ท่านอ๋องผู้โหดร้ายกับหมอปีศาจ - ตอนที่ 2485 ต้องการจับทั้งเป็น
“จะให้อ๋องอย่างพวกเราสามคน ไปรังแกเด็กผู้หญิงเพียงคนเดียวเนี่ยนะ” อ๋องแห่งคุกอสูรกล่าวอย่างเหยียดหยาม
อ๋องแห่งคุกลับกล่าวว่า “แม่สาวน้อนผู้นั้นสามารถรับมือกับท่านนักเล่นคาถาอาคมมากมายขนาดนั้นได้นานเพียงนี้ อ๋องคุกอสูร เจ้าอย่าได้ชะล่าใจเกินไปจะดีกว่า นักเล่นคาถาอาคมมีอัน นตรายมากแค่ไหน เจ้าก็สัมผัสมันมาแล้วในสงครามใหญ่คราวที่แล้วมิใช่หรือ? แม้แต่อ๋องจิ่วเยี่ยยังโดนโจมตีได้เลย ยิ่งไม่ต้องพูดถึงข้าหรือเจ้าเลย ฉะนั้นตัวหายนะเช่นนี้ รีบไปจัดก การให้เรียบร้อยจะดีกว่า”
อ๋องแห่งคุกรากษสแสดงท่าทางเห็นด้วย เขากล่าวว่า “ข้าเห็นด้วยกับการตัดสินใจของอ๋องคุกลับ รีบลงมือกันเถอะ! ต้องจัดการผู้หญิงคนนั้นให้ได้อย่างรวดเร็ว หลังจากนั้นค่อยไปจัดการคน นจากคุกโลหิตคนอื่น ๆ”
“ตกลง!”
เฟี้ยว เฟี้ยว เฟี้ยว!
ในตอนที่อ๋องทั้งสามเข้าใกล้มู่เฉียนซี มันก็ทำให้สีหน้าของพวกทานหลางมืดลงทันที
“นายท่าน ระวัง!”
พวกเขาสามารถขัดขวางคนที่ระดับต่ำกว่าอ๋องได้เท่านั้น แต่หากเป็นระดับอ๋องแล้ว พวกเขาเองก็ทำอะไรไม่ได้เช่นกัน
ในตอนที่พวกเขากำลังจะลงมือกับมู่เฉียนซี ท้องฟ้าก็มืดมนลงอย่างกะทันหัน และจื่อโยวก็ได้มุ่งหน้าเข้ามาแล้ว
จื่อโยวกล่าวอย่างเยาะเย้ยว่า “ข้าว่าพวกเจ้าทั้งสามคนมียางอายหน่อยไม่ได้หรือ! คิดไม่ถึงเลยว่าอ๋องทั้งสามคนจะร่วมมือกันรังแกสาวงามตัวน้อยที่แม้แต่ระดับเจ้าครองดินแดนก็ยั งไม่ถึงเช่นนี้”
“ใต้เท้าจื่อโยว เจ้าคิดว่าเจ้าเพียงคนเดียวจะสามารถขัดขวางพวกเราทั้งสามคนได้อย่างนั้นหรือ?” อ๋องแห่งคุกลับกล่าวอย่างชั่วร้าย
จื่อโยวระเบิดพลังแห่งความมืดที่ปั่นป่วนออกมา จากนั้นก็กล่าวอย่างเย็นชาว่า “ถ้าอย่างนั้นเจ้าจะลองดูไหมล่ะ? ตราบใดที่ข้ายังมีลมหายใจ จะไม่ปล่อยให้พวกเจ้าเข้าใกล้คนงามได้แน่”
การปรากฏตัวของผู้คุมปีศาจแห่งความมืด ทำให้สถานการณ์ของฝ่ายคุกโลหิตดูรุนแรงเป็นอย่างมาก จื่อโยวระเบิดพลังของตนเองโดยไม่เหลือเก็บเอาไว้เลยแม้แต่น้อย และเริ่มต่อสู้กับอ๋องท ทั้งสามคนนั้นทันที
พรึ่บ พรึ่บ พรึ่บ!
นักเล่นคาถาอาคมที่กำลังต่อสู้อยู่กับมู่เฉียนซีในเวลานี้ พวกเขารู้สึกแค่ว่าจิตวิญญาณของพวกเขาได้แผ่ซ่านความเจ็บปวดออกมาราวกับถูกฉีกขาดก็มิปาน นอกจากนี้ยังมีบางคนถูกร่ายคำสาป ปโดยที่ไม่รู้ตัว จนรู้สึกเจ็บปวดเจียนตายอีกด้วย
“อ๊ากกก! นี่มันทักษะคำสาปอะไรกันแน่?” แต่สิ่งที่น่ากลัวยิ่งกว่าก็คือ มีทักษะคำสาปบางอย่างที่พวกเขาไม่เคยเห็นมาก่อน นอกจากนี้ยังมีทักษะคำสาปบางอย่างที่สูญหายไปแล้วอีกด้วย
คิดไม่ถึงเลยว่าแม่สาวน้อยผู้นี้จะเชี่ยวชาญสิ่งเหล่านี้ด้วย นี่มันช่างน่าเหลือเชื่อจริง ๆ
“เจ้า…เจ้าไม่ใช่คนของเผ่าคำสาปอย่างนั้นหรือ? คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่ใช่…”
คนของเผ่าคำสาปของพวกเขา เดิมทีแล้วไม่มีทางฝึกฝนมาถึงระดับนี้ได้ ฉะนั้นแม่สาวน้อยผู้นี้จะต้องโชคดีได้รับมรดกโบราณจากท่านนักเล่นคาถาอาคมคนหนึ่งอย่างแน่นอน
แต่แม้ว่าจะได้รับสืบทอดมรดกมาแล้ว แต่หากไม่ใช่คนของเผ่าคำสาปก็ไม่มีทางฝึกฝนได้อย่างแน่นอน แล้วผู้หญิงคนนี้สามารถทำได้ได้อย่างไรกัน?
คนเหล่านี้คิดอย่างไรก็คิดไม่ออกเลยจริง ๆ แต่ตอนนี้พวกเขามีความคิดว่าจะไม่มีทางปล่อยสาวน้อยคนนี้ไปอย่างแน่นอน
พวกเขาจำเป็นต้องจับนางให้ได้ จากนั้นค่อยให้นางบอกเกี่ยวกับทักษะคำสาปทที่นางเชี่ยวชาญทั้งหมดออกมา
หากพวกเขาสามารถเข้าใจมันได้ ตำแหน่งของพวกเขาในเผ่าคำสาปจะต้องพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วแน่นอน
“ต้องจับนางมาทั้งเป็นให้ได้!” หนึ่งในนักเล่นคาถาอาคมกล่าว
เครื่องหมายของคำสาปจำนวนนับไม่ถ้วนกลายเป็นลำแสงพุ่งใส่มู่เฉียนซี หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็มองเห็นความโลภฉายชัดอยู่ในแววตาของพวกเขา
นางกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “อยากจะจับข้า พวกเจ้าคิดว่าทักษะคำสาปขยะเหล่านั้นของพวกเจ้าจะพึ่งได้อย่างนั้นหรือ?”
ทุกคนต่างดูพวกเขาใช้ทักษะคำสาปต่อสู้กันอย่างตื่นตะลึง การโจมตีที่ผนึกพลังของนักเล่นคาถาอาคมเอาไว้มากมายเช่นนั้น นางสามารถต้านทานมันไหวได้อย่างไร?
พลังจิตวิญญาณที่แข็งแกร่งแพร่กระจายออกไป และเครื่องหมายของคำสาปสายแล้วสายเล่าก็ปรากฏขึ้นมาต่อหน้ามู่เฉียนซีอย่างกระทันหัน จากนั้นก็แปรเปลี่ยนกลายเป็นฉากกั้นฉากหนึ่ง
ปังงง!
การตอบโต้ของพวกเขา ได้ถูกมู่เฉียนซีสกัดกั้นเอาไว้ได้อย่างง่ายดาย
เครื่องหมายคำสาปนั้นเปลี่ยนไปอย่างกะทันหัน มันไม่ได้ใช้เพื่อป้องกันเท่านั้น แต่ยังสามารถสะท้อนกลับได้อีกด้วย!
“นี่…” เมื่อเผชิญหน้ากับการตอบโต้ที่แข็งแกร่งของมู่เฉียนซี นักเล่นคาถาอาคมทั้งหมดต่างก็ตะลึงงันไปทันที และอยากที่จะหนีออกไปจากวังวนของพลังแห่งคำสาปที่บ้าคลั่งนี้ แต่พวก กเขาจะสามารถหนีมันพ้นได้อย่างไรกัน
พรวด พรวด พรวด!
ร่างเงาสีดำจำนวนนับไม่ถ้วนถูกโจมตีจนกระเด็นออกไป และพวกเขาทั้งหมดก็กระอักเลือดออกมาเมื่อเจอกับการสะท้อนกลับของทักษะคำสาป
หลังจากนั้นมู่เฉียนซีก็ผนึกรวมอักขระคำสาปอย่างไม่เกรงใจเลยแม้แต่น้อย และทักษะคำสาปนั้นก็ถูกร่ายออกไปทันที!
“อ๊ากกกก!”
“ไม่!!!”
พรวด!
มีเสียงกรีดร้องดังออกมาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งมู่เฉียนซีก็ร่ายทักษะคำสาปราวกับไม่ต้องใช้พลังจิตวิญญาณอย่างไรอย่างนั้น
หลังจากที่ถูกโจมตีอย่างต่อเนื่อง มันก็ทำให้นักเล่นคาถาอาคมเหล่านี้สัมผัสได้ถึงความหวาดกลัว
หากถูกโจมตีเช่นนี้ ต่อให้เหล่านักเล่นคาถาอาคมจะมีมากกว่านี้ก็คงยากที่จะต้านทานไว้ได้เช่นกัน
“สัตว์ประหลาด!” พวกเขาเกิดที่เผ่าคำสาป ฉะนั้นเขาย่อมมีความเข้าใจต่อทักษะคำสาปเป็นอย่างมากอยู่แล้ว และแน่นอนว่านี่เป็นพลังที่เชี่ยวชาญได้ยากมากจริง ๆ
ผู้หญิงคนนี้ไม่เพียงแต่แข็งแกร่งมากเท่านั้น แต่นางยังไม่ใช่คนของเผ่าคำสาปอีกด้วย
“อ๋องคุกลับ นี่พวกเจ้ากำลังทำอะไรอยู่? พวกเจ้าสามคนไม่สามารถจัดการใต้เท้าจื่อโยวเพียงคนเดียวได้อย่างนั้นหรือ?” หนึ่งในนักเล่นคาถาอาคมกล่าวด้วยเสียงแหบแห้ง
พวกเขาได้รับบาดเจ็บ และไม่สามารถรับมือกับเจ้าหนูประหลาดที่คุ้มกันมู่เฉียนซีเหล่านั้นด้วยพละกำลังได้ ทั้งยังถูกสัตว์ประหลาดตัวนี้บดขยี้ด้วยทักษะคำสาปโดยตรง ฉะนั้นจึงมีเพียงแต่ มีผู้ช่วยที่มีความสามารถระดับอ๋องเท่านั้น ถึงจะสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาได้
อ๋องแห่งคุกลับก็รู้สึกเหลือเชื่อเช่นกัน คิดไม่ถึงเลยว่าทักษะคำสาปของหญิงสาวผู้นี้จะยอดเยี่ยมถึงขนาดนี้ ไม่แปลกใจเลยที่หวงจิ่วเยี่ยผู้ถูกร่ายด้วยคำสาปที่แข็งแกร่งที่สุดของ งเผ่าคำสาปจะสามารถยืนหยัดมาจนถึงตอนนี้ได้
“อ๋องคุกอสูร อ๋องคุกรากษส! พวกเจ้าตรึงใต้เท้าจื่อโยวเอาไว้ก่อน”
“บัดซบเอ้ย! อย่าคิดว่าจะไปได้เลย” จื่อโยวคำรามอย่างโกรธเคือง
เขาพุ่งทะยานไปยังอ่องแห่งคุกลับ เพื่อหวังจะตรึงเขาเอาไว้
อ๋องแห่งคุกลับกล่าวด้วยน้ำเสียงที่เย็นชาว่า “ใต้เท้าจื่อโยว เจ้าขวางข้าไม่ได้หรอก”
“หลีกเร้น!”
เขาร่ายทักษะการหลบหนีและหายไปต่อหน้าต่อตาจื่อโยวทันที และเมื่อมู่เฉียนซีสัมผัสได้ว่ากำลังมีอันตรายใกล้เข้ามา แววตาของนางก็สว่างวาบขึ้นมาทันที
พลังของระดับอ๋องพัดโหมกระหน่ำเข้ามา มันไม่ใช่สิ่งที่ความสามารถของมู่เฉียนซีในตอนนี้จะสามารถหลีกเลี่ยงได้เลย
ในเวลานี้มู่เฉียนซีไม่เพียงแต่ไม่หลบ ทว่ายังทำเหมือนไม่สังเกตเห็นอีกด้วย
เขาเป็นถึงระดับอ๋อง ฉะนั้นการที่ผู้หญิงคนนี้จะไม่ทันค้นพบการลอบโจมตีของเขาก็เป็นเรื่องที่สมควรแล้ว
แต่ทว่าในเวลานี้ กลับมีนักเล่นคาถาอาคมคนหนึ่งค้นพบเข้าแล้ว
เขาจึงตะโกนออกไปว่า “อ๋องคุกลับ อย่าฆ่าผู้หญิงคนนี้! อย่างน้อยก็เหลือลมหายใจเฮือกสุดท้ายเอาไว้ให้ข้าดึงความทรงจำของนางก่อน ความรู้ทางทักษะคำสาปต่าง ๆ ของนางถือเป็นสมบัติ ล้ำค่าของเผ่าข้า ฉะนั้นเราไม่สามารถปล่อยให้นางตายได้”
ตาเฒ่ากลุ่มนี้ช่างเรื่องมากจริง ๆ และอ๋องแห่งคุกลับก็ยอมยับยั้งพลังของตนเองเอาไว้
เมื่อคิดได้ว่าอีกฝ่ายเป็นเพียงสาวน้อยอ่อนแอที่มีระดับไม่ถึงเจ้าครองดินแดนคนหนึ่ง และเขาเองก็ไม่ได้ลงมือกับคนที่อ่อนแอเช่นนี้มานานแล้วเช่นกัน ฉะนั้นเขาจึงไม่รู้ว่าพลังที เขายับยั้งเอาไว้อย่างกะทันหันจะสามารถหลีกเลี่ยงให้ไม่สังหารนางในทันทีได้หรือไม่
มุมปากของมู่เฉียนซียกยิ้มเล็กน้อย เดิมทีนางได้เตรียมให้สุ่ยจิงอิ๋งเคลื่อนไหวเพื่อสกัดกั้นการโจมตีนี้เอาไว้แล้ว แต่คิดไม่ถึงเลยว่านักเล่นคาถาอาคมเหล่านี้จะช่วยเหลือนาง
ด้วยเหตุนี้นางจึงสามารถสกัดกั้นการโจมตีราวกับล่าเหยื่อของอ๋องแห่งคุกลับ ด้วยร่างกายของตนเองได้
แต่สีหน้าของนักเล่นคาถาอาคมกลับเปลี่ยนไปอย่างมาก “แย่แล้ว! พลังนี้เพียงพอที่จะสังหารใต้เท้าระดับล่างคนหนึ่งได้เชียวนะ แม่สาวน้อยผู้นี้ได้ตายแน่! ช่างน่าเสียดายจริง ๆ”
อ๋องแห่งคุกลับก็รู้สึกว่ามู่เฉียนซีจะต้องตายอย่างแน่นอน “ต้องขอโทษนายท่านทุกท่านด้วยจริง ๆ! ข้าทำพลาดไปแล้ว ใครใช้ให้นางอ่อนแอมากเกินไปกันล่ะ”
ปังงง!
พลังที่น่าทึ่งของอ๋องแห่งคุกลับโจมตีลงไปบนร่ากายของมู่เฉียนซี
ฟิ้ว ฟิ้ว ฟิ้ว!
ในตอนที่อ๋องแห่งคุกลับคิดว่าจัดการมู่เฉียนซีได้แล้ว และเตรียมที่จะหันกลับไปช่วนอ๋องแห่งคุกอสูรและอ๋องแห่งคุกรากษสสังหารจื่อโยวนั้น ก็มีเสียงแหวกอากาศนับไม่ถ้วนดังออก กมา
และสิ่งเหล่านั้นก็คือเข็มยาขนาดเล็ก ซึ่งมันก็ทำให้อ๋องแห่งคุกลับผงะไปครู่หนึ่ง หลังจากนั้นเขาก็มองไปยังหญิงสาวที่เดินออกมาจากกลางวังวนพลังอันน่าสะพรึงกลัวของเขาได้อย่าง งปลอดภัยด้วยสีหน้าที่ตื่นตะลึง
“คิดไม่ถึงเลยว่าเจ้าจะไม่ถูกบดขยี้ด้วยพลังของข้า อีกทั้งยังมีชีวิตอยู่อีกด้วย!”