World of Warcraft ราชันต่างภพ - ตอนที่ 1
“เซียวอวี๋ ตื่นได้แล้ว” เซียวอวี๋กำลังสะลึมสะลือยามเมื่อเขาได้ยินเสียงที่ไพเราะและนุ่มนวลเรียกชื่อเขา
“พระเจ้า สาวงามคนไหนกันที่กำลังเรียกฉันอยู่?” เซียวอวี๋อดไม่ได้ที่จะจินตนาการถึงใบหน้าที่งดงามและเรือนร่างของนักแสดงจากหนังที่เขาพึ่งดูไปเมื่อไม่กี่วันก่อน
อย่างไรก็ตาม เมื่อเขาพยายามจะเปิดตาขึ้น เขากลับปวดหัวอย่างรุนแรง แสงแดดส่องแยงตาเขาทันทีที่ลืมตาขึ้นมา
“เกิดอะไรขึ้นเนี่ย? โอ๊ะ” เขาพยายามที่จะขยับร่างกายของเขา แต่มันกลับเจ็บปวดเจียนตาย ราวกับว่ากระดูกทั่วร่างของเขาแตกหัก “นี่ฉันอยู่ที่ไหนเนี่ย?” เซียวอวี๋จำได้เพียงว่าเขากำลังอยู่ในงานแข่งขัน ‘World of Warcraft’ ที่เขาเป็นผู้ชนะเลิศ เขาได้รับของรางวัล ผู้จัดการได้พาเขาเข้าไปในห้องและเซียวอวี๋ก็รู้สึกราวกับว่าเขาโดนตีเข้าที่ศีรษะ จากนั้นเขาก็จดจำอะไรไม่ได้เลย
“มารดามันเถอะ ผู้จัดการทุบหัวฉันแล้วยึดเอารางวัลไปแล้ว! รอฉันก่อนเถอะไอ้แว่น ฉันจะเอาคืนแกแน่!”
“เซียวอวี๋ เจ้าเป็นอะไรไหม?” มีเสียงผู้หญิงดังขึ้นอีกครั้ง ครั้งนี้เซียวอวี๋ตระหนักได้แล้วว่าเขาไม่ได้อยู่ในความฝัน
“แปลกๆแล้ว นี่ฉันอยู่ที่ไหน? เสียงเพราะๆนี่ใคร? จำไม่ได้ว่าเคยรู้จักกับคนเสียงเพราะแบบนี้ด้วย นี่ฉันอยู่โรงพยาบาลรึเปล่า?” เซียวอวี๋มึนงง
ในที่สุดเขาก็ลืมตาหลังจากนั้นสักพัก เขามองเห็นใบหน้างดงามที่มีเสน่ห์กำลังมองดูเขาอยู่ นั่นทำให้เซียวอวี๋ตกตะลึง
เป็นหญิงสาวที่มีใบหน้างดงามและละเอียดอ่อน เธอมีดวงตาที่กลมโตแต่มันกลับเต็มไปด้วยความเศร้า ขนตายาวที่กระพริบทำให้เป็นเสน่ห์ที่ต่างออกไป เรือนร่างสมวัยและกลิ่นอายของกุลสตรี เธอกำลังจ้องมองมาที่เขาด้วยความเป็นห่วง
“นี่ใครอ่ะ? ฉันเคยเห็นผู้หญิงมาก็มากนะ แต่พระเจ้า! ฉันไม่เคยเจอใครที่มีเสน่ห์และน่ารักขนาดนี้! ดูหน้าอกของเธอสิ! แม่เจ้าโว้ย! 36D! อย่างน้อยต้อง 36D! รอเดี๋ยว…อาจจะถึง E! โอ้พระแม่! ฉันได้ทำอะไรให้ท่านถึงได้ประทานสาวงามเช่นนี้มาให้?!”
จิตวิญญาณของเซียวอวี๋ลุกโชนขึ้นทันทีและน้ำลายก็ไหลย้อยออกจากมุมปากของเขา เขากำลังจะเอ่ยปากถามเธอ แต่มันกลับมีเสียงเย็นชาดังขึ้นเสียก่อน “ดูท่าทางของเขาสิ! เขากำลังจะตายอยู่แล้วแต่ก็ยังไม่คิดถึงเรื่องอื่นอีก! เขาจะต้องถูกหัวเราะเยาะไปนับพันปีแน่!”
จิตวิญญาณของเซียวอวี๋พุ่งทะยานขึ้นอีกครั้งยามเมื่อเขาได้ยินอีกเสียงหนึ่ง “คนสวยอีกคน?”
เขาหันมองไปรอบๆและพบว่ามันยังมีสาวสวยถึงสี่นางอยู่ในห้อง! รวมทั้งหมดเป็นสาวงามทั้งห้า! แต่ละคนยังสวยไม่แพ้กันอีก เหล่าดอกไม้งาม! เหล่าหญิงสูงศักดิ์! เซียวอวี๋ไม่เคยพบเจอสาวงามมากขนาดนี้มาก่อนในชีวิตจนกระทั่งวันนี้
“พระเจ้า เกิดอะไรขึ้น? นี่เป็นรางวัลของการเก็บรักษาพรหมจรรย์ยิ่งชีพมาตลอดยี่สิบปีงั้นเหรอ? ช่วงเวลาที่ต้องบอกลาข้อมือได้มาถึงแล้วหรือ?”
ในขณะเดียวกันนั้นเอง เซียวอวี๋ไม่ทราบว่ามันเกิดขึ้นได้อย่างไร ข้อมูลความทรงจำที่ไม่คุ้นเคยจำนวนมหาศาลถูกยัดรวมๆเข้ามาในหัวของเขา นั่นทำให้เขารู้สึกอึดอัด
“พวกเธอเป็นพี่สะใภ้ของฉัน? พี่ชายทั้งห้าลงหลุมไปแล้ว…” เซียวอวี๋กลายเป็นตกตะลึงเมื่อเขาได้รับรู้สิ่งที่เกิดขึ้น
“เพราะงั้นฉันถึงได้ถูกย้ายเข้ามาอยู่ในร่างของไอ้หนุ่มนี่ที่มีชื่อเดียวกับฉันว่า เซียวอวี๋สินะ! พ่อ แม่และพี่ชายทั้งห้าต่างลงหลุมไปหมดแล้ว ฉันเป็นลอร์ดของดินแดนและมีพี่สะใภ้แม่ม่าย 5 คนที่งามหยดย้อย! โอ้ขุ่นพระ! ช่วงเวลาหฤหรรษ์อยู่ที่เบื้องหน้าของข้าแล้ว! ข้าคือชายหนุ่มผู้เปี่ยมไปด้วยมนต์เสน่ห์และอยู่กับหญิงสาวที่น่ารักและเปล่าเปลี่ยวทั้ง 5 นี่คือโอกาศที่ฟ้าประทานมา!”
เซียอวี๋เกือบจะสมองระเบิดตายเพราะความสุข พระเจ้าทรงรักเขา! พระเจ้าทรงรักเขา! เขาถูกส่งมาอยู่ที่ตระกูลที่ยากจนแห่งนี้ ช่วยไม่ได้ที่เซียวอวี๋จะเอาแต่เพ้อฝันถึงการ ‘ปั๊มทายาท’ ชีวิตที่โรยไปด้วยกลีบกุหลาบกำลังรอเขาอยู่!
พี่สะใภ้ที่เย็นชาเปิดปากขึ้นอีกครั้งเมื่อเธอเห็นจิตวิญญาณของเซียวอวี๋ถูกเรียกคืนมาแล้ว “เขายังไม่ตาย! พวกเราต้องหารือกันว่าจะทำอะไรต่อไป บุตรที่ล้างผลาญคนนี้ไม่เพียงเสียธุรกิจของตระกูลไป แม้แต่พวกพี่สะใภ้ของเขาก็ยังถูกเอาไปเดิมพันด้วย หากเราไม่ใช้มาตราการตอบโต้ใดๆ เจ้าสารเลวนั่นจะพาคนมาจับพวกเราไปในหนึ่งเดือน!”
หญิงงามคนอื่นๆต่างผงกศีรษะ ใบหน้าของพวกเธอค่อยๆกลายเป็นเย็นชาขึ้นทีละคน
เสียงที่นุ่มนวลและมีเสน่ห์ถอนหายใจออกมาอย่างช่วยไม่ได้ “เซียวอวี๋ เจ้าเป็นตัวหายนะ! พักผ่อนให้ดีเถอะ”
จากนั้นเหล่าสาวงามก็ทยอยออกจากห้องไป
เซียวอวี๋พึมพำขึ้นอย่างช่วยไม่ได้ “สูญเสียธุรกิจของตระกูล? พวกพี่สะใภ้ก็ด้วย?”
ในเวลาเดียวกัน มันมีชิ้นส่วนข้อมูลโผล่ขึ้นในใจของเขา เซียวอวี๋เริ่มเข้าใจขึ้นมาบ้างแล้ว เข้าถูกย้ายเข้ามาอยู่ในร่างของลอร์ดแห่งดินแดน ชือว่า เซียวอวี๋ เซียวอวี๋คนนี้เองที่เป็นจอมล้างผลาญของตระกูล
เขาได้รับมรดกเป็นดินแดนและบรรดาศักดิ์ลอร์ดต่อจากพ่อของเขา
พ่อของเขาเรียกว่า เซียวซานเทียน ซานเทียนเป็นแม่ทัพแห่งราชวงศ์เทียนซือ(พยัคฆ์คำรณ) เนื่องจากซานเทียนมีความดีความชอบและโดดเด่นด้านการทหาร เขาจึงได้รับดินแดนมาปกครอง
อย่างไรก็ตาม จักรพรรดิทรงหวาดระแวงความสามารถของซานเทียนและกังวลว่าเขาจะกลายเป็นหอกข้างแคร่ ดังนั้นจักรพรรดิจึงมอบดินแดนที่ห่างไกลให้แก่เขา ดินแดนแห้งแล้งทางตะวันตกเฉียงเหนือ
ซานเทียนไม่มีทางเลือกจึงได้แต่นำพาผู้คนในตระกูลมาตั้งรกรากที่นี่หลังสงครามจบลง เขามาถึงทุ่งร้างทางเหนือและเริ่มลงมือพัฒนามัน
พื้นที่ที่เขาได้รับมอบมานั้นถูกเรียกว่า ‘ทุ่งร้างทางเหนือ’ มันเป็นพื้นที่ขนาดใหญ่ ซึ่งความจริงแล้วมันมีขนาดถึง 1 ใน 3 ของพื้นที่ราชวงศ์พยัคฆ์คำรน แม้แต่เทือกเขาอัลคาเกนก็ยังถูกมอบให้แก่ซานเทียน ไม่มีลอร์ดคนใดในราชวงศ์ที่มีอาณาเขตกว้างขวางเท่านี้อีกแล้ว
ถึงแม้มันจะกว้างใหญ่แต่มันก็แห้งแล้งเป็นอย่างมาก ซานเทียนคงจะจัดการมันได้หากมันเป็นเพียงเพราะพื้นดินที่แห้งแล้ง ปัญหาก็คือดินแดนแห่งนี้มีการสู้รบเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้ง มีกองกำลังชนเผ่าฝ่ายต่างๆนับไม่ถ้วนในดินแดนแห่งนี้ ที่แย่ไปกว่านั้นคือ ที่นี่มีเขตแดนติดอยู่กับจักรวรรดิไพเออร์และชนเผ่าเร่ร่อน คนเหล่านี้เป็นเพียงกลุ่มโจรที่ปล้นจากที่หนึ่งไปยังอีกที่หนึ่ง
นอกจากชนเผ่าท้องถิ่นและชนเผ่าเร่ร่อนแล้ว ที่ภูเขาอัลคาเกนยังมีพวกโทลล์ ออร์ค ก๊อบลินและเผ่าพันธ์ุอื่นๆอาศัยอยู่อีก มอนสเตอร์เหล่านี้มักบุกโจมตีหมู่บ้านและเมืองต่างๆอยู่บ่อยครั้ง พวกมันมักก่อความวุ่นวายไม่หยุดหย่อน
การพระราชทานที่ดินผืนนี้แก่เขาจึงเป็นที่เข้าใจจุดประสงค์ได้ หากซานเทียนสามารถแก้ไขปัญหาได้สำเร็จที่ดินผืนนี้ก็จะตกเป็นของเขา หากว่าไม่สำเร็จมันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น เดิมทีดินแดนแห่งนี้ก็เป็นพื้นที่กันชนระหว่างจักรวรรดิเมฆาตะวันตกและราชวงศ์พยัคฆ์คำรนอยู่แล้ว ดังนั้นราชวงศ์จึงไม่ถือว่านี่เป็นดินแดนส่วนหนึ่งของพวกเขามาตั้งแต่ต้น
ซานเทียนย่อมไม่ใช่คนที่จะยอมแพ้อะไรง่ายๆ เขาใช้พรสวรรค์ด้านการทหารของเขากรีธาทัพกวาดพิชิตไปทั่วพื้นที่ต่างๆ จากนั้นเขาจึงสถาปนาพื้นขนาดใหญ่ขึ้นเป็นของตัวเอง
หลังจากตรากตรำมา 30 ปี ซานเทียนก็สามารถก่อสร้างเมืองเล็กๆแห่งหนึ่งในดินแดนที่แห้งแล้งแห่งนี้ได้ ผู้อยู่อาศัยที่อยู่โดยรอบต่างย้ายเข้ามาตั้งรกรากที่เมืองแห่งนี้และมันก็ได้กลายเป็นเมืองใหญ่ที่เนืองแน่นไปด้วยผู้คน อย่างไรก็ตาม จากสงครามที่หนักหน่วง ดินแดนก็ประสบกับความสูญเสียเป็นอย่างมาก พลเมืองล้มตายไปมากมาย ในบุตรชายทั้ง 6 คน มีอยู่ 3 ที่ถูกสังหารในสงครามครั้งนั้น
หลังผ่านการสู้รบและบาดเจ็บเรื้อรังมาอย่างยาวนาน ซานเทียนก็ได้จากไปด้วยอาการเจ็บป่วย
หลังซานเทียนสิ้นชีพลง บุตรชายคนที่ 4 ก็ได้รับมอบบรรดาศักดิ์ผู้ปกครองดินแดนมา แต่เพียงไม่กี่วันหลังจากนั้น ในงานแต่งงานของเขา เผ่าพันธ์ุปีศาจได้บุกเข้าโจมตีและสังหารบุตรชายคนนั้นไป พี่สะใภ้ของเซียวอวี๋จึงกลายเป็นม่ายก่อนที่จะถูกส่งตัวเข้าหอเสียด้วยซ้ำ
บุตรชายคนที่ 5 อี้ไหลก็ได้ขึ้นปกครองดินแดนต่อจากพี่ชายคนที่ 4 โชคไม่ดีที่เขาเป็นคนอมโรคและเสียชีวิตด้วยอาการป่วยหลังจากนั้นไม่นาน ภรรยาของเขาจึงถูกทิ้งไว้เบื้องหลัง
จากสิ่งที่เกิดขึ้น พี่สะใภ้ที่เป็นม่ายทั้ง 5 จึงยังไม่เคยถูกแตะต้องมาก่อน
หลังจากนั้น ชายหนุ่มจอมล้างผลาญแห่งตระกูลที่มีอายุ 16 ปี เซียวอวี๋ ก็สืบทอดบรรดาศักดิ์ลอร์ด
เซียวอวี๋นั้นชั่วร้ายตั้งแต่วัยเยาว์ เขากิน ดื่ม เที่ยวและติดการพนันงอมแงมตลอดวันทั้งวัน แต่เขากลับชำนาญในทุกสิ่ง เขาเป็นที่รู้จักกันในนามสารเลวน้อยภายในตระกูลของซานเทียน ขณะที่เขาชมชอบถ้ำมองเหล่าพี่สะใภ้อาบน้ำอย่างยิ่ง
เมื่อครบ 1 ปี เซียวอวี๋ก็ล้างผลาญทรัพย์สมบัติของตระกูลจากสงครามที่ยาวนานจนหมดสิ้น เขาได้เดิมพันกับชายหนุ่มที่ชื่อว่า แครี่ ผู้ซึ่งเป็นบุตรชายของแม่ทัพที่เป็นลอร์ดของดินแดนใกล้เคียงเอาไว้ แครี่นั้นหมกหมุ่นถึงการจะได้ครอบครองพี่สะใภ้ทั้งห้าของเขามาอย่างยาวนาน ดังนั้นเขาจึงได้เดิมพันกับเซียวอวี๋ หากเซียวอวี๋ชนะเดิมพันได้ เขาจะมอบเงินทั้งหมดที่เซียวอวี๋สูญเสียไปในปีที่แล้วทั้งหมดกลับคืน
บุตรชายจอมล้างผลาญกลับรับคำเดิมพันอย่างไม่คาดคิด เขาเอาพี่สะใภ้ทั้งห้าเป็นเดิมพันเพื่อหวังทวงคืนเงินตราทั้งหมดกลับมา
แน่นอนว่าเซียวอวี๋นั้นถูกโกงและเขาจะต้องสูญเสียพี่สะใภ้ทั้งห้าไป อย่างไรก็ตามแม้ว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่เสเพล เขาก็ยังรู้ว่าการต้องสูญเสียพี่สะใภ้ทั้งห้าไปดูเหมือนจะเป็นสิ่งที่ผิด ดังนั้นเขาจึงใช้ประโยชน์จากสถานการณ์ต่างๆและฮุบกลืนสัญญานั้นเอาไว้
แครี่กลายเป็นเกรี้ยวกราดทันทีเมื่อรู้ข่าว เขาจึงส่งคนไปลอบทำร้ายเซียวอวี๋จนตกอยู่ในสภาพปางตาย!
เมื่อร่างของเซียวอวี๋ถูกนำกลับมาที่ตระกูลชายหนุ่มก็ได้ตายจากไปแล้วและเซียวอวี๋ก็ถูกย้ายเข้ามาในร่างนี้ทันที
“นี่มันเรื่องบ้าอะไรกันฟะ? ทำไมฉันถึงได้ซวยแบบนี้? ทีแรกคิดว่าฉันจะได้ว่ายอยู่ในแม่น้ำที่มั่งคั่งไม่สิ้นสุดและสนุกไปกับชีวิตที่เต็มไปด้วยพี่สะใภ้ที่งดงามทั้งห้าเสียอีก แต่ฉันกลับต้องมาเผชิญกับสถานการณ์เลวร้ายนี้ ไอ้ตัวล้างผลาญนี่น่ารังเกียจจนเกินไปแล้ว! แกเอาแต่สนุกกับชีวิตไปวันๆและทำไมฉันจะต้องเป็นคนที่มาตามล้างตามเช็ดด้วยฟะ!”
เซียวอวี๋เคยคิดว่าเขาจะได้เป็นจักรพรรดิน้อยที่สามารถสนุกไปกับเรือนร่างงดงามของพี่สะใภ้ทั้ง 5 คนในดินแดนแห่งนี้ ดูเหมือนความฝันนั้นจะพังทลายลงตั้งแต่ยังไม่เริ่ม
เขาโยนความคิดที่จะปล่อยให้สาวงามทั้งห้าให้อยู่เปล่าเปลี่ยวทิ้งไป ไม่ว่าอย่างไร เขาก็ยังเป็นเพียงนักศึกษาในสังคมยุคใหม่ แล้วนี่เขาจะเอาอะไรไปจัดการสิ่งเหล่านี้ได้กัน?
แม้กระทั่งไอ้หนุ่มเสเพลนี่ก็ยังไม่ยอมปล่อยหญิงงามทั้งห้าไปถึงได้ฮุบกลืนสัญญา
อย่างไรก็ตาม อีกฝ่ายจะส่งกองทัพมาถล่มเขาในอีกหนึ่งเดือนข้างหน้า หากเขาไม่ส่งมอบสาวงามออกไป จากความทรงจำแล้ว ตอนนี้ดินแดนของเขากำลังอ่อนแอจนไม่สามารถจะรับการโจมตีจากใครได้อีก มิฉะนั้นพี่ชายคนที่ 4 ของเขาก็คงไม่ถูกสังหารในวันแต่งงานของตัวเอง
………..
………..
“นายท่าน ได้โปรดพักผ่อน บ่าวชราผู้นี้จะออกไปแล้ว ยังมีอีกหลายสิ่งที่บ่าวยังต้องจัดการ” ชายชราคนหนึ่งที่มีผมสีขาวกล่าวกับเขา เซียอวี๋ยังคงตกตะลึงจากการถูกย้ายร่างและเหล่าสาวงามอยู่ เขาตกอยู่ในภวังค์และไม่ได้ตระหนักเลยว่ายังมีชายอีกคนหนึ่งอยู่ในห้อง
ชายชราสวมใส่เสื้อผ้าที่ดูเก่า เขากำลังมองมาที่เซียวอวี๋ ไม่มีความโกรธเคืองใดๆอยู่ในแววตาของเขา หากแต่ความรู้สึกของเขาราวกับว่าเขากำลังมองดูตอไม้ไม่ใช่มองดูคน
ดูเหมือนว่าชายชรารู้สึกผิดหวังในตัวเซียวอวี๋อย่างยิ่ง
จากความทรงจำของเขา เซียวอวี้รู้จักพ่อบ้านชราผู้นี้ เขามีชื่อว่า เซียวหงส์ ชายผู้นี้ได้ติดตามรับใช้พ่อของเขามาหลายสิบปีแล้ว
“ลุงหงส์” เซียวอวี๋ยิ้มอย่างกระดากอาย
เซียวอวี๋คนเก่านั้นหวาดกลัวพ่อบ้านชราผู้อย่างยิ่ง หลังจากการตายของซานเทียน ผู้เฒ่าหงส์ก็เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถควบคุมจอมเสเพลเซียวอวี๋ได้
หากจะมีใครที่สามารถทำให้สารเลวน้อยเซียวอวี๋หวาดกลัวได้ คนผู้นั้นย่อมต้องเป็น เซียวหงส์
พ่อบ้านเฒ่าไม่ได้เอ่ยสิ่งใดก่อนจะจากไป
………….
………….
หลังจากนั้นไม่นาน บ่าวรับใช้หญิงวัย 14 ปีก็ยกชามโจ๊กเข้ามาภายในห้อง
เซียวอวี๋ไม่มีกระจิตกระใจจะแทะโลมสาวน้อยนางนี้แล้วเนื่องจากการเผชิญความจริงที่โหดร้าย
“ซวยอะไรแบบนี้! ทำไมต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วย! ไอ้ตัวล้างผลาญ!” เซียวอวี้แทบจะกรีดร้องออกมา