novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸) - บทที่ 318 วางหลุมพลางศิษย์ร่วมสำนัก

  1. Home
  2. พ่อเลี้ยงยอดเซียน (异界无敌奶爸)
  3. บทที่ 318 วางหลุมพลางศิษย์ร่วมสำนัก
Prev
Next

เมื่อได้รับการแจ้งว่าหานซ่งหยวนมาขอเข้าพบ เย่ชิงเฉิงจึงยุติการสนทนาเรื่องเกี่ยวกับหินจันทราศักดิ์สิทธิ์เอาไว้ก่อนและพูดว่า “สามี ศิษย์พี่ของข้าคงมาเพื่อคุยเรื่องสิทธิ์เข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ก่อนหน้านี้ข้าได้บอกกับพวกเขาว่าให้พวกเขาตัดสินใจกันเองว่าใครจะได้เข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับและจงใจให้พวกเขาขัดแย้งกันเอง ตอนนี้ข้าคิดว่าผลลัพธ์คงออกมาแล้ว”

“อืม!” หลิงตู้ฉิงพยักหน้าและส่งสัญญาณให้เปียนเฉียวเฉียว ไปแจ้งหานซ่งหยวนเข้ามาพบได้

เมื่อเห็นหานซ่งหยวนเดินเข้ามา เย่ชิงเฉิงก็ถามล่วงหน้า “ศิษย์พี่หานผลออกมาคือท่านเป็นผู้เข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับงั้นเหรอ?”

เมื่อได้ยินคำพูดของเย่ชิงเฉิง ใบหน้าที่แต่เดิมของหานซ่งหยวนนั้นที่ไม่น่าดูอยู่แล้ว ตอนนี้ยิ่งน่าเกลียดหนักเข้าไปกว่าเดิม

“ศิษย์น้อง ข้าหวังว่าเจ้าจะให้โอกาสข้า!” หานซ่งหยวนพูดอย่างโกรธ ๆ ว่า “ถ้าศิษย์น้องยินยอม ภายหน้าหากศิษย์น้องมีคำขอข้าจะตอบตกลงเจ้าอย่างแน่นอน”

เย่ชิงเฉิงแสร้งทำหน้าหนักใจขณะที่นางพูด “เฮ้อ ศิษย์พี่ นี่ท่านกำลังทำให้ข้าลำบากใจอยู่นะ ถ้าข้าตกลงกับท่านแล้วศิษย์พี่หยูล่ะ?”

นังเลว! จู่ ๆ เจ้าก็ถือวิสาสะริบสิทธิ์ของพวกข้าทั้งที่มีคำสั่งของสำนักสั่งมาแล้ว แล้วตอนนี้เจ้ากลับมาทำหน้าทำตาลำบากใจเนี่ยนะ!?

หานซ่งหยวนสาปแช่งอยู่ในใจ แล้วพูดกับเย่ชิงเฉิงว่า “ตราบใดที่ศิษย์น้องยอมรับเงื่อนไขของข้า ต่อให้ศิษย์น้องมีคำขอที่ไม่สมเหตุสมผลข้าก็จะตกลงกับเจ้าแน่นอน”

เย่ชิงเฉิงครุ่นคิดสักครู่แล้วแสร้งทำเป็นพูด “ศิษย์พี่หาน ในฐานะที่ท่านเป็นศิษย์หลักของหนึ่งในสามตระกูลใหญ่ ไม่ว่ายังไงข้าก็ต้องไว้หน้าท่านอยู่แล้วศิษย์พี่หาน ดังนั้นข้าจะขอพูดกับท่านตรง ๆ เลยก็แล้วกัน ตอนนี้ทางฝั่งข้าเองมีความจำเป็นต้องใช้ของวิเศษอันล้ำค่าอยู่ 2 ชนิดที่มีอยู่ในคลังสำนักของเรานั่นก็คือ หินจันทราศักดิ์สิทธิ์ และ หินแก่นแท้ปฐพี ถ้าศิษย์พี่หานสามารถตกลงในนามครอบครัวของท่านที่จะให้ข้าได้รับของทั้งสองสิ่งนี้ ข้าก็สามารถให้สิทธิ์การเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับแก่ท่านได้”

หานซ่งหยวนเงียบพลางคิดในใจ เขาจะตกลงให้ของล้ำค่าเช่นนี้กับผู้อื่นง่าย ๆ ได้ยังไงกัน?

เย่ชิงเฉิงยิ้ม “ศิษย์พี่หานค่อย ๆ ไตร่ตรองดูก็ได้ แต่ข้าคิดไว้ว่าถ้าหากศิษย์พี่หยูเข้ามาคุยกับข้า ข้าเองก็จะแจ้งเงื่อนไขเดียวกันนี้ให้กับเขาเช่นกัน ดังนั้นถ้าหากท่านไม่ได้รับสิทธิ์การเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ ท่านก็อย่าตำหนิข้าที่ไม่ให้โอกาสท่าน”

“อันที่จริงแล้วแม้ว่าของทั้งสองนี้จะมีค่า แต่มันก็เป็นสมบัติของสำนัก ในอดีตเมื่อผู้อาวุโสสงได้เสี่ยงชีวิตไปชิงพวกมันมา เขาก็หวังเช่นกันว่าลูกหลานของเขาจะสามารถใช้มันได้และไม่ทิ้งร้างมันไว้ในคลังตลอดไป”

“นอกจากนี้ของทั้งสองสิ่งนี้ จุดประสงค์ที่ข้าจะนำไปใช้นั่นก็คือเพื่อช่วยเหลือพ่อของข้าที่เป็นเจ้าสำนักของท่าน หากแผนการทุกอย่างสำเร็จท่านเองก็จะได้หน้าไปด้วยและต่อให้เรื่องการช่วยเหลือพ่อของข้ามันจะเป็นเรื่องในอนาคตที่ไกลไปหน่อย แต่ท่านลองคิดถึงเรื่องที่ท่านจะได้เข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับที่กำลังจะเปิดขึ้นให้ดี หากศิษย์พี่หานสามารถเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับและบังเอิญได้พบสมบัติที่สามารถใช้เพื่อฝ่าขีดจำกัดของตัวท่านเองได้ อนาคตในการบ่มเพาะของท่านจะสดใสได้ขนาดไหน ท่านลองคิดดูก็แล้วกัน”

หลังจากได้ยินคำพูดของเย่ชิงเฉิง หานซ่งหยวนคิดอยู่พักหนึ่งและพูดว่า “ก็ได้! ข้าสามารถเป็นตัวแทนตระกูลของข้าได้ และตกลงตามเงื่อนไขของเจ้า”

“ถ้าเช่นนั้นศิษย์พี่หานโปรดสาบานต่อกฎแห่งสวรรค์!” เย่ชิงเฉิงพูดทันที “และท่านไม่ต้องห่วง ข้าเองก็จะสาบานที่จะมอบสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับให้กับท่านเช่นกัน”

หานซ่งหยวนพยักหน้าและสาบานทันที จากนั้นเมื่อเย่ชิงเฉิงสาบานภายใต้กฎแห่งสวรรค์เสร็จสิ้นในที่สุดเขาก็รู้สึกโล่งใจ

เขาพึมพำในใจ ไอ้คนแซ่หยู ข้าอุตส่าห์เสนอผลประโยชน์ให้เจ้ามากมาย แต่เจ้ากลับยังต้องการแข่งขันกับข้างั้นเหรอ? มาดูกันว่าคราวนี้เจ้าจะแข่งกับข้ายังไง!

หลังจากตกลงกับเย่ชิงเฉิงเสร็จแล้ว หานซ่งหยวนก็จากไปด้วยใบหน้าเบิกบาน

ในขณะที่เขากำลังเดินกลับ เมื่อเขาเห็นหยูจิ้งเฉิงเองก็กำลังเดินไปที่หมู่ตึกหยูอี่ เขาก็เยาะเย้ยอยู่ในใจ แต่การแสดงออกภายนอกเขากลับยิ้มให้หยูจิ้งเฉิง และกล่าวทักทายว่า “น้องหยู เจ้าก็มาหาศิษย์น้องด้วยเหรอ?”

หัวใจของหยูจิ้งเฉิงเต้นผิดจังหวะทันทีเมื่อได้เห็นสีหน้าอันเบิกบานของหานซ่งหยวน พลางคิดในใจ ‘นี่สิทธิ์เข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับถูกแย่งชิงไปแล้วงั้นเหรอ?’

หยูจิ้งเฉิงพยักหน้าและพูดว่า “อ๋อ ข้าไม่ได้เห็นศิษย์น้องมา 2-3 วันแล้ว ข้าเลยลองแวะมาดูว่าศิษย์น้องจะถูกใครรังแกรึเปล่าก็แค่นั้น!”

“ฮ่าฮ่าฮ่า ศิษย์น้องได้แต่งงานแล้วกับคนแซ่หลิง ตอนนี้นางคงไม่จำเป็นต้องให้น้องหยูคอยดูแลนางแล้ว ข้าคิดว่าเราควรไปหาที่ร่ำสุรากันจะดีกว่ารึเปล่า?” หานซ่งหยวนพูดไปหัวเราะไป

นี่เป็นการจงใจยั่วหยูจิ้งเฉิงอย่างโจ่งแจ้ง

ยิ่งหานซ่งหยวนหัวเราะอย่างมีความสุขมากเท่าไหร่ หยูจิ้งเฉิงก็ยิ่งโกรธมากขึ้นเท่านั้น ตอนนี้มันดูเหมือนว่าความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองที่เคยดีต่อกันเริ่มน้อยลงไปเรื่อย ๆ และเรื่อย ๆ

“ไว้เราค่อยคุยกันเมื่อข้าเจอศิษย์น้อง!” หยูจิ้งเฉิงส่ายหัวและรีบเดินจากไปขอพบเย่ชิงเฉิงทันทีด้วยอารมณ์ฉุนเฉียว

หลังจากเวลาผ่านไปพักใหญ่ หยูจิ้งเฉิงก็เดินออกจากหมู่ตึกหยูอี่ด้วยรอยยิ้มพลางคิดในใจ ‘ไอ้คนแซ่หาน มาดูกันว่าต่อไปเจ้าจะสามารถลอยหน้าลอยตาต่อหน้าข้าได้อีกรึเปล่า!’

เมื่อครู่เขาและเย่ชิงเฉิงได้สาบานต่อกฎแห่งสวรรค์ไปแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่กลัวว่าเย่ชิงเฉิงจะกลับคำพูดของนาง

ในหมู่ตึกหยูอี่ เย่ชิงเฉิงพูดกับหลิงตู้ฉิงด้วยรอยยิ้มที่ยิ้มแย้มแจ่มใส “สามี ในที่สุดหินจันทราศักดิ์สิทธิ์และหินแก่นแท้ปฐพี ก็อยู่ในมือเราแล้ว!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าทำผลงานได้ไม่เลวเลย โดยที่ไม่ต้องใช้ความพยายามมากนักเราก็ได้สองสิ่งนี้มาอย่างง่าย ๆ”

อันที่จริงแล้วเย่ชิงเฉิงไม่พอใจกับเรื่องนี้เล็กน้อยและรู้สึกหดหู่ในใจ

ถ้าหากเป็นก่อนหน้านี้ที่พ่อของนางยังอยู่ นางคงไม่จำเป็นต้องมานั่งวางแผนอะไรแบบนี้ให้มันลำบากลำบน

นางส่ายหัวสลัดอารมณ์ขุ่นมัวออกไป และยิ้มขณะที่นางพูดกับหลิงตู้ฉิง “สามี ท่านยังไม่ได้บอกข้าเลยว่าทำไมข้าถึงต้องการหินจันทราศักดิ์สิทธิ์!”

หลิงตู้ฉิงยิ้มและพูดว่า “เจ้าไม่รู้หรือว่าตัวเจ้าเองไม่เหมาะที่จะเป็นผู้ใช้อักขระเวทย์?”

ใบหน้าของเย่ชิงเฉิงเปลี่ยนเป็นขมขื่น ในขณะที่นางพูดว่า “ถึงแม้ว่าพรสวรรค์ของข้าจะไม่ถือว่าข้าเป็นอัจฉริยะในรอบล้านปีที่เกิดขึ้นในสำนัก แต่อย่างน้อยที่สุดข้าก็ถือว่าเป็นอัจฉริยะที่ยอดเยี่ยมคนนึง แต่ถ้าจะพูดถึงเส้นทางการบ่มเพาะในเต๋าของอักขระเวทย์แล้วมันแน่นอนที่สุดว่าข้าไม่สามารถเทียบท่านได้แม้แต่น้อย แถมข้ายังด้อยกว่าศิษย์พี่และศิษย์น้องของข้าบางคนอีกต่างหาก มันน่าเศร้าในวิถีเต๋าอักขระเวทย์ของข้าที่ในตอนนี้แม้แต่ผู้เชี่ยวชาญที่อยู่ในขอบเขตรวมแสงดาราระดับ 10 ข้าก็คงไม่สามารถเอาชนะเขาได้ด้วยทักษะอักขระเวทย์ของข้า ข้ารู้สึกหนักใจกับปัญหานี้เช่นกัน มันเป็นเหตุผลว่าทำไมข้าถึงต้องการเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับเพื่อหาสมบัติอะไรสักอย่างมาแก้ปัญหานี้”

“ผิดแล้ว มันเป็นเพราะเจ้าบ่มเพาะมาผิดทางจนเกิดผลลัพธ์เช่นนี้ขึ้นต่างหากล่ะ” หลิงตู้ฉิงพูดอย่างใจเย็น

“หา…” เย่ชิงเฉิงตกตะลึงพลางคิดในใจ ‘แม่ของนางเป็นถึงผู้เชี่ยวชาญขอบเขตราชัน แม่ของนางจะไม่รู้ปัญหานี้ได้ยังไง’

อย่างไรก็ตามเมื่อนึกถึงความแปลกประหลาดของหลิงตู้ฉิง นางจึงรีบถามว่า “สามี แล้วข้าควรฝึกอะไร?”

หลิงตู้ฉิงหัวเราะ “ตอนนี้เจ้าควรตั้งใจฝึกฝน วิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่ง ไปก่อนจนกว่าเจ้าจะฝึกฝนมันจนสำเร็จ จากนั้นแล้วข้าจะบอกวิธีการบ่มเพาะอื่น ๆ ให้เจ้าอีกที”

“ท่านไม่ต้องเป็นห่วง ข้าจะฝึกตามพวกเขาให้ทันโดยเร็วที่สุด!” เย่ชิงเฉิงหัวเราะ

เมื่อพูดจบ เย่ชิงเฉิงจึงเข้าไปร่วมกลุ่มของมี่ไลเพื่อฝึกฝน วิชาเจตจำนงแปลงสรรพสิ่งทันที

สำหรับหลิงตู้ฉิง เขาเรียกเสี่ยวเยว่เฟิงให้มาหาและถามว่า “เฟิง ที่อาณาเขตนภานี้มีหอประมูลไหนที่มีชื่อเสียงบ้างรึเปล่า ข้าต้องการหอประมูลดี ๆ สักที่เพื่อวางประมูลสิทธิ์ในการเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ”

เสี่ยวเยว่เฟิงยิ้มและพูดว่า “ถ้าเช่นนั้นข้าขอแนะนำหอการค้าเชื่อมสวรรค์ที่มีหอประมูลที่มีชื่อเสียงเป็นของตัวเองในเมืองหยูหลัน ข้าคิดว่าพวกเขาน่าจะตอบสนองความต้องการของนายท่านได้แน่นอน!”

“ถ้าอย่างนั้นจงไปเตรียมตัวมุ่งหน้าสู่เมืองหยูหลัน” หลิงตู้ฉิงสั่ง

เสี่ยวเยว่เฟิงพยักหน้า หลังจากเงียบไปครู่หนึ่งนางพูดกับหลิงตู้ฉิง “นายท่าน…เกี่ยวกับเรื่องของสิทธิ์การเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับ อันที่จริงแล้วท่านไม่จำเป็นต้องให้สิทธิ์ในการเข้ากับน้องสาวของข้าก็ได้ ด้วยระดับการบ่มเพาะของนางที่ไม่สูงพอ ถ้าหากนางได้เข้าไปด้านในมันก็เหมือนกับให้นางไปหาที่ตาย”

เนื่องจากนางเองก็รู้ดีว่าเมื่อครู่ หลิงตู้ฉิงทำกำไรได้จากสิทธิ์การเข้าเขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับสองสิทธิ์ไปด้วยราคามหาศาล นางจึงรู้ว่าหนึ่งสิทธิ์นั้นมีค่าเพียงใด ดังนั้นนางจึงพูดล่วงหน้าเพื่อป้องกันไม่ให้หลิงตู้ฉิงมอบสิทธิ์อันล้ำค่านี้ให้น้องสาวของนางโดยเปล่าประโยชน์

หลิงตู้ฉิงมองไปที่ดวงตาที่จริงใจของเสี่ยวเยว่เฟิงและยิ้ม “ในเมื่อข้าทำข้อตกลงกับนางไปแล้ว หากนางมีคุณสมบัติตรงตามความต้องการของข้า ข้าจะอนุญาตให้นางเข้าไปด้านในแน่นอน แต่มันก็มีสิ่งหนึ่งที่เจ้าพูดถูกเช่นกัน หากระดับการบ่มเพาะของนางไม่สูงพอการส่งนางเข้าไปก็เหมือนกับส่งนางเข้าไปรนหาที่ตาย ดังนั้นเจ้าควรไปกระตุ้นนาง หากนางยังไม่สามารถทำตามข้อกำหนดได้ และเมื่อทางเข้าสู่เขตแดนวิญญาณผู้ล่วงลับจะเปิดขึ้น ข้าจะไม่ให้นางเข้าไปแน่นอนเจ้าวางใจได้”

“นายท่านไม่ต้องห่วง ข้าจะคอยกระตุ้นให้นางฝึกฝนอย่างหนักแน่นอน!” เสี่ยวเยว่เฟิงพูดอย่างซาบซึ้ง “นายท่าน ทำไมท่านไม่ให้น้องสาวของข้าเป็นภรรยาของท่านอีกคนล่ะ? ไม่อย่างนั้นข้าคิดว่าพวกเราสองคนพี่น้องจะเป็นหนี้ท่านมากเกินไป”

หลิงตู้ฉิงโบกมือและพูดว่า “ไม่จำเป็น!”

เขาพึมพำในใจ ตามคำพูดของถังชี่หยุน สาวน้อยคนนี้แตะต้องไม่ได้!

ดังนั้นเขาจึงปฏิเสธทันที!