ทะลุมิติไปเป็นแม่ม่ายสาวชาวสวน - บทที่ 423 แขวนคอ?
ตอนที่ 423 แขวนคอ?
นายท่านเนี่ยนิ่งเงียบ
ฮูหยินเนี่ยรีบกล่าวอย่างรวดเร็ว “เฟิ่งหลิน เจ้าอาจจะคิดถึงหย่วนเฉียวมากเกินไปจึงทำให้ฝันเห็นเขา นอกจากนี้หลังจากที่เจ้าช่วยเหลือจางซิ่วเอ๋อมามากมาย จางซิ่วเอ๋อก็ยังคิดที่จะแต ต่งงานใหม่เพราะนางไม่กตัญญู! นี่คือคนเนรคุณชัด ๆ! ด้วยเหตุนี้ทำไมเจ้าจึงต้องกังวลเรื่องของนางอีก?”
เนี่ยเฟิ่งหลินกล่าวเยาะเย้ย “ข้าแค่ต้องการทำสิ่งที่ดีเพื่อให้ผลบุญนี้ส่งถึงหย่วนเฉียว อย่างน้อยก็อย่าให้หย่วนเฉียวต้องเจ็บป่วยในชาติหน้า แต่ข้าก็ไม่อาจทราบได้ว่าเหตุใดท ท่านจึงขัดขวางนัก?”
“ชื่อเสียงของตระกูลเนี่ยสำคัญกว่าหย่วนเฉียวเช่นนั้นหรือ?” เนี่ยเฟิ่งหลินถามกลับ
ถึงตอนนี้เป็นฮูหยินเนี่ยที่ไม่รู้จะโต้ตอบอย่างไร
นายท่านเนี่ยจึงกล่าวขึ้น “ไม่เป็นไร ปล่อยนางไป ในอนาคตนางสามารถทำสิ่งใดก็ได้ที่นางต้องการ แม้ว่านางจะทำความดีเพื่อหย่วนเฉียวก็ตาม”
เนี่ยเฟิ่งหลินมองฮูหยินเนี่ยเมื่อได้ยินเช่นนั้น “ฮูหยินหรู จบเรื่องนี้แล้ว ท่านไม่คิดอยากมีสหายสักคนงั้นหรือ? ท่านอยากให้จางซิ่วเอ๋ออยู่ในเรือนแห่งนี้ในฐานะลูกสะใภ้หรือ อ?”
ฮูหยินเนี่ยมองเนี่ยเฟิ่งหลินอย่างขุ่นเคืองพลางลอบคิดกับตนเอง ตอนนี้ชุนอวี๋กำลังทำความสะอาดนังสุนัขตัวเมียจางซิ่วเอ๋ออยู่… เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฮูหยินเนี่ยจึงรู้สึกผ่อนคลา ายขึ้นเล็กน้อย
นังสารเลวเนี่ยเฟิ่งหลินนี้ ทุกครั้งที่ได้พบเจอกัน นางมักจะคอยย้ำเตือนเสมอถึงสถานะ ฮูหยินหรูต่อหน้านายท่านเนี่ย
ราวกับว่ากำลังเตือนนายท่านเนี่ยอีกครั้งว่านางจะไม่มีวันเป็นนายหญิงที่แท้จริงของตระกูลเนี่ย!
เมื่อคิดถึงเรื่องนี้ ฮูหยินเนี่ยก็ยิ่งเกลียดชังเนี่ยเฟิ่งหลินโดยสมบูรณ์!
ณ ขณะนี้
จางซิ่วเอ๋อถูกสาวใช้ทั้งสองจับตัวเอาไว้
“ปล่อยข้า!” จางซิ่วเอ๋อกล่าวอย่างโกรธเคือง
“ปล่อยงั้นหรือ? เพ้อฝัน!” ชุนอวี๋กล่าวพร้อมหรี่ดวงตาลง
“ช่วยด้วย! ช่วยด้วย!” ตอนนี้จางซิ่วเอ๋อตื่นตระหนกยิ่ง นางฟื้นคืนชีพขึ้นมาอีกครั้งแล้ว คราวนี้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นนางไม่ต้องการจะตายอยู่ที่นี่!
นางรู้ว่ามันไม่มีประโยชน์ที่จะร้องขอความช่วยเหลือ
ทว่านี่คือหนทางสุดท้ายที่นางเหลืออยู่
ชุนอวี๋เดินมาหยุดตรงหน้าของจางซิ่วเอ๋อพร้อมกล่าวเยาะเย้ย “เจ้ายังคงสามารถอธิษฐานได้ ว่าเจ้าจะได้กลับชาติมาเกิดในตระกูลที่ดีในชาติหน้า”
ขณะนั้นหญิงชราสองคนกำลังเอาเชือกพันรอบลำคอของจางซิ่วเอ๋อ
หน้าต่างที่เปิดอยู่กลับปิดลงอย่างแรงเพราะถูกลมกรรโชก!
ปัง ปัง ปัง… เสียงดังกล่าวทำให้ผู้คนตื่นตระหนก และน่าขนลุกไม่น้อย
ชุนอวี๋มองหน้าต่างก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงหนักแน่น “ลงมือ!”
จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่าเชือกรอบลำคอของนางรัดแน่นขึ้นเรื่อย ๆ ในตอนนี้เองที่นางหลับตาลงอย่างสิ้นหวัง
ขณะนั้นจิตใจของจางซิ่วเอ๋อว่างเปล่า ความรู้สึกว่างเปล่านี้ราวกับว่ามันกำลังจะเลือนหายไป จิตใจของจางซิ่วเอ๋อเต็มไปด้วยความกังวล สับสน และว้าวุ่นอย่างยิ่ง
ทันใดนั้นเอง หญิงชราคนหนึ่งพลันอุทานออกมา
“นั่น!” หญิงชรายื่นมือออกไปและชี้ไปที่หน้าต่างด้วยร่างกายสั่นเทิ่ม
“ข้า… ข้า… เห็น… ข้าเห็น…” หญิงชราพูดจาติดขัด ทั้งมือไม้ของนางยังอ่อนแรงอย่างกระทันหัน
ชุนอวี๋มองไปที่หน้าต่าง ไม่มีสิ่งอยู่ที่นั่น ทุกอย่างมืดมิด
ชุนอวี๋ตะคอกเสียงดัง “เร็วเข้า รีบลงมือ!”
“ผู้ใด! ผู้ใดตีข้า!” จู่ ๆ ชุนอวี๋รู้สึกว่ามีบางอย่างกระแทกเข้ากับแผ่นหลังของตนเอง
นางหันกลับมาด้วยความตื่นตระหนก
“แม่นางชุนอวี๋ เมื่อครู่ข้าเห็นนายน้อย” หญิงชราที่กล่าวติดขัดในคราวแรก พูดออกมาได้ในที่สุด
ใบหน้าของชุนอวี๋พลันซีดขาว นางโต้กลับทันที “ไร้สาระ! จะเป็นเช่นนั้นได้อย่างไร นายน้อยตายตกไปนานแล้ว!”
“เช่นนั้นเป็นผีงั้นหรือ?” หญิงชราอีกคนกระซิบ
ชุนอวี๋ตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่งและมองไปที่จางซิ่วเอ๋อ “เป็นไปได้หรือไม่ว่านายน้อยใหญ่ที่เป็นวิญญาณอยู่บนสวรรค์จะลงมารับนังจางซิ่วเอ๋อผู้นี้?”
เมื่อคิดเช่นนี้ ชุนอวี๋รู้สึกว่าเรื่องราวมันค่อนข้างแปลกประหลาดเล็กน้อย
ทว่านางเป็นเพียงบุตรสาวชาวนาที่ต่ำต้อย ไม่คู่ควรกับนายน้อยแม้แต่นิดเดียว และหากนางตายตกไป นางก็ไม่มีวันคู่ควรกับนายน้อยได้!
ชุนอวี๋นึกลังเล
หญิงชราอีกคนร้องเตือน “แม่นางชุนอวี๋ พวกเราควรลงมือได้แล้ว อย่างไรแล้วนี่คือคำสั่งของฮูหยิน หากมีเรื่องผิดพลาดเกิดขึ้น พวกเราไม่อาจแบกรับผลที่จะตามมาได้”
เช่นนี้ชุนอวี๋จึงฟื้นขึ้นจากภวังค์ “รีบลงมือเร็วเข้า!”
“อ๊ะ! ดูนั่น! ข้าเห็นนายน้อยใหญ่อีกแล้ว!” หญิงชราตะโกนอีกครั้ง
ในขณะนี้ หินหลายก้อนพุ่งเข้ามาจากนอกหน้าต่าง
ก้อนหินเหล่านั้นทรงพลังจนทำให้พวกนางเจ็บปวด ทั้งชุนอวี๋และหญิงชราทั้งสองต่างหลบซ่อนตัวทันที
จางซิ่วเอ๋อที่ยืนเงียบอยู่ครู่หนึ่งพลันรู้สึกตัวขึ้นมาทันที นางใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ผลักหญิงชราที่จับตนเองไว้และวิ่งออกไปด้านนอกอย่งรวดเร็ว!
“ตามมันไป!” ชุนอวี๋เป็นคนแรกที่ตื่นตัว นางตะโกนออกมาทันที
เมื่อจางซิ่วเอ๋อวิ่งไปถึงมุมบ้าน ผู้คนที่อยู่ข้างหลังกำลังจะไล่ตามนางทันแล้ว
ในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกว่านางถูกแขนสองข้างโอบกอดเอาไว้ และเป็นใครบางคนที่พาตัวนางออกไป เขาอุ้มนางกระโดดไปซ่อนอยู่ด้านข้างอย่างรวดเร็ว
จางซิ่วเอ๋อไม่รู้ว่าคนผู้นี้เป็นใคร แต่นางรู้สึกว่าคน ๆ นี้กำลังช่วยให้นางรอดพ้นจากชุนอวี๋และคนอื่น ๆ ดังนั้นจางซิ่วเอ๋อจึงไม่คิดขัดขืน
บางทีอาจเป็นเพราะลมหายใจของบุคคลนี้ทำให้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกคุ้นเคยและปลอดภัย หรืออาจเป็นเพราะจางซิ่วเอ๋อกำลังสิ้นหวัง ดังนั้นในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อจึงเลือกที่จะเชื่อใจเขา
หลังจากนั้นไม่นาน สิ่งทั้งหมดนี้ทำให้จางซิ่วเอ๋อต้องผิดหวัง
เพราะในขณะนี้จางซิ่วเอ๋อมองเห็นบุคคลปริศนานี้อย่างชัดเจน
นางแปลกใจเล็กน้อย “หนิง… อัน”
ก่อนที่นางจะทันได้กล่าวอะไร ปากของจางซิ่วเอ๋อถูกใครบางคนปิดเอาไว้แน่น
“ชู่ว” เนี่ยหย่วนเฉียวส่งเสียงเบา ๆ เพื่อเป็นสัญญาณบอกจางซิ่วเอ๋อว่าอย่าเสียงดัง
หลังจากที่จางซิ่วเอ๋อรู้ว่าคน ๆ นี้คือหนิงอัน ร่างกายของนางแข็งทื่อราวกับเป็นอัมพาต และเรี่ยวแรงทั้งหมดของนางพลันหาย ก็ทิ้งดิ่งลงบนร่างกายของหนิงอัน
จางซิ่วเอ๋อไม่ใช่คนที่จะแสดงความอ่อนแอของตนออกมาโดยตั้งใจ แต่ในเวลานี้จางซิ่วเอ๋อรู้สึกอ่อนแออย่างแท้จริง
ดวงตาของนางแดงเรื่อขึ้นมา นางปาดน้ำตาขณะทิ้งตัวไว้บนร่างกายของเนี่ยหย่วนเฉียว
นางคิดไม่ออกเลยว่าจะเป็นอย่างไรหากหนิงอันมาช้ากว่านี้
เนี่ยหย่วนเฉียวเหยียดมือออกไปในอากาศ หลังจากลังเลอยู่ครู่หนึ่ง เขาจึงวางมือลงและกอดจางซิ่วเอ๋อเอาไว้
เนี่ยหย่วนเฉียวมองจางซิ่วเอ๋ออย่างทุกข์ใจ ก่อนจะกล่าวขึ้นว่า “ไม่ต้องกลัว”
จางซิ่วเอ๋อเช็ดน้ำตาของนางเงียบ ๆ พร้อมกับมองจางซิ่วเอ๋อด้วยใบหน้าแดงก่ำ “ข้าคงทำให้เจ้าหัวเราะแล้ว”
“เดี๋ยวเจ้าเดินไปตามถนนเส้นนี้ เจ้าเห็นบ้านที่มีไฟสว่างหรือไม่? เข้าไปในนั้น” เนี่ยหย่วนเฉียวชี้ไปที่ถนนแล้วพูด
จางซิ่วเอ๋อมองเนี่ยหย่วนเฉียวอย่างสับสน นางไม่เข้าใจว่าเนี่ยหย่วนเฉียวหมายถึงอะไร เป็นไปได้ไหมที่นางจะพาตัวเองเดินเข้าไปในกับดัก?
แต่เห็นได้ชัดว่ามันไม่ควรจะเป็นเช่นนั้น
หากเนี่ยหย่วนเฉียวต้องการจะโยนนางเข้าไปในกับดัก เขาก็ไม่จำเป็นต้องช่วยเหลือนาง
เนี่ยหย่วนเฉียวเหมือนจะรู้ถึงความสงสัยในใจของจางซิ่วเอ๋อ
…………………………………………………………………………
สารจากผู้แปล
คุณชายเนี่ยมาช่วยซิ่วเอ๋อแล้ว แง ดีใจ
เสียดายน่าจะปาหินใส่นังชุนอวี๋ให้มันน็อกไปเลย ถ้าไม่หัวแตกก็ความจำเสื่อมอะ
ไหหม่า(海馬)