ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ - ตอนที่ 2025 ระเบิด!
ตอนที่ 2025 ระเบิด!
………………..
ไม่มีลูกไม้ใด ไม่มีการลังเลใด
ตั้งแต่หัวจรดหาง ผู้อาวุโสลำดับห้าใช้เพียงกระบวนท่าเดียว เอ่ยสองคำ
และสองคำนี้ แทบจะเป็นคำที่ง่ายดายเหมือนพลิกฝ่ามือ กลับตัดสินความเป็นตายของมั่วสือเชียน!
ในตอนที่ห้วงมิติอันยับย่นผืนนั้นระเบิดออกมา เงาร่างของมั่วสือเชียน ก็ถูกกลืนกินในพริบตา!
ม่านตาฉู่หลิวเยว่พลันหดตัว แทบจะไม่กล้าเชื่อสิ่งที่เห็นตรงหน้า
อันที่จริงนี่คือครั้งแรกที่นางเห็นผู้อาวุโสลำดับห้าลงมือกับตาตนเอง
ก่อนหน้านี้ตอนอยู่ที่ทะเลทรายจันทราสีชาด แม้นางก็เคยประมือกับพวกผู้อาวุโสลำดับห้าหลายคนนั้นแล้ว แต่เวลานั้นเป้าหมายของพวกเขาคือเพื่อยกระดับพละกำลังของนาง ดังนั้นยามลงมือจึงล้วนรู้จักหนักเบา
นางรู้ว่าพวกเขาล้วนร้ายกาจ กลับไม่รู้ขีดจำกัดสูงสุดของพละกำลังพวกเขา ว่าสรุปแล้วอยู่ที่จุดใดกันแน่
นางเคยเห็นภาพฉากที่พวกเขาทุ่มกำลังสังหารใครอย่างแท้จริงมาก่อน
ยิ่งไปกว่านั้น นี่ยังเป็นเพียงลมปราณสายหนึ่งของผู้อาวุโสลำดับห้าเท่านั้น…
พละกำลังที่แท้จริงของเขานั้น ที่สุดแล้วแข็งแกร่งมากเท่าใดกัน
อีกทั้ง ผู้อาวุโสลำดับห้ายังไม่ใช่ผู้ที่แข็งแกร่งที่สุด ท่ามกลางสามคนนั้นอีกด้วย
ฉู่หลิวเยว่ยังจำได้ว่า ครั้งหนึ่งหลานเซียวเคยพูดเอาไว้อย่างเฉยเมยเป็นอย่างมากว่า
“ลำดับห้านั้นหรือ เขาก็รู้จักแค่เพียงละเล่นกับห้วงมิติเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ยิ่งใหญ่อันใด”
และก็เป็นเพราะวาจาประโยคนี้ ฉู่หลิวเยว่ถึงได้ส่งมู่หงอวี่ไปยังทะเลทรายจันทราสีชาดในคราแรก ให้นางได้ฝึกตนกับผู้อาวุโสลำดับห้า
วาจาของหลานเซียว ดังก้องอยู่ในหู
ขณะมองภาพฉากตรงหน้านี้ ฉู่หลิวเยว่หมดวาจาจะพูดอยู่เงียบๆ
ถ้าหาก…นี่เป็นเพียง ‘รู้จักแค่เพียงละเล่นกับห้วงมิติเล็กน้อยเท่านั้น ไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร’ ล่ะก็ เช่นนั้นคนอื่นบนโลกใบนี้ ยังจะต้องใช้ชีวิตกันอยู่หรือไม่
แม้ว่าห้วงมิตินั้นจะยุ่งเหยิงไม่เป็นระเบียบ แต่ละห้วงมิติสีดำต่างก็แตกร้าวถักทอเข้าด้วยกัน คนนอกมองไม่เห็นอะไรเลย แต่เมื่อได้ยินเสียงนี้ ก็ทำให้คนจินตนาการได้ไม่ยากว่า ประสบกับมั่วสือเชียนความทรมานอันน่าหวาดกลัวเช่นไรกันแน่
คนของถ้ำปีศาจทมิฬไม่น้อยต่างอกสั่นขวัญแขวน กระทั่งลั่นกลองถอยกันขึ้นมา
คนคนนี้จะน่ากลัวเกินไปแล้ว!
พละกำลังของประมุข นับได้ว่าอยู่ในตำแหน่งยอดสุดของทั้งถ้ำปีศาจทมิฬพวกเขา
กระทั่งเขาก็ยังไม่อาจถกถึงจุดดีอะไรได้ขณะอยู่ใต้ฝ่ามือของอีกฝ่าย นับประสาอะไรกับพวกเขาเล่า
ระหว่างฟ้าดินเงียบสงัดทั่วทั้งผืน เสียงของมั่วสือเชียนสายนั้น ชัดแจ้งว่าน่าเวทนาเป็นพิเศษ
ทำให้คนสั่นเทาได้ทั้งที่ไม่หนาว
ทว่าเสียงนี้ก็มิได้ดังต่อเนื่องเนิ่นนานัก
ตามการเคลื่อนไหลไปของเวลา เสียงนั้นก็ค่อยๆ แผ่วเบา กระทั่งท้ายที่สุด ก็หายไปโดยสมบูรณ์
“ประ…ประมุข…เป็นอย่างใดบ้าง”
มีคนเอ่ยถามอย่างระมัดระวัง สุดหวั่นสุดกลัว
ไม่มีคนตอบกลับ
ไม่ต้องเดาก็รู้ จะต้องดีไม่ถึงไหนเป็นแน่แท้!
หงอันมองห้วงมิติที่กำลังรัดรึงอย่างบ้าคลั่งนั่น ก็ขนลุกวาบคราหนึ่ง
เขากลืนน้ำลายอึกหนึ่งอย่างยากลำบาก วางแผนไว้ว่าจะถอนกำลังออกไปอย่างเงียบเชียบไร้สุ้มเสียง
ที่แห่งนี้…อันตรายเกินไปแล้วอย่างแท้จริง!
โดยเฉพาะอย่างยิ่ง…สามคนนั้น ยังเป็นคนที่พวกเขาพาเข้ามาเสียด้วย!
ไม่ว่าอย่างไร เขาล้วนจำเป็นต้องหนีออกไปโดยเร็วถึงจะถูกต้อง!
ทว่าขณะที่เขาเพิ่งจะก้าวออกไปได้ก้าวหนึ่งที่ฝั่งนี้ ก็มีเสียงที่แปลกพิกลอยู่บ้างสายหนึ่ง ดังลอยมาจากด้านหน้า
เขาพลันตกตะลึงในใจ เงยหน้าขึ้นไป กลับมองเห็นรอยยับย่นของห้วงมิติเข้า ราวกับระลอกน้ำไหลทะลักมาทางเขาอย่างไรอย่างนั้น!
หงอันเอ่ยในใจว่าไม่ดีแล้ว ใต้เท้าพลันขยับ คิดอยากจะหนีถอยไปโดยเร็ว!
ทว่าเวลานี้ ไหนเลยจะยังขึ้นอยู่กับเขาได้อีก
ห้วงมิติรอบกายพลันแข็งค้าง ทำให้เขาไม่อาจขยับขเยื้อน ทำได้เพียงเบิกตามองรอยยับย่นสายหนึ่งเข้ามาใกล้
“ไม่ ไม่…”
หงอันเบิกตาโพลง พรั่นพรึงหมื่นส่วน
ช่วงเวลาต่อมา ช่วงเอวของเขาพลันเย็นวาบ
เสียงในลำคอเองก็หยุดลงในทันที
เขาก้มหน้าลงไปมองช้า กลับพบว่าร่างกายตั้งแต่เอวลงไปของตนนั้น มองไม่เห็นเสียแล้ว
…ถูกรอยย่นห้วงมิตินั่นรัดกลืนกินสังหารแล้ว!
ทั้งหมด เพียงชั่วพริบตา!
ความเจ็บปวดอันรุนแรงถึงเพิ่งล้นทะลักเข้ามาอยากปกฟ้าคลุมดินในเวลานี้!
หงอันกลอกตาคราหนึ่ง แล้วจึงสลบไสลไป
ทว่าเร็วอย่าง ร่างครึ่งบนของเขา ก็ถูกรอยย่นห้วงมิติที่ย้อนกลับมาซ้ำสายหนึ่งกวาดผ่านไป
ตั้งแต่ต้นจนจบ เพียงวรยุทธ์ชั่วพริบตา คนก็ไม่อยู่แล้ว
ภาพฉากนี้ ทำให้ผู้คนยิ่งก่อความเงียบสงัด และก็ทำให้คนที่เดิมทีเริ่มขยับตัวอย่างโง่งมเหล่านั้นตื่นตระหนกหมื่นส่วน ต่างล้วนกำจัดความคิดเกินความจำเป็นนั้นออกไป
ผู้อาวุโสลำดับห้ามองก็ไม่แม้แต่จะมองที่ทางด้านนี้เพียงปราดหนึ่ง ทำเพียงลูบหนวดเล็กน้อย ขณะเอ่ยเสียงเรียบ
“ข้าให้พวกเจ้าไปแล้วหรือ”
เขาลงมือน้อยอย่างยิ่ง แต่ลงมือครั้งหนึ่ง ก็อยากจะทำให้สมบูรณ์แบบ
เขาเกลียดคนที่ไม่เชื่อฟังที่สุด
ให้เจ้ารอ เจ้าก็รอ! ขยับส่งเดชอะไร
เทียบกับชีวิตของคนเหล่านี้ ในสายตาของเขา ยังไม่สู้จะสำคัญเท่ารอยย่นห้วงมิติสายหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่พ่นลมหายใจเบาๆ เฮือกหนึ่ง
ผู้อาวุโสลำดับห้ายังเหี้ยมหาญแข็งแกร่งเช่นนี้ แล้ว…หลานเซียวเล่า
ยังมี…พี่เป่าเล่า
อีกทั้ง พี่เป่าคล้ายว่าเป็นที่หวาดกลัวภายในอาณาจักรเสิ่นซวี่มากทีเดียว ไม่กล้าลงมือกับทางนั้นมาโดยตลอด
กระทั่งวันนี้ ในเรื่องนี้ นางก็ยังไม่เข้าใจมากนัก
พรึ่บ!
และก็เป็นในเวลานี้เอง เสียงแหวกอากาศเสียงหนึ่งพลันลอยมา
ฉู่หลิวเยว่พลันเก็บความคิดอันยุ่งเหยิงกลับ แล้วเงยหน้าจ้องมอง
เห็นเพียงท่ามกลางห้วงมิติอันโกลาหลที่บิดเบี้ยวเสียจนไม่เป็นรูปร่างนั่น จู่ๆ ก็มีหมอกสีดำขนาดเล็กเท่าฝ่ามือก้อนหนึ่ง ทะลวงออกมาจากตรงกลาง!
อีกทั้งกลางหมอกดำนั้น ห่อหุ้มไว้ด้วยลมปราณที่สุดแสนจะคุ้นเคยสายหนึ่ง
…นั่นคือดวงวิญญาณของมั่วสือเชียน!
หัวใจฉู่หลิวเยว่กระตุกวาบคราหนึ่ง ผู้อาวุโสลำดับห้าลงมืออีกครั้งแล้ว!
“เหอะ สละร่างคุ้มวิญญาณ เจ้าฉลาดเป็นกรด! แต่ หากเจ้าคิดว่าจะหนีไปเช่นนี้ได้ ก็เลี่ยงไม่ได้ที่จะไร้เดียงสาเกินไป!”
วาจาเพิ่งจะจบ โดยรอบก็ปรากฏรอยย่นห้วงมิติขึ้นหลายสาย มุ่งไปโอบล้อมหมอกดำก้อนนั้นเอาไว้!
จากนั้นก็เป็นในเวลานี้เอง เสียงระเบิดระลอกหนึ่ง พลันดังขึ้นต่อเนื่องกัน!
กลับเป็นดวงแสงที่กลมเกลี้ยงเหมือนดวงจันทร์สีเลือดซึ่งอยู่เหนือยอดศีรษะของผู้คนถ้ำปีศาลทมิฬดวงหนึ่ง ระเบิดออกอย่างต่อเนื่องไม่ขาดสาย!