ทะลุมิติไปเป็นช่างเสริมสวยยุค 80 - ตอนที่ 641 งานฉลองปีใหม่ปี 1990
ตอนที่ 641 งานฉลองปีใหม่ปี 1990
ขณะที่เฉินเจียเหอและหลินเซี่ยเดินทางผ่านหน้าร้านตัดผม พวกเขาก็เจอหวังซิ่วฟางที่จูงมือเสี่ยวฮวาและเจียงกั๋วเซิ่ง รวมถึงเจียงอวี่เฟย
คนทั้งสี่เดินพูดคุยหัวเราะกันอย่างสนุกสนาน เฉินเจียเหอเห็นพวกเขาแล้วจึงจอดรถมอเตอร์ไซค์
“อวี่เฟย” หลินเซี่ยร้องทัก
เจียงอวี่เฟยเห็นหลินเซี่ยที่แต่งตัวมิดชิดเหลือแค่ดวงตาสองข้างก็รู้สึกประหลาดใจ “เซี่ยเซี่ย ทำไมเธอมาอยู่ข้างนอกในวันส่งท้ายปีแบบนี้ล่ะ?”
“พวกเราเพิ่งกลับมาจากบ้านพ่อแม่ของฉันน่ะ” หลินเซี่ยพูดขณะมองพวกเขาแล้วยิ้มถาม
“พี่หวังกับเสี่ยวฮวาจะไปฉลองปีใหม่ที่บ้านพักของโรงงานเครื่องจักรเหรอ?”
เจียงอวี่เฟยอารมณ์ดีมาก พูดด้วยน้ำเสียงร่าเริง “ใช่แล้ว น้าหวังกับเสี่ยวฮวาจะไปฉลองปีใหม่ที่บ้านฉัน เซี่ยเซี่ย ช่วงนี้เห็นเธอยุ่ง ๆ ฉันเลยไม่มีโอกาสได้บอกข่าวดีกับเธอ พ่อฉันกับน้าหวังจะแต่งงานกันหลังปีใหม่นี้”
“จริงเหรอ?”
เจียงกั๋วเซิ่งพยักหน้าพร้อมกับหัวเราะ หวังซิ่วฟางมีสีหน้าเขินอาย
“จริงจ้ะ ฉันคิดตกแล้วว่าแต่งงานแต่เนิ่น ๆ คงดีกว่า อวี่เฟยกับเหล่าเจียงดีต่อฉันขนาดนี้ ถ้าฉันยังไม่ตกลงอีกก็ไม่รู้ดีชั่วเกินไปแล้ว”
หลินเซี่ยยิ้มกล่าว “ยินดีด้วยนะคะ เดี๋ยวจะแวะไปสวัสดีปีใหม่อีกทีนะคะ”
“ขออวยพรให้ทุกคนมีความสุขในวันปีใหม่ล่วงหน้า”
“สุขสันต์วันปีใหม่ งั้นพวกเราไปก่อนนะ”
หลินเซี่ยเห็นหวังซิ่วฟางกับเจียงกั๋วเซิ่งได้ตกล่องปล่องชิ้นกันแล้วก็รู้สึกดีใจแทนพวกเขา
ก่อนหน้านี้เฉินเจียเหอเคยพูดว่าการจัดสรรบ้านสวัสดิการให้หวังซิ่วฟางนั้นคงเป็นไปได้ยาก
การจะได้พบคนที่พึ่งพาได้ในการแต่งงานครั้งที่สองไม่ใช่เรื่องง่าย คนทั้งสองแต่งงานกันเร็วหน่อย คนในครอบครัวใช้ชีวิตร่วมกันอย่างรักใคร่ปรองดองจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด
เมื่อทั้งคู่กลับมาที่บ้านพักในเขตทหาร หู่จือก็วิ่งเข้ามากอดขาหลินเซี่ย
เขาเงยหน้าขึ้นพูดด้วยน้ำเสียงน้อยใจ “แม่ ผมนึกว่าพ่อกับแม่จะอยู่ฉลองปีใหม่ที่บ้านคุณยายซะแล้ว”
“ไม่หรอก ถ้าจะอยู่ฉลองปีใหม่ที่บ้านคุณยายก็ต้องบอกลูกก่อนอยู่แล้ว”
โจวลี่หรงกับหยางหงเสียกำลังยุ่งอยู่ในครัว หลินเซี่ยจึงถือหมูสามชั้นตุ๋นกับข้าวผัดแปดเซียนที่บ้านเดิมให้มาเดินเข้าไปข้างใน
“แม่ สองอย่างนี้พ่อแม่ฉันทำเอง ให้ฉันเอากลับมาด้วยค่ะ”
“ทำเสร็จหมดแล้วเหรอ?” โจวลี่หรงรับมามองดูพลางพูดพร้อมรอยยิ้ม “กำลังกลุ้มอยู่เลยว่าจะทำกับข้าวได้ถึงสิบอย่างไหม มีสองอย่างนี้ก็หมดห่วงได้แล้ว”
“อาหารที่พ่อครัวใหญ่ทำต่างออกไปจริง ๆ น่ากินทั้งสีกลิ่นรส เดี๋ยวฉันจะเอาไปอุ่นสักหน่อย”
หยางหงเสียกับโจวลี่หรงสวมผ้ากันเปื้อน หยางหงเสียกำลังนวดแป้ง บอกว่าจะห่อเกี๊ยว หลินเซี่ยจึงพับแขนเสื้อเตรียมจะเข้ามาช่วยด้วย
“แม่ ฉันช่วยด้วยคนนะ”
“เธอไม่ต้องมาทำด้วยหรอก พวกฉันทำสองคนก็พอแล้ว”
หยางหงเสียเอ่ยยิ้ม ๆ ขณะทำงานไปด้วย
“พี่สะใภ้ ออกไปคุยเป็นเพื่อนคุณย่าข้างนอกเถอะค่ะ ฉันกับแม่ทำด้วยกันสองคนได้ เวลายังมีเหลือเฟือ ไม่รีบอยู่แล้ว”
หยางหงเสียเป็นคนนิสัยซื่อ ๆ อีกทั้งหลินเซี่ยยังเป็นเจ้านายของหล่อน หล่อนจึงเคารพหลินเซี่ยมาก ตอนนี้หลินเซี่ยตั้งท้องอยู่ หล่อนจึงอยากให้หลินเซี่ยพักผ่อนจากใจจริง
ไม่มีทางเกี่ยงงานเพียงเพราะพี่สะใภ้ไม่ได้ทำงาน
“ได้ งั้นฉันออกไปก่อนนะ”
ผู้เฒ่าเฉินกำลังเขียนกลอนคู่ คุณย่าเฉินทำกาวเปียกเตรียมไว้ เฉินเจียซิ่งและเฉินเจียวั่งกำลังวุ่นอยู่กับการติดกลอนคู่
นอกจากประตูใหญ่แล้ว ประตูห้องนอนทุกบานในบ้านล้วนมีกลอนคู่ติดอยู่
หู่จือกระโดดโลดเต้นตามพวกเขาไปด้วย เพื่อดูคุณอาทั้งสองติดกลอนคู่
จากนั้นก็ดึงหลินเซี่ยไปดูประทัดที่อาสามซื้อมาให้เขา
เฉินเจียวั่งซื้อประทัดแบบตั้งพื้นและประทัดแบบแขวนให้ตัวเองมากมาย ส่วนของหู่จือ เขาซื้อดอกไม้ไฟขนาดเล็กสำหรับเด็กมาให้
“แม่ หลังกินข้าว พวกเราไปจุดประทัดกันเถอะ อาสามซื้อดอกไม้ไฟมาให้ผมด้วย สวยมาก ๆ เลยครับ”
“จ้ะ”
ครอบครัวเฉินประหยัดมัธยัสถ์มาแต่ไหนแต่ไร แต่มื้อค่ำฉลองเทศกาลปีใหม่ปีนี้กลับอุดมสมบูรณ์อย่างมาก
มีทั้งไก่ เป็ด ปลาและหมู โจวลี่หรงยังทำกุ้งอีกด้วย เหมือนกับที่หล่อนพูดไว้ว่าเตรียมอาหารสิบอย่างสื่อความหมายถึงความสมบูรณ์พูนสุข
แถมยังห่อเกี๊ยวเพิ่ม ทำให้บนโต๊ะมีอาหารวางเรียงรายอยู่เต็ม
เฉินเจียซิ่งตั้งตารอเหล้าของคุณปู่มาตั้งแต่บ่าย เขาไม่กล้าขอเอง แต่อ้างชื่อเฉินเจียเหอ ขอเหล้าสุดรักสุดหวงสองขวดมาจากคุณปู่
ตอนนี้ อาหารตั้งโต๊ะเรียบร้อยแล้ว
ผู้เฒ่าเฉินเห็นพวกผู้หญิงทำอาหารมากมายเต็มโต๊ะ กำลังจะพูดว่าสิ้นเปลือง แต่เห็นสายตาที่ภรรยาส่งมาห้ามปรามเสียก่อน
คุณย่าเฉินยิ้มขณะถาม “ได้ยินว่าพ่อแม่ของเซี่ยเซี่ยส่งอาหารมาให้พวกเราด้วยสองอย่างเหรอ?”
หลินเซี่ยตอบ “ค่ะ คุณย่า พ่อแม่ฉันทำหมูสามชั้นตุ๋นกับข้าวผัดแปดเซียน พวกเขาทำเยอะเลยแบ่งมาให้พวกเราด้วยสองชาม”
“เดี๋ยวตอนโทรไปสวัสดีปีใหม่คงต้องขอบคุณพวกเขาด้วยแล้ว สองอย่างนั้นแค่เห็นก็รู้ว่าอร่อยมาก”
คนทั้งบ้านนั่งล้อมโต๊ะกันอยู่ เฉินเจียซิ่งรินเหล้าอย่างกระตือรือร้น แล้วรินเครื่องดื่มให้พวกผู้หญิง จากนั้นก็รบเร้าให้ผู้อาวุโสพูดอะไรเป็นมงคลสักหน่อย พูดจบทุกคนก็ชนแก้วกัน
ครั้งนี้นับว่าเป็นปีใหม่ที่คึกคักและมีความสุขที่สุดในช่วงหลายปีที่ผ่านมาของตระกูลเฉิน ในบ้านไม่มีคนที่คบหายาก ไม่มีเรื่องไม่สบายใจ คนในครอบครัวทุกคนต่างยิ้มแย้มเบิกบานใจ
ผู้เฒ่าเฉินมองคนรุ่นหลังที่อยู่กันอย่างกลมเกลียวก็แย้มยิ้มอย่างปลาบปลื้ม พูดจาเป็นทางการอยู่หลายประโยค รำลึกถึงอดีต วางแผนอนาคต แล้วพูดคำอวยพรอีกเล็กน้อย
ทุกคนมีสีหน้ายิ้มแย้มแจ่มใสเพราะคำอวยพรของผู้เฒ่าเฉิน ทยอยกล่าวคำอวยพรตอบกลับผู้อาวุโสในบ้าน
“ขอให้คุณปู่คุณย่าสุขภาพแข็งแรง โชควาสนามากมี ผมดื่มหมดจอก” เฉินเจียซิ่งลุกขึ้นพูดจบก็กระดกเหล้าหมดแก้วในคราวเดียว
เขารินเหล้าเพิ่มอีกแก้ว อวยพรให้พ่อแม่ของเขาการงานราบรื่น สุขภาพแข็งแรง ก่อนจะดื่มเหล้าในแก้วจนหมดอีกครั้ง
เขากำลังจะรินเหล้าเพื่อคำอวยพรให้เฉินเจียเหอกับหลินเซี่ย แต่เฉินเจียวั่งฉวยขวดเหล้าไปเสียก่อน เอ่ยเสียงเย็น “พี่รอง ผมว่าพี่แค่อยากดื่มเหล้าดี ๆ ของคุณปู่เท่านั้นแหละ”
คราวก่อนอ้างว่าหย่าแล้วอารมณ์ไม่ดี แอบดื่มเหล้าเหมาไถของคุณปู่ไปหนึ่งขวด วันนี้ก็อ้างว่าฉลองปีใหม่ เหล้าขวดนี้เกรงว่าสุดท้ายคงลงไปอยู่ในท้องของเขาจนหมด
เฉินเจียวั่งไม่ไว้หน้าเขาแม้แต่น้อย ทำเอาเฉินเจียซิ่งไปต่อไม่ถูก
คืนส่งท้ายปีเก่าแบบนี้ ทุกคนล้วนมีความสุข ผู้เฒ่าเฉินจึงบอกให้เฉินเจียวั่งส่งเหล้าให้เฉินเจียซิ่ง ถ้าเขาอยากดื่มเหล้าก็ให้เขาดื่มไป ช่วงครึ่งปีหลังมานี้ เฉินเจียซิ่งทำตัวดี ได้แต่งภรรยาที่ตนเองหมายปอง คนแก่อย่างเขาก็พอใจ
พวกเขาไม่ได้คาดหวังในตัวเฉินเจียซิ่งสูงอะไรมากมาย ไม่หวังว่าเขาจะสร้างชื่อให้วงศ์ตระกูล เพียงหวังว่าเขาจะสามารถใช้ชีวิตของตัวเองได้ดี ไม่สร้างปัญหาให้ที่บ้าน ไม่คอยก่อเรื่องเหมือนที่ผ่านมาก็พอแล้ว
ช่วงครึ่งปีที่เขาแต่งงานกับเสิ่นเสี่ยวเหมยถือเป็นช่วงเวลาแห่งความวุ่นวายโดยแท้
ว่ากันว่าถ้าไม่เปรียบเทียบก็ไม่เจ็บปวด ตอนนี้ได้แต่งภรรยาที่สุภาพเรียบร้อยและเอาการเอางานอย่างหยางหงเสีย พวกเขาก็พอใจแล้ว
ทุกคนพูดคุยกันไปกินข้าวไป ในไม่ช้า รายการพิเศษฉลองเทศกาลปีใหม่ก็เริ่มฉาย
เมื่อรายการเริ่มออกอากาศ ความสนใจของทุกคนก็ถูกดึงดูดไปที่โทรทัศน์
หลินเซี่ยจำได้ว่าช่วงปีใหม่ปี 1990 นั้นมีรายการคลาสสิกถือกำเนิดขึ้นมากมาย
โดยเฉพาะรายการในวันนี้ จะยังคงได้รับการเล่าขานอย่างกว้างขวางในอีกหลายปีข้างหน้า
ที่เธอเฝ้ารอคอยมากที่สุดก็คือ “ตัวเอกกับตัวประกอบ” และภาคต่อของ “กองโจรมีลูกเกิน”
มุกตลกในตอนนั้นเอามาเล่นในภายหลังก็ยังคงทำให้ผู้คนรู้สึกคุ้นเคยและได้รับการเล่าขานต่อกันมา รายการเหล่านี้ไม่ได้ยกระดับจิตใจ ไม่เน้นดราม่า มีเพียงการหยอกล้อสร้างเสียงเฮฮาล้วน ๆ
เมื่อรายการเริ่มต้น ทุกคนในครอบครัวก็หัวเราะกันยกใหญ่
หลินเซี่ยมักจะตบมุกก่อนที่คนในรายการจะพูดออกมาโดยไม่รู้ตัว
คุณย่าเฉินเลื่อมใสมาก บอกว่าหลินเซี่ยฉลาด เพียงแค่นักแสดงพูดประโยคแรก เธอก็รู้แล้วว่าประโยคถัดไปคืออะไร
………………………………………………………………………………………………………………………….
สารจากผู้แปล
เป็นปีใหม่ปีแรกเลยมั้งที่ครอบครัวเฉินมีความสุข เพราะไม่มีตัวปัญหาอย่างยัยเสี่ยวเหมยแล้ว
ไหหม่า(海馬)