novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 175 วันประลอง

  1. Home
  2. พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)
  3. บทที่ 175 วันประลอง
Prev
Next

บทที่ 175 วันประลอง

หลังจากที่ชั้นเรียนของหลิงตู้ฉิงจบลง บรรดานักศึกษาของศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่ยังคงนั่งเหม่ออยู่ในลานบรรยายบางคนก็เริ่มแสดงอาการแปลก ๆ ออกมา

ซึ่งอาการแปลก ๆ ที่ว่านี้คือจู่ ๆ พวกเขาก็ลุกขึ้นมาออกท่วงท่ารำกระบี่บ้าง รำดาบบ้าง พวกเขาทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ เช่นนี้อยู่เรื่อย ๆ ไม่หยุด

2 วันต่อมา โม่หยูถังและเสี่ยวเยว่เฟิงได้กลับมาที่ศาลาศักดิ์สิทธิ์แทบจะเวลาเดียวกัน พวกเขากลับมาพร้อมกับใบหน้าที่ดูมีความสุข และช่วงเวลาที่พวกเขากลับมานั้นเป็นช่วงเวลาเดียวกับที่บรรดานักศึกษาในศาลาศักดิ์สิทธิ์ ค่อย ๆ ตื่นขึ้นจากสภาพเหม่อลอยและอาการแปลก ๆ จากนั้นพวกเขาจึงเริ่มฝึกฝนบนเส้นทางการบ่มเพาะของตนเองต่อ

หลิงตู้ฉิงมองไปที่การฝึกของพวกเขาและพยักหน้าด้วยความพึงพอใจ

“นายท่าน ดูเหมือนว่าการเคี่ยวเข็นของเราที่ลงแรงไปจะไม่สูญเปล่าแล้วนายท่าน” โม่หยูถังอุทาน

หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและพูดว่า “ยังมีเวลาอีก 7 วันจนกว่าจะถึงวันประลองกับคณะอื่น ๆ หลังจาก 7 วันนี้พวกเขาทั้งหมดน่าจะพัฒนาขึ้นอย่างมาก”

ในขณะที่ทั้งสองกำลังสนทนากัน จ้าวปาเทียนก็เข้ามาและถามว่า “ตู้ฉิง คณบดีจากคณะอื่นกำลังถามเกี่ยวกับการเตรียมการสำหรับการประลองของนักศึกษา”

“เตรียมการ? มันก็ไม่เห็นว่าจะต้องเตรียมการอะไรให้ยุ่งยาก เมื่อถึงเวลาพวกเขาก็แค่เลือกคนของพวกเขาขึ้นมาจะกี่คนก็ได้ ให้มาประลองกับนักศึกษาของคณะข้าตามวิถีการบ่มเพาะที่คล้ายคลึงกันก็แค่นั้นเอง” หลิงตู้ฉิงชี้ไปที่หลูหลิงและพูดต่อว่า “ถ้าจะให้ยกตัวอย่างก็เป็นประมาณว่า หลูหลิง เขาถนัดใช้พิษถ้าไม่ว่าใครในคณะโอสถศาสตร์สามารถล้างพิษของเขาได้ เราจะเป็นฝ่ายแพ้”

“ส่วนจูเหยียน การปักลายลงบนเศษผ้าของนางถือเป็นหนึ่งในแขนงของผู้เชี่ยวชาญการใช้ค่ายกลและลั่วหาวที่ฝึกฝนการวาดภาพเองก็มีทักษะที่คล้ายกับจูเหยียนเช่นกัน ดังนั้นหากคณะอื่น ๆ จะส่งนักศึกษาของพวกเขามาประลองกับสองคนนี้ ก็ให้พวกเขาส่งคนที่รู้เทคนิคการใช้ค่ายกลเพื่อให้มาประลองกับพวกเขา ส่วนนักศึกษาของข้าคนอื่น ๆ ที่เหลือพวกเขาสามารถประลองกับใครก็ได้เพื่อวัดความแข็งแกร่งกันตามปกติ”

“แต่ที่สำคัญที่สุดคือลูกของข้า พวกเขายังเด็กเกินไป แต่ละคนฝึกได้ไม่ถึง 1 ปี บางคนก็ไม่ถึงครึ่งปีด้วยซ้ำ ดังนั้นหากจะมีใครท้าประลองพวกเขา มันจะต้องมีเงื่อนไขพิเศษมาจำกัด คือให้ทุกคนที่ต้องการประลองกับพวกเขา ต้องจำกัดระดับการบ่มเพาะตัวเองให้อยู่ต่ำกว่าขอบเขตควบแน่นลมปราณเท่านั้น”

จ้าวปาเทียนพยักหน้าและพูดว่า “งั้นข้าจะบอกพวกเขาเรื่องนี้เอง”

หลิงตู้ฉิงพูดอย่างไม่แยแสว่า “แต่ถ้าพวกเขาบ่นว่าเงื่อนไขของข้าทั้งหมดมันเป็นเหมือนการดูถูกพวกเขา ท่านก็ไม่จำต้องไปสนใจ เพราะว่าพวกเขาจะได้เห็นความจริงใน 7 วันต่อจากนี้ว่านักศึกษาของข้ามันต่างจากของพวกเขาแค่ไหน”

จ้าวปาเทียนพยักหน้าและเดินจากไปให้คำตอบกับคณบดีคนอื่น ๆ

จริง ๆ แล้วอาจารย์คณะอื่น ๆ แต่ละคนไม่ได้มองการแข่งขันครั้งนี้ในแง่ดีสักเท่าไหร่ เพราะพวกเขามั่นใจมากว่านักศึกษาศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่ได้รับการฝึกฝนอันแสนวิเศษจะต้องชนะนักศึกษาของพวกเขาได้แน่นอน แต่พวกเขาก็ยังอยากมีส่วนร่วมในการต่อสู้ครั้งนี้

เพราะอย่างน้อย ๆ บรรดานักศึกษาที่ได้เข้าร่วมการประลองก็ยังจะได้รับประสบการณ์การต่อสู้ และบรรดาอาจารย์ยังได้ลอบสังเกตแนวทางของวิชาที่เหล่าเด็ก ๆ ศาลาศักดิ์สิทธิ์แสดง เพื่อนำมาปรับใช้ในการสอนของตัวเองได้ต่อไป

ในพริบตาวันที่กำหนดไว้ก็มาถึง

นักศึกษาและอาจารย์ทั้งหมดในสถาบันราชวงศ์ทั้งหมดต่างรวมตัวกัน ณ ลานประลองของสถาบัน เพื่อวัดฝีมือกับนักศึกษาคณะศาลาศักดิ์สิทธิ์

กู่เจียเฉิงที่เพิ่งมาถึงลานประลอง เขาเดินนำนักศึกษา 3 คนของคณะศาสตร์ยุทธเข้ามาอย่างองอาจพร้อมกับกวาดสายตามองไปยังนักศึกษาจากศาลาศักดิ์สิทธิ์ที่เรียงตัวด้วยความมั่นใจ

ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมานี้ ภายใต้การชี้แนะของอาจารย์คณะศาสตร์ยุทธทั้งหมด บรรดานักศึกษาที่เป็นตัวแทนของคณะแต่ละคนนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างเห็นได้ชัด ยกตัวอย่างเช่น ตู้กู่หยางเจียน ในตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของพวกเขามาถึง ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 5 แล้ว

หากวัดตามเกณฑ์การสำเร็จการศึกษาของสถาบันราชวงศ์ อันที่จริงเขาสามารถยื่นเรื่องจบการศึกษาได้เลยทันที แต่เขาก็ยังไม่ยอมจบการศึกษาเพราะเขาเองก็กำลังรอการประลองครั้งนี้

นอกจากนักศึกษาคณะศาสตร์ยุทธที่พร้อมจะลงมือแล้ว เตียวหยวนและนักศึกษาอีกจำนวนหนึ่งจากคณะเตรียมทหารต่างมองไปที่โกวเจี้ยนด้วยความมั่นใจ ในช่วงเวลาที่ผ่านมาพวกเขาก็ก้าวหน้าไปมากเช่นกัน พวกเขาล้วนมั่นใจว่าตัวเองจะมีโอกาสเอาชนะโกวเจี้ยนได้แน่นอน

แต่ถ้าหากจะคณะไหนที่ไม่พอใจกับการประลองครั้งนี้มากที่สุดก็คือ นักศึกษาจากคณะช่างหลอม นั่นก็เพราะพวกเขาไม่สามารถขอท้าประลองใครก็ตามที่อยู่ในศาลาศักดิ์สิทธิ์ได้เลย เนื่องจากในศาลาศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้ไม่มีนักศึกษาคนไหนที่มีความสามารถสร้างสมบัติวิเศษได้แม้แต่คนเดียว

สำหรับคณะโอสถศาสตร์พวกเขาเลือกเพียงแต่ผู้ใช้พิษเพียงอย่างเดียวในการลงประลอง ซึ่งเรื่องนี้ทำให้หลายคนรู้สึกว่ามันไม่ยุติธรรม แต่ก็ไม่ได้มีใครพูดทักท้วงอะไรออกไป เพราะในเวลานี้ชื่อเสียงของศาลาศักดิ์สิทธิ์ก็เป็นที่รู้ ๆ กันอยู่ว่าแข็งแกร่งกว่าพวกเขาเป็นร้อยเท่า ฉะนั้นการเล่นตุกติกนิดหน่อยเช่นนี้จึงไม่ถือว่าเป็นการโกงแต่อย่างใด

“อาจารย์หลิง ท่านคิดว่าเราควรเริ่มจากการประลองอะไรก่อนดี” จิ๋นห้าวหมิง เว่ยเทียนไล้ และคนอื่น ๆ เข้ามาถาม

ตอนนี้อาจารย์คนอื่น ๆ ทุกคนดูสุภาพเป็นอย่างมาก พวกเขาไม่แสดงท่าทีโอหังเหมือนตอนแรก ๆ อีกต่อไป

หลิงตู้ฉิงโบกมือและชี้ไปยังพื้นที่ที่ถูกปักป้ายทำเครื่องหมายไว้และพูดว่า “ข้าทำเครื่องหมายแสดงพื้นที่ในการต่อสู้ประเภทต่าง ๆ ไว้ล่วงหน้าแล้ว หากพวกท่านต้องการประลองในลักษณะไหน พวกท่านสามารถส่งคนของท่านเดินไปยังพื้นที่ที่ข้าทำสัญลักษณ์ไว้ได้โดยตรง แต่ลูกสาวคนที่ห้าของข้าจะไม่เข้าร่วมการประลองครั้งนี้ด้วยเนื่องจากนางยังไม่สามารถควบคุมพลังของตนเองได้ แต่แน่นอนว่าหากมีใครที่เบื่อชีวิตตัวเองมากนัก เขาก็สามารถมาท้าประลองนางได้เช่นกัน ฉะนั้นข้าขอย้ำว่าถ้าใครต้องการประลองกับลูกคนที่ห้าของข้า กฎของการประลองนั้นจะเป็นการเดิมพันกันด้วยชีวิต!”

ทุกคนมองไปที่หลิงฟ่างหัว ซึ่งยืนอยู่ข้าง ๆ หลิงตู้ฉิง เด็กน้อยน่ารักคนนี้น่ากลัวขนาดนั้นจริง ๆ เหรอ?

หลิงฟ่างหัวซุกหัวของนางลงในอ้อมแขนของหลิงตู้ฉิง และหันหน้ามองไปทางฝูงชนด้วยสายตาที่เรียบเฉย

อาจารย์คนอื่น ๆ ที่ได้ยินเช่นนี้ พวกเขาทั้งหมดพยักหน้าบ่งบอกว่าพวกเขาเข้าใจคำพูดของหลิงตู้ฉิงเป็นอย่างดี

จากนั้นพวกเขาจึงหันกลับไปย้ำเตือนนักศึกษาของตัวเองต่ออีกรอบ

เมื่อทุกคนต่างเข้าใจกฎกันดีแล้ว กู่เจียเฉิงที่เฝ้ารอนี้เวลามาหลายเดือนเขาลุกขึ้นเป็นคนแรกและตะโกนว่า “อาจารย์ ข้าขอท้าเจียงซิงเฉิง!”

อาจารย์ของเขาได้บอกข้อมูลของเจียงซิงเฉิงให้เขาแล้วว่า ตอนนี้ระดับการบ่มเพาะของเจียงซิงเฉิงยังอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 2

ส่วนเขานั้นอยู่ที่ขอบเขตประสานทะเลปราณระดับ 5 เขามั่นใจว่าตัวเขาเองสามารถชนะเจียงซิงเฉิงได้แน่นอน

เนื่องจากได้รับคำท้า เจียงซิงเฉิงลุกขึ้นยืนทันที

ส่วนบรรดาผู้เข้าชม เมื่อพวกเขาเห็นว่าเจียงซิงเฉิงถูกท้าประลองแล้ว พวกเขาต่างเพ่งมองไปยังการประลองที่กำลังจะเกิดขึ้นอย่างใจจดใจจ่อ หวังว่าจะได้เรียนรู้อะไรดี ๆ จากศาลาศักดิ์สิทธิ์