ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2275 แค่อยากปกป้องเท่านั้น
ชิงอิ่งกล่าวด้วยน้ำเสียงที่ทุ้มต่ำว่า “เฉียนจะต้องได้ที่หนึ่งอย่างแน่นอน!”
“นั่นมันก็ไม่แน่หรอก เจ้าเชื่อนางขนาดนั้นเลยอย่างนั้นหรือ?” เห็นได้ชัดว่าไม้เทพแห่งชีวิตไม่ได้เชื่อเช่นนั้น
หลังจากที่พวกเขาเข้าไปในมหาสมุทรแห่งชีวิตแล้ว ก็ดูเหมือนว่ามีดวงดาวนับพันนับหมื่นดวงกระพริบอยู่ใต้ท้องทะเลแห่งนี้
ดวงดาวเหล่านั้นมีความพร่างพราว และงดงามเป็นอย่างยิ่ง
ทะเลใต้แห่งชีวิตในเวลานี้มีผู้คนอยู่มากมายเต็มไปหมด และในตอนที่มู่เฉียนซีเข้ามา ก็มีน้ำเสียงที่เย็นชาแฝงด้วยความมีเสน่ห์เสียงหนึ่งดังขึ้น “คิดไม่ถึงเลยว่ามู่เฉินซีจะมาด้วย ข้าคิดว่านางถูกฆ่าตายอยู่มุมไหนสักมุมหนึ่งในตำหนักเทพแห่งชีวิตแห่งนี้ไปเสียแล้ว! สมกับที่เป็นอัจฉริยะผู้ได้ป้ายไม้ที่มีหนึ่งร้อยแต้มเต็มจริง ๆ!”
หลังจากนั้นร่างสีดำร่างหนึ่งก็พุ่งทะยานเข้ามา สีหน้าของพวกซวนอู่ก็มืดลงทันที นั่นก็เป็นเพราะว่าหญิงสาวในชุดสีดำที่กำลังเข้ามาใกล้นั้นให้ความรู้สึกที่อันตรายเป็นอย่างมาก
ทันใดนั้นจูเชว่ก็จำคนผู้นั้นขึ้นมาได้อย่างรวดเร็ว เขากล่าวว่า “ท่านหญิงโยวแห่งราชวงศ์เป่ยกง ท่านมีธุระอะไรอย่างนั้นหรือ?”
ในอันดับของบรรดาคนโรคจิตแห่งราชวงศ์เป่ยกง มีเป่ยกงลั่วที่อยู่ในอันดับหนึ่ง
ส่วนอันดับสองก็คือท่านหญิงโยว เป่ยกงโยวผู้นี้นั่นเอง
คิดไม่ถึงว่าโรคจิตทั้งสองจะมีความสนใจในไม้เทพแห่งชีวิตเช่นนี้ นอกจากนี้ยังมาเผชิญหน้ากับพวกเขาอีกด้วย แต่สิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่าก็คือ พวกเขาทั้งสองล้วนมีความสนใจต่อซีซีเป็นอย่างมาก
ท่านหญิงโยวกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “สมกับที่เป็นคุณชายจูเชว่ ที่รู้ตัวตนของข้าได้ตั้งแต่ที่พบหน้ากันเพียงครั้งแรกเช่นนี้”
นางไม่ได้มีความสนใจต่อจูเชว่มากมายเท่าไรนัก แต่คนที่นางชอบคือมู่เฉียนซีต่างหาก
“แม่นางมู่ พวกเราเจอกันอีกแล้ว มู่หลินหลางก็อยู่ในทะเลแห่งชีวิตนี้ด้วยเช่นเดียวกัน ไม่รู้ว่าเจ้าสนใจที่จะร่วมมือกับข้าหรือไม่?” ท่านหญิงโยวมองไปทางมู่เฉียนซีอย่างคาดหวัง
มู่เฉียนซีกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ข้ารู้สึกว่าการจัดการนางในสถานที่ที่ดีเช่นนี้ มันจะไม่เสียเวลาเกินไปอย่างนั้นหรือ?”
“ข้าไม่คิดว่ามันเป็นการเสียเวลานะ!” ท่านหญิงโยวไม่เห็นด้วยกับมู่เฉียนซี เพราะนางต้องการจะจัดการมู่หลินหลาง เพื่อทำลายงานแต่งงานนั้น จากนั้นนางก็จะได้แต่งงานกับเป่ยกงจั๋วคนที่นางไล่ตามมาตลอดชีวิตเสียที
“หากมู่หลินหลางกล้ามายั่วยุข้า ข้าก็จะไม่มีทางปล่อยนางไปเช่นกัน! แต่หากว่าไม่ได้มาแล้วละก็ ข้าก็อยากจะรวบรวมดวงดาวแห่งชีวิตให้มากยิ่งขึ้นไปอีก เพราะว่าข้าต้องการที่จะกลายเป็นคนที่รวบรวมได้มากที่สุด”
ภายในใจของเป่ยกงโยวรู้สึกโมโหเล็กน้อย ในเมื่อไม่ยอมคว้าโอกาสในการร่วมมือที่ดีเช่นนี้เอาไว้ หากผู้หญิงคนนี้ถูกมู่หลินหลางฆ่าได้ในอนาคต ก็อย่ามาร้องไห้ก็แล้วกัน!
นางกล่าวพร้อมรอยยิ้มอันเจิดจรัสว่า “แม่นางมู่ช่างสมกับที่เป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งของราชวงศ์ตงหวงจริง ๆ ช่างมีปณิธานที่ยิ่งใหญ่นัก ซึ่งไม่เหมือนกับสาวน้อยอย่างข้าเอาเสียเลยสักนิด เพียงแต่การจะคว้าที่หนึ่งมาให้ได้มันไม่ง่ายขนาดนั้นน่ะสิ เจ้าคงยังไม่เคยลองไปรวบรวมดวงดาวอย่างนั้นสินะ! รอให้เจ้าได้ลองรวบรวมดูก่อน ก็จะได้รู้แล้วว่าดวงดาวแห่งชีวิตนี้ยากที่จะเก็บมาได้มากเพียงใด”
“แต่อย่าคิดว่าตนเองเป็นอัจฉริยะอันดับหนึ่งแห่งราชวงศ์ตงหวงแล้ว ในทะเลใต้แห่งชีวิตนี้จะไม่มีผู้ใดสามารถเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้ อย่างไรเสียที่นี่ก็มีอัจฉริยะจากราชวงศ์เป่ยกงอยู่ไม่น้อยเช่นกัน! แม้ว่าเจ้าจะสามารถอวดดีกับทุกคนที่อยู่ที่นี่ได้ แต่ผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นภูตศักดิ์สิทธิ์ระดับสูงกับผู้บำเพ็ญภูตพลังขั้นราชันวิญญาณที่อยู่ทางนั้น ก็ไม่ได้อ่อนแอเลยแม้แต่น้อย แทนที่จะทำในเรื่องที่ไม่สามารถบรรลุเป้าหมายได้ ไม่สู้ฉวยโอกาสนี้ในการจัดการมู่หลินหลางไม่ดีกว่าหรือ?” ท่านหญิงโยวลองพยายามชักชวนมู่เฉียนซีอีกครั้ง
มู่เฉียนซีมองไปทางทะเลที่อยู่อีกด้านหนึ่งแล้วกล่าวว่า “เหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ในทะเลอีกสามแห่งนั้นมีความสามารถที่แข็งแกร่งมาก แต่ทว่าดวงดาวแห่งชีวิตของพวกเขานั้นก็น่าจะจับได้ยากมากเช่นกัน มิเช่นนั้นก็คงไม่ถูกแยกออกจากกันแบบนี้หรอก!”
“อย่างไรเสียระดับความยากมันต้องมีความสอดคล้องกันอยู่แล้ว ที่เหลือก็คงต้องดูที่ความสามารถและวิธีการแล้วล่ะ และข้าก็ไม่คิดว่าข้าจะสู้พวกเขาไม่ได้ ฉะนั้นข้าจึงอยากจะลองรวบรวมดวงดาวแห่งชีวิตให้ได้มากที่สุดดูก่อน เพราะข้าอยากจะลองเข้าไปในทะเลต้นกำเนิดแห่งชีวิตที่น่าอัศจรรย์แห่งนั้นสักครั้ง แต่ทว่าอุดมการณ์ของพวกเรานั้นไม่เหมือนกัน และที่ท่านหญิงโยวต้องการจะจัดการกับมู่หลินหลาง นั่นก็เพราะต้องการคู่หมั้นของนาง ดังนั้นเจ้าไปหาคนจากราชวงศ์เป่ยกงมาร่วมมือเถอะ ตอนนี้ข้าไม่สามารถไปกับเจ้าได้ แต่หากมีโอกาสหลังจากนี้ค่อยว่ากันอีกที” มู่เฉียนซีกล่าวกับท่านหญิงโยว
“เจ้า…”
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีและพวกจูเชว่ก็พุ่งทะยานออกไปอย่างรวดเร็ว มู่เฉียนซีกล่าวว่า “เรามาลองดูกันเถอะว่าดวงดาวแห่งชีวิตนี้จะเก็บยากสักแค่ไหน?”
ตูมมมม!
ทั้งตัวของมู่เฉียนซีพุ่งทะยานเข้าไปในน้ำทะเล
ภายในน้ำทะเลเหล่านี้มีพลังที่แข็งแกร่งเป็นอย่างมาก ฉะนั้นคนที่พุ่งทะยานเข้ามา หากไม่ทันระวังก็อาจจะถูกกระแทกออกไปจากน้ำทะเลก็เป็นได้
มู่เฉียนซีพยายามต้านทานแรงกดดันที่แข็งแกร่งนี้ ด้วยการใช้พลังธาตุวารีห่อหุ้มทั้งร่างกายและค่อย ๆ ดิ่งลึกลงไป…
หลังจากนั้นสิ่งที่ได้มองเห็นนั้นก็คือทางช้างเผือกที่พร่างพรายอยู่ใต้ท้องทะเลนั้น อีกทั้งความงดงามนี้ยังเหมือนฝันราวกับไม่ใช่เรื่องจริงอีกด้วย
มู่เฉียนซียืนมือออกไป ซึ่งตอนนี้มือของนางก็ใกล้ถึงดวงดาวแห่งชีวิตมากขึ้นเรื่อย ๆ แล้ว และในตอนที่นางกำลังจะจับมันได้นั้น!…
ในตอนที่นางกำลังจะสัมผัสโดนดวงดาวแห่งชีวิตนี้ ดวงดาวแห่งชีวิตก็ได้ที่หลุดออกไปด้วยความเจ้าเล่ห์ อีกทั้งยังมีรวดเร็วเป็นอย่างมากอีกด้วย
ทันทีที่มือนั้นคว้าได้เพียงความว่างเปล่า มู่เฉียนซีก็ถูกพลังของน้ำทะเลสะท้อนกลับจนกระเด็นออกไป!
พรวดดดด!
มู่เฉียนซีโผล่พรวดออกมาจากน้ำ และร่างของนางก็ตีลังกาอยู่กลางอากาศหลายครั้งก่อนที่จะทรงตัวเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว มิเช่นนั้นนางน่าจะต้องชนเข้ากับเกาะป้องกันที่อยู่รอบนอกของทะเลใต้แห่งชีวิตแห่งนี้เป็นแน่!
ปัง! ปัง ปัง!
และทันใดนั้นก็มีเสียงกระแทกเกิดขึ้น ซึ่งคนที่โชคร้ายส่วนหนึ่งได้กระแทกลงบนเกาะป้องน้ำนั้นอย่างที่คาดไว้จริง ๆ
“ซีซี! เจ้าก็ออกมาแล้วหรือ ไม่ได้รับบาดเจ็บใช่หรือไม่! แต่ว่าเจ้าเป็นคนที่ยืนหยัดอยู่ได้นานที่สุดในหมู่พวกเราแล้วล่ะ” ร่างเงาสีแดงเพลิงรีบพุ่งทะยานเข้ามาหามู่เฉียนซีทันที
มู่เฉียนซีกล่าวว่า “ข้าไม่เป็นไร! เพียงแต่ดวงดาวแห่งชีวิตนี้จัดการยากเหลือเกิน ไม่ว่าจะเป็นสาเหตุจากแรงกดดันของน้ำทะเลหรือว่าความเร็วของดวงดาวแห่งชีวิตนั้นก็ตาม”
ซวนอู่กล่าวว่า “ใช่แล้ว! ในสถานที่เช่นนี้ ไม่แน่ว่าถึงจะพยายามอย่างหนักเป็นเวลานาน ก็อาจจะเอาดวงดาวแห่งชีวิตมาไม่ได้เลยสักอันเลยก็เป็นได้”
“ข้าไม่เชื่อว่าจะโชคร้ายขนาดนั้นนั้นหรอก ข้าจะไปลองดูอีกครั้ง”
มู่เฉียนซีดำดิ่งลงไปกลางทะเลอีกครั้งอย่างไม่มั่นใจเท่าไรนัก ซึ่งคราวนี้นางเลือกที่จะค่อย ๆ ดำดิ่งลงไปอย่างช้า ๆ เพื่อลดแรงกดดันของน้ำทะเลที่มีต่อนาง
ซึ่งวิธีการนี้ถือว่าได้ผลอย่างเห็นได้ชัด เนื่องจากว่านางสามารถดำดิ่งลงไปได้ง่ายขึ้นกว่าเดิมมาก และหลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็เข้าใกล้ดวงดาวแห่งชีวิตดวงหนึ่งอย่างระมัดระวัง
แต่ทว่าดวงตาวแห่งชีวิตนี้มีความเจ้าเล่ห์เป็นอย่างมาก เพราะในตอนที่มู่เฉียนซีกำลังที่จะจับมันเอาไว้ได้ แสงของมันก็เปลี่ยนเป็นสีเงินและหนีออกไปไกลด้วยความรวดเร็ว
ถึงมู่เฉียนซีอยากจะเร่งความเร็วเพื่อไล่ตามไป แต่มันก็เสียแรงเปล่าอยู่ดี และทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็สัมผัสได้ถึงแรงกดดันของน้ำทะเลที่พุ่งตรงมามากขึ้นเรื่อย ๆ
ซึ่งแน่นอนว่ามู่เฉียนซีได้ถูกน้ำของทะเลแห่งนี้กระแทกออกมาจากอีกครั้งอย่างไม่ต้องสงสัย
พรวด พรวด พรวด!
ทั่วทั้งทะเลของมหาสมุทรแห่งชีวิตแห่งนี้ ทุกคนล้วนมีสถานการณ์เช่นนี้กันทั้งนั้น
ในตอนที่มหาสมุทรแห่งชีวิตปรากฏตัวออกมา พวกเขาต่างเต็มไปด้วยความคิดที่ยอดเยี่ยมเป็นอย่างยิ่ง แต่หลังจากที่ผิดหวังซ้ำแล้วซ้ำเล่า มันจึงทำให้พวกเขารู้สึกท้อแท้เป็นอย่างมาก
ไม้เทพแห่งชีวิตนี้หมายความว่าอย่างไรกันแน่? นี่มันเหมือนกับว่าไม่ต้องการให้ผู้ใดเอาดวงดาวแห่งชีวิตไปได้เลยมิใช่หรือ
พรูดดด!
รอยยิ้มที่เย้ยหยันปรากฏขึ้นมาบนมุมปากของไม้เทพแห่งชีวิต
“มนุษย์นี่ช่างน่ารังเกียจเสียจริง ๆ ตนเองไม่มีความสามารถแต่ดันมาตำหนิคนอื่นเสียอย่างนั้น”
ชิงอิ่งกล่าวว่า “เป็นมนุษย์แล้วทำไม? ข้าไม่สนใจหรอก เฉียนจะเป็นอย่างไร? นั่นเป็นเรื่องเดียวที่ข้าสนใจเท่านั้น”
“เจ้าคนทรยศตัวน้อย! เจ้าเอาแต่สนใจนาง หรือเจ้าไม่รู้ว่า นางก็เป็นมนุษย์คนหนึ่งเช่นกัน นอกจากนี้ยังเป็นวิญญาณแห่งโชคชะตาอีกด้วย” ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำ
“นางคือเฉียน! เป็นคนที่ข้าต้องการจะปกป้อง มันก็แค่นั้นแหละ”
วิญญาณแห่งโชคชะตาอะไรกัน แม้แต่เรื่องการเป็นเจ้านายของมหาวัตถุศักดิ์สิทธิ์นิรันดร์อะไรนั่นยังไม่สามารถทำให้ชิงอิ่งเก็บมาใส่ใจได้ เพราะสำหรับเขา นางก็เป็นเพียงแค่เฉียนเท่านั้น
“นางทำอะไรไปกันแน่? ก็แค่มอบหัวใจที่เดิมทีแล้วเจ้าไม่ต้องการ แต่กลับสามารถซื้อเจ้าได้ถึงเพียงนี้เลยอย่างนั้นหรือ? เหมือนว่าข้าจะยิ่งไม่เข้าใจเจ้ามากขึ้นเรื่อย ๆ แล้วจริง ๆ” ไม้เทพแห่งชีวิตกล่าวอย่างผิดหวังเล็กน้อย
.