novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • มังงะ
  • หวยออนไลน์
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
lalikabet168
lalikabet66 คาสิโนสด boston777 แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล บาคาร่า แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ Empire777 huayhit168 สมัคร ufabet แทงบอล สล็อตเว็บตรง kodpung88 แทงบาคาร่า PGK44 nexobet สล็อตเว็บไหนแตกดี แทงหวย24 เว็บคาสิโน คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ คาสิโน คาสิโนออนไลน์

Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์ - ตอนที่ 3230 โอกาสมาแล้ว ต้องตัดสินแพ้ชนะ

  1. Home
  2. Battling Records of the Chosen One บันทึกศึกผู้กล้าท้าสวรรค์
  3. ตอนที่ 3230 โอกาสมาแล้ว ต้องตัดสินแพ้ชนะ
Prev
Next

ครึ่ง​ปี​ หนึ่ง​ปี​ สามปี​ ห้า​ปี​ แปด​ปี​…

ใคร​ก็​คิดไม่ถึง​ว่าการ​หยั่งรู้​ของ​หลิน​สวิน​คราวนี้​จะดำเนิน​มานาน​ขนาด​นี้​ มิหนำซ้ำ​กระทั่ง​ตอนนี้​ยัง​ไม่มีวี่แวว​จะจบ​ลง​ด้วย​

ต่อให้​แต่ละคน​ต่าง​มีความอดทน​มาก​พอ​ แต่​ภาพ​อัน​ผิดปกติ​นี้​กลับ​ยัง​ทำให้เกิด​การ​ตอบสนอง​ที่​แตก​ต่างกัน​ไป​มากมาย​

แต่​ไม่ได้​เกิด​ความเปลี่ยนแปลง​ประหลาด​อะไร​

แต่ละคน​ต่าง​เลือก​รอคอย​ต่อไป​

กระทั่ง​สิบ​ปี​ผ่าน​ไป​

บน​ริม​ผา​โลก​จำศีล​ จู่ๆ หลิน​สวิน​ที่​นิ่ง​เป็น​รูปปั้น​มานาน​สิบ​ปี​ก็​เอ่ย​ขึ้น​ทันที​ “อาจารย์​ ผู้อาวุโส​จักจั่น​ทอง​ ได้​แล้ว​”

ไกล​ออก​ไป​โพธิ์​กับ​จักจั่น​ทอง​ต่าง​สะท้าน​ใน​ใจ จากนั้น​สีหน้าต่าง​มีประกาย​ประหลาด​ผุด​ออกมา​ ในที่สุด​ตอนนี้​หลิน​สวิน​ก็​ตื่นขึ้น​มาแล้ว​!

“ที่ว่า​ได้​นี่​หมายความว่า​อะไร​”

โพธิ์​ฝืน​เก็บ​กลั้น​ความรู้สึก​ใน​ใจเอาไว้​ ยิ้ม​ถาม

“สิ่งที่​ควร​หยั่งรู้​ได้​ก็​หยั่งรู้​หมด​แล้ว​ ก็​คง​ไม่สามารถ​ให้​พวก​ไท่​ชูรอ​นาน​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​เอ่ย​

ดวงตา​จักจั่น​ทอง​ฉาย​ประกาย​ “จะไป​ตัดสิน​แพ้ชนะ​กับ​เขา​หรือ​”

“เป็น​เช่นนี้​จริงๆ​”

หลิน​สวิน​พยักหน้า​

โพธิ์​กลับ​นิ่วหน้า​เล็กน้อย​ เอ่ย​ว่า​ “เจ้าแน่ใจ​ว่า​จะจัดการ​ไท่​ชูได้​หรือ​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​ “ไม่ขนาด​นั้น​ แค่​ถ้ายัง​ร่ำไร​อีก​ ไม่ช้าก็เร็ว​ก็​ต้อง​ตัดสิน​แพ้ชนะ​เหมือนเดิม​ ไม่จำเป็นต้อง​รอ​หรอก​”

เขา​ดู​ผ่อนคลาย​และ​นิ่ง​สงบ​นัก​

“สหาย​น้อย​หลิน​ หรือ​ตอนที่​เจ้าหยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​ของ​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​ มหา​มรรค​ของ​เจ้าทะลวง​ไป​อีก​ก้าว​ด้วย​” จักจั่น​ทอง​เอ่ย​ถามอย่า​งอด​ไม่ได้​

“ไม่ถึงกับ​ทะลวง​ เพียงแค่​มีความรู้​เรื่อง​มรรค​แห่ง​ชีวิต​ใหม่​ทั้งหมด​ เช่นนี้​แล้วจึง​สืบหา​ที่​ที่​ต้นกำเนิด​มรรคา​สาย​นี้​อยู่​ได้​ ภายหน้า​ก็​จะมีทาง​ไป​เสาะแสวง​มรรคา​นี้​ใน​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​นั้น​อีก​ขั้น​หนึ่ง​ได้​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​เบา​ๆ

เห็นได้ชัด​ว่า​จักจั่น​ทอง​ตื่น​ตะลึง​นัก​ อึ้ง​งัน​ไป​ครู่หนึ่ง​แล้ว​ปรบมือ​ชื่นชม​ “ถ้าข้า​เดา​ไม่ผิด​ สหาย​น้อย​มีผล​เก็บเกี่ยว​เช่นนี้​ได้​ต้อง​เกี่ยวกับ​พลัง​นิพพาน​ใช่หรือไม่​”

หลิน​สวิน​ยิ้ม​พลาง​พยักหน้า​ “ผู้อาวุโส​ตา​แหลมคม​ พลัง​นิพพาน​เกี่ยวข้อง​กับ​มรรค​แห่ง​ชีวิต​อย่าง​มาก​จริงๆ​”

เขา​เว้น​ช่วง​ก่อน​เอ่ย​ต่อว่า​ “รอ​สะสางความแค้น​กับ​ไท่​ชูแล้ว​ ข้า​ย่อม​มาสนทนา​กับ​ผู้อาวุโส​ดี​ๆ สักหน่อย​”

จักจั่น​ทอง​เอ่ย​อย่าง​เบิกบาน​ “ประเสริฐ​”

“ที่​เจ้ายืนกราน​ไป​ประลอง​หมาก​ครั้งสุดท้าย​ใน​วันนี้​ หรือยัง​มีเหตุผล​อื่น​อีก​” โพธิ์​กลับ​พูด​ขึ้น​กะทันหัน​

หลิน​สวิน​นิ่งเงียบ​ไป​เล็กน้อย​ก่อน​พยักหน้า​

โพธิ์​ไม่ถามต่อ​อีก​ พูด​ขึ้น​ทันที​ว่า​ “ออกเดินทาง​เมื่อไร​”

“ตอนนี้​”

ขณะ​พูด​หลิน​สวิน​ก็​ก้าว​ขึ้น​มาบน​ฟ้าสูง เอ่ย​เสียง​เบา​ว่า​ “อาจารย์​ ผู้อาวุโส​จักจั่น​ทอง​ อีก​เดี๋ยว​ถ้าข้า​กับ​ไท่​ชูประลอง​กัน​ ท่าน​ทั้งสอง​อย่า​เพิ่ง​ยื่นมือ​เข้ามา​ คน​ผู้​นี้​ต้อง​มีไพ่ตาย​ใน​มือ​อีก​แน่​ มิหนำซ้ำ​เขา​ก้าว​ลง​บน​ธรณีประตู​ของ​มรรค​แห่ง​ชีวิต​แล้ว​ มรรค​วิถี​ลึกล้ำ​สุด​หยั่ง​ ให้​ข้า​ไป​จัดการ​เขา​คนเดียว​ก็​พอ​”

ใน​ใจโพธิ์​เกิด​ความรู้สึก​ทอดถอนใจ​อย่าง​บอก​ไม่ถูก​

ศิษย์​คน​นี้​ของ​ตน​เติบโต​จน​ถึงขั้น​ดูแล​อาจารย์​อย่าง​เขา​ได้​แล้ว​!

ศิษย์​เหนือกว่า​อาจารย์​ นี่​ไม่ใช่สิ่งที่​ตน​อยาก​เห็น​มาตลอด​หรือ​

“วางใจ​ พวกเรา​ไม่ไป​หาเรื่อง​ใส่ตัว​เล่น​หรอก​”

จักจั่น​ทอง​ยิ้ม​ออกมา​

ทั้ง​สามทะยาน​ออก​ไปนอก​โลก​จำศีล​ทันที​

……

กลาง​ฟ้าดิน​ของ​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ หมอก​แรก​กำเนิด​เป็นชั้นๆ​ มีโลก​แดน​ลับ​ปรากฏ​ขึ้น​นับไม่ถ้วน​

พริบตา​ที่​เงาร่าง​หลิน​สวิน​ โพธิ์​ และ​จักจั่น​ทอง​ออก​มาจาก​โลก​จำศีล​นั้น​ก็​ถูก​รับรู้​ทันที​

“สหาย​น้อย​หลิน​ เดินทาง​มาคราวนี้​ต้องการ​ทำ​เช่นไร​”

ณ ส่วนลึก​ใต้ดิน​โลก​หม่น​มัว​มีเสียง​ไท่​ชูดัง​มา ประหนึ่ง​อสนีบาต​สาย​หนึ่ง​ ดัง​กึกก้อง​ใน​แดน​เทพ​มาก​เร้น​ ผ่าน​โลก​หม่น​มัว​ออกมา​ สะเทือน​จน​ฟ้าดิน​สั่น​ไหว​

“ตัดสิน​แพ้ชนะ​เป็น​อย่างไร​”

หลิน​สวิน​เอ่ย​

ไท่​ชูนิ่งเงียบ​ไป​เล็กน้อย​ จากนั้น​ก็​พลัน​หัวเราะ​ลั่น​ “ข้า​รอ​เวลานี้​มานาน​ไป​แล้ว​ ควร​เป็น​เช่นนี้​!”

ครืน​… ครืน​…

ใต้ดิน​ลึก​เสียง​โซ่กระแทก​ดัง​ขึ้น​ จากนั้น​เงาร่าง​ผอม​สูงร่าง​หนึ่ง​ก็​เหยียบย่าง​ฟ้าสูงออกมา​ เขา​สวม​ชุด​ดำ​ทั้งตัว​ ผม​ดำ​ลงมา​ปรก​หลัง​ เงาร่าง​สูงโปร่ง​ผ่าเผย​เป็น​อย่างยิ่ง​

บน​ตัว​เขา​กลับ​ปกคลุม​ด้วย​โซ่มหา​มรรค​ชั้นหนึ่ง​ มีคลื่น​เจต​กระบี่​น่า​หวาดผวา​ไหว​วูบ​อยู่​

ทั้งโลก​หม่น​มัว​ยัง​สั่นคลอน​ขึ้น​มาทันที​ หมอก​แรก​กำเนิด​ถาโถม ภูผา​ธารา​ไร้​สิ้นสุด​ยัง​พัง​ถล่ม​กลายเป็น​ฝุ่นผง​ปลิว​ว่อน​

อานุภาพ​เช่นนั้น​แกร่งกล้า​เกินไป​ ประหนึ่ง​นาย​เหนือ​หัว​ผู้​หนึ่ง​ปรากฏตัว​กลางอากาศ​หลังจาก​ผ่าน​ไป​หมื่น​กาล​ ไม่สนใจ​จะปกปิด​กลิ่นอาย​ของ​ตัวเอง​สักนิด​

บน​ต้นไม้​ใหญ่​ต้น​นั้น​อีกา​ดำ​สยาย​ปีก​ แปลงร่าง​เป็น​เด็กสาว​กระโปรง​ดำ​ผู้​หนึ่ง​ ใบหน้า​วิจิตร​งามล้ำ​เย็นชา​ ดวงตา​ทั้งสอง​แดงฉาน​พร่างพราว​

“เจ้าลัทธิ​!”

อีกา​ดำ​ตื่นเต้น​นัก​ เอื้อนเอ่ย​วาจา​นับ​หมื่น​พัน​ ท้ายที่สุด​กลายเป็น​เสียง​กู่​ร้อง​นั้น​เสียง​เดียว​

ชิ้ง!

บรรพ​จารย์​วานร​ที่​นั่งขัดสมาธิ​ลุกขึ้น​ เงาร่าง​สูงใหญ่​ดุจ​ภูผา​เปลี่ยนเป็น​สูงจั้งกว่า​ กลิ่นอาย​ทั้ง​ร่าง​ค่อยๆ​ เพิ่ม​สูงขึ้น​เหมือน​ภูเขาไฟ​ที่​บีบ​อัด​มาไม่รู้​กี่​เดือน​ปี​ปะทุ​ออก​!

และ​กระบี่​มรรค​ที่อยู่​ใน​อ้อมแขน​เขา​เล่ม​นั้น​คล้าย​ข่ม​ไอ​สังหาร​ไม่อยู่​ เกิด​เสียง​กระบี่​ดัง​กังวาน​ทะลวง​ถึงนอก​ชั้น​เมฆ

บรรพ​จารย์​วานร​สีหน้า​ยัง​เรียบ​เฉย​สงบนิ่ง​ดัง​เก่า​ แต่​ใน​ส่วนลึก​ของ​ดวงตา​นั้น​กลับ​มีความแค้น​ไหว​เคลื่อน​อยู่​ ในที่สุด​วันนี้​ก็​มาถึงแล้ว​!

ครู่​ต่อมา​เงาร่าง​ของ​ไท่​ชู อีกา​ดำ​ และ​บรรพ​จารย์​วานร​ก็​หาย​ไป​กลางอากาศ​ ไป​จาก​โลก​หม่น​มัว​

……

“ท่าน​ปู่​ ได้เวลา​ตัดสิน​แพ้ชนะ​แล้ว​!”

ใน​โลก​หง​ห​ลิง​ เฉิน​หลิน​คง​เหยียด​ตัว​ ดวงตา​เปล่งประกาย​ดุจ​กระบี่​ “รอ​นาน​ขนาด​นี้​ ในที่สุด​ก็​จะสู้สักที​”

ใน​กระท่อม​ เงาร่าง​สูงโปร่ง​ของ​เฉิน​ซีเดิน​ออกมา​ ชำเลือง​มอง​เฉิน​หลิน​คง​แล้ว​เอ่ย​ว่า​ “ไม่กลัว​ตาย​หรือ​”

“ไม่ใช่ยังมี​ท่าน​ปู่​อยู่​หรือ​”

เฉิน​หลิน​คง​หัวเราะ​เอ่ย​

เฉิน​ซีพยักหน้า​พูดว่า​ “เจ้าวางใจ​ ถ้าเจ้าตาย​ไป​ข้า​จะช่วย​เจ้ากลับ​มาจาก​วัฏจักร​ เพียงแต่​ถึงตอนนั้น​เจ้าก็​ต้อง​ฝึก​มรรคา​ใหม่​ ตรอง​เอา​เอง​ก็แล้วกัน​”

ขณะ​พูด​ก็​เดิน​ช้าๆ ออก​ไปนอก​โลก​หง​ห​ลิง​

เฉิน​หลิน​คง​มุมปาก​กระตุก​ครู่หนึ่ง​ แต่กลับ​ไม่ลังเล​ ตาม​ไป​อย่าง​ลิงโลด​

……

กลาง​ฟ้าดินแดน​เทพ​มาก​เร้น​

เมื่อ​เงาร่าง​ของ​ไท่​ชู บรรพ​จารย์​วานร​ และ​อีก​ดำ​ปรากฏ​ กลิ่นอาย​หนาว​ยะเยือก​อึดอัด​ก็​ตลบ​ออกมา​ด้วย​ ฟ้าดิน​เงียบสงัด​ หมื่น​ลักษณ์​ไร้​เสียง​

“สหาย​น้อย​หลิน​”

ไกล​ออก​ไป​ไท่​ชูกุมมือ​คารวะ​ยิ้มละไม​ให้​จาก​ไกลๆ​ สายโซ่​ทั้งตัว​เขา​กลับ​ดู​บาดตา​ยิ่ง​

บรรพ​จารย์​วานร​กับ​อีกา​ดำ​ยืน​ขนาบ​ข้าง​กาย​เขา​ ทอดสายตา​มอง​มาอย่าง​เย็นชา​

ยาม​เห็นภาพ​นี้​จาก​ไกลๆ​ หลิน​สวิน​ก็​เลิกคิ้ว​นิดๆ​ กุมมือ​คารวะ​เล็กน้อย​ เอ่ย​ว่า​ “ดูท่า​สหาย​ยุทธ์​จะดีใจ​กว่า​ข้า​เสีย​อี​ก.​..”

“มรรค​ข้า​มีศัตรู​ โชคดี​ยิ่งนัก​”

ไท่​ชูยิ้ม​เอ่ย​

สายตา​เขา​จ้อง​แต่​หลิน​สวิน​ เมิน​โพธิ์​กับ​จักจั่น​ทอง​โดยตรง​

“ถ้าเจ้าแพ้​แล้วก็​จะจบ​ที่​กาย​สิ้น​มรรค​สลาย​นะ​”

ไกล​ออก​ไป​เฉิน​ซีก้าว​เข้ามา​ เฉิน​หลิน​คง​ตามติด​อยู่​ข้างหลัง​

“สหาย​ยุทธ์​พูด​ถูก​ ต่อให้​ข้า​สามารถ​แปลงกาย​นับ​หมื่น​พัน​ ทิ้ง​พลัง​ชีวิต​ไว้​สัก​สาย​หนึ่ง​ได้​ก็​จะไม่ทำ​เช่นนี้​ใน​ตอนนี้​เด็ดขาด​ ถึงอย่างไร​ถ้าทำ​เช่นนี้​แล้ว​กลับ​ดูเหมือน​ข้า​ไท่​ชูมีความกังวล​”

ไท่​ชูมอง​เฉิน​ซีปราด​หนึ่ง​ เอ่ย​ว่า​ “ถ้าใน​ใจมีความกังวล​ เช่นนั้น​จะยัง​ได้รับ​ชัยชนะ​ใน​การ​ประลอง​หมาก​ครั้งนี้​ได้​อย่างไร​”

เฉิน​ซีครุ่นคิด​เล็กน้อย​ พูด​อย่าง​เห็นด้วย​ยิ่ง​ว่า​ “ถ้อยคำ​นี้​มิลวง​หลอก​ ยิ่ง​เป็น​การต่อสู้​มหา​มรรค​เช่นนี้​ก็​ยิ่ง​ไม่อาจ​ทิ้ง​ทางรอด​ใดๆ​ ไว้​ให้​ตัวเอง​ หาก​เป็น​เช่นนี้​ ในแง่​สภาวะ​จิต​ก็​แพ้​ไป​แล้ว​ขั้น​หนึ่ง​”

“พูด​แบบนี้​สหาย​ยุทธ์​ก็​ตัดทาง​หนี​ของ​ตัวเอง​ทิ้ง​ไป​แล้ว​หรือ​”

ไท่​ชูยิ้ม​ถาม

“นี่​ย่อม​แน่​อยู่แล้ว​”

ขณะ​พูด​เฉิน​ซีก็​หยุด​อยู่​กลางอากาศ​ จากนั้น​สายตา​กวาด​มอง​ทุก​คนใน​ที่​นั้น​ ยาม​สายตา​หยุด​ลง​ที่​ร่าง​บรรพ​จารย์​วานร​ก็​ชะงัก​เล็กน้อย​อย่า​งอด​ไม่ได้​

ครู่​ต่อมา​เขา​ก็​เอ่ยปาก​คล้าย​ทอดถอนใจ​ “เป็น​เฒ่าชรา​อย่าง​เจ้าตาม​คาด​”

คล้าย​ว่า​มอง​ทะลุ​ตัวตน​และ​ที่มา​ของ​บรรพ​จารย์​วานร​ได้​นาน​แล้ว​

“ถ้าขนาด​เรื่อง​นี้​เจ้ายัง​คาดเดา​ไม่ได้​ ก็​ไม่สมกับ​ที่​ถูก​ข้า​มอง​เป็น​ศัตรู​ชั่วชีวิต​แล้ว​”

บรรพ​จารย์​วานร​ใน​ตอนนี้​สีหน้า​เฉยชา​เหี้ยมเกรียม​ กลิ่นอาย​ทั้ง​ร่าง​ไม่ปกปิด​สักนิด​ แม้ยืน​อยู่​ข้าง​กาย​ไท่​ชู แต่​อานุภาพ​เช่นนั้น​กลับ​ถึงขั้น​ไม่ด้อย​กว่า​สักนิด​

“ผู้อาวุโส​รู้จัก​คน​ผู้​นี้​อยู่​ก่อน​หรือ​”

หลิน​สวิน​ถามอย่าง​ประหลาดใจ​

ตอนนี้​พวก​ไท่​ชูกลายเป็น​ฝ่าย​หนึ่ง​ขวางทาง​พวก​หลิน​สวิน​อยู่​ ส่วน​เฉิน​ซีกับ​เฉิน​หลิน​คง​ยืน​อยู่​ไกล​ออก​ไป​อีก​ฝั่ง

มอง​จาก​ไกลๆ​ พวกเขา​ก็​เหมือน​กองกำลัง​สามฝ่าย​ ยืน​เป็น​รูป​อักษร​ผิ่น​ (品)

เพียงแต่​ไม่ว่า​ใคร​ต่าง​รู้​ว่า​เฉิน​ซีกับ​หลิน​สวิน​อยู่​ฝ่าย​เดียวกัน​

“ย่อม​รู้จัก​”

เฉิน​ซีเอ่ย​ “คน​ผู้​นี้​ก็​คือ​เจ้าลัทธิ​สูงสุด​ เมื่อนานมาแล้ว​เคย​ถูก​ข้า​กำราบ​ไว้​ใน​วัฏจักร​ชั่วนิรันดร์​ อยู่​ไม่ได้​ ตาย​ไม่สามารถ​ ได้​แต่​รับ​ความ​ทรมาน​ใน​วัฏจักร​ไร้​สิ้นสุด​ เพียงแต่​ก่อนที่​เขา​จะเผย​ศักยภาพ​ของ​ตัวเอง​ออกมา​ ข้า​ก็​คิดไม่ถึง​ว่า​เขา​จะถึงกับ​หลุดพ้น​จาก​วัฏจักร​ กลายเป็น​ ‘บรรพ​จารย์​วานร​’ ตรงหน้า​นี้​”

“เขา​ก็​คือ​เจ้าลัทธิ​สูงสุด​หรือ​!”

เฉิน​หลิน​คง​ตกตะลึง​

เขา​เคย​ได้ยิน​บิดา​เขา​เฉิน​อัน​กับ​ผู้อาวุโส​คนอื่น​พูดถึง​เรื่อง​เจ้าลัทธิ​สูงสุด​ตั้งแต่​เขา​ยัง​เด็ก​ จะไม่รู้​ได้​อย่างไร​ว่า​ศัตรู​ที่​แข็งแกร่ง​ที่สุด​ที่​ปู่​ของ​ตน​เคย​พบ​เจอ​ ก็​คือ​เจ้าลัทธิ​สูงสุด​ผู้​นี้​

หลิน​สวิน​เลิกคิ้ว​อย่า​งอด​ไม่ได้​เช่นกัน​ ยาม​เขา​มาหา​เฉิน​ซีคราวก่อน​ได้​ฟังเฉิน​หลิน​คง​เล่าเรื่อง​เจ้าลัทธิ​สูงสุด​พอดี​ จึงได้​รู้​ว่า​คน​ผู้​นี้​ใช้การ​ไร้อารมณ์​เข้าสู่​มรรค​ น่ากลัว​เป็น​ที่สุด​

แต่​กระทั่ง​เขา​ยัง​คิดไม่ถึง​ว่า​บรรพ​จารย์​วานร​ข้าง​กาย​ไท่​ชูจะถึงกับ​เป็น​ ‘เจ้าลัทธิ​สูงสุด​’ ศัตรู​ตัวฉกาจ​ของ​เฉิน​ซี!

“อย่างนี้​นี่เอง​”

และ​ตอนนี้​ร่าง​อรชร​ของ​อีกา​ดำ​สั่นสะท้าน​ แววตา​ซับซ้อน​ ในที่สุด​นาง​ก็​รู้​แล้ว​ว่า​ข้า​รับใช้​อาวุโส​ที่​ติดตาม​ข้าง​กาย​เจ้าลัทธิ​มาก่อน​ตน​เป็น​ใคร​กัน​แน่​

แต่กลับ​พบ​ว่า​บรรพ​จารย์​วานร​สีหน้า​เรียบ​เฉย​สงบนิ่ง​ดัง​เก่า​ เอ่ย​ว่า​ “เฉิน​ซี ในที่สุด​คราวนี้​จะได้​จบเรื่อง​ระหว่าง​เจ้ากับ​ข้า​ลง​เสียที​!”

เฉิน​ซีหัวเราะ​เอ่ย​ “สามารถ​กำราบ​เจ้าได้​ครั้งหนึ่ง​ ก็​สามารถ​กำราบ​เจ้าได้​นับ​ครั้ง​ไม่ถ้วน​ คน​ที่​เคย​แพ้​ไย​ต้อง​อวดตัว​ด้วย​”

แวว​แค้น​เหี้ยมเกรียม​วาบ​ขึ้น​ใน​ส่วนลึก​ของ​ดวงตา​บรรพ​จารย์​วานร​ จากนั้น​ก็​กลับมา​สงบนิ่ง​ทันที​ เอ่ย​ว่า​ “เช่นนั้น​ก็​ลองดู​”

ไท่​ชูหัวเราะ​เอ่ย​ “ทุกท่าน​ไม่ต้อง​รีบร้อน​ สำหรับ​พวกเรา​แล้ว​ การ​ประลอง​หมาก​ครั้งนี้​ย่อม​ต้อง​จบเรื่อง​ทั้งหมด​ แต่ก่อน​ประลอง​หมาก​ ข้า​อยาก​พูดคุย​กับ​สหาย​น้อย​หลิน​เสียหน่อย​”

ขณะ​พูด​สายตา​เขา​ก็​มอง​ไป​ยัง​หลิน​สวิน​ที่อยู่​ไกล​ออก​ไป​แล้ว​ เอ่ย​ว่า​ “สหาย​น้อย​ ถือโอกาส​นี้​มาสนทนา​เรื่อง​แก่น​อัศจรรย์​ที่​เจ้าหยั่งถึง​ใน​เขต​ผนึก​อัศจรรย์​นั้น​กับ​ข้า​ได้​หรือไม่​”

หาก​เป็น​สหาย​ขอร้อง​เช่นนี้​ย่อม​ไม่ดู​ผิดแปลก​

แต่​ไท่​ชูรู้​ทั้ง​รู้​ว่า​เป็น​ศัตรู​กัน​ กลับ​เสนอ​ข้อเรียกร้อง​เช่นนี้​ออกมา​ ดู​กะทันหัน​นัก​

ที่​ยิ่ง​ทำให้​ทุกคน​คิดไม่ถึง​ก็​คือ​หลิน​สวิน​ยิ้ม​ออกมา​ ถึงกับ​ตอบรับ​อย่าง​เบิกบานใจ​ “ทำไม​จะไม่ได้​ ว่า​กัน​ถึงที่สุด​ ที่​ข้า​หยั่งรู้​นัย​เร้นลับ​ได้​มากมาย​เช่นนั้น​ก็​ได้รับ​ความช่วยเหลือ​จาก​สหาย​ยุทธ์​เช่นกัน​ ตอนนี้​ใน​เมื่อ​ข้า​ได้รับ​มาก็​ย่อม​บอก​สหาย​ยุทธ์​อย่าง​หมดเปลือก​”

บัดนี้​เฉิน​หลิน​คง​กับ​อีกา​ดำ​ที่​ยืน​อยู่​คนละ​ฝั่งต่าง​มอง​หลิน​สวิน​อีกครั้ง​อย่า​งอด​ไม่ได้​ เห็นชัด​ว่า​คล้าย​รู้สึก​แปลก​อยู่​บ้าง​

แต่​ไม่ว่า​จะเป็น​เฉิน​ซี ไท่​ชู หรือ​บรรพ​จารย์​วานร​ต่าง​สีหน้า​เป็นปกติ​ คล้าย​ไม่มีใคร​รู้สึก​ว่า​เรื่อง​นี้​เป็นเรื่อง​แปลก​

โพธิ์​เห็นภาพ​อัน​ชอบกล​ยิ่ง​นี้​ทั้งหมด​แล้ว​ลอบ​เอ่ย​ใน​ใจอย่า​งอด​ไม่อยู่​ ถ้าว่า​กัน​ด้วย​นิสัยใจคอ​ เฉิน​หลิน​คง​กับ​อีกา​ดำ​ผู้​นี้​ก็​ด้อย​กว่า​เล็กน้อย​แล้ว​…

เขา​ชำเลือง​มอง​จักจั่น​ทอง​อย่า​งอด​ไม่ได้​

กลับ​พบ​ว่า​จักจั่น​ทอง​สำรวม​ดังเดิม​ สงบ​สุขุม​

——