novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • มังงะ
  • หวยออนไลน์
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
lalikabet168
lalikabet66 คาสิโนสด boston777 แทงบอลออนไลน์ เว็บแทงบอล บาคาร่า แทงงหวย เว็บพนัน สมัครบาคาร่าออนไลน์ Empire777 huayhit168 สมัคร ufabet แทงบอล สล็อตเว็บตรง kodpung88 แทงบาคาร่า PGK44 nexobet สล็อตเว็บไหนแตกดี แทงหวย24 เว็บคาสิโน คาสิโนออนไลน์ บาคาร่าออนไลน์ คาสิโน คาสิโนออนไลน์

กระบี่จงมา! Sword of Coming - บทที่ 943.1 ฝนกำลังจะตกแล้ว

  1. Home
  2. กระบี่จงมา! Sword of Coming
  3. บทที่ 943.1 ฝนกำลังจะตกแล้ว
Prev
Next

‘ทำ​อย่าง​ที่​ข้า​อยาก​ทำ​’ ช่างกล่าว​ได้ดี​นัก​

สมกับ​เป็น​การกระทำ​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ ฟ้าดิน​ไร้​พันธนาการ​อย่าง​แท้จริง​

และ​ในขณะที่​เฉิน​ผิง​อัน​เตรียม​จะออก​ไป​จาก​ศาลา​นั้น​เอง​ ลู่​เฉิน​ก็​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ได้ยิน​มาว่าที่​สำนัก​กระบี่​ชิงผิง​ของ​พวก​เจ้ามีภูเขา​โฉว​โหม​วอ​ยู่​ด้วย​หรือ​”

เฉิน​ผิง​อัน​พยักหน้า​ “ภูเขา​เซียน​ตู​คือ​ภูเขา​หลัก​ ภูเขา​โฉว​โหม​ว​และ​ภูเขา​อวิ๋นเจิง​คือ​ภูเขา​รอง​ เป็น​สถานการณ์​ของ​สามภูเขา​ ใน​เมื่อ​ชุยตง​ซาน​คือ​เจ้าสำนัก​ของ​สำนัก​เบื้องล่าง​ก็​ย่อม​ต้อง​มีแผนการ​เป็น​ของ​ตัวเอง​”

ตาม​คำกล่าว​ของ​ชุยตง​ซาน​ ใน​เมื่อ​ฟ้ากำลังจะ​เปลี่ยนสี​ก็​ควรจะ​เตรียมการ​ล่วงหน้า​ (ภาษาจีน​คือ​เว่ยอวี่​โฉว​โหม​ว)​ ควร​ต้อง​มีการวางแผน​แต่​เนิ่นๆ​

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​ “ก่อนหน้านี้​ไม่ได้​ไป​เยือน​ใบ​ถงทวีป​ ผิน​เต้า​แค่​เห็น​ไกลๆ​ จาก​บน​มหาสมุทร​ ตั้ง​ป้าย​ศิลา​บน​ยอดเขา​เป็น​คำ​ว่า​ ‘อู๋​เฉาปู้​ชู’ (หาก​คน​อย่าง​พวกเรา​ไม่ออกแรง​ ถ้าอย่างนั้น​ชาวบ้าน​จะทำ​อย่างไร​) และ​ ‘เทียน​ตี้จื่อ​ชี่’ (ปราณ​ม่วง​ใน​ฟ้าดิน​) ลายมือ​บน​ป้าย​ แค่​มอง​ก็​รู้​ว่า​เป็น​ลายมือ​ของ​ชุยตง​ซาน​ แม้รูปลักษณ์ภายนอก​จะไม่เหมือน​ลายมือ​ของ​ซิ่ว​หู่​อีกแล้ว​ แต่กลับ​รักษา​ความเหมือน​ทาง​จิตวิญญาณ​เอาไว้​ได้​หลาย​ส่วน​ หลุดพ้น​จาก​รูปแบบ​ตายตัว​ ตาม​คำกล่าว​ของ​บน​ภูเขา​ นี่​ก็​คือ​คราบ​ร่าง​เซียน​อย่างหนึ่ง​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​หันหน้า​มายิ้ม​เอ่ย​ว่า​ “ผิน​เต้า​อยู่​ที่นี่​ต้อง​ขอ​อวยพร​ล่วงหน้า​ให้​เฉาฉิงหล่า​งลูกศิษย์​ผู้​เป็นที่​ภาคภูมิใจ​ของ​เจ้าปิด​ด่าน​ได้​สำเร็จ​ สร้าง​โอสถ​ได้​ระหว่าง​ขั้น​ที่หนึ่ง​กับ​ขั้น​ที่สอง​ นี่​ดีมาก​แล้ว​ ไม่ต้อง​ฉาย​ประกาย​เฉียบคม​มากเกินไป​ ทั้ง​ยัง​รักษา​ความเป็นไปได้​ไว้​ได้​อีก​นับไม่ถ้วน​”

เฉิน​ผิง​อัน​โล่งอก​ พยักหน้า​เอ่ย​ว่า​ “ดีมาก​จริงๆ​”

เล่าลือ​กัน​ว่า​ขั้น​หนึ่ง​ของ​การ​สร้าง​โอสถ​คือ​คุณสมบัติ​ของ​บิน​ทะยาน​ที่​ได้รับ​การ​ยอมรับ​โดย​ทั่วกัน​ มีน้อย​ยิ่งกว่า​น้อย​ ขั้น​สอง​ก็​คือ​คุณสมบัติ​ของ​ห้า​ขอบเขต​บน​ แต่​โดยมาก​แล้ว​ผู้ฝึก​ตน​ใหญ่​บน​ยอดเขา​ของ​ใต้​หล้า​ไพศาล​ใน​ทุกวันนี้​ ระดับ​ขั้น​ของ​โอสถ​ทอง​ใน​ช่วงแรก​ อันที่จริง​ก็​เป็น​แค่​ขั้น​สอง​เท่านั้น​

ลู่​เฉิน​ถาม “เกี่ยวกับ​ข้า​ ฉีจิ้งชุน​ ชุย​ฉาน​ และ​ยังมี​ชุยตง​ซาน​ พวกเขา​ต่าง​ก็​พูด​อะไร​บางอย่าง​กับ​เจ้าใช่หรือไม่​ ยกตัวอย่างเช่น​เตือน​เจ้าเรื่อง​การคบค้าสมาคม​กับ​ข้า​?”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “อาจารย์​ฉีเอ่ย​แค่​ประโยค​เดียว​ว่า​ ‘วิญญูชน​สามารถ​รังแก​ได้​ด้วย​วิธีการ​ที่​สมเหตุสมผล​’ ไม่ควร​จงใจเล่นงาน​เจ้า แค่​เผชิญหน้า​กับ​เรื่อง​นั้น​เท่านั้น​”

ความนัย​ใน​ประโยค​นี้​ก็​คือ​ เจ้าลู่​เฉิน​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงในเวลานั้น​ยัง​ไม่ถึงขั้น​ทำให้​อาจารย์​ฉีต้อง​จงใจเอ่ย​สั่งความ​อะไร​กับ​เด็กหนุ่ม​แห่ง​ตรอก​หนี​ผิง​ในเวลานั้น​เป็นพิเศษ​

แล้ว​นับประสาอะไร​กับ​ที่​ประโยค​นี้​ ความตั้งใจ​แรก​สุด​ที่​ใหญ่​ที่สุด​ หรือ​ควรจะ​พูดว่า​ความหวัง​ของ​อาจารย์​ฉี ก็​คือ​ให้​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ได้​รู้​ความจริง​ในอนาคต​ อย่า​ได้​ดึงดัน​ อย่า​ได้​ละอายใจ​เกินไป​

ลู่​เฉิน​พึมพำ​ว่า​ “เรื่อง​ที่​ฉีจิ้งชุน​ยัง​ไม่ใส่ใจ แล้ว​เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​จะคิดเล็กคิดน้อย​ไป​ทำไม​ หาก​ไม่เป็น​เพราะ​เจ้ามอง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงเป็น​ศัตรู​เช่นนี้​ ด้วย​การกระทำ​ที่​เจ้าทำ​ไป​ใน​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​ ไป​เยือน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ มีที่ไหน​ที่จะ​ไม่ใช่แขก​ผู้สูงศักดิ์​บ้าง​? ถอย​ไป​พูด​หมื่น​ก้าว​ ขอ​แค่​เจ้าไม่ตั้งตัว​เป็น​ปรปักษ์​กับ​ศิษย์​พี่​อวี๋​ของ​ผิน​เต้า​ ต่อให้​แค่​สู้ตาย​กับ​เจียง​จ้าว​หมอ​และ​ผัง​ติ่ง​ให้​รู้แล้วรู้รอด​ วันหน้า​เจ้าไป​เยือน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงก็​ยัง​ได้​เป็น​แขก​ผู้สูงศักดิ์​ของ​สี่นคร​สิบเอ็ด​หอ​เรือน​ที่​เหลือ​อยู่ดี​ไม่ใช่หรือ​ เจ้าไม่รู้​อะไร​ ไม่รู้​หรอ​กว่า​มีพี่สาว​เทพธิดา​กี่มากน้อย​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงที่​สงสัย​ใคร่รู้​และ​เลื่อมใส​ใน​ตัว​ของ​ ‘อิ่น​กวาน​เฉินสือ​อี​’ ที่​อายุ​น้อยที่สุด​ใน​บรรดา​ผู้​ที่​ได้​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ใน​ประวัติศาสตร์​หมื่น​ปี​”

เฉิน​ผิง​อัน​แสร้ง​ทำเป็น​ไม่ได้ยิน​ เพียงแค่​พูด​กับ​ตัวเอง​ว่า​ “ชุยตง​ซาน​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​บอ​กว่า​ หาก​ในอนาคต​อาจารย์​จะตั้งตัว​เป็น​ศัตรู​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงจริงๆ​ ก็​จะต้อง​เรียนรู้​การ​เลือก​ผัก​จาก​พ่อครัว​เฒ่าด้วย​การ​เด็ด​ลู่​เฉิน​ออก​ก่อน​”

เห็นได้ชัด​ว่า​ความหมาย​ของ​ชุยตง​ซาน​เรียบง่าย​อย่างยิ่ง​ หาก​อาจารย์​อยาก​จะถามกระบี่​กับ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ทาง​ที่​ดี​ที่สุด​ก็​ให้​อ้อม​ผ่าน​ลู่​เฉิน​ไป​ ตัด​แบ่ง​เจ้าลัทธิ​สามแห่ง​ป๋า​ยอ​วี้​จิงออกจาก​ป๋า​ยอ​วี้​จิงทั้ง​แห่ง​ก่อน​

มีเพียง​ชิงลงมือ​เช่นนี้​ถึงจะมีโอกาส​คว้า​ชัยชนะ​ใน​ช่วง​ท้าย​

“ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ คน​ที่​เป็น​กุญแจ​สำคัญ​ที่สุด​ผู้​นั้น​ เจ้าไม่อาจ​ละเลย​ไป​ได้​นะ​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​บาง​ๆ เอ่ย​ว่า​ “ฉีจิ้งชุน​คือ​วิญญูชน​ผู้​เที่ยงตรง​ ต่อให้​มรรค​กถา​ของ​เขา​จะสูงแค่​ไหน​ ความรู้​จะยิ่งใหญ่​แค่​ไหน​ ก็​ไม่มีทาง​กระทำการ​อย่าง​คน​ถ่อย​ได้​ แต่​ศิษย์​พี่​ชุย​ฉาน​ของ​พวก​เจ้ากลับ​ไม่เหมือนกัน​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​ถาม “นอกจาก​บรรพ​จารย์​สามลัทธิ​แล้ว​ ลู่​เฉิน​ก็​มีคน​ที่​กริ่งเกรง​ด้วย​หรือ​? ถึงขั้น​กริ่งเกรง​ว่า​คน​ผู้​นี้​เอ่ย​ประโยค​ใด​ไป​บ้าง​แล้วด้วย​?”

ลู่​เฉิน​พยักหน้า​รับ​ด้วย​สีหน้า​จริงจัง​ “หาก​ชุย​ฉาน​ไม่แบ่ง​สมาธิไป​สนใจ​เรื่อง​ใน​ใต้​หล้า​ ให้​เขา​พุ่ง​เป้า​เล่นงาน​ใคร​บางคน​โดยเฉพาะ​ ถ้าอย่างนั้น​คน​ที่​เขา​จะเล่นงาน​นี้​ ต่อให้​เป็น​เจิ้งจวี​จงก็​ต้อง​เจอ​กับ​เรื่อง​ยากลำบาก​เหมือนกัน​ อย่าง​น้อย​ก็​ต้อง​เป็น​อุปสรรค​ขัดขวาง​กันและกัน​ เพราะ​ชุย​ฉาน​ทำ​อะไร​มัก​ใช้แนวทาง​ที่​ไม่ต่าง​จาก​การ​ปฏิบัติตัว​ของ​ผิน​เต้า​”

ลู่​เฉิน​ยิ้ม​จน​ตาหยี​ สอง​มือ​กุม​หมัด​เขย่า​เบา​ๆ “ขอร้อง​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​โปรด​ไขข้อข้องใจ​ให้​ผิน​เต้า​ที​ ไม่อย่างนั้น​กลับ​ไป​ถึงป๋า​ยอ​วี้​จิงแล้ว​ ผิน​เต้า​ก็​คงจะ​ยัง​กิน​ไม่ได้​นอนไม่หลับ​อยู่​เหมือนเดิม​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “เจ้าเอง​ก็​เดา​ออก​แล้ว​ ไย​ต้อง​ให้​ข้า​เปลือง​น้ำลาย​พูด​ด้วย​”

“ชุย​ฉาน​อำมหิต​ยิ่งนัก​!”

ลู่​เฉิน​ลูบ​กวาน​ดอกบัว​เหนือศีรษะ​ “เฉิน​ผิง​อัน​ เจ้าด้อย​กว่า​ชุย​ฉาน​เยอะ​เลย​นะ​”

แผนการ​ของ​ชุย​ฉาน​ก็​คือ​หลังจากที่​อิ่น​กวาน​หนุ่ม​นำพา​คน​ไป​เยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​ใต้​หล้า​เปลี่ยว​ร้าง​ได้​สำเร็จ​แล้ว​ ยกตัวอย่างเช่น​หลังจากที่​เฉิน​ผิง​อัน​ใช้กระบี่​ฟัน​เปิด​ภูเขา​ทัว​เย​ว่​ ก่อน​จะย้าย​ดวงจันทร์​เฮ่าไฉ่ไป​ไว้​ที่​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​

อยู่ดีไม่ว่าดี​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​พลัน​ร่วมมือ​กับ​หนิง​เหยา​ ฉีถิงจี้ สิงกวาน​หาว​ซู่ ลู่​จือ!​

ร่วมกัน​จัดการ​ลู่​เฉิน!​

บวก​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​เล่ม​นั้น​ของ​ลู่​จือ​ พูดถึง​แค่​ศักยภาพ​ที่​แท้จริง​ใน​การ​โจมตี​ก็​สามารถ​มอง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​คน​หนึ่ง​ได้​เลย​

ถ้าอย่างนั้น​ก็​เท่ากับ​มีเฉิน​ผิง​อัน​บวก​กับ​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​อีก​สี่คน​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ผู้ฝึก​กระบี่​ด้วย​!

อยู่​นอก​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​และ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ล้อม​สังหาร​ลู่​เฉิน​ที่​เป็น​ขอบเขต​สิบ​สี่คน​หนึ่ง​

ลู่​เฉิน​พูด​อย่าง​สะท้อนใจ​ “ชุย​ฉาน​เล่า​แผนการ​นี้​ให้​เจ้าฟังใน​ครั้งสุดท้าย​ที่​เขา​ปราก​ฎตัว​ที่​กำแพงเมือง​ปราณ​กระบี่​กระมัง​? อีก​ทั้ง​ด้วย​ขอบเขต​ของ​เจ้าในเวลานั้น​ก็​ยาก​มาก​ที่จะ​ปิด​ฟ้าข้าม​มหาสมุทร​ ชุย​ฉาน​ต้อง​ใช้เวท​ลับ​เฉพาะ​บางอย่าง​ล่วงหน้า​ก่อน​แล้ว​ พูด​เรื่อง​นี้​ให้​เจ้าฟังก่อน​ จากนั้น​ก็​ให้​เจ้าลืม​มัน​ไป​ สุดท้าย​ยัง​สามารถ​ทำให้​เจ้าจำเรื่อง​นี้​ได้​ใน​ช่วงเวลา​ใด​เวลา​หนึ่ง​ ถึงจะทำให้​เจ้าแตกหัก​กับ​ข้า​ใน​ชั่วพริบตา​ ข้าม​แม่น้ำ​รื้อ​สะพาน​ เกิด​ใจสังหาร​”

ต่อให้​ไม่พูดถึง​เฉิน​ผิง​อัน​ที่​ได้​ขอบเขต​กลับคืน​ พูดถึง​แค่​การ​ร่วมมือ​กัน​ล้อม​สังหาร​ของ​ผู้ฝึก​กระบี่​ขอบเขต​บิน​ทะยาน​สี่คน​ โดยเฉพาะอย่างยิ่ง​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ท่าน​หนึ่ง​ที่​เคย​แกะสลัก​ตัวอักษร​ลง​บน​หัว​กำแพงเมือง​ และ​ยังมี​ผู้​ครอง​ใต้​หล้า​แห่ง​ใหม่​…บวก​กับ​กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​ ‘เป่ย​โต้​ว’​ เล่ม​นั้น​ของ​ลู่​จือ​ สิงกวาน​หาว​ซู่ที่​ไม่สน​ความเป็นความตาย​ยาม​ถามกระบี่​กับ​คนอื่น​ ทั้ง​ยัง​เป็น​ช่วงเวลา​ที่​สำคัญ​บางอย่าง​ กระบี่​บิน​แห่ง​ชะตาชีวิต​สอง​เล่ม​นั้น​ของ​เฉิน​ผิง​อัน​ก็​ไม่แน่​ว่า​อาจจะ​เป็นตัว​ที่​ตัดสิน​ผล​แพ้ชนะ​ได้​

ใคร​เจอ​แล้ว​รับได้​ไหว​บ้าง​?

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบงัน​ไม่ตอบ​ ไม่ปฏิเสธ​ อันที่จริง​ก็​คือ​การ​ยอมรับ​อย่างหนึ่ง​แล้ว​

ส่วน​ข้อ​ที่ว่า​ทำไม​เฉิน​ผิง​อัน​ถึงตัดสินใจ​ไม่ทำ​เรื่อง​นี้​ นั่น​ก็​เพราะ​เขา​เคย​ทำการ​หยั่งเชิง​ไป​ครั้งหนึ่ง​ สุดท้าย​เฉิน​ผิง​อัน​ได้​ผลลัพธ์​ที่​เหนือ​จาก​การคาดการณ์​

ตอนนั้น​เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​

การ​เดินทาง​มาเยือน​พื้นที่​ใจกลาง​ของ​เปลี่ยว​ร้าง​ครั้งนี้​ ผู้​ปกป้อง​มรรคา​ที่​เดินทาง​ร่วมกับ​อิ่น​กวาน​เฉิน​ผิง​อัน​ คือ​ลู่​เฉิน​แห่ง​ไพศาล​

และ​ลู่​เฉิน​ก็​มีสีหน้า​จริงจัง​เคร่งขรึม​อย่าง​ที่​ไม่เคย​เป็นมา​ก่อน​ ตอบรับ​ด้วย​ประโยค​หนึ่ง​อย่าง​จริงใจ​ว่า​

ลู่​เฉิน​แห่ง​ไพศาล​ เป็นเกียรติ​ที่​ได้​เดินทาง​ร่วมกัน​

นาที​นั้น​เฉิน​ผิง​อัน​มั่นใจ​อย่าง​ถึงที่สุด​ว่า​ลู่​เฉิน​ไม่ได้​มีการเสแสร้ง​ใดๆ​ คน​ผู้​หนึ่ง​ที่​เป็น​เจ้าลัทธิ​สามของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงมาหลาย​พันปี​ ยอมรับ​ใน​สถานะ​คน​ของ​ ‘ไพศาล​’ ของ​ตัวเอง​อย่าง​จริงใจ​ ยินดี​มอง​ใต้​หล้า​ไพศาล​เป็น​บ้านเกิด​ที่​แท้จริง​ของ​ตัวเอง​

ลู่​เฉิน​เหลือบมอง​เฉิน​ผิง​อัน​

ยัง​ดี​ที่​เจ้าหมอ​นี่​เหมือน​ฉีจิ้งชุน​มากกว่า​ คิด​จะเอาอย่าง​ชุย​ฉาน​กลับ​ยัง​เลียนแบบ​ได้​ไม่เหมือน​พอ​

จะว่า​ไป​แล้ว​ทฤษฎี​คุณ​ความชอบ​และ​ลาภ​ยศ​ที่​ชุย​ฉาน​แห่ง​สาย​เห​วิน​เซิ่งเสนอ​ออกมา​ เมื่อ​เทียบ​กับ​ความรู้​รากฐาน​ของ​ซิ่ว​ไฉเฒ่าแล้ว​ ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​แค่​ ‘วิชา​เล็ก​ๆ’ วิชา​หนึ่ง​เท่านั้น​ ชุย​ฉาน​สามารถ​ศึกษา​ทฤษฎี​นี้​ไป​ให้​ถึงขีดสุด​ แต่​เฉิน​ผิง​อัน​กลับ​ได้​แค่​เรียนรู้​โดย​เหมือน​ทาง​รูปลักษณ์​มาอย่าง​ถูไถเท่านั้น​ ขาด​นิสัยใจคอ​ครึ่งหนึ่ง​ของ​ชุย​ฉาน​ไป​ ดังนั้น​อีก​ครึ่งหนึ่ง​ที่​เหลือ​จึงไม่ใช่สิ่งที่​เฉิน​ผิง​อัน​อยาก​จะเรียนรู้​ก็​เรียนรู้​ได้​แล้ว​

ใน​เมื่อ​ใต้เท้า​อิ่น​กวาน​ปฏิบัติ​ต่อ​ผู้อื่น​ด้วย​ความจริงใจ​เช่นนี้​ ถ้าอย่างนั้น​ผิน​เต้า​ก็​ไม่ควรจะ​ปิดบัง​อำพราง​อีกต่อไป​แล้ว​

เห็น​เพียง​ว่า​ลู่​เฉินยก​ชาย​แขน​เสื้อ​ข้าง​หนึ่ง​ขึ้น​ ประกบ​สอง​นิ้ว​ มีสตรี​เรือน​กาย​เล็ก​เท่า​เมล็ด​งาสอง​คน​ปราก​ฎขึ้น​มา พวก​นาง​เดิน​นวยนาด​อ้อม​เสาศาลา​เข้ามา​

คน​หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​สตรี​วัยกลางคน​มวยผม​ทรง​เมฆา มีสง่าราศี​ สวม​เสื้อ​สีขาว​ราก​บัว​กระโปรง​สีเขียว​ต้น​หอม​ เท้า​สวม​รองเท้า​ปัก​ลาย​ดอกไม้​

ก็​คือ​สตรี​สอง​คน​ที่​ไป​จุด​ธูป​ไหว้พระ​ใน​ศาล​เทพ​ลำคลอง​เฝิน​เห​อ​ซึ่งเดิน​ออก​มาจาก​ใน​ประตู​วงเดือน​ ตอนที่​ลู่​เฉิน​เห็น​สตรี​ทั้งสอง​ ‘หลัง​จบเรื่อง​’ และ​ ‘ครั้งแรก​’ ก็ได้​ท่อง​ประโยค​หนึ่ง​ว่า​มอง​เหมือน​ดอก​หลี​แต่​ไม่ใช่ดอก​หลี​ มอง​เหมือน​ดอก​ซิ่งแต่​ไม่ใช่ดอก​ซิ่ง…

นี่​ก็​หมายความว่า​เฉิน​ผิง​อัน​ทุ่มเท​ความคิด​จิตใจ​เชิญลู่​เฉินลง​โอ่ง​เป็น​เรื่องจริง​ก็​จริง​ เป็นเรื่อง​เท็จ​ก็​เท็จ​ อยู่​แค่​ว่า​ลู่​เฉิน​อารมณ์ดี​หรือไม่​ จะพูด​แฉหรือไม่​

เพียงแค่​เพราะ​เฉิน​ผิง​อัน​ที่นั่ง​เฝ้าตอ​รอ​กระต่าย​ก่อน​ จากนั้น​ค่อย​จับ​ตะพาบ​ใน​ไห​ที่​ริม​สระน้ำ​ต่างหาก​จึงจะเป็น​นก​ใน​กรง​ที่อยู่​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ของ​ลู่​เฉิน​ตัว​นั้น​ มอง​ดูเหมือน​ตัก​แตน​จับ​จักจั่น​นก​ขมิ้น​รอ​อยู่​ด้านหลัง​ แต่​แท้จริง​แล้ว​กลับเป็น​หนังสติ๊ก​ที่​รอ​อยู่​

แต่​ก็​ดูเหมือนว่า​เฉิน​ผิง​อัน​จะคาดเดา​เรื่อง​นี้​ไว้​ได้​ล่วงหน้า​นาน​แล้ว​ จิต​แห่ง​มรรคา​จึงไม่มีการ​กระเพื่อม​ขึ้น​ลง​ เป็น​ดั่ง​บ่อน้ำ​โบราณ​ที่​ไร้​คลื่น​อยู่​ตลอด​

ลู่​เฉิน​ถาม “ตอนนั้น​ฉีถิงจี้เคย​แอบ​เตือน​เจ้าว่า​ เขา​ยินดี​จะให้การ​ช่วยเหลือ​ด้วย​ใช่ไหม​?”

ด้วย​วิธีการ​ของ​ชุย​ฉาน​ต้อง​มีเหตุผล​มาก​พอที่จะ​พูด​โน้มน้าว​ฉีถิงจี้ได้​นาน​แล้ว​ ทำให้​เซียน​กระบี่​ผู้อาวุโส​ท่าน​นี้​ยอม​เรียก​ ‘ปิง​เจี่ย’​ เล่ม​นั้น​ออกมา​ส่งลู่​เฉิน​ออกเดินทาง​ด้วย​ความยินยอมพร้อมใจ​อย่าง​แน่นอน​

เฉิน​ผิง​อัน​ยังคง​ไม่เอ่ย​อะไร​

ลู่​เฉิน​เอนหลัง​พิง​เสาของ​ศาลา​ “เฉิน​ผิง​อัน​ พูด​กัน​ด้วย​มโนธรรม​ใน​ใจ เจ้าเอง​ลอง​ว่า​มาสิว่า​ผิน​เต้า​ควรจะ​กริ่งเกรง​ซิ่ว​หู่​ผู้​นี้​หรือไม่​?”

เฉิน​ผิง​อัน​เงียบ​ไป​พักใหญ่​ ก่อน​จะเปิดปาก​พูดว่า​ “ได้ยิน​มาตลอด​ว่า​เจ้ามีห้า​ความฝัน​เจ็ด​จิต​ธรรม​ แต่ละ​อย่าง​ล้วน​เกิด​จาก​การ​จำแลง​ของ​มหา​มรรคา​ ลี้ลับ​มหัศจรรย์​ยิ่ง​ เล่าลือ​กัน​ว่า​เจ็ด​จิต​ธรรม​แบ่ง​ออก​เป็น​ไก่​ไม้ ต้น​ชุน​ซู่ ตัวตุ่น​ คุ​นเผิง​ นก​ขมิ้น​ นก​ยวน​ฉู ผีเสื้อ​”

ลู่​เฉิน​สอด​สอง​มือ​ไว้​ใน​ชาย​แขน​เสื้อ​ ยิ้ม​เอ่ย​ “ความชำนาญ​ที่​เป็น​วิชา​ก้น​กรุ​เช่นนี้​จะบอก​ให้​คนอื่น​รู้​ง่ายๆ​ ไม่ได้​เด็ดขาด​ ก่อนหน้านี้​เพราะ​เป็น​คนหนุ่ม​อารมณ์​วู่วาม​ เลือดร้อน​ๆ พุ่ง​ขึ้น​หัว​ก็​สน​แต่​หัว​ไม่สน​บั้นท้าย​ เลย​ให้​เจ้ายืม​มรรค​กถา​ของ​ทั้ง​ร่าง​ไป​ แต่​ผิน​เต้า​ย่อม​ต้อง​ทำการ​ ‘ผนึก​ภูเขา​’ ไว้​บ้าง​เล็กน้อย​ หาก​ถูก​เจ้าที่​ชอบ​คิด​ตะวันออก​คิด​ตะวันตก​คว้า​จับ​จุดอ่อน​เอาไว้​ได้​ ผลลัพธ์​ที่​ตามมา​ย่อม​เลวร้าย​จน​มิอาจ​คาดเดา​”

พูด​มาถึงตรงนี้​ ลู่​เฉิน​ก็​ถามหยั่งเชิง​ว่า​ “คำกล่าว​ที่ว่า​ ‘คิด​ตะวันออก​คิด​ตะวันตก​’ ของ​ผิน​เต้า​คือ​หนึ่ง​คำ​สอง​ความหมาย​ เจ้าฟังออก​ไช่ไหม​?”

ลู่​เฉิน​พูดถึง​ปราณ​ม่วง​มาจาก​ตะวันออก​ มรรค​กถา​อยู่​ที่​ตะวันออก​ ดินแดน​พุทธะ​สุขาวดี​ พระธรรม​อยู่​ที่​ตะวันตก​ เจ้าเฉิน​ผิง​อัน​คือ​ลูกศิษย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ ความ​รู้อยู่​ใน​พื้นที่​ตรงกลาง​พอดี​

เฉิน​ผิง​อัน​เหล่​ตา​มอง​ลู่​เฉิน​

ลู่​เฉิน​ทอดถอนใจ​ “ช่วยไม่ได้​นี่​นา​ พูดคุย​กับ​คนโง่​อย่าง​สหาย​ชิงถงและ​นักพรต​เนิ่น​มาก​เข้า​ ทำเอา​ผิน​เต้า​มัก​รู้สึก​ว่า​หาก​ไม่พูด​ให้​ชัดเจน​ก็​เท่ากับ​ว่าที่​พูด​ไป​นั้น​เปลือง​น้ำลาย​เปล่า​ ยังคง​เป็นการ​พูดคุย​กับ​เจ้าที่​ไม่เปลือง​แรง​จริง​เสีย​ด้วย​”

เฉิน​ผิง​อัน​ยิ้ม​เอ่ย​ “ได้ยิน​มาว่า​นัก​รพ​ต​ซุน​มีคำวิจารณ์​ที่​ยอดเยี่ยม​ต่อ​เจ้า”

ลู่​เฉิน​สอด​สอง​มือรอง​ไว้​ใต้​ท้ายทอย​ เอ่ย​อย่าง​เกียจคร้าน​ว่า​ “คือ​คำ​ว่า​ลู่​เฉิน​ ‘ใคร​ก็​สู้ไม่ได้​ สู้ใคร​ก็​ไม่ได้​’ ที่​มอง​เหมือน​เป็น​คำ​ซ้ำน่ะ​หรือ​?”

หาก​เปลี่ยน​มาเป็น​ว่า​ลู่​เฉิน​สู้ใคร​ก็​ไม่ได้​ ใคร​ก็​สู้ลู่​เฉิน​ไม่ได้​ อันที่จริง​ความหมาย​ก็​จะง่าย​ขึ้น​มาก​แล้ว​

เฉิน​ผิง​อัน​เอ่ย​เนิบ​ช้าว่า​ “ฝัน​เป็น​อาจารย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​เจิ้งห่วน​ ละโมบ​ยึดครอง​คุณ​ความชอบ​ของ​คนอื่น​มาเป็นคุณ​ความชอบ​ของ​ตัวเอง​ สุดท้าย​เลือก​ที่จะ​ฆ่าตัวตาย​ ฝัน​หมอน​กระดูก​ซ้อน​ฝัน​ ดูแคลน​ความสุข​ของ​การ​ได้​ตั้งตัว​เป็น​กษัตริย์​ ฝัน​เป็นต้น​ลี่​ (ต้น​โอ้​ค)​ มีชีวิต​ ฝัน​เป็น​ห​ลิง​กุย​ตาย​ ฝัน​ว่า​กลายร่าง​เป็น​ผีเสื้อ​ไม่รู้​ว่า​ใคร​เป็น​ใคร​ ห้า​ความฝัน​นี้​ต่าง​ก็​มีการ​จำแลง​บน​มหา​มรรคา​ หนึ่ง​ใน​นั้น​คือ​เจิน​เห​ริน​กระดูก​ขาว​ที่​ออก​ท่อง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ที่​ชัดเจน​ที่สุด​ ทว่า​ตั้งแต่​แรกเริ่ม​ ดู​จาก​บันทึก​ประวัติศาสตร์​ของ​คฤหาสน์​หลบ​ร้อน​และ​สวน​กง​เต๋อ​ศาล​บุ๋น​ ดูเหมือนว่า​คน​ทั่ว​ทั้ง​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​จะไม่มีใคร​รู้​ว่า​ นอกจาก​เจ็ด​วัตถุ​ของ​จิต​ธรรม​แล้ว​ยังมี​ห้า​ความฝัน​ที่​ลี้ลับ​มหัศจรรย์​มาก​ยิ่งกว่า​อยู่​ด้วย​”

“เพื่อ​ไม่ต้อง​ลงมือ​ต่อสู้​กับ​คนอื่น​ ก็ได้​แต่​แสดง​พละกำลัง​ออกมา​ให้​เห็น​สัก​สอง​สามส่วน​ เพื่อให้​อีก​ฝ่าย​ยอม​ถอย​ไป​เอง​ หลีกเลี่ยง​ไม่ให้​เป็นการ​ทำลาย​ความปรองดอง​ของ​กันและกัน​”

ลู่​เฉิน​หัวเราะ​ร่า​พลาง​ยก​มือขึ้น​ งอ​ข้อมือ​ลง​เล็กน้อย​ “ข้อพิพาท​หลายอย่าง​ที่​ไม่ได้​สำคัญ​อะไร​ กลัว​เรื่อง​อะไร​ที่สุด​? ก็​กลัว​ว่า​อีก​ฝ่าย​จะรู้สึก​ว่า​ใน​เมื่อ​แตกหัก​กัน​อย่าง​สิ้นเชิง​แล้ว​ ใน​สมอง​ก็​มีแต่​คำ​ว่า​ไม่ทำ​คือ​ไม่ทำ​ แต่​พอ​ทำ​แล้วก็​จะไม่ยอม​เลิกรา​ หาก​อีก​ฝ่าย​ไม่คิด​แบบนี้​ ไม่ว่า​ใคร​ก็​ไม่ยอม​เชื่อ​ ใต้​หล้า​นี้​จะยังมี​ความอยุติธรรม​อะไร​ที่​ใหญ่​ไป​มากกว่า​นี้​อีก​หรือ​?”

แรกเริ่ม​สุด​เจ้าลัทธิ​สามท่าน​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิงผลัดกัน​ดูแล​ป๋า​ยอ​วี้​จิงหนึ่งร้อย​ปี​

ลู่​เฉิน​มอง​ดูเหมือน​เป็น​คน​ที่​ไม่สนใจ​อะไร​มาก​ที่สุด​ แต่​ถึงอย่างไร​ก็​เป็น​ ‘ผู้ปกครอง​’ ที่​ดูแล​เวลา​หนึ่งร้อย​ปี​ของ​ใต้​หล้า​แห่ง​หนึ่ง​ในนาม​ คลื่นใต้น้ำ​ที่​เกิดขึ้น​จะมีมาก​แค่​ไหน​ก็​สามารถ​จินตนาการ​ได้​เลย​

และ​ตาม​กฎ​ของ​ป๋า​ยอ​วี้​จิง หาก​ศิษย์​พี่​ศิษย์​น้อง​บางคน​ ‘เป็น​ผู้ปกครอง​ใต้​หล้า​’ อีก​สอง​คน​ที่​เหลือ​ก็​ห้าม​สอด​มือ​เข้า​แทรก​ทำ​เรื่อง​อะไร​เด็ดขาด​ เล่าลือ​กัน​ว่า​นี่​คือ​กฎ​ที่​มรรคา​จารย์​เต๋า​ตั้ง​ไว้​ด้วยตัวเอง​

นี่​ก็​หมายความว่า​ลู่​เฉิน​ที่​ชอบ​ออก​ไป​จาก​ป๋า​ยอ​วี้​จิง ออก​เดินทางไกล​ไป​เพียงลำพัง​ หาก​เจอ​ใคร​สังหาร​ระหว่างทาง​ ร่าง​ดับ​มรรคา​สลาย​อย่าง​สิ้นเชิง​ ถ้าอย่างนั้น​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ทั้ง​แห่ง​ก็​จะเกิด​สถานการณ์​ที่ว่า​ ‘กลุ่ม​มังกร​ไร้​ผู้นำ​ ใต้​หล้า​ไร้​ผู้ปกครอง​’ เจ้าลัทธิ​อีก​สอง​คน​ที่​เหลือ​ก็​ยัง​ไม่อาจ​ลงมือ​ได้​ ไม่ว่า​ใต้​หล้า​จะเละ​เป็น​โจ๊ก​แค่​ไหน​ ก็​จะต้อง​รอคอย​เวลา​ที่​กำหนด​ไว้​ ถึงจะมารับเอา​ป๋า​ยอ​วี้​จิงไป​ดูแล​ ออกหน้า​เก็บกวาด​เรื่อง​เละเทะ​ได้​

เฉิน​ผิง​อัน​ถาม “ฝัน​เป็น​อาจารย์​ลัทธิ​ขงจื๊อ​เจิ้งห่วน​ ละโมบ​ยึดครอง​คุณ​ความชอบ​ของ​คนอื่น​มาเป็นคุณ​ความชอบ​ของ​ตัวเอง​ สุดท้าย​เลือก​ที่จะ​ฆ่าตัวตาย​ ได้​แต่​เข้าฝัน​ฝาก​ความหวัง​ให้​ต้นสน​ต้น​ป๋า​ย​ที่​หลุมศพ​ออก​ดอกผล​ เจ้าที่​เป็น​บรรพบุรุษ​สกุล​ลู่​ตีวัวกระทบคราด​ต่อ​โจมจื่อ​แห่ง​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​อยู่​หรือ​?”

ลู่​ไถมีชาติกำเนิด​มาจาก​สกุล​ลู่​สำนัก​หยิน​หยาง​ หนึ่ง​ใน​สอง​อาจารย์​ผู้​ถ่ายทอด​มรรคา​ นอกจาก​เผย​หมิ่น​แห่ง​เวท​กระบี่​แล้ว​ อีก​คน​หนึ่ง​ก็​คือ​โจว​จื่อ​ที่​ ‘พูด​เรื่อง​ฟ้าจน​หมดสิ้น​’

โจว​จื่อ​พูด​เรื่อง​ฟ้า สกุล​ลู่​พูด​เรื่อง​ดิน​ คือ​เรื่อง​ที่​ใต้​หล้า​ไพศาล​ให้การ​ยอมรับ​ และ​การ​ที่​โจว​จื่อ​ถูก​ข​นา​นาม​ว่า​เป็น​ผู้​ที่​ได้​ยึด​ครองแผ่นดิน​ครึ่งหนึ่ง​ของ​สำนัก​หยิน​หยาง​ไป​เพียงลำพัง​ ก็​ยิ่ง​เป็น​มติมหาชน​ของ​บน​ภูเขา​

โจว​จื่อ​ให้ความสำคัญ​กับ​ลู่​ไถมาก​ ไม่อย่างนั้น​ก็​คง​ไม่มีทาง​มีผู้ฝึก​กระบี่​หลิว​ไฉ แต่​ปี​นั้น​หลังจากที่​ลู่​ไถได้​พบ​เจอ​เฉิน​ผิง​อัน​ ลู่​ไถก็​เหมือน​เกิด​ทางแยก​บน​มหา​มรรคา​กับ​โจว​จื่อ​ผู้​เป็น​อาจารย์​ และ​เรื่อง​นี้​ก็​ค่อนข้าง​คล้ายคลึง​กับ​เจิ้งห่วน​หนึ่ง​ใน​ห้า​ความฝัน​ของ​ลู่​เฉิน​ ที่​สุดท้าย​แล้ว​เขา​และ​น้องชาย​ก็​แยกกัน​อยู่​คนละ​ฝ่าย​ คน​หนึ่ง​ลัทธิ​ขงจื๊อ​ คน​หนึ่ง​สำนัก​โม่

“มรรคา​ของ​ข้า​กับ​โจว​จื่อ​แตกต่าง​คือ​เรื่องจริง​”

ลู่​เฉิน​โบกมือ​เป็น​พัลวัน​ ขีดเส้น​แบ่ง​ความสัมพันธ์​อย่าง​ชัดเจน​ “เพียงแต่​ผิน​เต้า​ไม่มีความสามารถ​นี้​ สามารถ​คาดการณ์​ได้​แม่นยำ​ว่า​ใน​ตระกูล​วันหน้า​จะมีลู่​ไถหลาน​ทรพี​ที่​อกตัญญู​ต่อ​บรรพบุรุษ​ที่สุด​ แล้วก็​ยังมี​เจ้าอีก​คน​”

เฉิน​ผิง​อัน​กล่าว​ “ก่อนหน้านี้​ข้า​ตอบคำถาม​เจ้าไป​สามข้อ​แล้ว​”

ลู่​เฉิน​กะพริบตา​ปริบๆ​ “ไม่ใช่คำถาม​ข้อ​เดียว​หรือ​?”

ลู่​เฉิน​ลังเล​เล็กน้อย​ “ก่อน​จะไป​ตั้ง​แผง​ที่​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู ข้า​เก็บ​ ‘สอง​ฝัน​’ หนึ่ง​จิต​ธรรม​กลับมา​ใน​ใต้​หล้า​มืด​สลัว​ มาถึงใต้​หล้า​ไพศาล​ ก่อน​จะเข้าไป​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จูก็​เก็บ​จิต​ธรรม​อีก​อย่างหนึ่ง​”

“อย่าง​หลัง​นี้​เจ้าน่าจะ​เดา​ได้​แล้ว​ ไม่อย่างนั้น​ก็​ไม่มีทาง​ถามผิน​เต้า​ถึงที่มา​ของ​ ‘ซีเย​ว่’​ หนึ่ง​ใน​บรรพบุรุษ​ของ​เสื้อเกราะ​เท​พรับ​น้ำค้าง​แปด​ชิ้น​ จิต​ธรรม​นี้​ของ​ผิน​เต้า​ก็​คือ​ ‘นก​ยวน​ฉู’ นอกจากนี้​ก็​มีความเกี่ยวข้อง​กับ​ชุด​คลุม​อาคม​จิน​ห​ลี่​และ​จวน​เทียน​ซือ​ของ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​จริงๆ​ บอก​ตามตรง​ ยิ่ง​ผิน​เต้า​อยู่​ใน​ป๋า​ยอ​วี้​จิงนาน​เท่าไร​ก็​ยิ่ง​รู้สึก​ว่า​ประโยค​ที่ว่า​ ‘สถานที่​ที่​มีภูตผี​ปีศาจ​ออก​อาละวาด​ ย่อม​ต้อง​มีนักพรต​ของ​ภูเขา​มังกร​พยัคฆ์​’ น่าสนใจ​มากขึ้น​เรื่อยๆ​ หวัง​ว่า​จะอาศัย​สิ่งนี้​มาคลี่คลาย​รากฐาน​ของ​อักษร​คำ​ว่า​ ‘เซียน​’ ยกตัวอย่างเช่น​สรุป​แล้ว​ผู้ฝึก​ตน​ที่​คุณสมบัติ​ค่อนข้าง​ธรรมดา​คน​หนึ่ง​บรรลุ​มรรคา​บน​ ‘ภูเขา​’ ได้​เร็ว​ยิ่งกว่า​ แต่​ระดับความสูง​ใน​การ​บรรลุ​มรรคา​มีจำกัด​ หรือว่า​เป็น​กับ​คำ​ว่า​ ‘คน’​ ที่​ช้ากว่า​ แต่​ผลสำเร็จ​บน​มหา​มรรคา​กลับ​สูงกว่า​ ดังนั้น​จึงอยาก​จะใช้สถานะ​ของ​ผู้สูงศักดิ์​หวง​จื่อ​มาสัมผัส​กับ​รสชาติ​นี้​ด้วยตัวเอง​ สุดท้าย​คน​ผู้​นี้​ก็​ไป​นั่ง​ ‘เข้าฌาน​’ อยู่​ใน​ถ้ำหิน​บน​เกาะ​แห่ง​หนึ่ง​ที่อยู่​ใกล้​กับ​ร่อง​เจียว​หลง​ สละ​ร่าง​จาก​โลก​นี้​ไป​”

“แต่​ต่อให้​ผิน​เต้า​เก็บ​สอง​ความฝัน​หนึ่ง​จิต​ธรรม​มาพร้อมกัน​ทีเดียว​ ต่อให้​เคย​มีการอนุมาน​ที่​มาก​พอ​จะให้ความสำคัญ​ใน​ถ้ำสวรรค์​หลี​จู”

ลู่​เฉิน​เผย​สีหน้า​กลัดกลุ้ม​ระทม​ทุกข์​ออกมา​หลาย​ส่วน​ เอ่ย​อย่าง​จนใจ​ว่า​ “ความจริง​กลับ​พิสูจน์​ให้​เห็น​ว่า​ผิน​เต้า​ประมาท​เกินไป​ ดูแคลน​ฉีจิ้งชุน​เกินไป​ หาก​รู้​ว่า​จะเป็น​อย่างนี้​ตั้งแต่แรก​ก็​น่าจะ​เก็บ​เอา​เจิน​เห​ริน​กระดูก​ขาว​ที่​พยายาม​จะ ‘แสดง​บท​เป็น​เจ้าบ้าน​เสีย​เอง​’ ตน​นั้น​กลับมา​พร้อมกัน​ด้วย​ เป็น​เขา​ที่​พยศ​ยาก​กำราบ​ที่สุด​ ก่อ​กบฏ​ ก่อ​กบฏ​ เจ้าก็​ไป​เป็น​ฮ่องเต้​เสีย​เลย​สิ ไอ้​หมอ​นี่​กลับ​ดี​นัก​ ฝึก​ตน​มาสามพันปี​ กลับ​แสวง​หาเรื่อง​เดียว​อย่าง​ไม่รู้จัก​เหน็ดเหนื่อย​ นั่น​ก็​คือ​เป็น​กบฏ​กับ​ตัวเอง​ มิน่าเล่า​ถึงได้​คอย​ส่งสายตา​ไปมา​อยู่​กับ​เหยา​ชิงเสนาบดี​รูปงาม​ของ​พวกเรา​”

——