novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
lalikabet168
lalikabet66 คาสิโนสด boston777 แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล บาคาร่า แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ Empire777 huayhit168 สมัคร ufabet แทงบอล แทงหวยออนไลน์ เว็บหวยออนไลน์ สล็อตเว็บตรง kodpung88 แทงบาคาร่า PGK44 nexobet askmeslot สล็อตเว็บตรง แทงหวย24 เว็บคาสิโน คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ คาสิโน คาสิโนออนไลน์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 2241 คันฉ่องสมบัติท่องสวรรค์

  1. Home
  2. Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
  3. ตอนที่ 2241 คันฉ่องสมบัติท่องสวรรค์
Prev
Next

หลินสวินจ้องมองอ๋าวเจิ้นเทียนครู่หนึ่ง อดทอดถอนใจไม่ได้ “ตอนแรกเจ้าเตือนข้าให้รีบจากไป ด้วยเชื่อว่าต่อให้ข้าหลินสวินมา เผ่าเจินหลงของพวกเจ้าก็ไม่มีทางยอมให้ข้าพาจิ่งเซวียนและลูกของข้าจากไปใช่หรือไม่”

อ๋าวเจิ้นเทียนส่ายหัว “ข้าแค่ห่วงว่าเจ้าจะเกิดเรื่องไม่คาดฝัน ไม่ว่าเจ้าจะเชื่อหรือไม่ ข้า… แค่ไม่อยากเสียเพื่อนอย่างเจ้าไป”

หลินสวินสูดหายใจลึก กล่าวว่า “ข้าเข้าใจแล้ว”

เสียงราบเรียบจนไม่มีคลื่นความรู้สึกแม้แต่น้อย

แต่กลับทำให้อ๋าวเจิ้นเทียนใจสะท้าน “พี่หลิน เจ้าอย่าทำอะไรบุ่มบ่าม! แดนวังมังกรนี้น่ากลัวกว่าที่เจ้าคาดคิดไว้”

หลินสวินกล่าว “ข้าเข้าใจเจ้าและเคารพจุดยืนของเจ้า ด้วยพวกเราเป็นเพื่อนกัน แต่เรื่องนี้เจ้าก็ต้องพิจารณาถึงความรู้สึกของข้าด้วย!”

สีหน้าอ๋าวเจิ้นเทียนเปลี่ยนเป็นซีดเผือด อกสั่นขวัญหาย

“อิ๋นฮวน เจ้าจะอยู่กับเขาหรือไปกับข้า”

สายตาหลินสวินมองไปยังอิ๋นฮวน “เจ้าน่าจะรู้ว่าหากเผ่าเจินหลงพบเจ้าอีก ผลที่ตามมาเกรงว่าคงร้ายแรงกว่าครั้งก่อน”

อิ๋นฮวนนิ่งงันทันที

อ๋าวเจิ้นเทียนกลับโกรธจนตาแดงก่ำ “ครั้งนี้ต่อให้สละชีวิตของข้า ข้าก็ไม่ยอมให้อิ๋นฮวนลำบากอีกแม้แต่น้อย!”

“ดูสถานการณ์ตอนนี้ของเจ้า ยังเอาอะไรมารับรองทุกอย่างนี้ได้อีก”

หลินสวินกล่าว “หากไม่ได้ข้า หญิงที่เจ้ารักคนนี้คงตกเป็นของเล่นให้พวกสวะนั่นนานแล้ว!”

อิ๋นฮวนเอ่ยเสียงเบาด้วยความวิงวอน “พี่หลิน อย่าพูดอีกเลย ครั้งนี้ข้าจะอยู่กับเจิ้นเทียน ต่อให้ต้องตายก็จะอยู่ด้วยกัน”

เสียงเศร้านุ่มนวลเปี่ยมความจริงใจนั้นทำให้อ๋าวเจิ้นเทียนอึ้งงัน องค์ชายเจ็ดเผ่าเจินหลงที่น่าเกรงขาม เวลานี้กลับน้ำตาคลอเบ้า ควบคุมความรู้สึกไม่ได้

“ข้าจะพาพวกเจ้าไปจากเขาผนึกฟ้า จะจากเผ่าเจินหลงไปหรือเลือกอยู่ต่อ พวกเจ้าเลือกเองเถอะ”

หลินสวินพูดจบก็ถอนพลังต้องห้าม ในมือปรากฏธงกระบวนเล่มหนึ่ง สาดคลื่นผนึกต้องห้ามดั่งภาพฝันลวงตา ปกคลุมเงาร่างเขา อ๋าวเจิ้นเทียน รวมถึงอิ๋นฮวนไว้ภายใน จากนั้นจึงจากไปพร้อมกัน

นอกเขาผนึกฟ้า

“นำสิ่งนี้ไปด้วย มันสามารถบดบังกลิ่นอายบนตัวของพวกเจ้าได้ ย่อมไม่ถูกสังเกตเห็น” หลินสวินนำธงกระบวนที่ประทับพลังผนึกแน่นหนาออกมาอีกครั้ง มอบให้แก่อ๋าวเจิ้นเทียน

“พี่หลิน…”

อ๋าวเจิ้นเทียนเพิ่งหมายจะพูดอะไรก็ถูกหลินสวินตัดบท “หากเจ้าจะเตือนข้าก็อย่าพูดอีก หรือเจ้าจะขวางข้าดูก็ได้”

ยามเอ่ยวาจาดวงตาหลินสวินทอดมองไปไกล กวาดมองไปรอบทิศ กำลังจะจากไปแล้ว

อ๋าวเจิ้นเทียนกัดฟัน โยนม้วนหยกหนึ่งให้หลินสวิน “นี่คือแผนที่แดนวังมังกรของข้า อาณาเขตเล็กใหญ่บนนั้นข้าทำเครื่องหมายไว้หมดแล้ว หากเกิดเรื่องไม่คาดฝันขึ้นจริง…”

เขาพูดพลางหยิบป้ายหยกหนึ่งออกมาจากตัวแล้วโยนให้หลินสวิน “นี่คือป้ายคำสั่งของข้า สามารถเปิดผนึกเพื่อออกจากแดนวังมังกรนี้ได้”

“สิ่งที่ข้าทำได้ก็มีแค่เรื่องพวกนี้ หวังว่า… เจ้าจะพาน้องจิ่งเซวียนและหลานคนนั้นของข้าออกไปได้พร้อมกัน”

“อิ๋นฮวน พวกเราไปกันเถอะ”

พูดจบเขาก็พาอิ๋นฮวนมุ่งตรงไปที่ห่างไกล

หลินสวินมองม้วนหยกและป้ายคำสั่งในมือ ทั้งมองอ๋าวเจิ้นเทียนและอิ๋นฮวนที่เดินห่างไปอีกครั้ง ในใจรู้สึกผิดคาดอยู่บ้างเช่นกัน เขาสื่อจิตกล่าวทันที ‘ขอบคุณมาก’

อ๋าวเจิ้นเทียนไม่ได้หันกลับมา แต่อิ๋นฮวนหันกลับมายิ้มพลางโบกมือให้หลินสวิน

ฮู่ว…

หลินสวินถอนหายใจยาวแล้วเปิดม้วนหยกออก บนนั้นเขียนภาพภูมิประเทศของแดนวังมังกรไว้อย่างถี่ถ้วน สถานที่ต่างๆ มีเนื้อหาระบุไว้อย่างละเอียด

ยกตัวอย่างเช่น ใจกลางแดนวังมังกรมีชื่อว่า ‘วังมหามรรคหมื่นมังกร’ เป็นแกนกลางสำคัญของเผ่าเจินหลง ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน มีเพียงเครือญาติสายตรงของหัวหน้าเผ่าเจินหลงที่อาศัยอยู่ในนั้นได้

ใกล้วังมหามรรคหมื่นมังกรยังมีเทือกเขาทรงพลังที่คดเคี้ยวทอดยาวแถบหนึ่งรายรอบ เหมือนพญามังกรที่ขดตัว

นี่คือ ‘เขาบรรพชนมังกร’ เป็นแดนต้นกำเนิดของเผ่าเจินหลง มีเฒ่าดึกดำบรรพ์ควบคุมดูแลมานานปี โดยทั่วไปคนในเผ่าเจินหลงก็ไม่อาจเข้าใกล้

งานชุมนุมเซียนหมื่นมังกรเมื่อหลายสิบปีก่อนก็จัดขึ้นในพื้นที่ของ ‘บ่อมังกร’ แห่งเขาบรรพชนมังกร

ไม่นานหลินสวินก็สังเกตเห็นเส้นทางสี่สิบเก้าสายที่มุ่งสู่โลกภายนอก แต่ละเส้นทางล้วนถูกอ๋าวเจิ้นเทียนระบุไว้ชัดเจน

จ้องมองแผนที่ฉบับนี้อย่างถี่ถ้วนอยู่ครู่ใหญ่ หลินสวินเก็บม้วนหยกและป้ายหยกลงไปพร้อมกัน เริ่มออกเดินทางไปยังที่ห่างไกล

“ฮ่าๆๆ เผ่าเจินหลงจะอับโชคแล้ว!”

หลินสวินเพิ่งจากไป ในคุกที่มืดมิดแห่งหนึ่งในส่วนลึกเขาผนึกฟ้านั้น มีเสียงหัวเราะที่เต็มไปด้วยความบ้าคลั่งดังขึ้น

“ทั้งหมดนี้ล้วนเป็นผลกรรมของจักรพรรดิมังกรหมิงหลัวคนทรยศคนนี้ สวรรค์มีตา ในที่สุดก็จะเกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่แล้ว!”

เสียงนี้ดังกระหึ่ม เมื่อนักโทษที่ถูกขังในเขาผนึกฟ้านับไม่ถ้วนได้ยินเข้าก็แตกตื่นอย่างอดไม่ได้ทันที

“บังอาจ!”

“เด็กๆ ไปจัดการเฒ่าสวะเผ่าจักรพรรดิฉิวหนิวนั่นซะ!”

“รีบลงมือ!”

ไม่ทันไรก็มีผู้คุ้มกันที่เฝ้าเขาผนึกฟ้าแห่กันมาราวกับกระแสน้ำ มือถือแส้ยาวที่วาบแสงอสนี พุ่งเข้าไปในเขาผนึกฟ้า

แต่ไม่นานก็มีคนร้องอย่างตื่นตระหนก “แย่แล้ว องค์ชายเจ็ดหายไปแล้ว!”

“อะไรนะ”

ผู้คุ้มกันที่เฝ้าเขาผนึกฟ้าพวกนั้นหน้าเปลี่ยนสีทันที ลนลานไปหมด

องค์ชายเจ็ดถูกกักบริเวณอยู่ที่นี่ เป็นคำสั่งที่หัวหน้าเผ่าบัญชาลงมาด้วยตัวเอง ตอนนี้กลับหายตัวไป ผลที่ตามมานี้… ผู้คุ้มกันอย่างพวกเขาแบกรับไม่ไหวแน่

“เร็วเข้า รีบส่งข่าวไป บอกว่าเขาผนึกฟ้าเกิดเรื่องใหญ่แล้ว!”

มีคนตวาดเสียงดัง

ไม่นานตรงขอบฟ้าที่ห่างไกลมีเงาร่างกลุ่มหนึ่งเคลื่อนผ่านอากาศมา ผู้นำคือชายชราที่สวมชุดดำ ผมเผ้าหนวดเคราแผ่อานุภาพดุดันสีทองคนหนึ่ง ทั่วร่างแผ่กลิ่นอายร้ายกาจของระดับจักรพรรดิ

อ๋าวเทียนคุน สมญา ‘จักรพรรดิมังกรผลาญพิภพ’ บุคคลสำคัญที่มีปราณระดับจักรพรรดิขั้นห้าคนหนึ่ง

หลังจากรู้เรื่องในเขาผนึกฟ้า อ๋าวเทียนคุนสีหน้าขรึมลงทันที ขมวดคิ้วกล่าว “ใต้เท้าจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยล่ะ เกิดเรื่องใหญ่เช่นนี้ทำไมเขาถึงไม่อยู่ที่นี่”

ผู้คุ้มกันพวกนั้นมองหน้ากันเลิ่กลั่ก มีคนกล่าวว่า “ก่อนหน้านี้องค์ชายสี่พาคนมาที่นี่ ให้ใต้เท้าจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยรับรองด้วยตนเอง ข้าน้อยเห็นพวกเขาเดินเข้าไปในเขาผนึกฟ้าขอรับ”

“ไปหาสิ!” อ๋าวเทียนคุนออกคำสั่ง

ไม่นานจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยที่บาดเจ็บสาหัสและหมดสติถูกคนเจอตัว แต่สีหน้าทุกคนกลับเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก

ใครก็คิดไม่ถึงว่าในแดนวังมังกรนี้ ถึงกับมีคนกล้ากระทำการชั่วร้ายในเขาผนึกฟ้าด้วย!

ใบหน้าชราของอ๋าวเทียนคุนคล้ำเขียวขึ้นมา สะบัดมือตบจนจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยที่หมดสติไปตื่นขึ้น

“ว่ามา เกิดเรื่องอะไรขึ้น!? องค์ชายสี่และองค์ชายเจ็ดไปไหน” อ๋าวเทียนคุนตวาดลั่น แววตาเยียบเย็นจนน่ากลัว

ต่อให้เป็นระดับจักรพรรดิเหมือนกัน แต่ในสายตาของเขา จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยก็เป็นแค่ผู้ติดตามอาวุโสคนหนึ่งเท่านั้น ไม่คู่ควรให้เขาเลื่อมใส

ในใจจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยแม้จะรู้สึกอับอาย แต่ยังก้มหน้าข่มเพลิงโทสะในใจ เล่าเรื่องทุกอย่างที่เกิดขึ้นก่อนหน้านี้ออกมาจนหมด

“ถ้าเช่นนั้นเจ้าก็ถูกคนต่างถิ่นนั่นจู่โจมจนบาดเจ็บหรือ ข้าอยากรู้นักว่าคนต่างถิ่นนี่เป็นใครกันแน่!

อ๋าวเทียนคุนแววตาลุกโชน นำคันฉ่องสมบัติสีเขียวที่ส่องประกายแวววาวออกมาจากแขนเสื้อทันที

วู้ม!

เมื่อคันฉ่องสมบัติสีเขียวส่องประกาย บนคันฉ่องนั้นพลันปรากฏภาพมากมายทันที

ไม่นานอ๋าวเทียนคุนก็เห็นภาพต่างๆ ที่พวกอ๋าวเสวียนเฟิงพาหลินสวินมา จากทางเข้าถึงแดนวังมังกร ตลอดทางจนมาถึงเขาผนึกฟ้า

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยก้มหน้าตลอด แต่เขารู้ดีว่าคันฉ่องสมบัติสีเขียวนั้นมีนามว่า ‘คันฉ่องสมบัติท่องสวรรค์’ ในมือผู้ยิ่งใหญ่ของเผ่ามังกรแต่ละคนล้วนมีอยู่ชิ้นหนึ่ง สามารถเห็นภาพต่างๆ ที่เกิดขึ้นในแดนวังมังกรผ่านสมบัตินี้ได้

ยามสนทนากับหลินสวิน เขายังพูดถึงการมีอยู่ของสมบัตินี้กับหลินสวินโดยเฉพาะ

ขณะเดียวกันอ๋าวเทียนคุนก็เห็นภาพที่หลินสวินกับจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยเดินเข้าไปในถ้ำนั้นด้วยกัน

ไม่นานพวกอ๋าวเสวียนเฟิงก็เข้าไปในนั้น

แต่สุดท้ายกลับมีแค่หลินสวินคนเดียวที่เดินออกมาจากถ้ำ

เมื่อดูถึงตรงนี้ ใบหน้าชราของอ๋าวเทียนคุนเต็มไปด้วยความเยียบเย็น ในใจสัมผัสได้ถึงความไม่เข้าทีอย่างเด่นชัด พวกองค์ชายสี่… เกรงว่าคงถูกคนต่างถิ่นนั่นจับตัวไปแล้ว!

“ใครก็ได้ ไปดูโคมวิญญาณขององค์ชายสี่ว่ายังสว่างอยู่หรือไม่” เขาสั่งความพลางดูคันฉ่องต่อ

กระทั่งเห็นหลินสวินเดินไปยังที่ราบซึ่งองค์ชายเจ็ดอ๋าวเจิ้นเทียนอยู่ ภาพทุกอย่างล้วนหายไปทันที

“หืม?”

นัยน์ตาอ๋าวเทียนคุนพลันหดรัด คาดเดาความเป็นไปได้อย่างหนึ่ง คนต่างถิ่นนั่นวางกระบวนผนึก บดบังพลังของคันฉ่องสมบัติท่องสวรรค์ไว้!

กระทั่งผ่านไปครู่ใหญ่ อ๋าวเทียนคุนจึงเห็นที่ราบซึ่งเดิมใช้กักขังองค์ชายเจ็ดไว้อย่างชัดเจน แต่ที่นั่นกลับว่างเปล่าไม่มีอะไรเลย อย่าว่าแต่องค์ชายเจ็ด แม้แต่เงาร่างของคนต่างถิ่นนั่นก็ไม่อยู่แล้ว

“บัดซบ!”

นัยน์ตาของอ๋าวเทียนคุนปรากฏแสงน่าสะพรึง “เห็นได้ชัดว่าคนผู้นี้เตรียมการมาก่อน ไม่อย่างนั้นคงไม่มีทางหนีการตรวจสอบของคันฉ่องสมบัติท่องสวรรค์ได้แน่!”

“จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย เจ้ารู้ฐานะของคนผู้นี้ไหม” เขามองไปยังจักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ย

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยกล่าว “องค์ชายสี่พูดเพียงว่า โจรถ่อยนี่นำป้ายคำสั่งของจักรพรรดิมังกรพลิกสมุทรมาที่นี่ ฐานะน่าสงสัย เรื่องอื่นข้าน้อยก็ไม่รู้”

“หึ! พวกไร้ประโยชน์ชัดๆ!” อ๋าวเทียนคุนแค่นเสียงเย็นชา โกรธจนจะระเบิด

จักรพรรดิสงครามหุนเซวี่ยส่งเสียงคำรามในใจเช่นกัน ‘ภายหน้ารอเมื่อชะตาชีวิตของพวกข้าเก้าเผ่าจักรพรรดิใหญ่เกิดการเปลี่ยนแปลง ถึงตอนนั้นข้าอยากดูนักว่าเผ่าเจินหลงของเจ้าจะเป็นใหญ่ในใต้หล้าอยู่หรือไม่!’

“องค์ชายสี่กับองค์ชายเจ็ดล้วนหายตัวไป… ดูท่าว่าคนต่างถิ่นนี่ต้องคิดการใหญ่แน่…”

อ๋าวเทียนคุนสูดหายใจลึกแล้วออกคำสั่ง “ถ่ายทอดคำสั่งข้าลงไป แจ้งเรื่องโจรถ่อยนี่ให้สิ่งมีชีวิตทั้งหมดในแดนวังมังกรรู้ ไม่ว่าจะพบร่องรอยของโจรถ่อยนี่ที่ไหน ต้องมารายงานทันที!”

“ขอรับ!”

พวกผู้ติดตามและผู้คุ้มกันมากมายที่อยู่ใกล้ต่างเริ่มเคลื่อนไหวทันที

ขณะเดียวกันอ๋าวเทียนคุนก็นำสมบัติทรงเปลือกหอยออกมาแล้วกล่าวว่า “ผู้อาวุโสทุกท่าน มีโจรต่างถิ่นแฝงตัวเข้ามาในแดนวังมังกร…”

เมื่อเขาเล่าเรื่องทั้งหมดที่ตนพบจนจบ สุดท้ายก็ออกแรงที่นิ้วมือ สมบัติเปลือกหอยระเบิดกระจายดังสนั่น กลายเป็นแสงเจิดจ้าทั่วฟ้า ทะยานไปทั่วทิศ

นี่คือ ‘เปลือกหอยสื่อจิต’ มหัศจรรย์เป็นอย่างยิ่ง สามารถทำให้คนที่ถือเปลือกหอยสื่อจิตเหมือนกันได้ยินเสียงในพริบตา

เมื่อทำทุกอย่างนี้เสร็จสิ้น อ๋าวเทียนคุนสูดหายใจลึก เผยสีหน้าอำมหิต

“ตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน นอกจากลู่ป๋อหยาแล้วก็ไม่มีใครบุกเข้ามาในแดนวังมังกรแล้วไม่ตาย ครั้งนี้ข้าอยากดูนักว่าเจ้าโจรถ่อยนี่จะมีฝีมือมากแค่ไหน อย่าทำให้ข้า… ผิดหวังแล้วกัน!”

………………………