ทะลุมิติไปเป็นภรรยาชาวสวนของท่านบัณฑิต - เล่มที่ 15 บทที่ 494 ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว
“คนเล่า? คนอยู่ที่ไหน? ” ซ่งฉางชิงเหลียวซ้ายแลขวา ไม่เห็นเงาร่างของเซี่ยยวี่หลัวข้างๆ ติงกุ้ย แต่ยิ่งไม่เห็น เขาก็ยิ่งหวาดกลัว กลัวว่าจะเกิดเรื่องกับเซี่ยยวี่หลัว กลัวว่านางจะเผชิญกับอันตราย นางจะหวาดกลัวเพียงใดกัน
ติงกุ้ยเข้าใจแล้วว่าคนตรงหน้าคือผู้ใด และกำลังหาผู้ใดอยู่ เขาผ่อนท่อนแขนลงก่อนกล่าวทันที “ข้าไม่ได้แตะต้องนาง ไม่ได้แตะต้องนางเลย! ข้ากล้าสาบานต่อฟ้า ข้าไม่ได้แตะต้องนาง! ”
“เช่นนั้นนางอยู่ที่ไหน? ” ซ่งฉางชิงได้ยินว่าเซี่ยยวี่หลัวไม่มีอันตราย จึงผ่อนแรงมือเล็กน้อย ทว่าติงกุ้ยกลับมีท่าทางราวกับเป็นผู้ถูกกระทำ “ข้ารู้ที่ไหนกันว่านางรู้วิชาป้องกันตัว ข้อมือของข้าถูกนางบิดจนหักแล้ว! ฮือฮือฮือ…”
จากความวิตกกังวลเมื่อครู่ จนถึงความรู้สึกผ่อนคลายในยามนี้ เมื่อซ่งฉางชิงได้ฟังวาจาดังกล่าว ก็หัวเราะออกมาดังพรืด
ไม่เป็นอะไรก็ดี ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!
เพียงแต่ ตอนนี้นางสบายดีหรือไม่ ซ่งฉางชิงยังต้องการเห็นด้วยตาตัวเอง
เขาจับติงกุ้ยมัดไว้บนรถม้า ก่อนที่รถม้าจะวิ่งไปทางหมู่บ้านสกุลเซียวด้วยความเร็วสูง
ยามนี้เป็นเวลาเลิกเรียน เซียวยวี่เพิ่งเดินถึงประตูบ้าน ทว่าประตูบ้านกลับปิดสนิท ระหว่างที่เขารู้สึกประหลาดใจว่าปกติเวลานี้อาหลัวต้องทำอาหารอยู่ที่บ้าน เหตุใดวันนี้…
เสียงควบม้าพลันดังขึ้นจากด้านหลัง เซียวยวี่หันกลับไปมอง เขารู้จักคนขับรถม้า นั่นคือท่านซ่งน้อยแห่งเซียนจวีโหลว
รถม้ายังไม่หยุดจอดสนิท ก็เห็นซ่งฉางชิงเลิกม่านขึ้นกระโดดลงมา “ท่านเซียว…”
เซียวยวี่รีบประสานมือคำนับ “ท่านซ่ง”
“ฮูหยินของท่านอยู่ที่บ้านหรือไม่? ”
เซียวยวี่นึกว่าซ่งฉางชิงมาหาอาหลัวเพราะมีธุระ จึงส่ายหน้าพลางกล่าว “นางยังไม่กลับมา! ”
เขาไม่รู้อะไรเลย
ซ่งฉางชิงพยายามกล่าวกับเซียวยวี่ด้วยน้ำเสียงเรียบสงบ “ท่านรู้หรือไม่ ว่าฮูหยินของท่านเกือบจะถูกคนจับตัวไป? ”
ข้าวของในมือเซียวยวี่พลันร่วงหล่น มองซ่งฉางชิงอย่างไม่อยากจะเชื่อหูตัวเอง “ท่าน ท่านว่าอะไรนะ? ”
“ฮูหยินของท่านเกือบจะถูกคนจับตัวไป” ซ่งฉางชิงกล่าวซ้ำอีกครั้ง
“แล้วนางเล่า? นางอยู่ที่ไหน? ” เซียวยวี่น้ำเสียงสั่นเครือ ตกใจจนขวัญกระเจิง เซียวจื่อเมิ่งก็ฟังเข้าใจแล้ว ตกใจจนส่งเสียงร้องไห้โฮทันที
ซ่งฉางชิงส่ายหน้า “ข้าก็กำลังหานาง ยังหาไม่พบ คนที่จับตัวนางถูกข้าจับตัวได้แล้ว คนหนึ่งอยู่บนรถม้า เขาบอกว่าตอนนั้น หลังฮูหยินของท่านบิดข้อมือของเขาจนหัก ก็จับปลาอยู่บนภูเขา”
เซียวจื่อเซวียนรู้สถานที่ที่ปกติพี่สะใภ้ใหญ่จะไปจับปลา จึงสาวเท้าวิ่งออกไปทันที “พี่ใหญ่ ข้าจะไปหาขอรับ! ”
ช่วงเวลาแห่งการรอคอยนั้นแสนยาวนาน ทุกวินาทียาวนานราวกับข้ามวันข้ามปี!
ไม่นานเซียวจื่อเซวียนก็กลับมา ตะโกนมาแต่ไกล “พี่ใหญ่ พี่สะใภ้ใหญ่ไม่อยู่ขอรับ”
ทุกคนต่างรู้สึกวิตกทันที
เวลานี้เอง เซียวยวี่มองไปภายในลานด้วยสายตาอันฉับไว แหจับปลาและตะกร้าสานที่เซี่ยยวี่หลัวใช้จับปลายังตากอยู่ในลาน เช่นนั้นนางน่าจะเคยกลับมาแล้ว
เขาจึงวิ่งกลับเข้าไปในห้อง กระดาษข้อความที่เซี่ยยวี่หลัวทิ้งไว้นั้นสะดุดตามาก
“นางเข้าไปในตัวเมืองเพื่อไปหาท่านแล้ว! ” เซียวยวี่นำกระดาษข้อความวิ่งออกมา
ซ่งฉางชิงผงะไป “นางไปหาข้าแล้วงั้นหรือ? ”
ทั้งสองคนไม่ได้วิเคราะห์เรื่องราวเบื้องหลังให้มากความ ต่างขึ้นรถม้ามุ่งตรงเข้าไปในตัวเมืองทันที
หลังจากที่เซี่ยยวี่หลัวถึงตัวเมือง ก็ไปเซียนจวีโหลวก่อน จึงรู้ว่าซ่งฉางชิงพาคนออกไปแล้ว ดูท่า คนเหล่านี้น่าจะกำลังไปหานาง
จากนั้นนางจึงไปที่บ้านของฟู่ซื่อ
ฟู่ซื่อกำลังทำอาหารให้เถียนเถียนกิน ไม่มีผัก ไม่มีข้าว มีเพียงข้าวซ้อมมือจำนวนหนึ่ง เถียนเถียนกำลังกินอย่างตะกละตะกลาม ไม่รู้ว่าทนหิวมานานเพียงใด
เซี่ยยวี่หลัวมาหา ฟู่ซื่อรู้สึกตกตะลึงเป็นอย่างมาก “ฮูหยิน ท่านมาได้อย่างไร? ”
ความรู้สึกประหลาดใจและยินดีฉายชัดอยู่ในแววตา ดูท่า ฟู่ซื่อไม่รู้เรื่องที่นางถูกติงกุ้ยจับตัวเรียกค่าไถ่แม้แต่น้อย
เซี่ยยวี่หลัวนำขนมที่ซื้อมามอบให้เถียนเถียน เมื่อเห็นว่ามีอาหารที่อร่อยกว่า เถียนเถียนก็วางชามลงทันที หยิบขนมสองชิ้นให้ฟู่ซื่อ ก่อนจะกินเองอย่างตะกละตะกลาม
ฟู่ซื่อถือขนมไว้ในมือ ไม่ได้กินข้าวให้อิ่มท้องมานานหลายวันแล้ว นางเองก็กินขนมจนหมดอย่างรวดเร็ว ก่อนจะเอ่ยถามด้วยความตื้นตัน “ฮูหยิน วันนี้ที่ท่านมา เพราะจะเริ่มทำงานแล้วใช่หรือไม่? ”
เซี่ยยวี่หลัวส่ายหน้า หันมองเถียนเถียนด้วยความเอ็นดู บนใบหน้าและบนแขนนางล้วนมีบาดแผล
จ้องมองอยู่ครู่ใหญ่ นางจึงเก็บคืนสายตา “เซียงชุ่ยไม่อยู่บ้านหรือ? ”
“อ๋อ นางหรือ หลายวันนี้นางมักจะไม่อยู่บ้าน รุ่งสางก็ออกไป พลบค่ำจึงกลับมา! ”
“นางเคยบอกหรือไม่ว่านางจะทำอะไร? ”
ฟู่ซื่อเองก็ไม่รู้ว่าเซียงชุ่ยไปทำอะไร “นางบอกว่าอยู่ในบ้านแล้วไม่สบายใจ อยากออกไปเดินเล่นสูดอากาศ ข้ารู้ว่าเด็กคนนั้นทุกข์ทรมานอยู่ในใจ จึงปล่อยนางไป”
“นางไปเซียนจวีโหลว ไปหาท่านซ่ง! ” เซี่ยยวี่หลัวพยายามปรับน้ำเสียงของตัวเองให้เรียบสงบ
ฟู่ซื่อรู้สึกตกใจ “อะไรนะ? นางไปหาท่านซ่ง? นางหาท่านซ่งไปทำไม? ”
“จับตัวข้าเพื่อเรียกค่าไถ่! ”
ฟู่ซื่อตกใจจนลุกขึ้นยืนดังตึง ร่างกายกำลังสั่นเทิ้ม “อะ อะไรนะ? จับ จับตัวท่านเรียกค่าไถ่? ”
เซี่ยยวี่หลัวพยักหน้า “ติงกุ้ยไปหาข้า เซียงชุ่ยเป็นคนยุยง นางบอกติงกุ้ยว่า ข้าเป็นผู้จัดหาวัตถุดิบของเซียนจวีโหลว มีความสัมพันธ์ไม่ธรรมดากับซ่งฉางชิง หากจับตัวข้าแล้วไปหาซ่งฉางชิง ก็จะเรียกเงินได้ห้าร้อยตำลึง! ”
ภายในห้วงภวังค์ราวกับมีสายฟ้าฟาดลงมา ฟู่ซื่อตกใจจนล้มนั่งก้นกระแทกพื้น ตัวนางตกอยู่ในภวังค์มึนงง
ฮูหยินไม่มีทางพูดปด อยู่กันมานานถึงเพียงนี้ นางรู้อุปนิสัยของฮูหยินนานแล้ว!
กลับเป็นเซียงชุ่ย…
ตอนนั้นเซียงชุ่ยบอกว่า นางรู้ว่ามีวิธีใดจะหาเงินได้ ในภายหลังติงกุ้ยก็จากไปด้วยความพึงพอใจ ไม่ได้กลับมาติดต่อกันหลายวัน
ที่แท้ ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้!
“เลอะเลือนนัก นางหนูนั่นเหตุใดถึงเลอะเลือนเพียงนี้! ” ฟู่ซื่อร่ำไหโวยวาย ร่ำไห้อย่างหนัก
เซี่ยยวี่หลัวมองดูฟู่ซื่อ ก่อนหันมองเถียนเถียนที่อยู่ข้างๆ ซึ่งบัดนี้หยุดกินอาหารแล้ว อธิบายไม่ถูกว่าภายในใจรู้สึกอัดอั้นใจหรือเศร้าเสียใจ
“อาหลัว…” เสียงที่คุ้นเคยดังขึ้นจากด้านหลัง เซี่ยยวี่หลัวหันขวับกลับไปมองอย่างฉับพลัน ก็เห็นเซียวยวี่วิ่งพรวดมาหานาง
เซี่ยยวี่หลัวยิ้มจนคิ้วงามโก่งโค้ง ลุกขึ้นเดินเข้าไปหา “อายวี่! ”
เมื่อเซียวยวี่เห็นว่านางปลอดภัยไร้อันตราย จิตใจที่วิตกกังวลมาตลอดทาง ในที่สุดก็เบาใจลง ไม่สนใจว่าข้างกายมีคนมากมายเท่าใด เซียวยวี่โอบกอดนางไว้ทันที มีแต่ตอนอยู่ในอ้อมอกตัวเอง เห็นว่าคนปลอดภัยแล้ว จิตใจของเซียวยวี่จึงค่อยๆ สงบลง
“เป็นอะไรหรือไม่? บาดเจ็บตรงไหนหรือไม่? ” เซียวยวี่รู้ว่าเซี่ยยวี่หลัวรู้วิชาป้องกันตัวอยู่บ้าง แต่เพียงคิดว่านางต้องเผชิญหน้ากับบุรุษชั่วช้าเพียงลำพัง ภายในใจเซียวยวี่ก็รู้สึกกลัว กลัวแทบตาย
“ข้าไม่เป็นอะไร ไม่เป็นอะไร เจ้าดูสิ ข้ายังสบายดี! ” เซี่ยยวี่หลัวยิ้มพลางหมุนตัวตรงหน้าเซียวยวี่รอบหนึ่ง รอยยิ้มบนใบหน้านางเต็มไปด้วยสีสันสดใส ประหนึ่งภาพวาดที่งดงาม
ตั้งแต่ทุกคนมาหา ในสายตาของนางก็มีเซียวยวี่เพียงคนเดียว
ซ่งฉางชิงมองอยู่ครู่หนึ่ง เห็นว่านางไม่ได้รับบาดเจ็บ จิตใจที่วิตกกังวลถึงได้เบาใจลง
ไม่เป็นอะไรก็ดีแล้ว!