ยมทูตพาร์ตไทม์แห่งร้านหนังสือยามวิกาล - ตอนที่ 656 คุณ กิน!
ตอนที่ 656 คุณ กิน!
เด็กผู้ชายมองทนายอันด้วยสายตาเหมือนเจอคนบ้า ทนายอันถูกมองจนรู้สึกเขินอาย แต่เมื่อนึกถึงการตอบสนองของเถ้าแก่กับอิงอิงที่มีต่อก้อนหินสีเขียวในตอนแรก เขาจึงจ้องมองเด็กผู้ชายด้วยสายตาที่แน่วแน่แล้วพูดว่า“วางใจได้ รับรองนายต้องฟินแน่นอน” ถึงแม้ปริมาณจะไม่พอ แต่หยิบมาหนึ่งก้อนให้เด็กผู้ชายรู้สึกฟินสักหน่อย ไม่น่าเป็นปัญหาใหญ่อะไร
ทนายอันไม่สนใจคนสองสามคนที่ดื่มเหล้าเฝ้าหน้างาน แต่เลี้ยวเดินเข้าไปสำรวจข้างในเหมืองแร่ต่อ ก่อนหน้านี้เขายุ่งอยู่ที่โรงพยาบาลนานสองนาน และยังสะกดจิตเพื่อให้คนยอมทำตามคำสั่ง หลอกเอาข้อมูลที่จำเป็นออกมา ตอนนี้จึงไม่ต้องจับใครมาถามอีก
เมื่อนานมาแล้ว ทั่วประเทศไม่ว่าที่ไหน เหมืองแร่โดยทั่วไปมักจะมีคำสรรพนามที่ใช้เรียกแทนว่า ‘ความวุ่นวาย’ แต่เมื่อสองสามปีที่ผ่านมาได้รับการปรับปรุงและพัฒนาเป็นอย่างมาก แน่นอนว่าที่นี่จะวุ่นวายหรือไม่วุ่นวาย ไม่ว่าอย่างไรก็ไม่มีผลกระทบกับทนายอัน เพราะด้านหลังของเขายังมีนักต่อสู้ป้ายทองตามมาด้วย
เมื่อเดินลึกเข้าไปในเหมืองแร่ มีถ้ำหลุมแห่งหนึ่งปรากฏอยู่ในนั้น ที่นี่ไม่น่าจะเป็นเขตที่ใช้ขุดเหมือง แต่ทั้งสองด้านของถ้ำหลุมนี้ติดตั้งอุปกรณ์สำหรับลงไปด้านล่างไว้อย่างมั่นคง
“ข้างล่าง ขุดอะไร” เด็กผู้ชายเดินไปข้างหลุมแล้วถาม นี่เรียบง่ายเกินไปมาก ไม่เหมือนขุดเหมือง
“พื้นที่อื่นได้ขุดไปแล้ว เป็นผลทำให้ส่วนนี้แยกออก ลูกชายของเถ้าแก่สั่งให้คนลงไปสำรวจดู แล้วมีคนนำก้อนหินสีเขียวก้อนหนึ่งขึ้นมา ผลก็คือคิดว่าเป็นควันเขียวผุดขึ้นมาจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษ[1] ได้เจอสายแร่หยก ฮิๆ เป็นควันเขียวที่ผุดขึ้นมาจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษจริงๆ แล้วระเบิดออกมาโดยตรง
ลูกชายของเถ้าแก่พาคนงานบางส่วนติดตั้งอุปกรณ์แล้วลงไปข้างล่าง จากนั้นก็ไม่มีใครขึ้นมาสักคน ต่อมาเถ้าแก่ได้ส่งคนลงไปอีก ครั้งนี้มีคนขึ้นมาแล้ว ลงไปแปดคน ขึ้นมาสี่คน มีหนึ่งคนในนั้นตายคาที่ อีกสามคนหลังจากขึ้นมาแล้วกลับเป็นบ้า เรื่องที่เกิดจากเหมืองแร่ โดยทั่วไปเป็นเรื่องที่อ่อนไหวง่าย เถ้าแก่โรคหัวใจกำเริบ ถูกส่งตัวไปโรงพยาบาล เรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่จึงถูกปิดไว้ชั่วคราว”
บนโลกมนุษย์มีเรื่องราวมากมาย ทั้งสีดำและสีขาว ทั้งในที่ลับและที่แจ้ง ทนายอันขี้เกียจจะให้ความรู้เพิ่มเติมแก่เด็กผู้ชาย เพราะสิ่งที่สำคัญคือต้องอาศัย ‘ช่วงเวลาว่าง’ ชั่วคราวนี้จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อยก่อน ไม่อย่างนั้นถึงตอนนั้นไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานรัฐหรือว่าหน่วยงานส่วนตัวเข้ามาที่นี่ ตัวเขาและคนอื่นอยากจะทำอะไรอีก จะเกิดความยุ่งยากไม่น้อย
ทนายอันสะบัดมือทั้งสองข้าง เลือดเนื้อถอยออกไปกลายเป็นมือกระดูกสีขาว เขามองมือกระดูกสีขาวสะอาดของตัวเอง จากนั้นมองลงไปข้างล่าง แล้วเดาะปากเสียงดัง
ใช้มือสวยๆ คู่นี้ปีนผาคือการทำลายสิ่งของตามอำเภอใจจริงๆ
“ต้องลงไปไหม” เด็กผู้ชายเดินมาข้างทนายอันแล้วถาม
“เหลวไหล ต้องลงไปสิ”
“ได้” เด็กผู้ชายพยักหน้า พลางยื่นมือโอบเอวของทนายอัน
“เฮ้ย!”
ทนายอันยังไม่ทันพูดคำที่สอง ก็รู้สึกว่าขาทั้งสองข้างของตัวเองลอยจากพื้นในพริบตา จากนั้นท้องฟ้าก็หมุน เข้าสู่สภาวะวัตถุตกลงไปข้างล่างอย่างรวดเร็ว เด็กผู้ชายอุ้มทนายอันกระโดดลงไปเหมือนชาตินี้คงตายไร้ผู้สืบทอดสกุลอีก!
ถ้ำหลุมแห่งนี้ไม่ลึกมาก แต่นั่นเป็นการพูดโดยเทียบกับถ้ำแร่ อันที่จริงได้ตกลงไปสักพักหนึ่ง จนกระทั่งตอนที่ใกล้จะถึงพื้นเด็กผู้ชายออกแรงจากเอว หลังจากสลัดทนายอันลงถึงพื้นก่อนแล้วจึงอ้าแขนทั้งสองข้าง รับทนายอันมาอยู่ในอ้อมอกของเด็กผู้ชาย
“โอเค” เด็กผู้ชายมองลงไปแล้วหันหน้า เพื่อบอกให้ทนายอันลงมา ทนายอันออกจากอ้อมอกของเพื่อนร่วมเตียงแล้วจึงจัดเสื้อผ้าของตัวเองให้เรียบร้อย ด้านล่างของถ้ำหลุมมีน้ำขังอยู่ไม่น้อย อยู่ระดับข้อเท้า โชคดีที่ข้างล่างมีทางเดินเล็กๆ สูงเท่าคนครึ่งตัว จึงไม่ต้องเล่นเกมโชคดีเลือกหนึ่งในสอง
เมื่อก้มตัวเดินเข้าไปข้างในไม่นาน สายตาของเด็กผู้ชายพลันนิ่งงัน ยื่นมือจับทนายอันที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง
“รู้สึกฟินแล้วใช่ไหม” ทนายอันถามอย่างมีความหวัง
เด็กผู้ชายเผยอมุมปาก เอ่ยว่า “มีกลิ่นพิเศษบางอย่าง”
“พูดอ้อมจริงๆ” ทนายอันเดินเข้าไปข้างในต่อ ด้านหน้ากลับโล่งกว้าง ปรากฏบ่อน้ำทรงกลมอันหนึ่ง ในนี้มีความแตกต่างกันระดับหนึ่ง มีน้ำสะสมสูงกว่า
ทนายอันเหยียบลงไป ลึกถึงระดับหัวเข่า เขาหยิบไฟฉายส่องเข้าไปยังตำแหน่งที่สายตามองเห็น สามารถมองเห็นวัตถุสะท้อนแสงสีเขียวบนผนังที่อยู่ตรงหน้าได้อย่างชัดเจน
เฮ้ หาเจอแล้วจริงๆ รู้สึกเหมือนไม่เสียเที่ยวที่ได้มา แต่ทนายอันไม่ลืมตัว ถึงแม้ลูกชายเถ้าแก่กับคนงานกลุ่มนั้นจะเป็นคนธรรมดาเท่านั้น แต่คนพวกนั้นเป็นคนงานที่มีประสบการณ์สูง เคยประสบพบเจอ ‘อุปสรรค’ มากมาย ด้านล่างจะต้องมีอะไรแน่นอน
เด็กผู้ชายเดินออกมาจากด้านหลังของทนายอัน เขาตัวเตี้ย ดังนั้นระดับน้ำจึงลึกมาถึงต้นขาของเขา แต่เขายังคงนิ่งสงบเหมือนเดิม กระทั่งเป็นฝ่ายดำลงไปในน้ำ ไม่ช้าเขาก็ลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ และที่ลอยอยู่ด้วย ยังมีศพของผู้ชายวัยกลางคนศพหนึ่งอยู่ข้างๆ ศพแช่น้ำมานานแล้ว ให้ความรู้สึกเหมือนขนมปังชิ้นหนึ่งถูกโยนลงไปในน้ำ มองโครงหน้าไม่ออกแล้ว
ทนายอันจับศพที่อยู่ตรงหน้าตัวเอง โดยไม่รังเกียจรูปลักษณ์ภายนอกรวมทั้งกลิ่นที่ทำให้คนต้องอาเจียน แต่หลังจากที่ตรวจสอบแล้ว ทนายอันยังคงส่ายหน้า เขาหาสาเหตุการตายของคนนี้ไม่เจอ ถึงแม้ศพจะถูกแช่กลายเป็นคนยักษ์แล้ว แต่ถ้าหากตายเพราะบาดเจ็บภายนอกก็ยังพอหาร่องรอยได้อยู่บ้าง ถ้าหากไม่ได้ตายเพราะบาดเจ็บภายนอก เช่นนั้นอากาศที่อยู่ในนี้ก็มีปัญหาใช่ไหม
“เฮ้ คุณไปดูซิว่าสามารถแกะก้อนหินสีเขียวที่อยู่บนผนังออกมาสักสองสามก้อนได้ไหม” ทนายอันสั่งเด็กผู้ชาย
อีกฝ่ายเป็นผีดิบ และก้อนหินนั่นก็เป็นพิษผีดิบ สำหรับผีดิบแล้วถือว่าเป็นยาบำรุง เพื่อความปลอดภัย ทนายอันไม่อยากเอาตัวเองเข้าไปเสี่ยง อีกอย่าง เขาก็มั่นใจในความสามารถของเด็กผู้ชาย
เด็กผู้ชายพยักหน้า ร่างเริ่มเคลื่อนไหวไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว น้ำที่อยู่ด้านล่างไม่สามารถขัดขวางร่างกายของเขาได้ นับเขาเป็นจุดศูนย์กลาง เกิดระลอกคลื่นกระเพื่อมเป็นสายออกไป ศพของผู้ประสบภัยในชุดคนงานที่อยู่บริเวณนี้ลอยออกมาติดต่อกัน
ทนายอันยังชูโทรศัพท์ส่องไฟให้เด็กผู้ชาย แต่ไม่รู้ทำไม ไฟฉายของโทรศัพท์ดันมีปัญหากะทันกัน
“จริงๆ เลย น้ำเข้าเหรอ” ทนายอันหยิบโทรศัพท์กลับมาแล้วตบมัน ไฟฉายโทรศัพท์กลับมาเหมือนเดิมในไม่ช้า แต่ตอนที่เขาชูขึ้นอีกครั้ง กลับไม่เห็นเด็กผู้ชายอยู่ตรงหน้าแล้ว
“เฮ้!” ทนายอันตะโกนหนึ่งที
เสียง ‘ตู้ม!’ ดังเข้ามา เหมือนปลาตัวหนึ่งตกลงไปในน้ำ จากนั้นเสียงน้ำกระเด็นเกิดเป็นฟองฝอยดังมาเป็นระยะต่อจากนั้นก็เป็นเสียงดัง ‘ตู้มๆ’ ติดต่อกัน
ทนายอันหันมามองข้างๆ ตัวเอง ส่องไฟเข้าไป เขาเห็นสิ่งที่คล้ายถุงกระสอบสีดำใบหนึ่งตกลงไปในน้ำ จากนั้น‘ถุงกระสอบ’ ใบนี้จู่ๆ ได้แตกออก หนอนสีดำตัวหนาเท่าตะเกียบแต่ละตัวได้กระจายออกมาบนผิวน้ำอย่างรวดเร็วขณะเดียวกัน ในตัวของศพที่เป็นมนุษย์ยักษ์ที่อยู่ข้างๆ ก็มีหนอนแบบนี้ผุดออกมาอย่างต่อเนื่อง
‘ตู้มๆ!’ มีถุงกระสอบร่วงลงมาอย่างต่อเนื่องไม่หยุด จำนวนของหนอนสีดำโดยรอบกำลังเยอะขึ้นเรื่อยๆ พวกมันเริ่มรวมตัวกัน พวกมันเริ่มกรูกันเข้ามา จากนั้นกระโจนเข้าหาทนายอันพร้อมกัน ชั่วขณะหนึ่ง ในหัวของทนายอันเกิดความคิดฟุ้งซ่านมากมาย แต่ไม่ช้าก็รีบตัดสินใจ หมุนตัววิ่ง!
เพราะข้างล่างยังมีน้ำขังอยู่ไม่น้อย ดังนั้นทนายอันจึงยากที่จะวิ่งได้เร็ว และเขายังสัมผัสได้ว่าบนผิวหนังของตัวเองมีหนอนสีดำเหล่านี้คลานขึ้นมาแล้ว
ความรู้สึกคันยุบยิบแปลกประหลาดส่งผ่านมาทันที ทนายอันตัวเซ จากนั้นจึงกระโดดลงไปในน้ำให้รู้แล้วรู้รอดความรู้สึกคันเริ่มหายไป ทนายอันรับรู้ได้ถึง ‘ไขมัน’ หนาเป็นชั้นๆ อยู่บนตัวของตัวเอง แน่นอนว่าไม่ใช่ไขมันจริง แต่เป็นการซ้อนทับกันของหนอนสีดำเหล่านั้น ทว่าสิ่งที่ทำให้ทนายอันโล่งอกคือ หนอนพวกนี้ดูเหมือนจะลอยบนผิวน้ำได้ แต่ไม่สามารถดำลงมาได้มากกว่านี้ เป็นเพราะแรงลอยตัวใช่ไหม
ครั้งนี้สะบักสะบอมของจริง แต่ก็เป็นเรื่องที่ทำอะไรไม่ได้ อย่างแรกคือหนอนมีจำนวนเยอะเกินไป อย่างที่สองพวกมันไม่ว่าอย่างไรก็ไม่ใช่ผี วิธีรับมือกับผีทนายอันมีเยอะแยะ แต่ ‘อาวุธชีวภาพ’ แบบนี้ ทนายอันรับมือไม่ถูกจริงๆ และเขาก็ไม่กล้าเอาร่างกายของตัวเองเข้าไปเดิมพัน
ควรทราบว่าเถ้าแก่ไหม้เกรียมนอนอยู่บนเตียงไปแล้ว ถ้าเกิดเขาเป็นอะไรไป ก็คงต้องนอนหลับพักผ่อนตามไปอีกคน เช่นนั้นใครจะเป็นคอยดูแลร้านหนังสือ นักพรตเฒ่าเหรอ
กลั้นหายใจ เพราะระดับน้ำไม่สูง ทนายอันจึงได้แต่พยายามให้หลังของตัวเองติดอยู่กับพื้นดินด้านล่าง จากนั้นเริ่มลองขยับตัว ยังดีที่หนอนสีดำจำนวนมากจนน่ากลัวที่อยู่ข้างบนไม่ได้ขยับพร้อมตัวเองอีก
ทนายอันยากที่จะแยกแยะทิศทางในเวลานี้ รู้แต่ว่าตัวเองต้องรีบออกไปจากที่นี่ยิ่งไกลได้ยิ่งดี ในที่สุด ก็รู้สึกได้ว่าผิวน้ำที่อยู่เหนือตัวเองไม่มีการรวมตัวของหนอนสีดำแล้ว ทนายอันลอยขึ้นมาบนผิวน้ำ แล้วรีบหายใจ ขณะเดียวกันก็เตรียมตัวดำน้ำลงไปอีกครั้ง แต่ตอนที่เขาหายใจ จู่ๆ กลับเห็นเงาคนตัวเล็กนั่งอยู่ตรงหน้าตัวเอง
“เฮ้!” ทนายอันตะโกนหนึ่งที ถ้าหากเด็กผู้ชายอยู่ละก็ ปล่อยให้เขาไปจัดการหนอนพวกนี้แล้วตัวเองก็จะปลอดภัย ไม่ใช่เพราะทนายอันชอบฉวยโอกาสกับเขา แต่ถ้าคิดให้ดี การตอบสนองของทนายอันน่าจะเป็นเพราะทั้งร้านหนังสือเขามีความสัมพันธ์กับเด็กผู้ชายดีที่สุด
เด็กผู้ชายเป็นผีดิบ หนอนพวกนั้นชอนไชเข้าไปในผิวหนังของเขาไม่ได้แน่นอน ความเสียหายที่จะเกิดกับเขาโดยพื้นฐานแล้วสามารถมองข้ามไปได้เลย เมื่อได้ยินเสียงของทนายอัน เด็กผู้ชายจึงหมุนตัว ทนายอันเห็นในมือของเด็กผู้ชายถือก้อนหินสีเขียวขนาดเท่าชามยักษ์ก้อนหนึ่ง แต่ใบหน้าของเด็กผู้ชายก็มีประกายสีเขียวเช่นกัน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคลิบเคลิ้ม บ้าเอ๊ย เขาไร้สติแล้ว
“นายมีสติหน่อย มีสติหน่อยสิ!” ทนายอันตะโกนพูด เหมือนกำลังตะโกนใส่คนติดยาว่า ‘คุณต้องควบคุมอารมณ์ของคุณ!’
เด็กผู้ชายมองทนายอัน ใบหน้าปรากฏรอยยิ้มที่แปลกประหลาด ยื่นมือแล้วบิก้อนหินสีเขียวขนาดเท่าเล็บออกมาหนึ่งชิ้น
‘ปึก!’ เด็กผู้ชายยื่นมืออย่างรวดเร็ว จับคางของทนายอันโดยตรง แล้วออกแรงจากปลายเล็บ บังคับให้ทนายอันอ้าปาก ทนายอันคิดไม่ถึงด้วยซ้ำว่าเด็กผู้ชายจะลงมือกับตัวเอง ดังนั้นจึงไม่ได้ระวังตัวเลยสักนิด!
‘อึ้บ…อืมๆ…’ ทนายอันดิ้นรน เด็กผู้ชายกลับใช้มืออีกข้างหนึ่งถือหินสีเขียวก้อนนั้นแล้วใส่ปากของทนายอันโดยตรง ขณะเดียวกันก็พูดเสียงต่ำอย่างช้าๆ ว่า “อันนี้ ของดี เจ้ากิน”
……………………………………………………………………….
[1] ควันเขียวผุดขึ้นมาจากหลุมฝังศพบรรพบุรุษ เป็นสำนวนเปรียบเปรยว่าเป็นเรื่องน่ายินดี สามารถใช้ในเชิงเสียดสีได้