จอมศาสตราพลิกดารา - บทที่ 582 ร้องไห้ให้ข้าดูเดี๋ยวนี้
เมืองทองคําจบสิ้นแล้ว
คนของสํานักอาทิตย์ทองล้วนตายกันหมดแล้ว
ท่าทีไอสังหารคุกรุ่นของหลี่มู่ทําเอาคนทั้งหมดสั่นงันงกราวจักจั่น ฤดูหนาว
ต่างคนต่างรู้สึกไม่ปลอดภัย
ยอดฝีมืออย่างผู้อาวุโสสํานักอาทิตย์ทองโจวฉางฟ่า เพียงแค่สามสี่ ดาบก็ปิดบัญชีไปเสียแล้ว ตอนนี้คนที่อยู่รอบๆ ลานกว้างตลาดนัดมา รวมกันทั้งหมด ก็คงจะทานหลี่มู่ได้สักสองสาบดาบเท่านั้น
ยิ่งไปกว่านั้น จิตดาบมหัศจรรย์อันน่ากลัวที่ฟาดผ่านอากาศนั่น ไร้ รูปไร้เสียง ความสามารถไล่ล่าสังหารประดุจเทพ ไม่มีใครสามารถหนี รอดไปได้
นําภาพที่เห็นตรงหน้าไปเชื่อมต่อกับมารคลั่งสังหารที่ศึกสุสาน เทพในคําร�าลือคนนั้น การรวมกันของเสียงเล่าลือกับเรื่องจริงทําเอาคน ทั้งหมดประหวั่นพรั่นพรึง
จะถูกสังหารกันหมดไหมนะ?
น่าจะใช่?
สายตาของทุกคนที่จับจ้องไปที่หลี่มู่ ราวกับกําลังจ้องมองเทพแห่ง ความตายที่แสยะยิ้มเดินเข้ามาอย่างไรอย่างนั้น ความหวาดกลัวต่อ ความตายทะลักเข้ามาราวกับทิวเขาถล่มทะเล ทําเอาพวกเขาหายใจไม่ ออก
คนบางส่วนที่ล้อมรอบอยู่ เส้นเอ็นที่น่องเกร็งกระตุก หันหลังคิดจะ วิ่งหนี
“ใครหนี ตาย”
สายตาหลี่มู่กวาดไปรอบๆ จิตสังหารเข้มงวด
ตอนนี้เป็นใครก็ไม่กล้าหนี
แต่ในกลุ่มคนเหล่านี้ คนที่หวาดกลัวในใจมากที่สุด แน่นอนว่าไม่ พ้นพ่อค้าอ้วนเตี้ยกับชายหัวล้านร่างยักษ์เหมือนหอเหล็กดําข้างกาย เขา
ก่อนหน้านี้พวกเขาฉีกหน้าหลี่มู่อย่างรุนแรง มองเห็นหลี่มู่เป็นผู้ บําเพ็ญขั้นแมลงที่แสนจะอ่อนแอ ตอนนี้จึงได้รู้ว่ามาเจอเข้ากับ กระดานเหล็กของจริงเสียแล้ว
หลี่มู่ก็มองมายังพ่อค้าอ้วนเตี้ยนี่จริงๆ
พ่อค้าอ้วนเตี้ยหวาดกลัวสุดขีด ใบหน้าพยายามฉีกยิ้ม เอ่ยขึ้น อย่างประจบสอพลอ “ข้าน้อยตามืดบอดเหมือนสุนัข ไม่รู้ว่าเป็นเทพ สังหาร”
ผัวะ!
หลี่มู่ตบลงไปที่ใบหน้าเจ้าเนื้อหลายชั้นเหมือนซาลาเปาของเขา เสียฉาดหนึ่ง “เจ้ายังจะมายิ้มอยู่อีกหรือ? แถมยิ้มก็ยังน่าเกลียด ดูถูกข้า หรือไรกัน? ร้องไห้เดี๋ยวนี้!”
พ่อค้าอ้วนลูบใบหน้า ในใจรู้สึกมึนงง ใบหน้ามีรอยฝ่ามือห้านิ้ว อย่างชัดเจน สั่นระริกไปทั่วทั้งใบหน้า “ร้องไห้?”
นี่มันคําสั่งอะไรกัน?
คนรอบด้านเมื่อได้ยินคําสั่งก็รู้สึกงงงันเช่นกัน
เคยได้ยินแต่สั่งให้คุกเข่าร้องขอชีวิต เรียกบิดา…แต่ไอ้การให้คน ร้องไห้นี่ มันหมายถึงอะไรกันนี่
ประหลาดเกินไปแล้ว
“ร้องไห้ไม่เป็นหรือ?” หลี่มู่ไม่ยอมให้เขาได้อธิบายอะไรก็ฟาดลง ไปที่หน้าอีกหนึ่งฉาด เอ่ยต่อว่า “ถ้าอย่างนั้นข้าจะฟาดเจ้าจนร้องไห้ถึง จะหยุด”
ผัวะๆๆ!
เสียงบ้องหูดังขึ้นมาอีกหลายที
พ่อค้าอ้วนเตี้ยใบหน้าบวมฉึ่งเหมือนลูกท้อสุกอย่างไรอย่างนั้น รอยนิ้วบวมนูนขึ้นมา ถึงแม้ในเขาจะยังงงงันอยู่ แต่ถึงอย่างไรเขาก็เดิน มาทั่วสารทิศแล้ว ยืดได้หย่อนได้ ปฏิกิริยาถือว่ารวดเร็วอยู่ คุกเข่าลงฉีก เสียงร้องไห้โฮขึ้นทันที
หลี่มู่ตบฉาดลงไปบนหน้าเขาอีกหลายที เอ่ยว่า “ร้องไห้แสบแก้วหู เจ้าหัวเราะให้ข้าดูเดี๋ยวนี้”
พ่อค้าอ้วนเตี้ย “…”
ผู้คนรอบๆ “…”
คนโง่ก็ยังดูออก หลี่มู่กําลังจงใจทําให้พ่อค้าอ้วนเตี้ยอับอาย
“จิ้วๆ!”
สัตว์ดารา ‘เจ้าหัวเรียบ’ ร้องขึ้น ดังแสบแก้วหูมากเป็นพิเศษใน บรรยากาศที่เงียบเหมือนเป่าสาก
ชายร่างยักษ์เหล็กดําหัวล้านสะดุ้งโหยง
โดยเฉพาะตอนที่สายตาของหลี่มู่มองมา เขาเกิดความรู้สึก พังทลาย กระทั่งมือเท้าสับสนจนแทบจะสลัด ‘เจ้าหัวเรียบ’ ที่หนีบอยู่ ตรงรักแร้ออกไป
แต่สัตว์ดาราตัวนี้ก็กัดแขนของชายร่างยักษ์หัวล้านคนนี้อย่างไม่มี ท่าทีจะปล่อย ไม่ว่าเขาจะสะบัดอย่างไร ก็ไม่สามารถเอา ‘เจ้าหัวเรียบ’ ออกไปได้
“เหอๆ สัตว์ดารามีชื่อเรื่องเจ้าคิดเจ้าแค้นมาก หากไปยั่วโมโหมันก็ จะถูกไล่กัดไปชั่วชีวิต สะบัดเท่าไรก็ไม่หลุด” นักพรตเฒ่าลับๆ ล่อๆ ที่ อยู่ข้างๆ เมื่อเห็นฉากนี้ก็แสยะยิ้มเผยให้เห็นฟันทองซี่ใหญ่สองซี่ ออกมา
เมื่อเห็นว่าหลี่มู่เดินเข้ามาหาตนเอง ชายร่างใหญ่หัวล้านก็ร้อนรน ขึ้น ยกมือขึ้นจะจัดการ ‘เจ้าหัวเรียบ’ ให้ตาย ถ้ายังวุ่นวายเช่นนี้ต่อไป จะไปยั่วมารคลั่งสังหารหลี่มู่เปล่าๆ เดี๋ยวตัวเองจะลําบากไปด้วย
เขายกฝ่ามือฟาดไปทาง ‘เจ้าหัวเรียบ’
แสงดาบสว่างวาบ
หลี่มู่ลงมือ
มือของชายร่างใหญ่หัวล้านถูกฟันกระเด็นออกไป
“อ๊า…” ชายร่างใหญ่หัวล้านร้องเสียงแหลม
เขาจ้องไปที่หลี่มู่ แววตาบ้าคลั่งขึ้นมา ภายใต้ความเจ็บปวด ความ โหดร้ายตามสัญชาติญาณเดิมปะทุขึ้น คํารามด้วยความโกรธพุ่งตรง เข้าหาหลี่มู่
หลี่มู่สะบัดดาบ ฟันเค้าล้มกลิ้งลงไปบนพื้น
จิตดาบหิมะเล็กไหลเวียน ยอดฝีมือขั้นสามัญคนนี้ เลือดในร่างกาย กล้ามเนื้อไขกระดูก แปรเปลี่ยนเป็นเกล็ดหิมะไปในพริบตา ลอยล่อง กระจายไปในอากาศ ขณะถึงแก่ชีวิตยังมีความสวยงามอันน่ามหัศจรรย์
ท่อนแขนที่ปากของสัตว์ดารา ‘เจ้าหัวเรียบ’ กัดเอาไว้ กลายเป็น เกล็ดหิมะกะทันหัน มันรู้สึกมึนงงหันมองไปรอบๆ ราวกับยังไม่รู้ว่าเกิด อะไรขึ้น จากนั้นได้ทําจมูกฟุดฟิดๆ หมุนตัวพุ่งไปยังถุงหนังสัตว์ที่เหล่า องครักษ์ถือเอาไว้
เหล่าองครักษ์ไม่กล้าที่จะขวาง
หลี่มู่เอ่ยขึ้น “เปิดถุงออก”
พ่อค้าอ้วนเตี้ยรีบร้อนเอ่ยขึ้น “เร็ว เปิดถุงหนังออก เร็วเข้า”
องครักษ์เปิดถุงออก เด็กชายที่ถูกมัดเอาผ้ายัดปากไว้กลิ้งออกมา จากด้านใน ทั่วตัวมีแต่บาดแผล หางตายังมีเลือดไหลอยู่ ดูอ่อนแอโรย แรงอย่างมาก
‘เจ้าหัวเรียบ’ ร้องขึ้นอย่างร้อนรน พุ่งตรงเข้าไปข้างกายเด็กชาย ใช้ศีรษะคลอเคลียกับแก้มของเด็กชาย ยืนลิ้นสีชมพูออกมาเลียเลือด สดที่ปากแผลของเด็กชาย
ของเหลวของสัตว์ดารา เหมือนกับมีคุณสมบัติดในด้านการรักษาที่ น่ามหัศจรรย์ หลังจากที่เลือดบนบาดแผลของเด็กชายถูกเลีย ก็เริ่ม ค่อยๆ ทําการฟื้ นฟู ตัวเขาฟื้ นคืนสติขึ้นมาได้อีกพอควร
หลี่มู่มองพ่อค้าอ้วนเตี้ย ถามขึ้นว่า “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
พ่อค้าอ้วนยิ้มประจบสอพลอตอบว่า “ท่านเทพมารสังหาร นี่คือ สายเลือดของราชาสัตว์ดารา มีพลังอันน่ามหัศจรรย์ ข้าน้อยยินยอมที่ จะมอบมันให้กับท่าน…”
ผัวะ!
หลี่มู่ยกมือขึ้นตบไปอีกฉาด
“เรียกข้าว่าดาบคลั่ง เทพมารสังหารอะไรกัน ฟังแล้วน่าเกลียด ตาย” เขาเอ่ยขึ้นด้วยความโมโห
เขาจะถือโอกาสนี้ สร้างตัวตนขึ้นเสียใหม่ สร้างภาพลักษณ์อวดดี บ้าระห�าขึ้น เพื่อกระตุ้นพวกสํานักใหญ่ๆ ในทางช้างเผือก สร้าง ภาพพจน์ปลอมขึ้นมาเพื่อปั่ นป่วนการวินิจฉัยของศัตรู ดังนั้นจึงเลือก ฉายาใหม่ขึ้นมา
ไม่มีความหมายอะไรอื่น ก็แค่อยากจะขับคําว่าคลั่งขึ้นมาเท่านั้น
พ่อค้าอ้วนเตี้ยหน้าบวมจนเหมือนกับหัวหมูนึ่งสุก ไม่กล้าที่จะไม่ เชื่อฟังแม้แต่น้อย ทําการค้าขายต่อ “ใช่ๆๆ ท่านดาบคลั่ง สัตว์ดาราตัว นี้เป็นสายเลือดของราชาสัตว์ มัน…”
ผัวะ!
หลี่มู่ซัดอีกหนึ่งฉาด “นั่นมันของเจ้าหรือไร? เจ้าถึงจะมอบให้คน อื่นส่งเดช? ใครให้เจ้ายิ้ม? ยิ้มก็ยิ้มน่าเกลียด…ร้องไห้เดี๋ยวนี้”
พ่อค้าอ้วนเตี้ยแทบจะบ้าอยู่แล้ว
แต่เขาก็ไม่มีความทระนงอะไรอีก รีบร้องไห้โฮขึ้นมาทันที
สายตาหลี่มู่กวาดไปรอบๆ บอกกับผู้คนว่า “ฟังข้าให้ดี ยังไม่ อนุญาตให้ไปไหน อยู่ดูต่อไปกันก่อน การสกัดแยกหินของข้าในวันนี้ยัง ไม่จบเลย”
คนอื่นๆ กล้าขยับกันหรือ?
ไม่กล้า
คนทั้งหมดเป็นเหมือนเด็กน้อยในโรงเรียนอนุบาลอย่างไรอย่างนั้น ยืนนิ่งอยู่ที่เดิมอย่างว่าง่าย รับชมการสกัดแยกหินของหลี่มู่ต่อ ถึง อย่างไรขอแค่ดาบคลั่งคนนี้ไม่สังหารคน อย่างอื่นก็พูดง่ายแล้ว
หลี่มู่เดินมาถึงด้านหน้าเจ้าของแผงชุดดํา
“เถ้าแก่ ในมือของท่านยังมีหินต้นกําเนิดที่ดีกว่านี้อีกไหม เอา ออกมาทั้งหมดเลยเถอะ ข้าคันไม้คันมือเสียแล้ว อยากจะฝึกฝีมืออีก หน่อย” เขาค่อนข้างเกรงใจเจ้าของแผงชุดดําลึกลับคนนี้อยู่พอสมควร
ถึงอย่างไรเมื่อครู่ ไม่ว่าจะตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ เจ้าของแผงคนนี้ก็ยัง ลอบช่วยเหลือตนเองเพื่อหลอกพ่อค้าอ้วนเตี้ย
ไหนจะยัง เรื่องที่เจ้าของแผงชุดดํายืนหยัดรักษาหลักการของ ปรมาจารย์หินต้นกําเนิด คนเช่นนี้ยังดีกว่าพวกขี้แพ้ที่เหมือนกับสุนัข แมลงวันที่ใช้วิธีการหลอกลวงผู้อื่นเพื่อแย่งชิงอยู่มากโข
เจ้าของแผงชุดดําเมื่อครู่อยู่ในอาการตกตะลึงจากเหตุการณ์ แต่ ยังรักษาความนิ่งเกินปกติเอาไว้ได้ตลอด เวลานี้ที่เผชิญหน้ากับหลี่มู่ ก็ ไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแต่อย่างใด เอ่ยตอบว่า “หินต้นกําเนิดที่ดีกว่านี้? เหอๆ ยังเหลือหินต้นกําเนิดตั้งมากมาย ไม่พอแก้อาการคันมือของเจ้า หรอกหรือ?”
หลี่มู่สั่นศีรษะ เอ่ยต่อว่า “นี่เป็นหินธรรมดาทั้งนั้น อย่างมากสกัด ออกมาก็ได้แค่ผลึกเซียนทองคํา”
“โอ๋?” ในดวงตาของเจ้าของแผงชุดดํา มีประกายออกมาให้เห็น เอ่ยต่อว่า “ฮ่าๆๆ ขนาดผลึกเซียนทองคําก็ยังไม่อยู่ในสายตาเจ้า? สุด ยอดดาบคลั่งจริงๆ เจ้าบ้าระห�ามาก!”
หลี่มู่เอ่ยต่อ “ไม่ง่ายเลยที่จะได้มาเจอเจ้าของแผงที่เข้าไปขุดหิน ออกมาจากเหมืองต้องห้ามแบบนี้ แน่นอนต้องอยากเห็นหินต้นกําเนิด ระดับเทพที่แท้จริงสักครั้ง โอกาสที่หาได้ยากยิ่ง พบได้แต่อ้อนขอไม่ได้ น่ะนะ”
เขาดูหินต้นกําเนิดในแผงจนหมดแล้ว ล้วนไม่พบหินต้นกําเนิดที่มี คลื่นประหลาดระหว่างเป็นและตายที่รู้สึกได้ก่อนหน้านั้นเลย แต่ก่อน หน้าที่สัมผัสได้นั้นไม่ผิดแน่นอน ว่ามันออกมาจากแผงนี้
ดังนั้นจึงเหลือเพียงความเป็นไปได้เดียว…
หินต้นกําเนิดที่มีพลังประหลาดนั้นแฝงอยู่ ได้ถูกเจ้าของแผงชุดดํา ลึกลับคนนี้เก็บไปแล้ว
นี่เป็นการคาดการณ์ของหลี่มู่
เขาอยากจะลองทดสอบดู
เจ้าของแผงชุดดํายิ้มร่าขึ้นด้วยความสนุก ครุ่นคิดเล็กน้อย ราวกับ กําลังทําการตัดสินใจอะไรบางอย่าง จากนั้นเอ่ยขึ้นว่า “หินต้นกําเนิด ระดับเทพมีอยู่ แต่กลัวว่าเจ้าจะสกัดมันออกมาไม่ได้ ถึงอย่างไรข้าก็ไม่ กล้าที่จะสกัดอยู่ดี เจ้าลองดูก็แล้วกัน”
สองมือของเขาทําปางมือเก่าแก่ จากนั้นหยิบเอาหินต้นกําเนิด ขนาดใหญ่ก้อนหนึ่งออกมาจากช่องเก็บของมิติ
หินต้นกําเนิดก้อนนี้ สูงประมาณเจ็ดฉื่อ เส้นผ่านศูนย์กลาง ประมาณสองฉื่อ รูปร่างเสาแท่งกลม ราวกับเป็นเสาวิหารที่ย้ายออกมา จากวิหารเทพเก่าแก่ที่พังทลายลงอย่างไรอย่างนั้น ลวดลายบนผิว หยาบกร้าน อักขระดาราจางๆ และยังมีตะใคร่สีดําบางส่วนเกิดขึ้นและ เกาะอยู่อีกด้วย ไม่มีคลื่นพลังวิญญาณเลยแม้แต่น้อย
นี่ก็คือหินต้นกําเนิดระดับเทพที่เจ้าของแผงชุดดําพูดมาหรือ?
กลุ่มคนรอบๆ ที่ถูกบีบให้กินแตง มองเห็นหินต้นกําเนิดก้อนนี้ก็ ล้วนรู้สึกสงสัย
มันเหมือนหินขยะมากกว่านะ
ทว่าหลี่มู่กลับดวงตาเป็นประกายในพริบตา
เพราะว่าเขาสัมผัสได้ทันที ว่าคลื่นพลังแปลกประหลาดระหว่าง ความเป็นตายที่ปรากฏขึ้นก่อนหน้า คลื่นพลังที่สามารถตอบรับกับ ‘วิชาก่อนกําเนิด’ ได้ กําลังแผ่ซ่านออกมาจากหินต้นกําเนิดทรงเสาก้อน นี้อย่างชัดเจนถึงที่สุด
จริงๆ ด้วย!
หลี่มู่ลิงโลดขึ้น
ตนเองเดาถูก
เขามองไปยังเจ้าของแผงชุดดํา ถามขึ้นว่า “เถ้าแก่ หินต้นกําเนิด ก้อนนี้…”
เจ้าของแผงชุดดําไม่รอให้หลี่มู่พูดจบ เอ่ยขึ้นมาตรงๆ ว่า “หินต้น กําเนิดก้อนนี้ไม่มีราคา ถ้าเจ้าสามารถสกัดมันได้มันก็เป็นของเจ้า สัก แดงเดียวข้าก็ไม่เอา แต่ถ้าเจ้าสกัดมันไม่ได้ มาจากที่ไหนก็กลับไปทาง นั้นเลย มันหมายถึงว่าเจ้าไม่มีชะตากับมัน ไม่จําเป็นต้องฝืน”
โอ๋
หลี่มู่ตะลึง
น่าสนใจ
น่าสนใจจริงๆ
ในตอนนี้เขารู้สึกอยากรู้อยากเห็นกับเจ้าของแผงชุดดําลึกลับคนนี้ มากยิ่งขึ้นแล้ว
“ข้าขอยืมดาบหน่อย” หลี่มู่เอ่ยขึ้น
เจ้าของแผงชุดดําไม่พูดจา ตบเบาๆ ลงบนกล่องหินข้างกาย ดาบ หินครีบปลาเล่มนั้นได้กลายเป็นลําแสงพุ่งตรงไปทางหลี่มู่
หลี่มู่จับดาบหินมั่น มือถูกถ่วงลงมา
หนักมาก!
มองดูแล้วเหมือนมีดหินครีบปลาบางๆ แต่กลับหนักกว่าล้านชั่ง การถือมันก็เหมือนกับยกก้อนหินภูเขาขนาดยักษ์เอาไว้
เป็นสมบัติล�าค่าจริงๆ ไม่ธรรมดาเลย
ยังดีที่หลี่มู่ก็เป็นสัตว์ประหลาดแรงมหาศาล
หลังจากที่ปรับตัวกับน�าหนักของมีดหินแล้ว หลี่มู่ปรับท่าทางการ ถือ ในสมองคิดย้อนไปถึงท่าทางและวิธีการการสกัดแยกของเจ้าของ แผงเมื่อก่อนหน้า ค่อยๆ จรดมีดลงหั่นหินต้นกําเนิดระดับเทพทรงแท่ง เสาอย่างช้าๆ
เมื่อเห็นภาพนี้ เจ้าของแผงชุดดําสั่นศีรษะเบาๆ มือสมัครเล่น ไม่มีทางที่จะสกัดแยกหินต้นกําเนิดก้อนนี้ได้ เข้าทําการตัดสินออกมาแล้ว ……………………………………….