คุณหนูใหญ่ผู้นี้ไม่ต้องการก้าวหน้า - ตอนที่ 936 หากเจ้ากลายเป็นเขา ข้าจะสังหารเทพ
ตอนที่ 936 หากเจ้ากลายเป็นเขา ข้าจะสังหารเทพ
“ท่านให้ข้าสังหารเทพ?”
ฉินหลิวซีกับเฟิงปั๋วสบตากัน สายตาแฝงไว้ด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย “ท่านรู้หรือไม่ว่าท่านกำลังพูดอะไรอยู่”
เฟิงปั๋วเผยให้เห็นรอยยิ้มอันขมขื่น กล่าวว่า “ข้ารู้ ข้าแค่กลัวว่าข้าจะควบคุมไม่ไหวแล้ว ตอนนี้เจ้าก็ได้เห็นแล้ว เมื่อพยายามนำกระดูกชิ้นนี้ออก ทะเลสาบลวี่หูแห่งนี้ก็จะพลิกผัน หากวันหนึ่ง…ข้าไม่อยากกลายเป็นเขา”
“ไม่ถึงขั้นนั้นหรอก” ฉินหลิวซีเอ่ยต่อไปว่า “ท่านต้องจำเอาไว้ว่าท่านคือเทพเจ้าน้ำเฟิงปั๋ว ตราบใดที่จิตใจยึดมั่นในคุณธรรม ก็จะเดินอยู่บนเส้นทางคุณธรรม”
“หากทำไม่ได้ล่ะ”
ดวงตาของฉินหลิวซีเป็นประกาย กล่าวว่า “หากวันหนึ่งท่านกลายเป็นเขาขึ้นมาจริงๆ ข้าก็จะสังหารเทพ”
ดวงตาของเฟิงปั๋วมืดมนเป็นอย่างมาก ราวกับสัมผัสได้ กล่าวว่า “ตกลง”
ฉินหลิวซีกล่าวเสริมว่า “พลังแห่งความศรัทธาไหลออกไป บางทีอาจเป็นเพราะกระดูกพุทธะชิ้นนี้ ก่อนหน้านี้ข้าเคยบอกแล้วว่ากระดูกชิ้นนี้เขาอยากจะหามันให้เจอยิ่งกว่าพวกเรา ดวงจิตของเขาก็สัมผัสถึงที่อยู่ของมันได้ง่ายขึ้น”
“เจ้าหมายความว่าเขารู้แล้วว่ามีกระดูกหนึ่งชิ้นอยู่ที่ข้า?”
ฉินหลิวซีเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึมว่า “อาจเป็นเช่นนั้น”
เฟิงปั๋วขมวดคิ้ว ถามว่า “หากรู้แล้วเหตุใดจึงไม่มาเอา เจ้าไม่ได้บอกว่าเขาอยากได้มันหรอกหรือ”
“บางทีเขากำลังอยากจะใช้ประโยชน์จากกระดูกพุทธะชิ้นนี้ดูดซับพลังแห่งความศรัทธา ให้ดวงจิตแข็งแกร่งขึ้น”
เฟิงปั๋วสูดหายใจเข้าลึกๆ กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ เจ้าก็ยิ่งต้องทำลายข้า ไม่ใช่มองดูเขาฟื้นฟูพลังผ่านทางตัวข้าอยู่เฉยๆ เมื่อถึงวันที่เขาฟื้นตัวอย่างเต็มที่ขึ้นมาจริงๆ พวกเราก็จะเหมือนกับผู้อาวุโสเหล่านั้นเมื่อหลายพันปีก่อนหน้านี้ สามารถจับเขาขังมหาอเวจีนรกได้อีกครั้งหรือไม่”
ฉินหลิวซีมองไปยังท้องฟ้ายามค่ำคืน กล่าวว่า “ขึ้นอยู่กับว่าสวรรค์จะทรงเมตตาประทานความหวังอันริบหรี่นี้ให้แก่เราหรือไม่”
“หืม?”
“กฎเกณฑ์ห้าสิบ โชคชะตาสี่สิบเก้า ย่อมมีความหวังเหลืออยู่ริบหรี่เสมอ”
“หากไม่เหลือล่ะ หรือว่าจับตัวไม่ได้?”
ฉินหลิวซีมองไปที่เขา กล่าวว่า “เช่นนั้นก็…พังพินาศไปด้วยกัน!”
เฟิงปั๋วตกตะลึง “…”
นี่มันไม่ตลกนะ!
ฉินหลิวซียิ้มพลางเอ่ยว่า “เลิกพูดเรื่องสังหารเทพเจ้าอะไรนั่นได้แล้ว ยังไม่ไปถึงขั้นนั้น หากหวั่นใจจริงๆ ข้าจะให้พลังต้องห้ามกระดูกพุทธะในดวงจิตของท่านดีหรือไม่”
“ทำเช่นนี้ได้ด้วยหรือ”
“ได้สิ ตราบใดที่ท่านไม่คิดจะต่อต้าน”
เฟิงปั๋วนั่งขัดสมาธิ กล่าวว่า “ไม่มีทาง”
ฉินหลิวซียิ้มใบหน้านิ่งพลางถามว่า “ท่านไม่กลัวว่าข้อห้ามของข้านี้จะควบคุมตัวท่านหรือ”
“หากข้ากลัว ก็ไม่มีทางให้เจ้าสังหารเทพ” เฟิงปั๋วมองไปยังทะเลสาบลวี่หู เอ่ยว่า “ข้าเพียงแค่กลัวว่าจะสำเร็จหรือล้มเหลวล้วนขึ้นอยู่กับคนคนเดียว”
ฉินหลิวซีนั่งอยู่ตรงข้ามเขา มือทั้งสองข้าร่ายคาถาเต๋า นิ้วมือรวดเร็วแทบจะไม่เห็นเงา เมื่อใบหน้าของนางซีดเซียว ผนึกข้อห้ามได้ตกลงบนขาของเขา และที่มุมปากของนางก็มีรอยเลือดไหลออกมา
เฟิงปั๋วประหลาดใจเล็กน้อย กล่าวว่า “เจ้าเป็นอะไรหรือไม่” จากนั้นเขาก็แตะที่ขา ลองพยายามปรับพลัง พบว่าความปรารถนาตามปกติที่คิดจะใช้ความรุนแรงได้หายไป
นางได้เสกข้อห้ามลงไปแล้วจริงๆ
ฉินหลิวซีเช็ดคาบเลือดที่มุมปาก ส่ายหน้า “ไม่เป็นไร”
เฟิงปั๋วดูใบหน้าซีดเซียวของนาง ขมวดคิ้วพลางเอ่ย “สีหน้าของเจ้าไม่ได้ดูเหมือนสบายดีเลย”
“มีเพียงข้อห้ามนี้ถูกทำลายเท่านั้นข้าจึงจะเกิดปัญหา” ฉินหลิวซีแสยะยิ้ม “ดังนั้นท่านต้องระมัดระวังอย่าให้มันทำลายได้จนผลสะท้อนกลับมาที่ข้า อีกอย่าง สัญญากันไว้แล้วว่าในภายภาคหน้าจะต่อสู้กับปีศาจร้ายด้วยกัน อย่าได้คิดหนีไปในช่วงเวลาสำคัญ”
เฟิงปั๋วมุมปากกระตุก มองขาพลางกล่าวว่า “เจ้าฉลาดและเก่งกาจกว่าที่ข้าคิดไว้มาก”
“ข้อห้ามของข้านี้สามารถช่วยท่านควบคุมผลสะท้อนกลับของกระดูกพุทธะได้เท่านั้น แต่จะสามารถแย่งพลังแห่งความศรัทธากลับคืนมาได้หรือไม่ ขึ้นอยู่กับตัวท่านเอง” ฉินหลิวซีแตะขวดหยกหล่อเลี้ยงวิญญาณ ถามว่า “จริงสิ รู้หรือไม่ว่าเกิดอะไรขึ้นกับเหยียนฉีซานของพวกท่าน ข้าเห็นว่าเขาไม่ได้มีอายุสั้น เหตุใดจึงได้ประสบอุบัติเหตุน่าขันอย่างกะทันหันเช่นนี้”
เมื่อเฟิงปั๋วได้ฟังดังนั้นก็มีสีหน้าเจ็บปวดเล็กน้อย กล่าวว่า “สวรรค์นั้นคาดเดาได้ยาก ทุกอย่างล้วนขึ้นอยู่กับโชคชะตา”
ฉินหลิวซีส่ายหน้า “ไม่ใช่ เป็นบาปกรรมที่ปีศาจเฒ่าซื่อหลัวตนนั้นก่อขึ้นมา”
เฟิงปั๋วมองไปที่นางในทันที
นางเล่าสิ่งที่เกิดขึ้นในเมืองซิ่งฮวาให้เขาฟัง “เขาเสียชีวิตอย่างกะทันหันและผิดปกติ ครึ่งเทพอย่างท่านที่เป็นบรรพบุรุษก็ไม่ได้รู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติเลยหรือ ซ้ำดวงวิญญาณของเขายังถูกกักขังไว้ในสถานที่แห่งนั้นอีกด้วย”
“เจ้าอย่าลืมว่าแม้ว่าข้าจะเป็นบรรพบุรุษตระกูลเหยียน แต่ก็กลายเป็นครึ่งเทพ คุ้มครองบุตรหลานรุ่นต่อไปได้ แต่ไม่สามารถเข้าไปแทรกแซงการเกิดแก่เจ็บตายของพวกเขาได้ หากยื่นมือเข้าไปแทรกแซง สวรรค์ย่อมไม่ปล่อยข้าไว้” เฟิงปั๋วเอ่ยว่า “หลังจากได้ยินข่าวการเสียชีวิตของเขาจากหัวหน้าตระกูล ข้าก็ได้แอบดูดวงชะตาของเขา เป็นอุบัติเหตุจริงๆ จึงไม่ได้ตรวจสอบอีก ในความเป็นจริงหากไม่ใช่เพราะเขามีสถานะเป็นลูกหลานของข้า ข้าก็คงไม่แม้แต่จะสำรวจเรื่องนี้ได้ ข้าคิดว่าคนบำเพ็ญเต๋าอย่างเจ้าจะรู้ดีว่าอะไรเข้าไปแทรกแซงได้ อะไรทำไม่ได้”
ฉินหลิวซีเงียบไป
“ในเมื่อได้ปลีกตัวออกจากทางโลกแล้ว คนฝึกบำเพ็ญเต๋าอย่างเจ้าและข้านี้ ก็ยิ่งไม่ควรไปผูกพันกับสิ่งที่เรียกว่าเครือญาติทางสายเลือดได้” เฟิงปั๋วถอนหายใจ “เรื่องทางโลก ล้วนเป็นอดีตไปแล้ว”
“ท่านนับว่าตัดขาดความรู้สึกได้จริงๆ”
“ข้าคือเทพเจ้าน้ำเฟิงปั๋ว ไม่ใช่เหยียนฉงเฮ่อตั้งนานแล้ว เหยียนฉงเฮ่อมีความรักได้ แต่เทพเจ้าน้ำมีไม่ได้” เฟิงปั๋วกล่าวว่า “ข้าแค่คิดไม่ถึงว่าการตายของเขาจะเกิดจากกระดูกพุทธะที่ก่อเรื่องขึ้น เมืองซิ่งฮวาที่เป็นภาพลวงตามีอยู่ได้เพราะเหตุนี้ เหอะ ด้วยเหตุนี้ กระดูกพุทธะชิ้นนี้ของข้าจึงตอบโต้กลับ เนื่องจากรู้สึกถึงแรงดึงดูดของกระดูกชิ้นอื่น หากรู้เสียแต่แรก แม้ว่าข้าจะถูกปลดออกจากตำแหน่งเทพก็จะไปสืบหาความจริงเรื่องนี้”
หากเทพภูเขาออกจากภูเขา ภูเขาแห่งนั้นก็จะไม่มีเทพภูเขาอีกต่อไป เช่นเดียวกัน หากเทพเจ้าน้ำไปแล้ว สถานที่นั้นก็จะไม่มีเทพอีกต่อไป
เฟิงปั๋วมองไปยังขวดหล่อเลี้ยงวิญญาณของนาง “เจ้าพาเขามาด้วยหรือ”
ฉินหลิวซีพยักหน้า “เจ้าสำนักถังล้มป่วยหลังจากทราบข่าวการตายของเขา ข้าอยากจะพากลับไป ให้พวกเขาได้เจอกันสักครั้ง แล้วค่อยส่งเขาไป เพียงแต่ว่าดวงจิตของเขาค่อนข้างประหลาดเล็กน้อย”
นางกล่าวพลางปล่อยเหยียนฉีซานออกมา
เฟิงปั๋วมองดู พลังศักดิ์สิทธิ์พุ่งไป เอ่ยว่า “เขาสูญเสียความทรงจำ เกิดอะไรขึ้น”
ฉินหลิวซีสายตาลุ่มลึกเล็กน้อย เอ่ย “ข้าก็สงสัยเช่นกัน ความทรงจำของเขาหายไปก่อนเสียชีวิตหรือหลังจากเสียชีวิตแล้ว”
“คนได้ตายไปแล้ว ความทรงจำทุกอย่าง เมื่อไปถึงยมโลก ก็จะถูกลบล้างไปจนหมดแล้วค่อยไปเกิดใหม่ไม่ใช่หรือ” เฟิงปั๋วเสกบุญกุศลไปที่บนตัวของเขา
“ท่านใจอ่อนแล้ว” ฉินหลิวซีเห็นดังนั้นก็เลิกคิ้ว กล่าวว่า “ไหนบอกว่าเรื่องทางโลกล้วนเป็นอดีตไปแล้ว”
“ในฐานะบรรพบุรุษ มอบสิ่งที่ดีให้กับลูกหลานรุ่นหลังไปเกิดใหม่จะเป็นอะไรไป” เฟิงปั๋วเอ่ยโดยไม่เปลี่ยนสีหน้า
ฉินหลิวซีพาเหยียนฉีซานกลับเข้าไปอีกครั้ง กล่าวว่า “ไว้กลับไปพบกับเจ้าสำนัก แล้วข้าจะส่งเขาเข้าสู่ประตูวิญญาณ”
“รบกวนด้วย” เฟิงปั๋วคิดอยู่ครู่หนึ่ง ถามอีกว่า “ในเมื่อเจ้าสามารถทำลายกระดูกพุทธะได้ ชิ้นที่อยู่ในมือของเจ้า เหตุใดจึงได้เก็บไว้”
ฉินหลิวซีสีหน้าเย็นชา “เขาเอาตัววั่งชวนของข้าไป ข้ารอเขามาเอาด้วยตัวเอง!”
เฟิงปั๋วอยากจะกล่าวอะไรบางอย่างแต่ก็หยุดไป
ฉินหลิวซีคำนับเขาตามธรรมเนียมเต๋า พาเถิงเจาเปิดเส้นทางหยินแล้วก้าวเข้าไป
ทันทีที่เข้าไปยังไม่ถึงสองก้าว นางก็กระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดเซียว
“ท่านอาจารย์” เถิงเจาตกใจมาก รีบพยุงมือนางไว้
ฉินหลิวซีออกแรงบีบมือของเขา ค่อยๆ ปรับลมหายใจ กล่าวว่า “ไม่เป็นไร เพียงแค่สูญเสียพลังวิญญาณมากไปก็เท่านั้น”
นางหันกลับไปมอง เม้มริมฝีปาก สายตาครุ่นคิด