novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • อ่านมังงะ
  • โดจิน
  • ซีรีย์วาย
  • PG SLOT
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
boston777
แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล
บาคาร่า 8xbet แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด Empire777 แทงหวย สล็อตเว็บตรง แทงหวยออนไลน์ สมัคร ufabet แทงบอล เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350

Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子] - บทที่ 534 เทพเจ้าสายฟ้าและเทพดาบ

  1. Home
  2. Myth Online ฮีลเลอร์สายบู๊ [网游之奶个锤子]
  3. บทที่ 534 เทพเจ้าสายฟ้าและเทพดาบ
Prev
Next

บทที่ 534 เทพเจ้าสายฟ้าและเทพดาบ

บทที่ 534 เทพเจ้าสายฟ้าและเทพดาบ

เทวาธิปไตย – ประตูสวรรค์

ระดับ : ตำนาน

ข้อจำกัดการเรียนรู้ : ธาตุศักดิ์สิทธิ์

เอฟเฟกต์ : เมื่อร่ายสกิล ประตูสวรรค์จะเปิดออกและสามารถอัญเชิญนักรบแห่งสรวงสวรรค์ลงมาช่วยในการต่อสู้ได้ เลเวลของนักรบผู้กล้าหาญเหล่านี้จะเท่ากับผู้ใช้สกิล พวกเขาจะมาในรูปแบบบอสระดับทองเมื่อครั้งออกมาจากประตูสวรรค์คราแรก จากนั้นเหล่านักรบจะแข็งแกร่งและมีระดับสูงขึ้นตามระยะเวลาที่พวกเขาออกมา ระดับสูงสุดคือ บอสระดับตำนาน

จำนวนที่สามารถอัญเชิญได้ : เท่ากับค่าจิตของผู้ใช้ แต่จำนวนสูงสุดที่สามารถอัญเชิญได้ จะเท่ากับค่าสปิริตเท่านั้น

ระยะเวลาในการอัญเชิญ : ประตูสวรรค์จะเปิดในระยะเวลาที่จำกัด ซึ่งขึ้นอยู่กับ ค่าจิตของผู้ใช้ หารด้วย 10 หน่วยเป็นนาที

คูลดาวน์ 72 ชั่วโมง

นี่คือหนังสือสกิลประเภทอัญเชิญ ไม่ใช่สกิลประเภทสร้างความเสียหายอย่างที่เซียวเฟิงต้องการ แต่หลังจากที่อ่านรายละเอียดของสกิลแล้ว สีหน้าของเซียวเฟิงก็เปลี่ยนจากห่อเหี่ยวเป็นตื่นเต้นได้ทันที!

สกิลอัญเชิญนี่น่ะ ไม่ได้ด้อยไปกว่าสกิลโจมตีไหนเลยนี่นา!

เพราะสิ่งที่ถูกอัญเชิญออกมาก็คือบอสที่ระดับค่อนข้างสูง ขนาดต่ำสุดยังได้บอสระดับทองเลย!

แถมยิ่งเปิดใช้สกิลนาน บอสก็ยิ่งระดับสูงขึ้นอีก ไม่ว่าจะในแง่ไหน สกิลนี้ก็ทรงพลังมากจริง ๆ!

ปัจจุบันเลเวลของเซียวเฟิงคือ 59 พลังชีวิตเขามีมากถึง 10,300 หน่วย! ค่าสปิริตก็สูงมากถึง 2,900 หน่วยด้วย!

นั่นหมายถึงเซียวเฟิงจะสามารถอัญเชิญนักรบสวรรค์ที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่าบอสออกมาได้ถึง 2,900 คน! ในเวลา 4 ชั่วโมง! นี่คือพลังที่ไร้การต้านทาน!

ถึงมันจะไม่ได้ช่วยให้ค่าสถานะส่วนตัวสูงขึ้นแต่อย่างใด แต่กับสถานการณ์อย่างสงครามระหว่างเขตแดน ณ ตอนนี้ สิ่งนี้ถือเป็นจุดพลิกผันมาก

เมื่อระงับความตื่นเต้นไว้ได้แล้ว เซียวเฟิงก็เลือกที่จะเรียนรู้สกิลนี้ทันที ตอนนี้สงครามระหว่างเขตแดนได้เริ่มกันไปเกือบ 2 ชั่วโมงแล้ว เขาพลาดที่จะเข้าร่วมตั้งแต่แรก แต่ถึงอย่างนั้นความกระตือรือร้นที่อยากจะเข้าร่วมในสงครามครั้งนี้ก็ไม่ได้ลดลงแต่อย่างใด เพราะตอนนี้วัตถุประสงค์ใหม่ของเขาได้ถูกจุดประกายขึ้นมาแล้ว

นั่นคือ…การนำสกิลใหม่นี่ไปทดลอง!

เซียวเฟิงรีบเปิดฟอรั่มเพื่อตามข่าว เขาอยากรู้ว่าสถานการณ์ภายในเขตฮัวเซียตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง เพราะงั้นจึงรีบเข้าไปที่หมวดหมู่เขตแดนแทน

ช่วงระหว่างที่จัดอีเวนต์สงครามระหว่างเขตแดนนี้ ข่าวคราวของทั้งเก้าเขตแดนภายในหมวดหมู่นี้จะอัปเดตกันตลอดเวลา หลัก ๆ ก็มาจากกลุ่มของนักข่าวที่มีชื่อเสียงของแต่ละเขตแดนที่เข้าไปรายงานสถานการณ์ออกมา รวมไปถึงผู้เล่นที่ไม่ได้แข็งแกร่งมากก็เลือกที่จะช่วยเขตของตนโดยการคอยนำสถานการณ์มาบอกทุกคนด้วย

อย่างไรก็ตาม หลังจากอ่านข้อมูลบางส่วนแล้ว คิ้วของเซียวเฟิงมันก็ขมวดพันกันอย่างอดไม่ได้ เพราะนี่เพิ่งจะเป็นช่วงเริ่มต้นของสงครามระหว่างเขตแดนแท้ ๆ แต่สถานการณ์ทางฝั่งฮัวเซียกลับไม่ดีเอาเสียเลย

ตามที่ได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้า นอกจากเขตฮัวเซียแล้ว เขตอื่น ๆ น่าจะต้องร่วมมือกันและพากันบุกฮัวเซียแน่ ๆ เพราะงั้นในช่วงต้นของสงคราม ฮัวเซียจึงต้องยกทัพมาป้องกันไว้อย่างไม่หยุดหย่อนเช่นนี้!

จะต้องรู้กันอยู่แล้วว่าผู้ที่สามารถใช้เส้นทางข้ามเขตแดนได้ ต้องเป็นผู้เล่นที่ขึ้นชื่อว่าเป็นยอดฝีมืออยู่แล้ว แถมในบรรดายอดฝีมือเหล่านี้ ก็ยังมียอดฝีมือระดับท็อปปะปนมาด้วย นอกจากนี้ พวกเขาล้วนก็แต่ก้าวขึ้นเป็นคลาสที่ 3 กันหมดแล้ว ผู้ที่ยังอยู่แค่คลาส 2 จะไม่สามารถเดินผ่านเส้นทางข้ามเขตแดนมาได้ ดังนั้นในสงครามระหว่างเขตแดนครั้งนี้ มันจึงกดดันตั้งแต่ต้นเลยทีเดียว!

ยิ่งไปกว่านั้น สิ่งที่เซียวเฟิงคาดไว้เองก็ยังถูกต้องเกือบทั้งหมดด้วย เรื่องที่ว่า หลังจากที่ผู้เล่นเริ่มพากันเป็นคลาส 3 แล้ว พวกเขาจะพากันพัฒนากันแบบก้าวกระโดด ดังที่เห็นได้ว่ามีผู้เล่นระดับพระเจ้าปรากฏตัวมากขึ้นกว่าเดิม!

ปัจจุบันนี้ ผู้ที่ถูกยกย่องว่าเป็นเทพเจ้านั้น ไม่ได้มีเพียงเจ้าแห่งฮีลเลอร์และเทพเจ้าสายฟ้าอีกต่อไปแล้ว พวกเขามีเทพเจ้าในคราบผู้เล่นกันมากถึงเจ็ดคน! ซึ่งผู้เล่นเหล่านี้ก็คือผู้ที่มีพลังสูงกว่าหนึ่งแสนหน่วยจากทุกเซิร์ฟเวอร์!

ในบรรดาเจ็ดคนนี้ มีสองคนที่มาจากเขตฮัวเซีย นั่นคือ ซีเหมินชุยเสวียและไทแรนนี่ ทั้งสองได้ฝึกตนและพัฒนาจนเข้าสู่ระดับเทพเจ้าได้ จุติใหม่เป็น เทพเจ้าแห่งดาบและเทพแห่งสงคราม

ส่วนอีกสามคนที่เหลือก็มาจากเขตแดนต่างกัน แต่พวกเขาล้วนแต่เป็นเหล่าอดีตยอดฝีมือที่เซียวเฟิงเคยพบเจอมาก่อนแล้วจากอีเวนต์เซิร์ฟเวอร์ครั้งก่อน ๆ!

และเมื่อครั้งหนึ่งที่พวกเขาได้ก้าวเข้าสู่การเป็นผู้เล่นระดับเทพพระเจ้าแล้ว ผู้เล่นธรรมดาทั่วไปก็ไม่ต่างอะไรกับมอนสเตอร์ นี่ถือเป็นสิ่งที่น่ากลัวสำหรับอีเวนต์ในครั้งนี้!

นอกจากสามเทพที่เป็นของเขตฮัวเซียแล้ว เทพเจ้าคนอื่น ๆ ต่างก็เป็นศัตรูกับเขตฮัวเซียกันหมด และพวกเขาถือเป็นภัยคุกคามอันใหญ่หลวงในการรับมือ หรือต่อให้ไม่เจอในอีเวนต์ การต่อสู้ตัวต่อตัวกับพวกเขาก็ล้วนแต่เป็นเรื่องยากไปด้วยเช่นกัน

โอกาสอันดีงามนี้ มีหรือที่เขตอื่น ๆ จะไม่คว้าไว้? เหตุผลหลักที่ทำให้เขตฮัวเซียกลายเป็นเป้าหมายการโจมตีหลักนั่นก็เพราะ เขตฮัวเซียนั้นมีความคืบหน้าในเกมสูงที่สุดในบรรดาเขตอื่น เปรียบเสมือนนักวิ่งที่วิ่งนำหน้านักวิ่งคนอื่นอยู่หลายเมตร หากพวกเขาไม่รีบปิดทางนักวิ่งผู้นี้ไว้ ในอนาคต พวกเขาจะตามเขตฮัวเซียไม่ทันอีก การตัดไฟตั้งแต่ต้นลม ถือเป็นทางออกที่ดีที่สุด!

ต้นไม้งามที่งอกเงยขึ้นกลางป่า ท้ายสุดแล้วก็จะถูกสายลมพัดทำลายสักวันหนึ่ง

“หืม?”

สายตาของเซียวเฟิงไปหยุดอยู่ที่ข่าวล่าสุด คิ้วของเขายังคงขมวดเป็นปมเหมือนเดิม นั่นเพราะข่าวนี้เกี่ยวข้องกับการพบตัวเทพเจ้าสายฟ้าที่บริเวณเส้นทางข้ามเขตแดนที่อยู่กลางเขตฮัวเซีย! เส้นทางจุดนั้น เป็นจุดเดียวที่ทำให้ผู้เล่นเขตอื่นสามารถเข้ามาภายในตัวเขตแดนนั้น ๆ ได้เลยเช่นเดียวกัน มันก็ถือเป็นจุดที่สำคัญที่สุดด้วย เพราะถ้าหากภายในถูกทำลาย นั่นหมายถึงเขตฮัวเซียก็ไม่สามารถตั้งมั่นได้อีกต่อไป!

เพราะงั้นเซียวเฟิงจึงไม่ลังเล เขารีบใช้งานแหวนอวกาศเพื่อเทเลพอร์ตตนเองไปยังมาร์คอวกาศที่อยู่ใกล้กับเส้นทางข้ามเขตแดนนั้นในทันที

“โอ๊ะ?”

ทันทีที่เขาปรากฏตัว รอบ ๆ ตัวเซียวเฟิงก็เต็มไปด้วยเสียงดังมากมายจนหูอื้อไปได้ง่าย ๆ เลย เขาหันมองรอบตัว ซึ่งมีแต่ผู้คนเต็มไปหมด สภาพของเซียวเฟิงไม่ได้ต่างอะไรกับเข็มที่หลุดลงมาในมหาสมุทรผู้คนเลย เขาทำไม่ได้แม้กระทั่งขยับตัวด้วยซ้ำ เพราะผู้คนรอบตัวต่างพากันวิ่งอลหม่านจนเขาเซตามไปตลอด

“เสี่ยวเสวีย!”

เซียวเฟิงตัดสินใจเปิดมิติสัตว์ขี่แล้วเรียกเสี่ยวเสวียออกมา เขาอยากจะรีบออกจากทะเลฝูงชนนี่ให้เร็วที่สุด เพราะต้องการจะเห็นสถานการณ์โดยรวมด้วย เขาเพียงแค่เทเลพอร์ตมาที่นี่ แต่ไม่รู้เลยว่าที่นี่เกิดอะไรขึ้น

อันที่จริง บนท้องฟ้าก็ไม่ได้ราบเรียบอย่างที่ควรแต่อย่างใด ไม่เพียงแต่มันมีสัตว์ขี่ที่บินได้ตัวอื่นอยู่ด้วย แต่แม้แต่สกิลมากหน้าหลายตายังพากันพาดผ่านฟากฟ้าเสียจนต้องคอยหลบกันให้จ้าละหวั่นเลย แต่ไม่ว่าอย่างไรมันก็ดีกว่าความแออัดบนพื้นดินอย่างแน่นอน

หลังจากที่เซียวเฟิงหลบห่าสกิลที่โถมผ่านไปได้ เขาก็โล่งใจไปเปลาะหนึ่งก่อนจะได้โอกาสตรวจตราสถานการณ์เบื้องล่างว่ามีอะไรกัน

สายฟ้าแห่งพระเจ้า – พันอสนีบาต!

อย่างไรก็ตาม ก่อนที่เซียวเฟิงจะได้ตั้งหลังเพื่อดูสถานการณ์ เขาก็ได้ยินเสียงฟ้าร้องดังสนั่นไปทั่วทั้งฟ้า กลบเสียงดังระงมบนภาคพื้นเสียอยู่หมัด จากนั้นผืนฟ้าก็กลายเป็นต้นกำเนิดเสียงอย่างต่อเนื่องไปแทน

ครืน!

เมฆสีดำก็ก่อตัวขึ้นหัวของเขา สายฟ้าสีทองวิ่งผ่านไปมาบนเมฆดำก้อนนั้นราวกับเป็นคลื่นทะเล ตามด้วยการเกิดของดวงตาขนาดใหญ่ที่บริเวณจุดกลางก้อนเมฆ

นี่มัน…วิสัยแห่งธอร์!

รูปแบบสกิลนี้ถูกจดจำได้ไม่ยาก ซึ่งหลังจากที่ดวงตาดวงนี้เลือกเป้าหมายแล้ว มันก็ส่งสายฟ้าฟาดจำนวนมหาศาลลงไปกลางสนามรบทันที!

ภายใต้ดวงตาแห่งธอร์เองก็ยังสามารถเห็นร่างที่เลือนรางของมนุษย์ที่กำลังเปล่งแสงสว่างนั่งอยู่บนหลังม้ายูนิคอร์นสีม่วงได้ ในมือของเขาถือคทาสีเดียวกับยูนิคอร์น ภาพลักษณ์ของเขาให้ความรู้สึกเหมือนเป็นพระเจ้าที่กำลังเฝ้ามองโลกใบนี้พร้อมกับโบกคทาเรียกสายฟ้าฟาดลงไปเรื่อย ๆ ด้วย

เซียวเฟิงไม่คาดคิดเลยว่าจะได้เจอเทพเจ้าสายฟ้ากำลังใช้สกิลระดับสุดยอดตั้งแต่ที่เขามาถึงเช่นนี้ นี่มันเพิ่งจะเริ่มต้นสงครามระหว่างเขตแดนเองแท้ ๆ แต่หากมองภาพรวมแล้ว การใช้สกิลระดับนี้มันก็ทำให้อีกฝ่ายสามารถกำจัดผู้เล่นเขตฮัวเซียได้ทีละมาก ๆ เช่นกัน ถือเป็นการลงทุนที่ไม่เสียเปล่า ยังไงเสียสกิลก็มีคูลดาวน์ที่ค่อนข้างยาวนาน เพราะงั้นต่อให้ใช้เมื่อไหร่ แต่ถ้าการใช้แล้วมันแลกได้ด้วยแต้มมหาศาล มันก็คุ้มค่า

กระบวนดาบเทพ – ค่ายกลดาบนิรันดร์!

แต่ในตอนที่เซียวเฟิงเตรียมจะลงมือนั้นเอง เสียงใบดาบกระทบกันก็ดังขึ้นบนฟากฟ้า เสียงดาบนี้ทำให้สนามรบที่เคยเต็มไปด้วยเสียงตะโกนโหวกเหวกต้องเงียบไปเพราะพวกเขาต่างฝ่ายต่างก็ได้ยินเสียงใบดาบกระทบกันจนต้องหยุดสู้ไปชั่วคราวเพื่อกุมหัวตนเองไว้

ซีเหมินชุยเสวีย!

แม้กลุ่มคนจะกระจัดกระจายไปบ้างแล้ว แต่ปริมาณของฝูงชนก็ยังมีเยอะจนเซียวเฟิงไม่สามารถหาได้ว่าซีเหมินชุยเสวียอยู่ตรงไหนเหมือนเดิม แต่ด้วยรูปแบบของสกิลนี้ เจ้าของต้องไม่ใช่ใครอื่นได้นอกจากซีเหมินชุยเสวียอีกแล้ว!

นี่คือการประจันหน้ากันระดับเทพเจ้า! แล้วสิ่งนี้ดันเกิดขึ้นตั้งแต่สองชั่วโมงแรกหลังจากสงครามระหว่างเขตแดนเริ่มต้นขึ้นด้วย!

ดาบลำแสงมากมายหลายรูปแบบปรากฏขึ้นทั่วสนามรบ และปริมาณของมันก็มีมากมายจนเข้าสู่ระดับนับไม่ถ้วนไปแล้ว ไม่แปลกใจเลยที่สกิลของซีเหมินชุยเสวียจะทำได้ถึงขนาดนี้!

จากร้อยไปพัน จากพันไปหมื่น จากหมื่นไปแสน จากแสนไปล้าน และจากล้านก็เพิ่มเป็นสิบล้านอย่างต่อเนื่อง…

ตอนนี้จำนวนดาบลำแสงพวกนี้ มีมากกว่าประชากรที่เข้าร่วมสงคราม ณ จุดนี้ไปแล้วเสียอีก!

ดาบเหล่านี้พุ่งขึ้นมาจากใต้พื้นดินแม้ว่ามันจะถูกสร้างขึ้นมาจากแสงก็ตาม เพราะเซียวเฟิงเห็นพวกมันพุ่งขึ้นมากับตา!

ดาบเหล่านี้พุ่งขึ้นฟ้าพร้อม ๆ กันและเข้าปะทะกับสายฟ้าฟาดที่ดิ่งลงมาจากเบื้องบนราวกับสายฟ้าทุกเส้นถูกล็อกเป้าไว้หมดแล้ว!

การปะทะกันของดาบลำแสงทุกเล่มและสายฟ้าฟาดเกิดขึ้นในชั่วพริบตาเดียว!

แม้ว่าจะเป็นการปะทะกันอย่างรวดเร็ว แต่เซียวเฟิงก็สามารถมองเห็นได้ชัดเจนเลยว่าดาบลำแสงทุกเล่มนั้นฉีกกระชากสายฟ้าฟาดของเทพเจ้าสายฟ้าให้แตกระแหงกลายเป็นกลุ่มแสงแล้วหายไปในอากาศ!

ไม่ผิดแน่ ๆ ดาบพวกนั้นมีเป้าหมายที่สายฟ้าที่กระหน่ำลงมาจริง ๆ!

ไม่ว่าสายฟ้าฟาดจะมีปริมาณมากขนาดไหน แต่เมื่อถูกทำลายแล้วก็หายไปเลย ในขณะที่ดาบลำแสงนั้นไม่ได้หายไปทันที มันพุ่งไปทำลายสายฟ้าตำแหน่งอื่นต่อจนไม่มีสายฟ้าเส้นไหนสามารถฟาดกระทบผู้เล่นเขตฮัวเซียเบื้องล่างได้เลย!

เซียวเฟิงที่ดูเหตุการณ์อยู่นั้นถึงกับต้องอุทานอยู่ในใจ ว่าซีเหมินชุยเสวียต้องกินยาลืมเขย่าขวดแน่ ๆ!

ครั้งสุดท้ายที่เขาได้เจอกับซีเหมินชุยเสวีย เซียวเฟิงรู้อยู่แล้วว่าซีเหมินชุยเสวียกำลังซุ่มฝึกใช้สกิลนี้ให้ชินอยู่ แถมรู้ด้วยว่าอีกฝ่ายพยายามก้าวข้ามขีดจำกัดของมนุษย์เพื่อดึงศักยภาพของสกิลออกมาให้ได้มากที่สุด ไม่เช่นนั้นแล้วมันคงเป็นไปได้ยากที่เขาจะสามารถใช้กลยุทธ์นี้ได้แบบสมบูรณ์ ดาบลำแสงที่โจมตีได้แม้กระทั่งสายฟ้า!

อย่างไรก็ตาม สกิลระดับตำนานของซีเหมินชุยเสวียนี้แน่นอนว่าเป็นสกิลสังหารหมู่ ทว่าในครั้งนี้กลับไม่ถูกใช้ในการสังหารผู้คน มันกำลังปกป้องชีวิตพวกเขาจากความตายที่อยู่เบื้องบน! นี่มันอย่างกับฝันไปเลย!

สกิลระดับเทพของเทพเจ้าสายฟ้านั้นมีระยะที่น่าทึ่ง มันน่ากลัวและประสิทธิภาพสูง ภายในพื้นที่ 10 กิโลเมตรรอบตัว ไม่มีจุดไหนที่เขาไม่สามารถโจมตีได้

แต่แล้วมันจะทำไมกัน?

ต่อให้การโจมตีด้วยสายฟ้านั้นจะสามารถกำจัดผู้เล่นไปได้มากมายหลายล้านคนในระยะก็ตาม คิดว่าผู้คนที่อยู่บริเวณนี้มีสักกี่คนกันล่ะ? นี่น่ะ…เป็นเส้นทางเชื่อนเขตแดนที่อยู่กลางเมืองเลย!

แน่นอนว่าต้องมากกว่าห้าสิบล้านคนอยู่แล้ว!

10 กิโลเมตรของเทพเจ้าสายฟ้านั้น กลายเป็นพื้นที่เล็ก ๆ ไปเลย! ยามที่มีผู้คนล้มตาย ผู้เล่นเซตใหม่ก็จะเข้ามาแทนที่ในทันที! เพราะงั้นต่อให้ไม่มีคนคอยปกป้องพวกเขาก็ไม่มีปัญหาอยู่แล้ว!

นอกจากนี้ เซียวเฟิงมาถึงที่นี่แล้ว ซีเหมินชุยเสวียไม่จำเป็นต้องรับบทเป็นผู้คุ้มครองคนอื่นก็ได้ เขาควรจะใช้สกิลสุดแสนจะทรงพลังนี้กำจัดผู้เล่นจากเขตอื่นให้ได้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพื่อผลประโยชน์ของเขต!

การโจมตีของเขาเพียงการกระตุกดาบทั้งหมดเพียงหนึ่งครั้งก็น่าจะกำจัดผู้เล่นไปได้กว่าล้านคนแล้ว ไม่ว่าจะเพื่อเก็บแต้มคะแนน หรือเพื่ออัปเลเวลตนเอง สกิลนี้ก็ตอบโจทย์ได้ดีไปหมดเลย!

แต่หลังจากคิดตามแล้ว บางทีหากเขาลงมือช่วย ซีเหมินชุยเสวียอาจจะไม่พอใจก็ได้ อันที่จริง เซียวเฟิงก็พอจะเข้าใจสิ่งที่ซีเหมินชุยเสวียคิดจะทำอยู่ อีกฝ่ายยังไม่รู้ว่าเขามาถึงที่นี่แล้ว ดังนั้นมาตรการรับมือครั้งนี้ เจ้าตัวคิดทบทวนไว้อย่างดีแล้วก่อนจะใช้มัน และเมื่อเทียบกับจำนวนที่เทพเจ้าสายฟ้าสามารถฆ่าได้ มันก็ถือว่าคุ้มค่า เพราะยังไงเสียคนจากเขตอื่นก็ไม่มีทางจะมาเยอะกว่าคนในเขตฮัวเซียได้หรอก ในขณะที่ปล่อยให้ซีเหมินชุยเสวียปกป้องชีวิตคนที่สามารถปกป้องได้ พวกคนที่รับหน้าที่ต่อสู้ก็ต่อสู้ไป แล้วตอนท้ายจำนวนคนตายก็จะเป็นที่ประจักษ์

เพราะงั้นแล้วเซียวเฟิงจึงตัดสินใจที่จะรีบออกจากจุดนี้ไปก่อนที่ซีเหมินชุยเสวียจะเห็นเขา ในเมื่อการเผชิญหน้ากับเทพเจ้าสายฟ้านั้นถือเป็นความตั้งใจของซีเหมินชุยเสวีย เขาก็จะปล่อยที่นี่ไว้ให้อีกฝ่ายจัดการ เซียวเฟิงเลือกที่จะเทเลพอร์ตไปยังเขตแดนอเมริกาเหนือผ่านเส้นทางข้ามเขตแดนที่อยู่เบื้องล่าง

ที่เขตแดนอเมริกาเหนือนี้มีช่องทางข้ามเขตแดนเพียงห้าเส้นทาง และแต่ละเส้นทางก็คล้าย ๆ กับของเขตฮัวเซียสี่เส้นทางนั้นอยู่ที่เขตแดนฝั่งใต้ครอบคลุมไปยังทิศตะวันออกและตะวันตก ส่วนอีกหนึ่งก็อยู่ที่ใจกลางเขต

แน่นอนว่าเซียวเฟิงเลือกที่จะเข้ามายังใจกลางของเขตเลย พลันเมื่อแสงสีขาวจางลง ภาพตรงหน้าของเขาก็เต็มไปด้วยผู้เล่นอีกครั้ง!