ยอดกุ๊กบุกแดนเซียน - บทที่ 358 มังกรปีศาจตนที่สองปรากฏกาย!
บทที่ 358 มังกรปีศาจตนที่สองปรากฏกาย!
ณ หุบเขาปีศาจ พลังปีศาจแผ่คลุ้ง บดบังยอดเขาสูงตระหง่านให้เลือนราง หากไม่สังเกตให้ดีคงไม่อาจล่วงรู้ว่าเบื้องหน้าคือภูเขา
และเผ่าพันธุ์ลึกลับที่อาศัยอยู่ในภูเขาลูกนี้คือเผ่าทิงมี่ พวกมันตระหนักแล้วว่าถิ่นฐานของพวกมันถูกล้อมไว้
“ท่านผู้นำ พวกแมลงพวกนั้นอยู่ที่นี่”
หัวขโมยหมายเลขหนึ่งแห่งเผ่าทิงมี่ มองสังเกตการณ์อยู่ห่าง ๆ
“มังกรปีศาจก็มาด้วยตนเอง”
หัวขโมยหมายเลขสอง เมื่อเห็นร่างของนางก็อดไม่ได้ที่จะแสยะยิ้ม มังกรแท้แล้วอย่างไร ยังไม่สามารถปกป้องเมล็ดพันธุ์ปีศาจได้อยู่ดี!
“เปิดม่านพลังทั้งหมด จัดการพวกมันให้สิ้นซาก!”
ชายผู้ที่นั่งอยู่บนบัลลังก์สวมหน้ากากสีดำทองที่ไร้ซึ่งอวัยวะบนใบหน้า เช่นเดียวกับผู้คนในเผ่าพันธุ์เดียวกัน
มองจากระยะไกล พวกเขาดูเหมือนเผ่าพันธุ์มนุษย์ แต่เมื่อมองใกล้ ๆ จะพบเห็นความแตกต่าง หูของพวกมันแหลมคม และมือทั้งสองข้างก็เรียวยาวกว่ามนุษย์ทั่วไป
หุบเขาปีศาจที่เดิมทีมีพลังปีศาจหนาแน่นอยู่แล้ว บัดนี้ยิ่งมีพลังปีศาจหนาแน่นมากขึ้น แทบจะปกคลุมทั้งยอดเขาเอาไว้ เหล่าปีศาจที่ล้อมอยู่ด้านหน้าตอนนี้ยิ่งมองไม่เห็นทางเข้า
ตั้งแต่เข้ามาในเขตแดนปีศาจ ชิงหลงที่ถูกกักขังอยู่ในหุบเขาปีศาจ จ้องมองพลังปีศาจที่บดบังสายตานางด้วยดวงตาไร้ประกาย ม่านพลังที่นางทำลายไปอย่างยากลำบากกลับรวมตัวกันอีกครั้งโดยไม่รู้ตัว…
ชิงหลงที่ถูกกักขังอีกครั้ง “???”
นางกำลังจะออกไปได้อยู่แล้ว!
ชิงหลงที่โกรธจนแทบคลั่ง สูดหายใจลึก เดิมทีนางยังคิดจะซ่อนตัวอย่างระมัดระวังในเขตแดนปีศาจ แต่ตอนนี้ ฮึ…
ซ่อนบ้าอะไร!
เสียงคำรามอันดังกึกก้องของมังกรแทบจะทำลายหุบเขาปีศาจ พลังปีศาจอันหนาแน่นถูกเสียงคำรามนี้สั่นสะเทือนจนกระจายหายไป
หุบเขาปีศาจที่ไม่มีพลังปีศาจปกคลุมอีกต่อไป กลายเป็นเขาหัวโล้นในพริบตา ดูคล้ายไก่ที่ไม่มีขนเป็นที่สุด
เสียงคำรามของมังกรดังขึ้นอีกครั้ง ม่านพลังแตกสลายไปหนึ่งในสาม ชิงหลงร่างใหญ่โตใช้ร่างกายพุ่งชนคาถาห้ามอย่างรุนแรง กล้าขังข้าหรือ!
พวกเจ้าต้องตายกันหมด!
ณ เบื้องลึกสุดของหุบเขาปีศาจ เสียงคำรามของพญามังกรดังกึกก้องถึงสองครา ปีศาจระดับต่ำต่างรู้สึกราวกับศีรษะจะระเบิด ภาพเบื้องหน้าพร่ามัวเลือนราง พวกมันพยายามสะบัดหัวเพื่อให้กลับมาชัดเจน แต่ภาพซ้อนยังคงอยู่ แถมยังเพิ่มจำนวนมากขึ้น จากสองเป็นสามสี่ห้า… จนกลายเป็นหุบเขาปีศาจนับสิบลูกซ้อนทับกันอยู่เบื้องหน้า
ชิงหลง… บรรพชนของเขาอยู่ที่หุบเขาปีศาจแห่งนี้หรือ?
โม่จวินเจ๋อจดจำเสียงคำรามของมังกรได้เป็นอย่างดี เมื่อคิดอะไรบางอย่างออก เขาก็แย้มยิ้มออกมาอย่างยากจะคาดเดา
ทันใดนั้น ร่างของเขาแปรเปลี่ยนเป็นมังกร โต้ตอบกลับไปยังเสียงคำรามทั้งสองด้วยภาษาของเผ่าพันธุ์มังกร เขาพยายามสื่อสารกับชิงหลง
โม่จวินเจ๋องั้นรึ?
ชิงหลงเบิกตากว้าง ดวงตาสีเขียวมรกตเบิกโพลง เด็กผู้นี้ช่างกล้าหาญถึงเพียงนี้เชียวหรือ กลืนกินหัวใจมังกรแท้ ๆ แต่กลับไม่ถูกย้อนกลับ
มังกรทั้งสองสนทนากันด้วยภาษาที่ไม่มีผู้ใดเข้าใจ เพียงชั่วครู่ โม่จวินเจ๋อก็ฟาดหางอันทรงพลังใส่หุบเขาปีศาจ กรงเล็บอันแหลมคมของเขากรีดเฉือนม่านพลังออก
“บุก!” เผ่าเก้าเศียรต่างพากันแปรเปลี่ยนร่าง พุ่งเข้าชนม่านพลังที่สั่นไหวอย่างรุนแรง หุบเขาปีศาจสั่นสะเทือนราวกับจะพังทลาย
เหล่าปีศาจ มาร และอสูรเข้าร่วมโจมตีค่ายกลเพิ่มมากขึ้นทุกขณะ พวกมันกลับร่วมมือกันอย่างไม่คาดคิด
“เอ๊ะ?” เหล่าปรมาจารย์ที่ซ่อนตัวอยู่ด้านข้าง คอยเฝ้าดูสถานการณ์ เตรียมพร้อมที่จะลงมือปลดค่ายกลทีละด่าน
ดูท่า พวกเขาคงไม่ได้ลงมือเสียแล้ว
กระทิงและงูต่างสบตากันด้วยแววตาสิ้นหวังและเสียดาย
“หากพวกมันเปิดฉากต่อสู้กันเมื่อใด พวกเราลองฉวยโอกาสนั้นขโมยดูสักตั้ง”
การช่วงชิงเมล็ดพันธุ์ปีศาจจากมังกรปีศาจนั้นยากยิ่งกว่าขึ้นสวรรค์ แถมมังกรตัวที่สองก็ปรากฏอีก ทั้งสองตัวดูรู้จักกันเป็นอย่างดี
มังกรเพียงตัวเดียวก็ต้านทานเหล่าปีศาจได้มากมาย!
นางหาได้เสียสติไม่ หากแต่… นางมีกำลังหนุนหลังที่แข็งแกร่งกว่า!
มังกรสองตัว ตัวหนึ่งทำลายจากด้านใน อีกตัวทำลายจากด้านนอก ทำให้ม่านพลังแตกสลายทีละน้อย
หัวหน้าเผ่าทิงมี่มองดูชิงหลงที่ปรากฏตัวขึ้นบนหุบเขาปีศาจด้วยสายตาเย็นชา “พวกเขาทำลายคาถาห้าม พวกเราก็สร้างขึ้นมาใหม่ ไม่จำเป็นต้องปะทะกันโดยตรง”
มังกรสองตัวร่วมมือกัน ถ้าเผชิญหน้ากันโดยตรงพวกเขาสู้ไม่ได้ แต่สามารถใช้ม่านพลังกักขังชิงหลงไว้ได้อย่างแน่นหนา เพื่อขัดขวางไม่ให้มังกรปีศาจเข้าสู่หุบเขาปีศาจ!
ที่นี่ไม่ใช่โลกมนุษย์ ที่มีพลังวิญญาณคอยหล่อเลี้ยงชิงหลงตลอดเวลา รอจนกระทั่งพลังวิญญาณของนางหมดสิ้น ก็ถึงเวลาที่พวกเขาจะสังหารมังกร!
หัวหน้าเผ่าทิงมี่แปลงร่างเป็นปีศาจแล้วหายวับไปในพื้นดิน ในชั่วขณะต่อมา ม่านพลังที่แตกสลายไปสองในสามก็ปรากฏขึ้นมาอีกครั้ง
ชิงหลงและโม่จวินเจ๋อ “…”
“พวกเขาต้องการกักขังข้าให้ตาย รีบคิดหาวิธีหาพลังวิญญาณมาให้ข้าเร็ว”
โม่จวินเจ๋อหยุดโจมตี แล้วเรียกจิ่วหลีที่อยู่ข้าง ๆ สั่งให้นางไปหาหินวิญญาณและสมบัติล้ำค่าจากโลกมนุษย์
“มังกรที่อยู่ข้างในเป็นมังกรจากโลกมนุษย์หรือเจ้าคะ?” จิ่วหลีคิดว่าตนเองได้ยินผิด จึงถามอีกครั้ง
“ในไม่ช้านางก็จะเป็นเช่นเดียวกับข้า”
เหมือนกันรึ?
หรือว่า… เขตแดนปีศาจกำลังจะมีมังกรปีศาจตนที่สองปรากฏออกมาแล้ว!
หัวใจของเผ่าอสรพิษเก้าเศียรนั้นร้อนรุ่มยิ่งนัก โดยเฉพาะจิ่วหลี นางหายวับไปในพริบตา เพื่อไปรวบรวมหินวิญญาณกับของวิเศษในโลกมนุษย์!
ไม่รู้ว่าครั้งนี้พวกมันจะมีโอกาสได้เห็นมังกรตกสวรรค์เป็นมารด้วยตาตนเองหรือไม่…
เหล่ามารที่ติดตามสนมปีศาจที่สี่ ล้วนไม่สงสัยในคำพูดของโม่จวินเจ๋อเลย มีตนแรกแล้วก็ต้องมีตนที่สอง บางทีในอนาคตอาจจะมีตนที่สาม ตนที่สี่…
ฮ่า ๆ ๆ!
เพื่อสนับสนุนการแสดงของโม่จวินเจ๋อ ชิงหลงจึงใช้แหวนปลอมตัวเร้นกาย แปลงดวงตาสีเขียวมรกตด้านซ้ายของตนให้กลายเป็นสีแดงเพลิง จนกลายเป็นหนึ่งแดงหนึ่งเขียว…
นั่นคือลางบอกเหตุว่ากำลังจะเข้าสู่วิถีมาร!
การเคลื่อนไหวของผู้นำเผ่าชะงักลง ต้องกำจัดนางมังกรตัวนี้ก่อนที่นางจะกลายเป็นมาร!
หน้ากากบนใบหน้าของเขาระเบิดแตกออก ในชั่วพริบตานั้น ม่านพลังทั้งหมดที่ถูกทำลายก็กลับมารวมตัวกันอีกครั้ง แสงสีแดงและสีดำสลับวาบขึ้นบนเกล็ดแข็งแกร่งของชิงหลง
ชิงหลงจ้องมองเกล็ดเลือดสีดำที่เปรอะเปื้อนเกล็ดงามของตน ยิ่งมองก็ยิ่งโกรธ!
เสียงคำรามกึกก้อง ทั่วปฐพีสั่นสะเทือน ร้าวไปถึงภูผา…
เสียงคำรามลั่นสนั่นหวั่นไหวดังก้องอีกครา ครานี้ขุนเขาต้องพ่ายพลัง ม่านพลังต้องสลาย หุบเขาปีศาจต้องล่มสลายลงในชั่วพริบตา!
ก้อนหินมหึมาร่วงหล่นประดุจสายฝน กวาดต้อนเหล่าปีศาจและมนุษย์ที่ซ่อนเร้นให้ออกมา แม้ภูเขาจะพังทลาย แต่ม่านพลังยังคงตั้งมั่น!
ท่ามกลางควันโขมง แสงสีดำ แดงและเขียวปะทะกันอลหม่าน ปานจะเผาผลาญซึ่งกันและกัน
เหล่าปีศาจที่ยืนเสพความวุ่นวาย บ้างถูกอัดพลังเสียงจนกระอักเลือด บ้างก็ถูกแรงปะทะจนร่างแหลกสลายกลับคืนเป็นพลังปีศาจ!
ยามยอดฝีมือประมือกัน พวกมันยังไม่ทันได้ทำอันใด กลับต้องมาพบจุดจบเพราะยืนดูอยู่ใกล้เกินไปเช่นนี้…
เหตุการณ์เช่นนี้ ย่อมสร้างความพรั่นพรึงแก่เหล่าปีศาจตัวน้อย ๆ พวกมันมาเร็วไปเร็วยิ่งกว่าสายลม เพียงหวังรักษาชีวิตตนไว้ มิอาจอยู่เสพความสนุกต่อได้!
ไม่เพียงปีศาจระดับต่ำเท่านั้น แม้แต่ปีศาจระดับสูง และปีศาจระดับแปลงกายที่ลังเล ต่างพากันถอยห่าง พวกมันตระหนักได้เป็นอย่างดีว่า ตอนนี้ไม่ใช่เวลาที่จะแย่งชิงเมล็ดพันธุ์ปีศาจอีกต่อไป การมีชีวิตรอดกลับไป ย่อมสำคัญกว่า!
ข่าวการกำเนิดของมังกรปีศาจตัวที่สองแพร่สะพัดไปทั่วทั้งเขตแดนปีศาจ พร้อมกับการจากไปของพวกเขา!
อีกทั้งมังกรปีศาจตัวที่สองยังรู้จักกับนางอสูรที่สี่อีกด้วย หากสองมังกรร่วมมือกัน เขตแดนปีศาจที่ไร้ซึ่งเทพอสูรจะกลายเป็นอาณาจักรของนางอสูรทั้งสี่!
มังกรปีศาจที่พวกเขาเคยด่าลับหลังว่าสมองมีปัญหานั้น กลับไม่มีปัญหาใด ๆ อีกทั้งเฉลียวฉลาดอย่างยิ่ง!
สนมปีศาจทั้งสามที่ไม่ได้ลงมือในทันทีต่างถอนหายใจอย่างโล่งอก…
……….