องเจ็บปวดอยู่เงียบ ๆ ราวกับรับรู้ถึงความเจ็บปวดของนางได้

แต่ฟางหลิงซู่ทำอันใดมิได้ เขาทำได้เพียงช่วยเช็ดน้ำตาให้และดึงตัวนางเข้ามากอด ตอนนี้อันหลิงเกอเมามากจึงเอนตัวเข้าในอ้อมกอดของฟางหลิงซู่ตามแรงดึงของอีกฝ่าย

แท้จริงแล้วตอนที่ฟางหลิงซู่ถือสุราเข้ามา อันหลิงเกอก็รู้สึกว่าถึงเวลาได้ปลดปล่อยความในใจเพราะอย่างน้อยนางก็มิต้องเผชิญกับทุกอย่างด้วยสติ

อันหลิงเกอเพิ่งรู้ว่าสุราเป็นของดีอย่างหนึ่งเพราะตอนนี้นางรู้สึกมึนไปหมด แม้แต่ร่างกายก็ขยับมิได้

ฟางหลิงซู่เห็นว่านางเมาแล้วจึงอุ้มนางไปที่เตียงและจัดท่าให้นอนราบ

ตอนนี้อันหลิงเกอสูญเสียความสามารถในการต่อต้านไปหมดสิ้นจึงได้แต่ปล่อยให้เขาทำตามใจชอบ

ทว่าพอลมหนาวพัดเข้ามาอันหลิงเกอก็ดูเหมือนจะมีสติเล็กน้อย ตอนนี้นางอยากเอื้อมมือไปหยุดแต่ถูกฟางหลิงซู่กดร่างเอาไว้

และการกระทำของฟางหลิงซู่ทำให้อันหลิงเกอเริ่มมีสติมากขึ้นจนรับรู้ถึงการกระทำทั้งหมดได้ ทันใดนั้นน้ำตาของนางไหลก็ออกมาและมิว่าจะทำอย่างไรก็ไม่หยุดไหล

ส่วนฟางหลิงซู่พอเห็นน้ำตาของอันหลิงเกอก็ยังมิหยุดการกระทำเพราะรู้ว่าหากวันนี้ตัดใจทำมิลง ต่อไปก็คงหมดโอกาสได้ครอบครองนางอีก เขาจึงลงมือโดยมิลังเล

แม้ฟางหลิงซู่ยังคงอ่อนโยน แต่อันหลิงเกอรู้สึกรังเกียจเขายิ่งนัก

นางมิอยากมีสัมพันธ์กับเขา นอกจากมู่จวินฮานแล้ว นางก็มิอยากมีอะไรกับบุรุษอื่นอีกเลย

ทำให้ตอนนี้อันหลิงเกอขัดขืนอย่างสุดกำลัง จากนั้นนางก็คิดถึงใบหน้าของมู่จวินฮานและความเจ็บปวดที่ต้องจากลากับเขา

ขณะที่นางกำลังขัดขืนอยู่นั้นก็นึกถึงภาพที่มู่จวินฮานต้องดิ้นรนเพราะความเจ็บปวดจากยาพิษ

เมื่อนึกถึงตรงนี้อันหลิงเกอก็หยุดขัดขืนเพราะสิ่งที่นางต้องทำเพื่อเขาคงมีแค่สิ่งนี้กระมัง

ฟางหลิงซู่เห็นอันหลิงเกอหยุดขัดขืนแล้ว ฝ่ามือเขาก็เริ่มเคลื่อนไหวไปเรื่อย ๆ

ตอนนี้บนร่างของอันหลิงเกอเหลือเพียงเสื้อผ้าชิ้นบาง แต่น้ำตาของนางก็ยังไหลออกมามิหยุด

แม้ฟางหลิงซู่มิต้องการทำร้ายนาง แต่เขาไม่สามารถทนต่อความปรารถนาในกายได้และดูเหมือนความคิดของหลิงเกอจะล่องลอยออกไป นางมิได้มองฟางหลิงซู่ที่อยู่บนร่างและเพิกเฉยต่อการกระทำของเขา

ทันใดนั้นนางก็นึกถึงวันที่ได้พบกับหลู่เยว่เยว่ พลันนึกได้ว่าดวงตาคู่นั้นช่างเหมือนกับดวงตาของนางไม่มีผิด !

แท้จริงการที่นางรู้สึกคุ้นเคยกับหลู่เยว่เยว่ก็เพราะอีกฝ่ายมีดวงตาเหมือนตนนี่เอง

หากเป็นเช่นนี้ เหตุใดมู่จวินฮานจึงยอมอยู่กับหลู่เยว่เยว่ ? หรือว่าในใจของเขายังมีนางซ่อนอยู่ ?

อันหลิงเกอมิรู้ว่าเพราะเหตุใดหรอก ทว่าตอนนี้หัวใจของนางกำลังสับสนยิ่งนัก หากฟางหลิงซู่ต้องการนางแล้วหาคนที่หน้าตาเหมือนนางมาเล่า !

พอคิดได้เยี่ยงนี้อันหลิงเกอก็เริ่มดิ้นจนสุดแรง ฟางหลิงซู่ที่อยู่ด้านบนมิคิดว่านางจะขัดขืนอย่างกะทันหันเช่นนี้จึงแทบกดนางเอาไว้มิอยู่