ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2417 หอคอยจำลองทั้งสองอัน
ภายในแววตาของมู่เฉียนซีฉายแววเย็นยะเยือกออกมา ในที่สุดก็สำเร็จแล้ว! เจ้าหมอนี่ช่างดื้อรั้นเกินไปหน่อยแล้วจริง ๆ
โยวจีและอ๋องไป๋กุ่ยจ้องมองฉากนี้ด้วยความตะลึงงัน “นี่มันเป็นไปไม่ได้ คิดไม่ถึงว่าคนที่อ่อนแอเช่นนั้นจะสามารถพิชิตหอคอยนิรันดร์ได้!”
“ต้องรีบฉวยโอกาสตอนนี้ไปแย่งชิงมาให้ได้”
จื่อโยวกล่าวอย่างเย็นชาว่า “พวกเจ้าฝันไปเถอะ!”
สัตว์ร้ายทั้งสองตัวนั้น ก็ดูเหมือนว่าจะสัมผัสได้ถึงการเคลื่อนไหวของหอคอยจำลองเช่นกัน ดังนั้นจึงทำให้พวกมันรู้สึกโกรธขึ้นมาทันที
“โฮกกกกก!”
พวกมันอดที่จะไปฉีกเนื้อคนที่กล้ามาแย่งหอคอยนิรันดร์จำลองอันนั้นของพวกมันไม่ไหวอยู่แล้ว แต่ทว่าตอนนี้พวกมันจำเป็นที่จะต้องต่อสู้กับศัตรูที่แข็งแกร่งผู้นี้ก่อน
“นั่นไม่ใช่สิ่งที่พวกเจ้าจะสามารถโลภได้หรอกนะ!”
การเหยียดหยามของจิ่วเยี่ย ทำให้พวกมันโกรธมากยิ่งขึ้นเป็นเท่าทวี
หอคอยจำลองของหอคอยนิรันดร์เปลี่ยนเป็นมีขนาดที่เล็กลงมาก หลังจากนั้นมันก็ลอยเข้ามาอยู่ในมือของมู่เฉียนซี และนางก็ได้ใช้พลังจิตวิญญาณทิ้งร่องรอยตราประทับไว้บนหอคอยจำลองนี้
นอกจากนี้มู่เฉียนซียังได้รับมรดกการฝึกอสูรอีกด้วย และสิ่งที่มันผนึกเอาไว้ไม่ได้มีเพียงสัตว์ร้ายสองตัวนี้เท่านั้น แต่ยังมีอีกมากมายเลยทีเดียว!
เพียงแต่ว่าความสามารถของปีศาจวานรนั้นแข็งแกร่งมาก ดังนั้นจึงสามารถทำลายผนึกออกมาได้ ส่วนสัตว์ร้าย สัตว์วิญญาณและสัตว์ปีศาจตัวอื่น ๆ ต่างก็ไม่มีความสามารถเช่นนั้นนั่นเอง
พวกมันไม่ได้มีแค่จำนวนที่มหาศาลเท่านั้น แต่พลังทั้งหมดที่รวมกันยังน่าตกตะลึงมากอีกด้วย
ความสามารถของนางในตอนนี้เมื่อบวกกับหอคอยจำลองทั้งสองอันนี้ ก็เพียงพอที่จะสะกดพวกมันเอาไว้ได้แล้ว
เมื่อมู่เฉียนซีมองไปข้างหน้า ก็เห็นว่าจิ่วเยี่ยถูกห่อหุ้มเอาไว้ด้วยพลังแห่งความมืด และกำลังต่อสู้กับสัตว์ร้ายทั้งสองตัวนั้นอย่างดุเดือด
พลังแห่งความมืดได้เปลี่ยนกลายเป็นดาบจำนวนนับไม่ถ้วน หลังจากนั้นก็พุ่งเข้าจู่โจมปีศาจวานรอย่างเงียบเชียบ
สำหรับคนที่มีความแข็งแกร่งมากเกินไปผู้นี้ ปีศาจวานรน้ำแข็งและปีศาจวานรเปลวอัคคีเองก็รู้สึกหวาดกลัวขึ้นมาเช่นกัน
พลังของพวกมันได้ผสานเข้าด้วยกัน และหลังจากนั้นมันก็ได้ก่อตัวเป็นพายุหมุนที่เชื่อมกันเป็นวงกว้างระหว่างน้ำแข็งและไฟ
ตูมมม!
หลังจากนั้นพระราชวังใต้เหวลึกแห่งนี้ ก็ได้กลายเป็นความว่างเปล่าอย่างสมบูรณ์
ปัง ปัง ปัง!
ทุกคนที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ล้วนถูกผลกระทบจากพลังอันยิ่งใหญ่นี้ ส่วนมู่เฉียนซีเองก็ถูกกระแทกจนลอยกระเด็นออกไปเช่นกัน
ทันใดนั้นร่างเงาสีดำก็มาปรากฏตัวอยู่ข้างหลังของนางอย่างกะทันหัน เขาได้กอดนางเอาไว้ในอ้อมแขน และตอนนี้ปีศาจวานรทั้งสองตัวนั้นก็กำลังเข้ามาใกล้เช่นกัน
“โฮกกกกก!” พวกมันโมโหถึงขีดสุด ผู้ชายคนนี้ช่างน่ารังเกียจจริง ๆ คิดไม่ถึงเลยว่าจะไปช่วยเหลือมนุษย์น้อยผู้นั้นในขณะที่กำลังต่อสู้กับพวกมันอยู่ นี่เขาช่างไม่เห็นพวกมันอยู่ ในสายตาเลยจริง ๆ
ในตอนที่จิ่วเยี่ยคลายอ้อมแขนออกจากมู่เฉียนซีก็กล่าวว่า “ซีรอสักประเดี๋ยว ข้าจะไปจัดการเดี๋ยวนี้แหละ”
พลังแห่งความมืดนี้ราวกับว่าต้องการที่จะกลืนกินทุกสิ่งทุกอย่าง และทั้งหมดก็กลายเป็นความว่างเปล่า แม้ว่าปีศาจวานรทั้งสองตัวนี้จะเป็นสัตว์ร้ายที่แข็งแกร่งมาก แต่ตอนนี้พวกมันก็ เห็นท่าว่าจะไม่ดีแล้วเช่นกัน
พวกมันมีชีวิตมาเป็นเวลานานขนาดนี้ นอกจากนี้ยังทำลายสถานที่ต่าง ๆ มามากมาย แต่นี่เป็นครั้งแรกที่พวกมันได้พบเจอกับคนที่ทั้งแปลกประหลาดและทรงพลังเช่นนี้
“จิ่วเยี่ย…”
จิ่วเยี่ยต้องการที่จะจัดการอย่างรวดเร็วฉับไว แต่เนื่องจากการระเบิดของพลังอันมหาศาลอาจจะทำให้ผนึกทั้งหมดคลายออกได้ ซึ่งมันก็ทำให้มู่เฉียนซีรู้สึกไม่ดีเอาเสียเลย
มู่เฉียนซีรั้งจิ่วเยี่ยเอาไว้พลางกล่าวว่า “ระงับพลังของเจ้าเอาไว้หน่อย อย่างไรเสียก็สามารถเอาชนะเจ้าสองตัวนั่นได้อยู่แล้ว”
ทันทีที่พูดจบ มู่เฉียนซีก็ได้รวบรวมหอคอยจำลองของหอคอยนิรันดร์ทั้งสองอัน และพุ่งเข้าไปโจมตีสัตว์ร้ายทั้งสองตัวนั้นอย่างรวดเร็ว
ร่างของสัตว์ร้ายทั้งสองตัวสั่นเทาขึ้นมาทันที ถึงแม้ว่าจะเป็นเพียงหอคอยจำลอง แต่สำหรับหอคอยนิรันดร์แล้วพวกมันก็ยังคงหวาดกลัวมากอยู่ดี เพราะอย่างไรเสียมันก็ถูกเจ้าสิ่งนี้ผน นึกมาเป็นเวลานานมากแล้ว
“หอคอยจำลองสองอัน คิดไม่ถึงเลยว่ามนุษย์เพียงคนเดียวจะได้รับหอคอยจำลองของหอคอยนิรันดร์มาถึงสองอันเช่นนี้” ปีศาจวานรอัคคีน้ำแข็งเอ่ยปากเป็นครั้งแรก
พลังจิตวิญญาณทั้งหมดถูกเติมลงไปในหอคอยจำลองทั้งสอง และหลังจากที่มันได้ดูดซับพลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งเช่นนี้ไปแล้ว หอคอยจำลองทั้งสองนี้จึงมีความอันตรายต่อสัตว์ร้ายทั้งสองเป ป็นอย่างมากนั่นเอง
นางเหลือบมองไปยังปีศาจวานรทั้งสองแล้วกล่าวด้วยรอยยิ้มว่า “ใช่แล้ว! ในเมื่อมีหอคอยจำลองสองอัน ฉะนั้นข้าจะให้พวกเจ้าอยู่กันคนละหอคอย เท่านี้ก็เพียงพอที่จะสะกดและผนึกพวกเจ้ าเอาไว้อีกครั้งได้แล้ว!”
โยวจีและอ๋องไป๋กุ่ยก็ยากที่จะเชื่อเช่นกัน แม้ว่าผู้หญิงคนนี้จะสามารถพิชิตหอคอยนิรันดร์ได้ แต่คิดไม่ถึงเลยว่าจะสามารถควบคุมหอคอยนิรันดร์เพื่อไปจัดการกับสัตว์ร้ายที่พวกเขา ไม่อาจรับมือทั้งสองตัวนั้นได้อีกด้วย
ไม่ นี่ไม่ใช่หอคอยนิรันดร์ที่แท้จริง
พวกเขาต่างก็รู้เรื่องนี้มาจากคำพูดของปีศาจวานรน้ำแข็งเปลวอัคคีทั้งสองตัวนั้นนั่นเอง
เมื่อปีศาจวานรทั้งสองตัวสัมผัสได้ว่าพลังของตนเองกำลังถูกสะกดเอาไว้ พวกมันจึงกล่าวขึ้นอย่างเดือดดาลว่า “เจ้ามนุษย์ เจ้านี่รนหาที่ตายนัก!”
ถึงพวกมันจะถูกสะกดเอาไว้แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะไม่สามารถโจมตีได้ เพราะอย่างไรเสียมันก็ยังคงแข็งแกร่งมากอยู่ดี
ทันใดนั้นมู่เฉียนซีก็โอบคอของจิ่วเยี่ยเอาไว้หลังจากนั้นก็จุมพิตเขา และนางก็ได้ใช้พลังแห่งชีวิตทำให้ผนึกมีความมั่นคงขึ้น ซึ่งต้องทำเช่นนี้นางถึงจะสามารถวางใจได้นั่นเอง!
จิ่วเยี่ยเพลิดเพลินไปกับการกระทำของมู่เฉียนซีเป็นอย่างมาก และทั้งสองคนก็จุมพิตกันอย่างลืมตัว
ทุกคนในที่แห่งนี้ต่างก็ตะลึงงันไปทันที นี่ท่านอ๋องกับพระชายา…
ในตอนที่ศัตรูอยู่ตรงหน้า พวกเขายังจะมาแสดงความรักอย่างไม่สั่นคลอนเช่นนี้อีก และถึงแม้พวกเขาไม่อยากที่จะยอมรับ แต่สุดท้ายพวกเขาก็ต้องยอมรับท่านอ๋องและพระชายาอยู่ดี
และในตอนที่ปีศาจวานรทั้งสองตัวโจมตีเข้ามา พวกมันก็ต้องเจอเข้ากับการโจมตีของหอคอยจำลองทั้งสองอันนั้น
หอคอยจำลองทั้งสองขยายใหญ่ขึ้นต่อหน้าพวกมัน และพลังแห่งความมืดก็พันธนาการพวกมันไว้อย่างแน่นหนา
ตูมมมม!
แต่ทว่าพวกมันก็ยังคงโจมตีอย่างไม่ลดละ และต้องการที่จะทำลายมนุษย์ที่ไม่เห็นพวกมันอยู่ในสายตาทั้งสองคนนั้นอยู่ดี
แต่ทว่าในตอนที่พลังนั้นกำลังจะเข้าใกล้มู่เฉียนซีกับหวงจิ่วเยี่ย มันก็ถูกสกัดกั้นเอาไว้ได้ และกลายเป็นความว่างเปล่าในที่สุด
จิ่วเยี่ยกล่าวด้วยเสียงทุ้มต่ำว่า “ซี เราค่อยกลับไปต่อกันนะ!”
เสื้อคลุมสีดำสนิทปลิวไสวไปตามแรงลม เมื่อรู้ว่าพลังคำสาปในร่างกายของจิ่วเยี่ยสงบลงแล้ว มู่เฉียนซีก็เริ่มควบคุมหอคอยจำลองอย่างสุดกำลังเพื่อตรึงปีศาจวานรทั้งสองตัวนั้นเอาไว ว้
ตูมมมม!
ด้วยพลังของหอคอยจำลองทั้งสองอัน สัตว์ร้ายทั้งสองตัว และยังมีชายผู้มีพลังแห่งการทำลายล้างอันน่าสะพรึงกลัวกำลังปะทะกัน การต่อสู้นี้จึงสะเทือนเลื่อนลั่นไปทั่วพื้นปฐพีในทันที แ และมันก็ได้ทำให้สิ่งมีชีวิตทั่วทั้งแดนอัคคีน้ำแข็ง ต่างสั่นเทาด้วยความหวาดกลัว
ตูมมมม!
ทันใดนั้นพลังแห่งความมืดก็พุ่งเข้าโจมตีปีศาจวานรน้ำแข็ง
ภายใต้แรงกดดันของหอคอยจำลอง ได้ทำให้การป้องกันของมันเปลี่ยนเป็นอ่อนแอลง และบนร่างกายสีดำสนิทขนาดใหญ่นั้น ก็มีรูมากมายปรากฏขึ้นมาอีกด้วย
ทันใดนั้นเลือดเนื้อก็เปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า และเหลือเพียงแค่กระดูกเท่านั้น
ร่างของปีศาจวานรน้ำแข็งสั่นเทาอย่างรุนแรง อาการบาดเจ็บสาหัสนี้ แม้ว่าจะเป็นพลังในการฟื้นฟูของสัตว์ร้ายก็ไม่สามารถฟื้นฟูอาการบาดเจ็บสาหัสนี้ได้เช่นกัน
ซึ่งอาการบาดเจ็บเช่นนี้ นอกจากพลังแห่งชีวิตแล้ว ก็ไม่มีสิ่งใดสามารถฟื้นฟูมันได้อีกแล้ว
แต่ทว่า สัตว์ร้ายที่เข่นฆ่าผู้คนมามากมายอย่างพวกมัน ย่อมไม่มีทางที่จะได้รับความโปรดปรานจากพลังแห่งชีวิตได้เช่นกัน
“เจ้ามนุษย์เวรนี่!” และเนื่องจากอาการบาดเจ็บเช่นนี้ ได้ทำให้ดวงตาที่เหมือนกับหลุมดำก็มิปานคู่นั้นของพวกมันลุกโชติช่วงไปด้วยความเดือดดาล
ทันใดนั้นพลังแห่งความมืดของจิ่วเยี่ย ก็ได้โจมตีพวกมันอย่างรุนแรงอีกครั้ง
ปัง ปัง ปัง!
หลังจากนั้นปีศาจวานรเปลวอัคคีและปีศาจวานรน้ำแข็งก็ถูกโจมตีจนลอยกระเด็นออกไป เลือดเนื้อที่อยู่บนร่างกายของพวกมันก็ค่อย ๆ หายไปจนหมดสิ้น และเหลือเพียงกระดูกสีขาวเท่านั้น
สัตว์ประหลาด นี่คือสัตว์ประหลาดที่แข็งแกร่งยิ่งกว่าสัตว์ร้ายเสียอีก
ตอนนี้พวกมันนึกกลัวขึ้นมาแล้ว และเอาแต่เกลียดตนเองว่าเพราะเหตุใดตอนที่ทำลายผนึกได้แล้วถึงไม่ยอมหนีออกไปให้ไกลตั้งแต่แรก ทำไมจะต้องมาแย่งหอคอยจำลองกับคนเหล่านี้ด้วย
ถึงหอคอยจำลองของหอคอยนิรันดร์จะยอดเยี่ยมมากเพียงใด แต่การที่สัตว์ร้ายอย่างพวกมันต้องการที่จะควบคุมหรือใช้มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายอยู่ดี!
และนอกจากนี้แดนอัคคีน้ำแข็งก็ยังเป็นอาณาเขตของพวกมัน หากพวกมันหนีออกไปซ่อนตัว แน่นอนมนุษย์เหล่านี้ย่อมไม่มีทางตามจับมันได้อยู่แล้ว
เดิมทีแล้วสัตว์ร้ายทั้งสองเป็นฝาแฝดกัน ฉะนั้นจิตใจของพวกมันจึงเชื่อมโยงกัน และในเมื่อมีตัวหนึ่งที่คิดที่จะหนี พวกมันก็จะหนี และฝ่าวงล้อมออกไปพร้อมกัน!
มู่เฉียนซีตะโกนอย่างเยาะเย้ยว่า “คิดจะหนีตอนนี้ พวกเจ้าทั้งสองคิดว่าจะเป็นไปได้อย่างนั้นหรือ?”
หอคอยจำลองทั้งสองอันนั้น ได้สกัดกั้นทางหนีทั้งหน้าและหลังของพวกมันเอาไว้ หลังจากนั้นก็กักขังพวกมันเอาไว้ในพลังของหอคอยจำลอง
และการกักขังเช่นนี้ มันย่อมต้องเป็นฝันร้ายของสัตว์ร้ายทั้งสองตัวนั้นแน่นอนอยู่แล้ว