ระบบจอมยุทธ์สุดโกงแห่งโลกคู่ขนาน - ตอนที่ 493 ล่อปีศาจ (1)
ตอนที่ 493 ล่อปีศาจ (1)
………………..
เมืองเฉียงเวย
ส่วนลึกใต้ดิน
หลี่หานซงแววตานิ่งค้าง เผยสีหน้าละโมบ ชี้ไปที่หินแร่ขนาดใหญ่โปร่งแสงที่อยู่บนหัว แทบปกปิดความตื่นเต้นไม่มิด
“ขุดหรือเปล่า?”
คำพูดนี้เขาไม่ได้เป็นคนถาม แต่เผยออกมาจากแววตาแทบทั้งหมด
แหล่งแร่ขนาดใหญ่กว้างขวางสุดลูกหูลูกตา!
แม้ว่าจะเป็นหินพลังงานระดับต่ำทั้งหมด ส่วนมากถึงกระทั่งนับว่าเป็นแร่ดิบเท่านั้น แต่นี่จะจำนวนเยอะเกินไปแล้ว!
แหล่งแร่ใหญ่ขนาดนี้ น้ำหนักจะเท่าไหร่กัน?
ร้อยตัน?
พันตัน?
หรือหมื่นตัน?
แม้จะเป็นแร่แท้ทั้งหมด มูลค่านี้ก็ยากจะประเมินออกมาได้
แน่นอนว่าหากจะขุดไปจริงๆ เอาขึ้นไปถึงพื้นโลกแล้ว บางทีอาจจะมีการเสื่อมราคา
ของหายากเมื่อมีมากย่อมถูกลง
แต่ต่อให้ถูกยังไง…ก็เป็นหินพลังงาน แร่ดิบคิดเป็นหนึ่งหมื่นต่อหนึ่งกรัม ไม่มีปัญหาอยู่แล้วสินะ?
หนึ่งตัน นั่นก็มูลค่าหมื่นล้าน!
ที่นี่มีกี่ตันกัน?
หมื่นตัน…นั่นเป็นหลายล้านล้านแล้ว!
นี่แค่คำนวณจากแร่ดิบเท่านั้น
แต่เมืองราชาสองแห่งนั้น แม้สงครามครั้งนั้นจะถูกกวาดล้างแล้ว แต่สงครามใหญ่สุดท้ายพืชปีศาจผู้พิทักษ์ของเมืองราชาสองแห่งต่อสู้สุดชีวิต ถึงกระทั่งมียอดฝีมือจากเขตหวงห้ามเข้ามาร่วมด้วย
สุดท้ายถึงจะทำลายสองเมืองราชาได้ แต่แหล่งแร่ใต้ดิน มนุษยชาติแทบเอาไปได้ไม่เท่าไหร่
ตอนนี้โล่งเกลี้ยงตั้งนานแล้ว กระทั่งแร่ดิบก้อนเล็กๆ ยังไม่มีเหลือ
แหล่งแร่ขนาดใหญ่ใต้เมืองเฉียงเวย ไม่ได้ถูกทำลาย แหล่งแร่ที่เป็นเส้นสายสมบูรณ์ทำให้หลี่หานซงสงสัยว่านอกจากพวกขั้นสุดยอดแล้ว มีมนุษย์เคยเห็นฉากแบบนี้มาก่อนหรือเปล่า?
หินพลังงานเดิมทีก็โปร่งใสแวววาว ถึงจะเป็นแร่ดิบก็เช่นกัน
แหล่งแร่ขนาดใหญ่ แม้จะซ่อนลึกใต้ดินกลับงดงามราวปราสาทคริสตัล ไม่ได้หม่นหมองสกปรกเหมือนจากแหล่งแร่อื่นๆ
เสี้ยวเวลานี้หลี่หานซงกระทั่งคิดเพ้อฝันว่าอาจจะมีวันหนึ่งที่ตัวเองเข้าไปอยู่ในปราสาทคริสตัลแบบนี้ได้?
หลี่หานซงมองแหล่งแร่ข้างบนเป็นสวรรค์ เป็นปราสาทคริสตตัล แต่ฟางผิง…กลับครุ่นคิดว่า แหล่งแร่ขนาดใหญ่นี้จะระเบิดได้หรือเปล่า?
หินพลังงานระดับต่ำ เพราะพลังงานเข้มข้นไม่พอ ยากที่จะทำให้เกิดการระเบิด
พูดกลับกันจะค่อนข้างมั่นคงกว่า
ไม่งั้นเมืองราชาถูกสร้างอยู่บนดินระเบิดทั้งหมด เกรงว่าขั้นเก้าพวกนั้นก็คงไม่กล้าอยู่เหมือนกัน
ครั้งก่อนที่เมืองจู้หลิวสามารถระเบิดได้ บางส่วนเป็นเพราะน้ำแร่ชีวิตร่วงกระจายไปทั่ว พลังงานเข้มข้นสูงเกินไป สุดท้ายจึงจุดชนวนระเบิดขึ้น
เมืองเฉียงเวยยังจำเป็นต้องวางแผนสักหน่อย
“รอบนอกน่าจะระเบิดไม่ได้ ต้องเข้าไปเขตใจกลาง เอาหินพลังงานระดับสูงส่วนหนึ่งมากองเข้าด้วยกัน จากนั้นใช้พลังจิตใจจุดระเบิดขึ้นถึงจะมีโอกาสระเบิดเขตใจกลางได้ สร้างปรากฏการณ์ลูกโซ่ ถือโอกาสระเบิดหินพลังงานระดับต่ำรอบนอกไปด้วย…”
“เขตใจกลางต้องมีระดับสูงเฝ้าระวังอยู่…ไม่ล่อระดับสูงออกไปคงไม่ได้”
ฟางผิงวางแผนเรื่องพวกนี้ในใจ กลับไม่คิดชักช้าแม้แต่น้อย เริ่มขุดอุโมงค์ต่อไป ถือโอกาสเตะหลี่หานซงไปที
ยังจะมองอีก!
ทั้งอยู่ในอุโมงค์แร่จะถูกค้นพบได้ง่ายเช่นกัน ครั้งนี้ฟางผิงมาที่นี่ เดิมทีก็ไม่ได้คิดจะขุดแร่มาก่อน
หลี่หานซงกลืนน้ำลายอึกใหญ่ ก้มหัวไม่มองสายแร่ข้างบนอีก ตอนนี้ขุดลึกลงมาร้อยเมตรแล้ว อันที่จริงที่มองเห็นก็แค่สายแร่ที่ยืดยาวออกมาแค่มุมเดียวเท่านั้น
แต่แค่มุมเดียว หลี่หานซงคิดว่าเพียงพอให้โม้ทั้งชั่วชีวิตแล้ว
ก่อนหน้านี้ที่ฟางผิงบอกว่าเสียดายที่ไม่สามารถถ่ายรูปได้ ตอนนี้หลี่หานซงรู้สึกแบบนั้นเหมือนกัน
หากสามารถถ่ายรูปได้ เขาบันทึกภาพไว้ นำกลับไปมหาวิทยาลัย เขาแทบไม่กล้าจินตนาการว่ามหาวิทยาลัยปักกิ่งจะตกตะลึงถึงขนาดไหน
หลี่หานซงยังกำลังคิดเพ้อฝัน ฟางผิงก็เตะเขาอีกครั้ง ใช้สายตามองไปข้างหน้าเป็นนัย
หลี่หานซงเงยหน้ามอง สีหน้าเปลี่ยนเล็กน้อย
ข้างหน้ามีรากต้นไม้โปร่งแสงที่คล้ายกับท่อแทรกซึมอย่างแน่นหนา
นั่นเป็นรากของพืชปีศาจ!
หลี่หานซงไม่กล้าขยับเขยื้อน มองไปทางฟางผิง ไหนบอกว่าพืชปีศาจขั้นเก้าออกไปแล้ว?
ฟางผิงจ้องอยู่พักหนึ่ง ส่ายหัวเล็กน้อย มองไปอีกทางเริ่มลงมือขุดต่อ นั่นไม่ใช่พืชปีศาจขั้นเก้า เป็นแค่พืชปีศาจขั้นห้าขั้นหกเท่านั้น แต่รากฝังลึกไม่น้อย
พืชปีศาจผู้พิทักษ์ของเมืองเฉียงเวยมีแค่ดอกเฉียงเวยเท่านั้น
เจ้าสิ่งนี้ไม่ได้มีขนาดใหญ่ แต่รากกลับไม่ตื้นเขิน
พืชปีศาจที่อยู่ข้างหน้าเมื่อกี้ ฟางผิงกวาดสายตามองแวบหนึ่ง อาจจะเป็นลูกหลานของดอกปีศาจเฉียงเวย
“ไม่รู้ว่าสามารถเลียนแบบกลิ่นอายของพืชปีศาจได้หรือเปล่า?”
ฟางผิงคิดเรื่องนี้ในใจ ในหัวเริ่มปรากฏตัวเลือกเลียนแบบกลิ่นอายขึ้นมา
ไม่นาน…ฟางผิงก็แววตาไหววูบ
นึกไม่ถึงว่าจะทำได้!
“แต่ว่าสัตว์ปีศาจที่เหมือนเจี่ยวตัวนั้นจะกล้าไล่ฆ่างั้นเหรอ?”
ถ้าเป็นทายาทของพืชปีศาจขั้นเก้าจริงๆ สัตว์ปีศาจที่ทะเลสาบเสี้ยวจันทร์ไม่ได้อยู่ไกลมาก น่าจะแยกกลิ่นอายของลูกหลานพืชปีศาจขั้นเก้าได้ มันจะกล้าไล่ฆ่างั้นเหรอ?
หรือว่าจะแค่โมโหแต่ไม่กล้าแสดงท่าทีออกมา กล้ำกลืนไว้แค่นั้น?
ในใจคิดเรื่องนี้ การเคลื่อนไหวของฟางผิงกลับไม่ช้าลง เริ่มขุดทางเดินต่อ
ไม่รู้ว่าขุดไปนานเท่าไหร่แล้ว ใต้ดินนั้นมีทางเดินพาดผ่านแทบทั่วทิศทาง เวลานี้ฟางผิงค่อยสื่อเป็นนัยให้หลี่หานซงออกไปกับเขา
—
โผล่ออกมาจากปากทางเดินอีกฝั่งหนึ่งแล้ว หลี่หานซงก็อดความตื่นเต้นและร้อนใจไว้ไม่ไหว กระซิบว่า “เมื่อกี้ฉันตกใจแทบตาย! ใต้ดินทำไมถึงมีพืชปีศาจต้นอื่นอีก?”
“เรื่องปกติ”
ฟางผิงไม่ได้ตกใจอะไร อธิบายว่า “พืชปีศาจขั้นเก้าบางส่วนจะขยายพันธุ์ทายาทเพื่อทำหน้าที่คุ้มกัน ก่อนหน้านี้ที่เมืองจู้หลิว หน้าประตูเมืองก็มีทายาทของต้นจู้หลิวสามารถแยกแยะกลิ่นอายได้ เผ่าเยาจื๋อยังดี เผ่าเยามิ่ง เมื่อก่อนฉันยังคิดว่าขุดแร่ง่ายกว่า หลังจากนั้นถึงรู้ว่าเมืองเผ่าเยามิ่งมีสัตว์ปีศาจมากมาย สัตว์ปีศาจบางส่วนใช้ชีวิตใต้ดินโดยเฉพาะ เทียบกับเผ่าเยาจื๋อแล้วยังอันตรายกว่า…”
“อย่างนั้นเหรอ?”
หลี่หานซงพึมพำ ไม่ถามมากอีก ชั่วพริบตาเดียวก็ย้ายมาอยู่บนแหล่งแร่ซะแล้ว เอ่ยอย่างตื่นเต้นว่า “แร่เยอะชะมัด! ฟางผิง นี่ถ้าขุดแร่ใต้เมืองราชา นั่นคง…”
“หยุดฝันหวานได้แล้ว!”
ฟางผิงถลึงตามองเขาอย่างหงุดหงิด เจ้าพวกนี้เป็นอะไรกันไปหมด?
เห็นแร่ก็อยากขุดแล้ว คิดว่าแหล่งแร่เป็นบ้านตัวเองหรือไง?
ขี้เกียจจะสนใจเขา ฟางผิงมองเมืองเฉียงเวยที่อยู่ไม่ไกลไปแวบหนึ่ง ตอนนี้ภายในเมืองมีเสียงดังวุ่นวายอยู่บ้าง
ประตูเมืองมีทหารคุ้มกันจำนวนมากเคลื่อนพลออกจากเมือง แยกย้ายกันไปทั่วทิศทาง น่าจะเป็นฝีมือของพวกเหล่าหวัง ทำให้คนพวกนี้ออกจากเมืองไปค้นหา
ตอนนี้หลี่หานซงรู้สึกกระตือรือร้นอย่างยิ่ง ติดตามฟางผิงไปฆ่าทหารคุ้มกันใกล้เมืองราชาของพวกเขาช่างตื่นเต้นจริงๆ!
เมื่อก่อนพวกเขาแทบไม่กล้าเข้าใกล้เมืองราชา จะถูกค้นพบได้ง่าย
แต่ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่ห่างจากกองทหารคุ้มกันข้างหน้าไม่ถึงร้อยเมตร อีกฝ่ายยังสัมผัสถึงพวกเขาไม่ได้เลย
—
หลังจากนั้นไม่กี่นาที
ฟางผิงและหลี่หานซงจัดการทหารคุ้มกันกลุ่มนั้นอย่างรวดเร็ว ฟางผิงคลำศพก่อนจะเปลี่ยนใส่เสื้อเกราะของทหารคุ้มกัน เลียนแบบกลิ่นอายให้ตัวเองและหลี่หานซง
ฟางผิงใช้ค่าทรัพย์สินหนึ่งแสนต่อหนึ่งนาที รวมกับหลี่หานซง นั่นก็เป็นหนึ่งล้านต่อหนึ่งนาที
แม้จะสิ้นเปลืองไม่น้อย แต่ตอนนี้สำหรับฟางผิง เพิ่มขึ้นมาหนึ่งคนยังอยู่ในขอบเขตที่รับได้
ทั้งสองคนสวมเสื้อเกราะและหมวกทหาร ก้มหัวลง หากไม่เข้ามาตรวจสอบอย่างละเอียดก็คงไม่มีคนสามารถแยกแยะได้
หลี่หานซงตื่นเต้นใจแทบกระเด็นหลุดออกมา เมื่อกี้ทหารคุ้มกันกลุ่มหนึ่งเพิ่งจะเดินผ่านพวกเขาออกไปอย่างรวดเร็ว เห็นพวกเขาชัดเจน นึกไม่ถึงว่าจะไม่สนใจก็เดินไปแบบนี้!
“ตื่นเต้นชะมัด!”
หลี่หานซงเอ่ยปากขึ้น ฟางผิงก็ก่นด่าทันที “ใช้ภาษาถ้ำใต้ดิน!”
หลี่หานซงฟังจบก็รีบเอ่ยภาษาถ้ำอย่างแปร่งๆ ขึ้นมา “ฟางผิง ตอนนี้ทำยังไงต่อ?”
ถามออกไปแล้ว หลี่หานซงก็ยังตื่นเต้น “จะเข้าเมืองหรือเปล่า?”
ฟางผิงเงียบไปพักหนึ่ง “จากคำพูดของทหารคุ้มกันก่อนหน้านี้ ภายในเมืองเดิมทีมีแม่ทัพขั้นเจ็ดคนเดียว…แต่ฉันเดาว่าน่าจะสองคน ใต้ดินคงมีอีกคน ไม่รู้ว่าเขาไม่รู้จริงๆ หรือจงใจไม่บอก ตอนนี้คนที่พูดถึงนั้นออกจากเมืองราชาไปทางเมืองเยวี่ยกุ้ยแล้ว เจ้าเมืองเยวี่ยกุ้ยก็กลับมาแล้วเหมือนกัน กำลังค้นหาพวกเราทั่วทิศทาง…ตอนนี้ภายในเมืองมีแค่ขั้นเจ็ดคนเดียว แน่นอนว่าบางทีอาจเป็นขั้นแปด ก็คือคนที่อยู่ใต้ดินนั่น หากสัตว์ปีศาจระดับสูงมาจู่โจม ต้องโผล่หน้าออกมาแน่นอน กลัวก็แต่ว่า…สัตว์ปีศาจจากทะเลสาบเสี้ยวจันทร์ตัวนั้นจะไม่มา”
ฟางผิงปวดหัวอยู่บ้าง หากอีกฝ่ายไม่มา นั่นก็ไม่สามารถล่อยอดฝีมือระดับสูงใต้ดินออกมาได้แล้ว
“ไม่สนแล้ว ลองดูก่อนละกัน!”
ฟางผิงถอนหายใจ “ตอนนี้พวกเราไปทะเลสาบเสี้ยวจันทร์ ฉินเฟิ่งชิงไม่อยู่แล้ว หัวเหล็ก นายล่อสัตว์ปีศาจตัวหนึ่งไว้สักพักได้หรือเปล่า?”
หลี่หานซงกำลังจะอ้าปาก ฟางผิงกลับหันมาเอ่ยด้วยสีหน้าจริงจัง “ปฏิเสธได้! พูดตามตรง อันตรายอย่างมาก หากถูกตามทัน นายต้องตายแน่นอน เรื่องครั้งนี้จะทำหรือไม่ทำก็ได้ ยังไงความสามารถของพวกนายก็มีอย่างจำกัด หากไม่ทำจริงๆ ก็ไม่มีใครว่าอะไรพวกนายได้เหมือนกัน ทำเพื่อความสบายใจเท่านั้น ส่วนผลประโยชน์…แทบจะไม่มี ไม่พูดว่าทะเลสาบเสี้ยวจันทร์จะมีแหล่งแร่หรือเปล่า ถึงจะมีก็ขุดได้ไม่เยอะ รอถึงใต้ดินเมืองราชา แม้ระดับสูงออกไปแล้วก็มีโอกาสที่ฉันขุดแร่ได้น้อย ไม่มีเวลาขนาดนั้น”
——————-