ผมย้อนอดีตมาเปลี่ยนชะตายุค 80 (นิยายแปล) - ตอนที่ 455 : ย้ายห้องมาทำงานด้วยกัน
ตอนที่ 455 : ย้ายห้องมาทำงานด้วยกัน
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “500 หมู่ก็เพียงพอแล้วครับ ! ”
“เอาล่ะ ไม่มีปัญหา ! ” รองนายกเทศมนตรีถังตอบรับโดยไม่ลังเล
เจียงเสี่ยวไป๋สะดุ้งเล็กน้อย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาติดต่อรองนายกเทศมนตรีถังเพื่อทำธุรกิจ ถึงอย่างนั้นเขาก็ไม่ได้คาดหวังกับมันมากนัก แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือรองนายกเทศมนตรีถังกลับใจกว้างยิ่งกว่านายกเทศมนตรีจางเสียอีก
ถ้ารู้อย่างนี้คงขอเพิ่มอีกสามถึงห้าร้อยหมู่ไปแล้ว
คิดแล้วก็รู้สึกเสียดายเล็กน้อย
แต่คำพูดได้ถูกพูดออกไปแล้ว ดังนั้นจึงยากที่จะกลับคำ เจียงเสี่ยวไป๋ขอบคุณเขาและกล่าวถึงเรื่องการขอใบอนุญาตตัดไม้ ซึ่งรองนายกเทศมนตรีถังก็ไม่คิดจะปฏิเสธเลยสักนิด
หลังจากเจรจาเสร็จสิ้น เจียงเสี่ยวไป๋ก็ยืนขึ้นและขอตัวกลับ เขาไม่ได้พูดถึงเรื่องเหล้าเจี้ยนหยางที่เอามาฝาก และรองนายกเทศมนตรีถังก็ไม่ได้ถามอะไรด้วย
หลังออกจากศาลากลางมา เจียงเสี่ยวไป๋ก็กลับไปที่โรงงานผลิตเครื่องปรุงรส
เมื่อรถจี๊ปมาถึงทางแยก เขาก็เห็นเด็กสาวหลายสิบคนยืนอยู่ข้างนอกออฟฟิศแต่ไกล แม้จะแต่งกายด้วยชุดธรรมดาและไม่แต่งหน้า แต่รูปร่างหน้าตาและสัดส่วนของพวกเธอก็เต็มไปด้วยความอ่อนเยาว์และสวยงาม พวกเธอยืนอยู่ที่นั่นด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้ม
“คนมาสมัครงานเยอะขนาดนี้เลยเหรอ ? ”
เจียงเสี่ยวไป๋พึมพำอะไรบางอย่าง จากนั้นก็กระวนกระวายใจและไม่กล้ากลับไปที่ออฟฟิศอีก เขารีบกลับรถแล้วขับออกไปก่อน
ปล่อยให้เย่กวงโต้วมาจัดการเรื่องนี้จะดีกว่า !
ถ้าเขาปรากฏตัว ภรรยาคงจะไม่อนุญาตให้เขามานวดและทำสปาที่นี่ตลอดชีวิตแน่นอน
รถจี๊ปเข้าสู่ใจกลางเมืองอีกครั้ง เจียงเสี่ยวไป๋ไม่มีที่ไป ดังนั้นเขาจึงต้องไปที่ชิงเจียงเกสเฮาส์
ในช่วงไม่กี่วันมานี้ เขามัวยุ่งอยู่กับการสัมภาษณ์ครู เซ็นสัญญาและเข้าร่วมการประชุม จึงไม่ได้มีเวลามาถามลู่จือเจี้ยนเกี่ยวกับงานและความเป็นอยู่ของพวกเขาเลย ถือว่าเป็นเรื่องบังเอิญพอดีที่จะไปพบพวกเขาในเวลานี้
เขาเดินไปที่ประตูห้องทำงานของลู่จือเจี้ยนแล้วเคาะประตู
หลังจากนั้นไม่นาน ประตูก็เปิดออก
“เถ้าแก่เจียง ทำไมคุณถึงมาที่นี่ได้ล่ะครับ ? ”
คนที่เปิดประตูคือผางต้าไห่ เมื่อเขาเห็นเจียงเสี่ยวไป๋ รอยยิ้มของเขาก็ปรากฏขึ้นบนใบหน้าที่เหนื่อยล้าของเขาและกล่าวถามอย่างมีความสุข
“ผมก็มาพบคุณนั่นแหละ” เจียงเสี่ยวไป๋พูดด้วยท่าทีสบาย ๆ
ผางต้าไห่เชิญเจียงเสี่ยวไป๋เข้าไปในห้อง จากนั้นเขาก็ปิดประตู
หลังจากที่เจียงเสี่ยวไป๋เข้ามาในห้อง เขาก็เห็นฝุ่นฟุ้งไปทั่วห้อง ลู่จือเจี้ยนและโม่เสี่ยวฉีต่างก็ฟุบหน้าลงบนโต๊ะซึ่งเต็มไปด้วยกระดาษ โต๊ะอีกโต๊ะก็เต็มไปด้วยภาพวาด และก็กระจัดกระจายไปเต็มพื้น จนแทบไม่มีที่สำหรับให้ก้าวเท้าเดิน
“เถ้าแก่เจียง ผมขอโทษ ห้องมันรกไปหน่อย ! ”
ผางต้าไห่มีสีหน้าเคร่งเครียด เขารีบก้มเก็บกระดาษที่ตกบนพื้นและพูดด้วยท่าทางเขินอาย
เจียงเสี่ยวไป๋โบกมืออย่างไม่ถือสา “พวกคุณย้ายเข้ามาทำงานด้วยกันเหรอ ? ”
ผางต้าไห่กล่าวว่า “เราขอยืมโต๊ะจากบริกรที่เกสเฮาส์มาสองสามตัวเพื่อมาทำงานร่วมกัน จะได้สะดวกในการพูดคุยหารือกัน”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “ขอบคุณทุกคนที่ยอมทำงานหนัก ทุกคนมาอัดกันอยู่ห้องคุณลู่จนไม่ได้พักผ่อนกันเต็มที่ ผมจัดการเรื่องนี้ได้ไม่ดีนัก”
ผางต้าไห่รีบพูดว่า “ไม่เป็นไร คุณหลู่ขอให้เราย้ายมาที่นี่เองคับ”
ในเวลานี้ ลู่จือเจี้ยนก็หยุดปากกาในมือของเขา ก่อนจะยืนขึ้นแล้วพูดว่า “เถ้าแก่เจียง ผมต้องขอโทษ ผมมัวแต่คำนวณตัวเลขจนไม่ได้ทักทายคุณเลย”
เจียงเสี่ยวไป๋กล่าวว่า “คุณลู่สุภาพเกินไปแล้ว เป็นเพราะผมไม่ได้ดูแลพวกคุณดีพอต่างหาก”
ลู่จือเจี้ยนยิ้มและพูดว่า “เถ้าแก่เจียง ไม่เป็นไร แม้ว่าเราจะเปลี่ยนสถานที่ แต่งานของเราก็ยังเหมือนเดิม เวลาที่เราทำงานออกแบบ เราไม่สามารถไปทำเรื่องอื่นได้ ไม่มีความจำเป็นที่จะให้ความสนใจเราขนาดนั้นก็ได้”
เจียงเสี่ยวไป๋เองก็เคยออกแบบแบบแปลนด้วยตัวเองมาหลายครั้ง ดังนั้นเขาจึงเข้าใจเรื่องนี้ดี และหันไปถามคนที่เหลือแทนว่าพวกเขาเริ่มชินกับมันบ้างหรือยัง
ลู่จือเจี้ยนกล่าวว่าไม่มีปัญหา และเริ่มพูดคุยเกี่ยวกับความคืบหน้าของงาน
ตามคำขอของเจียงเสี่ยวไป๋ สิ่งแรกที่พวกเขาทำคือต้องร่างแบบโรงเรียนประถม ซึ่งส่วนใหญ่ประกอบไปด้วยอาคารเรียนเจ็ดชั้นสองหลัง หอพักสองหลัง อาคารสำนักงานสี่ชั้นหนึ่งหลัง ห้องโถง โรงอาหาร หอประชุม ห้องน้ำ สนามเด็กเล่น สนามบาสเก็ตบอล ห้องสมุด ห้องพยาบาลและอื่น ๆ
นอกจากนี้ เนื่องจากที่ดินครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 300 หมู่ เจียงเสี่ยวไป๋จึงต้องการจะสร้าง “ชุมชนสีเขียว” โดยประกอบไปด้วยอาคารพาณิชย์สูง 17 ชั้นจำนวน 5 หลังตามมาตรฐานของชุมชน
แนวคิดของที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ถูกสร้างขึ้นในปี 1978 แต่มีการลงทุนและสร้างที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชในปี 1979 ในเวลานั้น เซี่ยงไฮ้ได้เปิดตัวห้องพักจำนวน 20 ยูนิตเป็นครั้งแรก ซึ่งทั้งหมดขายให้กับครอบครัวชาวจีนโพ้นทะเล ต่อมาเมื่อวันที่ 2 เมษายน 1998 ผู้บริหารระดับสูงได้เสนอแนวคิดการปฏิรูประบบที่อยู่อาศัยอย่างชัดเจนและเสนอให้ดำเนินการสร้างที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ ทำให้ในเดือนมิถุนายนปีเดียวกันนั้นได้มีการนำนโยบายนี้มาใช้อย่างเป็นทางการ
อย่างไรก็ตาม ในระยะนี้ ที่อยู่อาศัยเพื่อการพาณิชย์ยังไม่เป็นที่รู้จักของประชาชนทั่วไปมากนัก
จนกระทั่งถึงปี 1988 หลังจากจัดการประชุมการปฏิรูประบบที่อยู่อาศัยครั้งแรก ที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ก็เริ่มได้รับความนิยมอย่างมาก ในปี 1991 ได้มีการเปิดตัวธุรกิจสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัย มีการแนะนำนโยบายสินเชื่อที่อยู่อาศัยต่าง ๆ และตลาดที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ก็พัฒนาขึ้น ในเดือนสิงหาคม ปี 1995 ธนาคารประชาชนแห่งประเทศจีนได้ประกาศใช้ ‘มาตรการชั่วคราวสำหรับการบริหารสินเชื่อที่อยู่อาศัยด้วยตนเองของธนาคารพาณิชย์’ ซึ่งทำให้ที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ได้รับความนิยมตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
เจียงเสี่ยวไป๋พัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์จำนวนมากในเวลานี้ ซึ่งเร็วกว่าวิถีการพัฒนาที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์ในชีวิตก่อนมาก
อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเขาได้รับการสนับสนุนจากฝ่ายที่เกี่ยวข้อง เขาจึงกล้าที่จะลงมือทำ
เหตุผลที่เขาทำบ้านพักครูให้กับครูที่เขารับสมัครคือความตั้งใจแรกของเขา จุดประสงค์ไม่เพียงเพื่อรักษาผู้ที่มีความสามารถเท่านั้น แต่ยังเพื่อส่งเสริมให้ผู้คนตระหนักถึงที่อยู่อาศัยเชิงพาณิชย์อีกด้วย
หลังจากทำงานหนักมาหลายวัน ลู่จือเจี้ยนและคนอื่นก็ออกแบบโรงเรียนประถมศึกษาเสร็จสิ้นแล้ว หลังจากนั้นพวกเขาก็ได้ลุยออกแบบ ‘ชุมชนสีเขียว’ ต่อ
ชุมชนสีเขียวมี 5 อาคาร แต่ละอาคารมี 2 ยูนิต แต่ละยูนิตมีห้อง 4 ห้อง ประเภทห้องมีขนาดตั้งแต่ 85 ตารางเมตร ถึง 160 ตารางเมตร รวมจำนวน 680 ห้อง
มีอยู่หนึ่งอาคารที่สงวนไว้เป็นบ้านพักครู ส่วนอีกสี่อาคารที่เหลือ เขาวางแผนจะสร้าง “พื้นที่เขตการศึกษา”
ในอนาคต เมื่อโรงเรียนประถมศึกษาฉิวซู่ได้รับความนิยม และจำนวนนักเรียนเพิ่มมากขึ้น การหาห้องในเขตการศึกษาก็จะเป็นเรื่องยากไปอีก
วันนี้เจียงเสี่ยวไป๋ไม่รีบร้อนที่จะกลับไปออฟฟิศ เขามีเวลาเหลือเฟือ ดังนั้นเขาจึงตรวจสอบแบบแปลนอย่างรอบคอบและบอกให้พวกเขาปรับเปลี่ยนตามที่เขาพอใจอยู่หลายอย่าง
ในระหว่างนี้ ลู่จือเจี้ยน ผางต้าไห่ และโม่เสี่ยวฉีต่างก็ตั้งใจฟังอย่างละเอียดและหยิบยกปัญหาที่พวกเขาเจอระหว่างการทำงานขึ้นมาถาม ส่วนเจียงเสี่ยวไป๋ก็ตอบพวกเขาอย่างละเอียดเช่นกัน
ลู่จือเจี้ยนและลูกน้องของเขาอีกสองคนต่างก็ได้ความรู้ใหม่ ๆ จากการทำงานในครั้งนี้
ตอนเที่ยง จวงปี้เฉิงก็มาด้วย เจียงเสี่ยวไป๋พาคนทั้งสี่ไปกินซุปหัวปลา หลังจากนั้นลู่จือเจี้ยนและคนอื่น ๆ ก็กลับไปที่ชิงเจียงเกสท์เฮาส์เพื่อทำงานต่อ เจียงเสี่ยวไป๋จึงไปหาหวังผิงเพื่อไปเอากุญแจบ้านที่เหมียววาน
คลับเฮาส์กำลังรับสมัครพนักงาน จึงถึงเวลาที่จะเริ่มตกแต่งภายในแล้ว
เมื่อไปที่เหมียววาน เจียงเสี่ยวไป๋ก็มองดูบ้านทั้งภายในและภายนอกอย่างระมัดระวัง
มันเป็นบ้านเก่าแก่มีทางเข้า 2 ทาง ทางเข้ามีบ่อน้ำ สวนหลังบ้านมีสวนไผ่ สภาพแวดล้อมโดยรวมทั้งสะอาดและหรูหรา
บ้านแบ่งออกเป็นสนามหญ้าหน้าบ้านและสวนหลังบ้าน เป็นการออกแบบให้อยู่ในรูปแบบ “ซื่อสุ่ยกุ้ยถัง” ซึ่งเรียกว่าน้ำทั้งสี่สายกลับคืนสู่ห้องโถง เหมือนรูปทรง ‘8’ เหลี่ยม มีลานเล็ก ๆ อยู่ข้างล่าง
ในตอนนั้น ภาพการออกแบบก็ปรากฏขึ้นมาในหัวของเขาอย่างรวดเร็ว
เขาต้องปรับปรุงบ่อน้ำหน้าประตู ปลูกดอกบัว เลี้ยงปลา สร้างสถานที่ตกปลาและโต๊ะน้ำชากลางแจ้ง
ลานด้านหน้าได้รับการออกแบบให้เป็นห้องน้ำชาและพื้นที่ต้อนรับ และห้องพักด้านหลังจำนวน 12 ห้องได้รับการออกแบบให้เป็นพื้นที่นวดเท้า
ไม่จำเป็นต้องเปลี่ยนแผนผังของบ้านทั้งหลัง เพียงแต่ต้องเดินสายไฟและตกแต่งบางอย่างเพิ่มเติมเท่านั้น
เขารีบวาดภาพร่างแล้วตรงไปหาเฉินอี้เฟยทันที
ในเมื่อเจียงเจียกรุ๊ปมีบริษัทตกแต่งภายในเป็นของตัวเองแล้ว ภารกิจนี้จึงถูกส่งมอบให้กับพวกเขา