novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 เว็บสล็อต ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork888 UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai berlin777 nowbet

A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน - ตอนที่ 1764 ตระกูลสวี่

  1. Home
  2. A Record of a Mortal s Journey to Immortality คัมภีร์วิถีเซียน
  3. ตอนที่ 1764 ตระกูลสวี่
Prev
Next

“…หากมีสหายและอาตมาคอยปกป้อง จะต้องเปลี่ยนแปลงเขตแดนของผู้บำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นได้ไม่น้อยแน่” ภิกษุจินเย่ว์เอ่ยคำพูดชักชวนออกมามากมาย สีหน้าเคร่งขรึมขึ้น

หานลี่ได้ฟังใบหน้าก็เคร่งขรึมขึ้นหลายส่วน แต่หลังจากแววตาเปล่งประกายสองสามครา ก็ยังสั่นศีรษะอย่างช้าๆ

“แม้ว่าผู้แซ่หานจะเป็นหนึ่งในผู้บำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา และรู้แดนของผู้บำเพ็ญเพียรที่บินขึ้นมา แต่เรื่องนี้ไม่ใช่สิ่งที่พวกเราสองคนจะแก้ไขได้ ต่อให้ข้าน้อยยอมเข้าร่วมสมาคมอาวุโส ก็คงไม่มีประโยชน์มากนัก กลับจะตกอยู่ในการโต้แย้งกัน และที่ผู้แซ่หานเหยียบย่างเข้าสู่หนทางแห่งการเป็นเซียน ก็เพราะใฝ่หาชีวิตที่ยืนยาว แม้ว่าจะบรรลุระดับผสานอินทรีย์แล้ว แต่หนทางในการบินขึ้นไปยังแดนเซียนก็ยังอีกยาวไกล ไม่อาจแบ่งใจไปเรื่องอื่นได้”

“คาดไม่ถึงว่าสหายจะเป็นผู้บำเพ็ญเพียรที่ฝึกฝนอย่างหนัก อาตมาขอนับถือ! ในเมื่อสหายมีปณิธานอื่น และยิ่งไปกว่านั้นยังตัดสินใจแล้ว อาตมาก็จะไม่ชักจูงอันใดอีก สหายมาที่เมืองเทวะสวรรค์ในครั้งนี้ คงมีเรื่องสำคัญ ต้องการให้อาตมาช่วยหรือไม่” ภิกษุจินเย่ว์มองออกว่าหานลี่ตัดสินใจไปแล้ว จึงถอนหายใจออกมาเบาๆ แล้วไม่เอ่ยถึงเรื่องเรียนเชิญอีก

“ขอบพระคุณภิกษุที่มีเจตนาดี ผู้แซ่หานมาที่เมืองในครั้งนี้ แค่มาซื้อวัตถุดิบ นอกจากนี้ยังได้รับไหว้วานมาเรื่องหนึ่ง” หานลี่ประสานมือคารวะแล้วตอบกลับอย่างมีมารยาท

“หึๆ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้นี่เอง ทว่าหากสหายมีอันใดให้ช่วยเหลือ ก็บอกอาตมามาได้เลย ในเมืองเทวะสวรรค์ อาตมาช่วยได้แน่นอน” ภิกษุจินเย่ว์พยักหน้า

หานลี่ได้ฟัง ย่อมเอ่ยปากขอบคุณไม่หยุด

เวลาต่อจากนั้นหานลี่และภิกษุจินเย่ว์ก็ไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องไม่สำคัญอันใดอีก แต่แลกเปลี่ยนประสบการณ์ในการฝึกบำเพ็ญเพียรกัน

เรื่องนี้สำคัญกับผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ แทบจะเป็นสิ่งที่ต้องทำหลังจากพบหน้ากัน

ถึงอย่างไรเสียพลังยุทธ์มาถึงขั้นนี้ได้อย่างพวกเขา ก็แทบจะนับว่าเป็นผู้บำเพ็ญเพียรที่ถึงขีดจำกัดในชีวิตแล้ว ส่วนผู้บำเพ็ญเพียรระดับมหายานและระดับเคราะห์สวรรค์ในตำนานนั้น ก็เป็นเรื่องที่ใฝ่ฝันแต่ไปไม่ถึง

เผ่าต่างๆ ที่มีขนาดเล็กหน่อย ทั้งเผ่าก็ไม่รู้ว่าจะมีอยู่สักคนสองคนหรือไม่

ดังนั้นเมื่อไม่มีผู้ใดคอยชี้แนะ ผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ ก็ทำได้เพียงอาศัยการแลกเปลี่ยนจุดที่ยากลำบากในการฝึกบำเพ็ญเพียรกับผู้อื่น

ภิกษุจินเย่ว์ผู้นี้เป็นผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์แล้ว เข้าใกล้ขั้นสุดท้ายอีกก้าวเดียวเท่านั้น ประสบการณ์ในการฝึกบำเพ็ญเพียรจึงเหนือกว่าอาวุโสชีผู้ซึ่งเป็นผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์ขั้นต้นจะเทียบเทียมได้

ส่วนหานลี่ก็มีอิทธิฤทธิ์หลากหลาย เคล็ดวิชาพราหมณ์เที่ยงแท้มารศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นเคล็ดวิชาฝึกบำเพ็ญเพียรคู่ที่ไม่เคยมีผู้ใดฝึกฝนมาก่อน การฝึกฝนจึงค่อนข้างเป็นเอกลักษณ์

เมื่อทั้งสองแลกเปลี่ยนกันก็รู้สึกว่าได้ประโยชน์เป็นอย่างมาก คาดไม่ถึงว่าจะผ่านไปหนึ่งวันหนึ่งคืนโดยไม่รู้ตัว

เช้าตรู่วันที่สองภิกษุจินเย่ว์ถึงได้กล่าวลาอย่างเบิกบานใจ

หานลี่ยังคงกลับมาที่ชั้นบนสุดของหอคอย พลางนั่งสมาธิฝึกบำเพ็ญเพียรต่อ

สองสามวันต่อมาไม่มีผู้บำเพ็ญเพียรระดับผสานอินทรีย์คนอื่นๆ มาเยี่ยมเยียน ดูแล้วไม่ใช่มีธุระอื่น ก็คงรู้ว่าเขาไม่เข้าร่วมสมาคมอาวุโสจากปากของภิกษุจินเย่ว์ จึงไม่ได้ทำอันใดให้มากความ

หกวันต่อมา ยามที่ถึงวันที่เจ็ด ในที่คนที่เขารอคอยก็มาถึง

หานลี่ไม่รอให้หญิงรับใช้ด้านล่างรายงาน ก็ลุกขึ้นจากฟูก แล้วลอยลงมา

สาวใช้สองสามคนกำลังพูดคุยอันใดด้วยเสียงแผ่วเบาอยู่ที่ชั้นหนึ่ง เมื่อเห็นหานลี่ปรากฏตัว ก็ตกใจจนสะดุ้งโหยง ทยอยกันเข้ามาคารวะ

หานลี่โบกมือ แล้วออกคำสั่งอย่างราบเรียบ

“พวกเจ้าออกไปก่อน คนที่ข้ารอมาถึงแล้ว ไปเชิญนางเข้ามา”

เมื่อได้ยินคำพูดของสหาย สตรีผู้บำเพ็ญเพียรระดับสร้างปราณเหล่านั้นพลันตกตะลึง แต่ทันใดนั้นก็ตอบรับอย่างนอบน้อม แล้วเดินออกไปด้านนอกหอคอย

หานลี่นั่งลงบนตำแหน่งหลัก

หลังจากผ่านไปชั่วครู่ สาวใช้คนหนึ่งก็เป็นตัวแทน พาหญิงสาวหน้าตาขาวนวลคนหนึ่งเดินเข้ามา

หญิงสาวผู้นี้ร่างกายสูงผอม สวมชุดชาววังสีฟ้า นั่นก็คือ ‘เซียนสวี่’ ในปีนั้น

พลังยุทธ์ของนางอยู่ในระดับเทพแปลงแล้ว

“เป็นท่านอาวุโสหานจริงๆ ด้วย ท่านอาวุโสบรรลุระดับผสานอินทรีย์แล้ว!”

หานลี่มีหน้าตาแทบจะเหมือนกับเมื่อสองสามร้อยปีก่อน นางมองปราดเดียวก็จำหานลี่ได้ จึงรีบร้อนทำความเคารพหานลี่

ตอนนั้นหานลี่เห็นว่านางเป็นชนรุ่นหลังของเซียนวิญญาณน้ำแข็ง จึงดูแลนางเป็นอย่างดีและชี้แนะเรื่องการฝึกบำเพ็ญเพียรให้นาง

หญิงสาวผู้นี้จึงเคารพเลื่อมใสและรู้สึกซาบซึ้งใจต่อหานลี่มาโดยตลอด

ดังนั้นเมื่อนางกลับมาในเมือง เมื่อได้ยินคำพูดของชายร่างใหญ่ผู้พิทักษ์ยมโลกนิลและชายชราเคราสั้น คาดไม่ถึงว่าหานลี่จะมาปรากฏตัวที่เมืองเทวะสวรรค์อีกครั้ง และกำลังตามหานางก็รีบมาที่หอรวมเซียนทันที

แน่นอนว่าเรื่องที่หานลี่บรรลุระดับผสานอินทรีย์ หญิงสาวผู้นี้ได้ฟังก็ตกตะลึงเช่นกัน ระดับความตกตะลึงนั้นไม่น้อยไปกว่าชายชราแซ่เย่ว์เลยสักนิด

แต่เรื่องนี้มันน่าเหลือเชื่อจริงๆ หากไม่เห็นกับตานางก็ยังเชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง

ยามนี้ได้พบหานลี่ และสัมผัสได้ถึงกลิ่นอายอันแข็งแกร่งของหานลี่ แน่นอนว่าในใจของนางจึงไร้ข้อกังขาใดๆ อีก ทันใดนั้นก็รีบร้อนเข้ามาคารวะหานลี่ด้วยความตกตะลึงระคนดีใจ

“สหายไม่ต้องมากพิธี เซียนและข้านับว่าเป็นสหายเก่ากัน นั่งลงคุยกันเถิด” หานลี่เอ่ยพร้อมกับฉีกยิ้มน้อยๆ ให้ชนรุ่นหลังของเซียนวิญญาณน้ำแข็งผู้นี้

“เช่นนั้นชนรุ่นหลังต้องขอเกินเลยแล้ว!” เซียนสวี่ลังเลเล็กน้อย แล้วเชื่อฟังคำสั่งอย่างนอบน้อม

หญิงสาวผู้นี้นั่งลงบนเก้าอี้ด้านข้างหานลี่

ยามนี้สาวใช้พลันถือถ้วยชาเข้ามา เทชาวิญญาณที่หอมกรุ่นให้สองถ้วย

“พวกเจ้าออกไปให้หมด หากไม่มีคำสั่งของข้า อย่าให้ผู้ใดเข้ามา” หานลี่ออกคำสั่งกับสาวใช้ผู้นั้น

“เจ้าค่ะ!” สาวใช้รับคำ แล้วถอยออกไปอย่างเคารพ

หานลี่ถึงได้สะบัดแขนเสื้อไปทางประตูใหญ่เล็กน้อย

ชั่วขณะนั้นประตูหอคอยพลันมีหมอกลำแสงสีขาวเปล่งแสงสว่างวาบ แล้วค่อ