Apocalypse Meltdown โลกาวินาศล่มสลาย - ตอนที่ 61 ใครเป็นคนยิง?
การตะโกนออกมาของจีชิงหลิวทำให้ทุกคนตกใจพลางมองไปตามทางที่เธอชี้
G55ของเบนซ์รุ่นG เป็นรถออฟโรดพันธุ์ลุยที่ดูสง่างามมากมันทั้งสูงใหญ่และแข็งแรง หลังจากทำความสะอาดเรียบร้อย ตัวรถเต็มไปด้วยรอยขีดข่วนหากแต่ไม่มีร่องรอยลึกอะไร พิสูจน์ให้เห็นถึงความแข็งแกร่งของตัวรถ คงมีเพียงแต่พระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่ามันชนซอมบี้มาทั้งหมดกี่ตัวแล้ว และไม่สามารถปฏิเสธความจริงได้เลยว่ามันเป็นรถที่สามารถพาเจ้าของบุกน้ำลุยไฟไปได้ทุกที่ ป้ายทะเบียนที่หายไปใต้กันชนมีเลข 888 อยู่จริงๆ
จีชิงหลิวพูดถูก รถคันนี้เป็นของเธอ เป็นต้วนหมิงที่สั่งใหคนแอบลักลอบรถนี่เข้ามาและส่งมาให้เธอเป็นของขวัญ เธอพังสร้อยข้อมือ Pandora (แบรนด์เครื่องประดับยี่ห้อ แพนโดร่า) ที่ชูฮันเก็บเงินเป็นปีเพื่อซื้อให้เธอทิ้งทันทีที่เธอได้รับรถนี่เป็นของขวัญ
โจวซือหลีหยุดทำความสะอาดรถ พลางมองที่คนเหล่านั้นอย่างตื่นตระหนก คนพวกนั้นจะเอาของของเขาไป รถคันนี้เป็นของเขาและเขาจะไม่ยอมให้ใครหน้าไหนเอาไปทั้งนั้น ถึงแม้เขาจะไม่มียศตำแหน่ง ผู้หญิงหรืออาหารก็ตาม!
“มันเป็นของฉัน! รถคันนั้นเป็นของฉัน!” จีชิงหลิวตะโกนออกมาราวกับคนบ้าพร้อมวิ่งเข้าไปเผชิญหน้ากับโจวซือหลี เธอดูเนื้อตัวสกปรกมอมแมม ความสง่างามก่อนหน้านี้ของเธอหายไปหมดสิ้นเหลือแต่เพียงผู้หญิงบ้าคนหนึ่ง
“รถคันนั้นอยู่ที่นี่จริงๆด้วย! ไอ้หัวขโมย!” ต้วนหมิงเองก็วิ่งเข้าไปเช่นกัน เขาใช้เงินไปตั้งเยอะเพื่อซื้อมันมาให้จีชิงหลิวมีความสุข ตัวรถมีการใช้ที่เป็นประโยชน์มากมาย มีประสิทธิภาพ และสำหรับช่วงเวลาแบบนี้มันเหมาะที่จะใช้งานมากกว่าเฟอรารี่ 458 และตัวเขาคงจะไม่ต้องลำบากมากขนาดนี้ถ้ารถไม่ถูกขโมยไป
การระเบิดอารมณ์บ้าคลั่งของต้วนหมิงและจีชิงหลิวทำให้ทุกคนมึนงง มันเป็นเวลากว่า1เดือนแล้วตั้งแต่โลกาวินาศได้เริ่มขึ้น ความคิดเกี่ยวกับการขโมยและปล้นของกลายเป็นเรื่องปกติสำหรับทุกคนไปแล้ว
รถ อาหาร หรือที่อยู่ เป็นไปตามหลักการ “มาก่อนได้ก่อน”
ทุกอย่างกลับไปเริ่มต้นที่ศูนย์ มันเป็นการเริ่มต้นใหม่ทั้งหมด
“ฉันจะฆ่าแก! ฉันจะฆ่าแก!” จีชิงหลิวพุ่งเข้าไป กัดฟันเผยให้เห็นฟันสีเหลืองอ๋อยของเธอ แขนบางๆที่ดูน่ากลัวกว่าซอมบี้จับเข้าที่ลำคอของโจวซือหลี “ไอ้คนจน! กล้าดียังไงมาขโมยรถฉัน! คนอย่างแกไม่มีปัญญาซื้อมันเองหรอกเพราะฉะนั้นแกต้องขโมยของฉันมาแน่ๆ!”
คนจน? ไม่มีปัญญาซื้อ?!
สองคำนี้เป็นคำต้องห้ามสำหรับโจวซือหลี
“ไปตายซะอีเวร!” โจวซือหลีกลายเป็นคุ้มคลั่ง เขาจิกผมเธอกระชากลงไปเบียดกับพื้น หน้าของจีชิงหลิวโดยเฉพาะจมูกของเธอมีเลือดไหลออกมาเต็มไปหมด หน้าของเธอเต็มไปด้วยเลือดและฝุ่นเละเทะ จากนั้นโจวซือหลีก็เตะเข้าที่ลำตัวของจีชิงหลิวอีก “มึงบอกว่ากูเป็นคนจนงั้นเหรอ? มึงมันรวยแต่เลวชิบหาย อีเวร! ไปตายซะ!”
“คืนรถฉันมา!” ในตอนนั้นเอง ต้วนหมิงก็วิ่งเข้ามาถึงขณะที่ความโกรธเข้าครอบงำจนเขาลืมตัว สิ่งที่เขาเคยภาคภูมิใจหายไปหมดเพราะโลกาวินาศ และเขาก็กำลังมีช่วงเวลาที่ยากลำบากกับการทำให้ตัวเองมีอาหารกิน เขาไม่สามารถทนต่อไปได้อีก กับการที่รถที่เหมาะสมสำหรับการหลบหนีของเขาได้ถูกคนอื่นขโมยไป!
“ไอ้เ*ย!” โจวซือหลีคุ้มคลั่งอย่างหนัก เขาจับเข้าที่ลำคอของต้วนหมิง “มึงคิดว่ากูจะไม่กล้ายิงมึงจริงเหรอไง? รถคันนี้เป็นของกู! ของกู!”
ปัง——
ทันใดนั้น ก็มีเสียงยิงปืนดังขึ้นมา
ทั้ง3คนที่กำลังอารมณ์คุ้มคลั่งต่างหยุดสิ่งที่กำลังทำกันอยู่ทันที ต้วนหมิงนั้นกลัวมาก ขณะที่จีชิงหลิวยังคงนอนอยู่กับพื้นหลังจากถูกทุบตีอย่างแรง
โจวซือหลีมองไปที่เฉินเจอฮ่าวที่เป็นคนยิงปืนออกมาอย่างเย็นชา เขาเองก็เคยมีปืนแต่มันหายไประหว่างหลบหนีซอมบี้ ส*เอ๊ย! เ*ย!
“ที่นี้ห้ามมีการต่อสู้ใดๆทั้งนั้น!” เฉินเจอฮ่าวโกรธมาก
เขายิงปืนฟ้าไปอีกนัด จงใจเอาตัวเก็บเสียงออกเพราะอยากจะทำให้พวกนั้นตกใจกับเสียงปืน การกระทำของเขาดูคุ้นเคยราวกับเป็นเรื่องปกติ
ติงเซวนิ่วหน้าพลางมองไปที่ฐานทัพที่ดูเงียบสงบ มันเป็นเขตย่านที่พักอาศัยที่มีลักษณะคล้ายกับเมื่อก่อนโลกาวินาศ มีสวนสาธารณะที่ดูเหมือนจะเต็มไปด้วยทุ่งหญ้าต้นไม้สีเขียวขจี และผู้คนที่ดูเหมือนจะสูญเสียความเป็นมนุษย์
ทันใดนั้น ก็มีคนๆหนึ่งแวบขึ้นมาในความคิดเธอ ชายคนหนึ่งที่บอกให้เธอกักตุนอาหารไว้ก่อนที่โลกาวินาศจะปะทุ เธอไม่รู้อะไรเกี่ยวกับเขาเลยรวมไปถึงที่ตั้งปัจจุบันของเขา
“วันนี้พวกคุณสามคนจะโดนงดอาหารเย็น!” เฉินเจอฮ่าวออกคำสั่ง ชี้ไปทางG55 และพูดกับคนของตัวเองว่า “ยึดไอ้นี่ไป เอามันเข้าไปข้างใน!”
“แกจะมาขโมยของฉันไปไม่ได้ นี่มันของฉัน! ของฉัน!” โจวซือหลีต่อต้าน
“ตอแหล! มันเป็นของฉันต่างหาก! ฉันเป็นคนซื้อมันมา!” ต้วนหมิงตะโกนออกมาอย่างดัง จากนั้นก็หันไปพูดกับเฉินเจอฮ่าวและคนของเขา “ฉันได้ยินมาว่าสถานที่แห่งนี้ปกครองโดยใช้กฎเกณฑ์ทางทหาร เพราะฉะนั้นฉันเลยคิดว่าพวกคุณจะมีเหตุผล อยู่ดีๆพวกคุณจะเอามาของๆฉันไปได้ยังไง? รถคันนั่นมันเป็นของฉัน นักศึกษาทั้งมหาวิทยาลัยหมิงชิวรู้กันหมด!”
“ใช่! ถามพวกเขาได้เลย” ต้วนหมิงมองไปทางที่มีนักศึกษานับสิบๆคนยืนอยู่ “พวกแกพูดอะไรบ้างสิ! นี่เป็นรถฉันใช่มั้ย? ติงเซว? ผู้ตรวจสอบชั้นเรียน? พูดอะไรหน่อย!”
ติงเซวที่ถูกถาม จู่ๆก็นึกถึงชูฮันขึ้นมา เธอเห็นสายตาที่เฉินเจอฮ่าวมองมาที่เธอด้วยสายตาสงสัย จากนั้นเธอก็มองไปที่G55 ตาของเธอจดจ้องอยู่กับป้ายทะเบียนรถที่คุ้นเคยและพยักหน้า “นี่เป็นรถของต้วนหมิงและจีชิงหลิว แต่ว่ามันควรจะอยู่ในตึกจอดรถของมหาวิทยาลัยหมิงชิว ทำไมมันถึงมาอยู่ที่นี่ได้?”
“มันง่ายมาก!” จีชิงหลิวที่ได้สติกลับมาพูดขึ้นพร้อมกับจ้องไปที่โจวซือหลีอย่างเคียดแค้น “มันขโมยรถฉันไปและขับมาที่นี่ยังไงล่ะ”
“ไม่ใช่” ติงเซวไม่เห็นด้วยกับความคิดของจีชิวหลิว พลางมองไปที่โจวซือหลีด้วยสายตานิ่งๆ “สำเนียงของเขาเหมือนคนพื้นเมืองของเมืองตง ฉันเกิดที่เมืองนั่น ฉันจำสำเนียงแบบนี้ได้ชัด”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า! แกได้ยินนั่นมั้ย?” โจวซือหลีหัวเราะออกมาอย่างดัง “รถคันนี้เป็นของฉัน ไม่ใช่ของแก แกจะเอามันไปจากฉันไม่ได้”
มุมปากของติงเซวยกขึ้นยิ้มอย่างแปลกๆพร้อมกับมองไปที่โจวซือหลีตรงๆ “เห็นได้ชัดว่าเป็นป้ายทะเบียนของหมิงชิว และรถคันนี้เป็นของต้วนหมิงและจีชิงหลิว แต่รถคันนี้ถูกคนอื่นขโมยมาและคุณก็ไปขโมยมาจากคนๆนั้นใช่มั้ย?”
ทันใดนั้น ติงเซวก็เข้าใจทุกอย่างชัดแจ้ง รถที่จอดอยู่ในตึกจอดรถของมหาวิทยาลัยหมิงชิวถูกขับมาที่เมืองตง แสดงว่าคนที่ขโมยมันมาน่าจะเป็นชูฮันที่หายไป
หัวใจของติงเซวเต้นอย่างแรง จากบทสนทนาของพวกเขาเมื่อราว1เดือนที่แล้ว ชูฮันเหมือนจะรู้อะไรบางอย่าง แล้วตอนนี้เขาอยู่ไหนกัน ถ้าเขาเป็นคนนั้นจริงๆ?
“มันไม่สำคัญว่าใครเป็นเจ้าของรถคันนี้ ยังไงมันก็จะโดนยึด” เฉินเจอฮ่าวขัดบทสนทนาระหว่างคนพวกนี้ขึ้นมาขณะเหล่ตามองไปที่ติงเซว ผู้หญิงฉลาดคนนี้ไม่ควรจะได้รับอนุญาตให้อยู่ที่นี่ เพราะเขาต้องได้รถคันนั้น เขาต้องขโมยมันมาให้ได้!
“ไม่มีทาง!”
“ไอ้ทุเรศ แกจะขโมยรถ!”
“เอามันคืนฉันมา!”
โจวซือหลี จีชิงหลิว และต้วนหมิงต่างตะโกนใส่เฉินเจอฮ่าว ผิวขาวซีดของพวกเขาดูเหมือนกับซอมบี้
ปัง——-
มีเสียงปืนดังขึ้นอีกครั้ง
“ฉันจะฆ่าพวกแกถ้ายังตะโกนกันอีก” เฉินเจอฮ่าวตะโกนอย่างดัง
“ใครยิงปืน?” ทันใดนั้น น้ำเสียงที่ดูมั่นคงและโกรธก็ดังมาจากที่ไกลๆ หากพวกเขารู้สึกได้ถึงอารมณ์โกรธที่พวยพุ่งออกมาจากน้ำเสียงที่ถึงแม้จะอยู่ห่างไกลออกไป