ระบบพี่เลี้ยงอสูรขั้นเทพ (神宠进c化系统) - ตอนที่ 545 : เปลี่ยนร่าง
ตอนที่ 545 : เปลี่ยนร่าง
ถ้ำที่แลมเบิตพาหวังเย่าไปรักษาตัวนั้นถือว่าดี แม้ว่ามันจะมืดแต่ก็ยังแห้งและมีสภาพแวดล้อมที่ไม่อับชื้น
ยิ่งไปกว่านั้นคือหวังเย่ายังอยากรู้ว่าชั้นใต้ดินที่กระรอกบอกนั้นจะเป็นยังไง บอกกันว่ามีผลไม้อยู่จำนวนมาก หากเขาสามารถลงไปที่นั่นได้ บางทีเขาอาจจะทำให้แฟนธอมทะลวงผ่านระดับเทพและอาจจะหาทางยกระดับสายเลือดของตัวเองขึ้นมาได้
แน่นอนว่านั่นเป็นแค่ความคิดของหวังเย่าเท่านั้น เขายังไม่ได้ไปสำรวจมันจริง ๆ
ก่อนที่จะกลับไปที่ถ้ำ หวังเย่าก็ได้เดินทางไปที่ถ้ำขุดแร่ของเขาที่ยึดมาจากโทมัส
ตอนที่เข้ามาในถ้ำ หวังเย่าก็ได้ยินเสียงบางอย่างที่ด้านใน
หุ่นเชิดของหวังเย่า ยังคงทำงานไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ทันทีที่พวกนี้กำลังจะตาย หวังเย่าก็ได้ทำการควบคุมเอาไว้ให้อยู่ในสภาพกึ่งตาย
สถานะนี้พิเศษ ในสายตาคนอื่นแล้วพวกนี้ไม่ต่างจากคนทั่วไป เพราะต้องกินและดื่ม ร่างกายยังส่งสัญญาณว่ามีชีวิตแต่แค่ไม่มีความคิดเป็นของตัวเองก็เท่านั้น
ตอนที่แฟนธอมเห็นหุ่นเชิดพวกนี้ เขาก็แสดงสีหน้าแปลกใจออกมา “ หึหึ ไม่รู้เลยนะว่าเจ้าก็มีความสามารถ เจ้ากลับสร้างหุ่นเชิดขึ้นมาด้วยค้างคาวของข้าได้ ดีจริง ๆ ! ”
แหวนมิติของพวกนี้มีพื้นที่จำกัด ดังนั้นแร่ที่ไม่อาจจะเก็บใส่แหวนได้จึงถูกกองกันไว้ที่พื้น
หวังเย่ายิ้มออกมาอย่างภูมิใจก่อนจะเก็บแร่หินพวกนั้นใส่ในแหวนมิติของเขา
“ได้เวลาออกจากที่นี่แล้ว ได้เวลาไปหาของดีกันแล้ว” หวังเย่าคิด
เขาเก็บแร่จากพวกหุ่นเชิดใส่แหวนมิติ แล้วพูดขึ้น “ไปกันเถอะ ให้พวกนี้ได้ทำงานกันต่อ”
หวังเย่าได้กลับมาที่ถ้ำที่แลมเบิตพามาก่อนจะเข้าสู่การเก็บตัว
แล้วทยอยเอาแร่ที่พวกหุ่นเชิดขุดให้มาส่ง และสิ่งที่เขาต้องทำทุกวันคือไปยังที่ทดสอบที่ใกล้ที่สุดเพื่อฉีดยาควบคุมก่อนจะกลับมาบ่มเพาะต่อ
หลายวันมานี้กระรอกนั้นไปหาหวังเย่าและแฟนธอมอยู่บ่อย ๆ
แม้ว่าแฟนธอมจะไม่ได้ดีกับมัน แต่มันก็ยังคอยไปเดินถูเท้าให้แฟนธอมอยู่ บางครั้งมันถึงกับทำท่าทีตลก ๆ ออกมา
“เจ้านี่มันเหงาจริง ๆ ”
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจออกมา เมื่อคิดถึงว่าเมื่อวันก่อนมีนักโทษมาหาเขาและเอาป็อปคอร์นครีมมาให้ ของแบบนี้ถือว่าหรูหรามากในคุกแห่งนี้ ไม่รู้ว่ากระรอกนี่จะชอบรึเปล่า
หวังเย่าโบกมือเรียกกระรอกก่อนที่มันจะกระโดดขึ้นตักหวังเย่า มันนั่งยอง ๆ แล้วมองไปที่หวังเย่าด้วยตาที่เป็นประกายราวกับจะถามว่า “มีของดีอะไรให้ฉัน ? ”
หวังเย่าเอาป็อปคอร์นครีมออกมาก่อนจะส่งให้กระรอกทีละเม็ด ๆ มือเล็ก ๆ ของมันจับป็อปคอร์นครีมเอาไว้ก่อนจะทำการแทะทันที
หวังเย่ายิ้มออกมา เขาส่งป็อปคอร์นครีมให้มันต่อ มันจับเอาไว้ก่อนจะคิดสักพักแล้วโดดลงมาจากตักของหวังเย่า จากนั้นก็กระโดดไปที่ไหล่ของแฟนธอมต่อ ก่อนจะพึมพำออกมาเป็นภาษาของมัน “ป็อปคอร์นครีมนี่อร่อยนะ เจ้าลองกินมันสิ”
ถ้าเป็นแฟนธอมเมื่ออาทิตย์ก่อน ถ้าเห็นกระรอกกล้ากระโดดขึ้นมาบนไหล่เขาแบบนี้ เขาคงตบกระรอกจนสมองกระจายไปแล้ว
แต่ดูจากความหวังดีของกระรอกแล้ว แฟนธอมก็ได้แต่ลองกินป็อปคอร์นครีมตามที่มันบอก
กริ๊ว …
กระรอกร้องออกมาอย่างพอใจ
หวังเย่าอดไม่ได้ที่จะยิ้มออกมา ก่อนจะพูดว่า “มันตัวคนเดียวนี่ น่าสงสารจริง ๆ รึว่าให้มันเป็นเพื่อนกับนายดี”
แฟนธอมเอามือทุบกำแพง “เจ้าเป็นเจ้านายของข้า เมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว…ก็ได้ แต่เจ้าตัวเล็กนี่น่ะมีพลังน้อยนิด ข้าไม่อาจจะปกป้องมันได้”
“งั้นหรือ ? ” หวังเย่ายิ้มออกมาและโบกมือให้กับกระรอก กระรอกรีบกระโดดขึ้นมาบนตักของหวังเย่าทันที
หวังเย่ามองไปที่กระรอกแล้วนึกถึงอสูรตัวแรกของเขา…การ์ฟิลด์
“การ์ฟิลด์น่ะพยายามอย่างหนักและลำบากกับฉันมาครึ่งชีวิต ตอนนั้นแม้แต่อาหารแมว ฉันก็ไม่อาจจะซื้อให้มันกินได้ด้วยซ้ำ มันเหมือนกับแมวข้างถนน มันเพิ่งโตได้ไม่นานแต่ก็ต้องตายเพื่อช่วยชีวิตฉัน”
คิดได้ไม่นานหวังเย่าก็ได้ให้ระบบดูดเลือดของตนไป ด้วยการที่มีระบบมาช่วยก็ทำให้เขาทำสัญญากับกระรอกได้
ในพริบตาเมื่อทำสัญญาแล้วขนของกระรอกก็ส่องแสงออกมา
“ฉันจะเรียกแกว่า เอไนน์ ก็แล้วกัน”
กระรอกกระโดดไปมาด้วยความดีใจ ไม่นานสถานะของมันก็โผล่เข้ามาในหัวของหวังเย่าชื่อ : เอไนน์ เผ่า : เอลฟ์เพศ : เมียเลเวล : 5 ระดับ : ทองแดงสกิล : ขนฟู ใช้ขนฟู ๆ ของมันทำให้มันดูน่ารัก, ปลุกภาษา พูดด้วยท่าทีน่ารักทำให้คนรู้สึกสงสารจุดอ่อน : ขี้ขลาด, มียีนส์ด้อย ของที่ชอบ : ป็อปคอร์นครีมถึงจะเห็นว่ามันมียีนส์ด้อยแต่หวังเย่าก็ยังคงยิ้มออกมา
“เอไนน์ แกพูดได้แล้ว ! ”
“งั้นหรือ ? ”
เสียงใส ๆ ดังขึ้นมา เอไนน์ถึงกับสะดุ้งและรีบกระโดดไปซ่อนตัวทันที
มือเล็ก ๆ ของมันปิดปากตัวเองเอาไว้พร้อมกับส่ายหางไปมา
แฟนธอมที่อยู่ข้าง ๆ มองไปที่เอไนน์และพูดขึ้น “ไม่ต้องซ่อนแล้ว หางโผล่แล้ว เจ้าโง่เอ้ย”
เอไนน์ก้าวออกมาด้วยหน้าที่แดงก่ำ แล้วรีบเอามือไปหลบไว้ด้านหลัง “ขะ..ข้าต้องเดินทางกับนายท่านใช่หรือไม่ ? ”
“แน่นอน” หวังเย่าตอบกลับ
ตอนนั้นเอไนน์ก็น้ำตาไหลออกมาทันที ตอนที่น้ำตากำลังจะหยดถึงพื้นนั้น หวังเย่าก็เดินเข้ามาพร้อมกับยื่นป็อปคอร์นให้กับมัน ก่อนจะลูบหัวมันอีกครั้ง
“ขอบคุณ นายท่าน”
“เอาล่ะ ไปเล่นได้ ฉันจะบ่มเพาะต่ออีกสักหน่อย”
เอไนน์พยักหน้าพร้อมกับจับป็อบคอร์นแล้ววิ่งไปหาแฟนธอม
“นี่..เจ้ากินสิ ” เอไนน์ส่งป็อบคอร์นให้กับแฟนธอม
แฟนธอมลังเลสักพักแต่ก็ยังยื่นมือออกไปรับเอาไว้อยู่
มันเหลือเวลาอีกสองวันก่อนจะถึงวันที่ตกลงไว้กับฟอเนอร์
แม้ว่าบึงจะโดนแฟนธอมยึดเอาไว้แล้ว แต่ซิดดี้คงไม่ยอมให้หวังเย่าและคนอื่น ๆ ทำสำเร็จได้ง่าย ๆ แน่
เมื่อภารกิจหลักของแลมเบิตคือการเอาร่างฟาโรห์ งั้นตัวตนของเขาก็ยังต้องเป็นความลับ แน่นอนว่านั่นไม่ใช่กองกำลังหลัก และคนที่ต้องสู้กับเจฟก็คงจะไม่พ้นหวังเย่า
การเผชิญหน้ากับแรงกดดันทางสายเลือดของเจฟนั้นทำให้หวังเย่าปวดหัวขึ้นมา
เขาหวังแต่ว่าหลังจากที่ใช้สกิลเปลี่ยนร่างที่ได้มาจากพีระมิดแล้ว ร่างกายของเขาจะแข็งแกร่งขึ้นมาอีกหลายเท่า
ในร่างนั้นยีนส์ของหวังเย่าจะเพิ่มขึ้นมาจาก 45 เป็น 60 หน่วย ความสามารถในการต่อสู้จะเพิ่มจาก 83 เป็น 85 เขาจะขึ้นไปถึงระดับ A แต่แค่เขาไม่รู้ว่ามันจะต้านทานแรงกดดันทางสายเลือดของเจฟได้รึเปล่า
เพราะตามการวิเคราะห์ของระบบแล้ว การกดดันทางสายเลือดนั้นหมายถึงการที่จะทำให้อีกฝ่ายหมดความสามารถที่จะต่อสู้และต่อต้าน
เมื่อวิเคราะห์ดูแล้ว หวังเย่าก็เห็นโอกาสที่จะชนะเพียงน้อยนิดเท่านั้น แต่เมื่อเจฟทำให้เขาต้องอับอายต่อหน้าคนอื่น ยังไงเขาก็ต้องแก้แค้นให้ได้ !
การเปลี่ยนร่างนี้ต้องใช้พลังงานจำนวนมาก มันเพียงพอจะเพิ่มความแข็งแกร่งของเขาจากระดับ C เป็นระดับ A ในพริบตา บอกได้ว่ามันน่ากลัวจริง ๆ !
เขาเคยฝึกจำลองในจิตมาก่อน แต่ในโลกจริง ๆ อาจจะเจอกับปัญหาร้ายแรงได้
ไม่ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่หวังเย่าพยายามจะขยายร่างขึ้น มันจะขยายไปได้แค่ครึ่งทาง หลังจากนั้นร่างกายของเขาจะเหมือนกับลูกโป่งที่รั่วก่อนที่จะลดขนาดลงอย่างรวดเร็ว
“นายท่าน ท่านต้องกินยานี่ดู มันเป็นยาเพื่อฟื้นฟูแรงกาย” เอไนน์เอาเมล็ดดำ ๆ ออกมาและส่งให้กับหวังเย่า
“ดินพลังงานสูง ! ” ระบบได้ทำการแจ้งเตือนออกมาทันทีเมื่อมันรับรู้ได้ถึงทรัพยากรที่หายากนี้
หวังเย่ารับรู้ได้ถึงพลังในเมล็ดนี่
“ถ้ามีมัน บางทีฉันอาจจะทำได้”
หวังเย่ากินยาเข้าไปก่อนจะลูบหัวเอไนน์อีกครั้ง
ผ่านไปสักพักผิวของหวังเย่าก็แดงก่ำ ตัวของเขามีไอน้ำลอยออกมา พลังได้เพิ่มขึ้นมาในพริบตา
ตาของเขาบวมเป่งขึ้นมา การเปลี่ยนร่างนี้ทำให้ตัวของเขาโตขึ้นมาและมีพลังเพิ่มขึ้นไปด้วย เส้นเลือดสั่นไหวไปมาราวกับเป็นการรัวกลอง พร้อมกับเลือดที่ไหลวนไปมาอย่างรวดเร็ว
ครืน !
แค่สูดหายใจก็ราวกับรถไฟแล่นผ่าน มันมีไอน้ำพุ่งออกมาจากจมูกด้วย
ร่างขนาดใหญ่ของเขากำลังจะทะลุถ้ำ แค่สะบัดมือไปเบา ๆ ก็ทำให้เสาหินที่ค้ำเพดานอยู่แตกออก !
แฟนธอมมองดูฉากนี้ด้วยความตะลึง เขากลัวว่าหากไม่เอาจริงคงไม่อาจจะเอาชนะหวังเย่าได้ !
ปัง !
หวังเย่าใช้ตัวชนจนถ้ำเกิดรูแล้วมีแสงลอดเข้ามา
ไม่คิดเลยว่าด้านหลังถ้ำนี่จะมีป่า แม้ว่าจะยังมีฝนตกแต่ป่านี้กลับไม่มีฝนหยดลงมาเลยสักเม็ด
หวังเย่าวิ่งเข้าไปในป่าเพื่อตรวจสอบพลังของร่างนี้
หลังจากที่ทดสอบได้สักพัก เขาก็พบว่าร่างนั้นหดตัวลงช้า ๆ
ตอนแรกเขาไม่ได้ใส่ใจแต่เมื่อพบว่าเขาสูงแค่ครึ่งเดียวของแฟนธอม เขาก็เริ่มลนลานสุดท้าย…ร่างของเขาก็มีขนาดเล็กเท่ากับเอไนน์ !
แฟนธอมและเอไนน์มองไปที่หวังเย่าด้วยความกังวล
“เล่นอะไรกับฉันเนี้ย ? ” หวังเย่าแทบอยากร้องไห้ออกมาเมื่อเห็นสภาพของตัวเองเป็นแบบนี้
แฟนธอมนั่งยอง ๆ แล้วนั่งดูหวังเย่าด้วยความสนใจ “หวังเย่า เจ้านี่เหมือนกับหนูเลย”
“ออกไปให้พ้น ถ้ากลับร่างเดิมได้ ฉันจะจัดการกับนาย”
“ก็ดี” แฟนธอมพูดขึ้น
“นายท่าน ข้า..ข้าควรหาทางให้นายท่านกลับมาเป็นเหมือนเดิมรึไม่ ? ” เอไนน์พูดขึ้นมา
“หือ ? เธอมีวิธีงั้นหรือ ?”
“นายท่านตัวเล็กลงแล้ว เราลงไปดูด้านล่างกันดีกว่า เราแค่ต้องเอาของบางอย่างกลับมา แล้วนายท่านค่อยกินมันก่อนที่จะกลับร่างเดิม ”
หวังเย่าตาเป็นประกายขึ้นมาทันที “ถือเป็นวิธีที่ดี ฉันวางแผนว่าจะลงไปดูด้านล่างอยู่พอดี”
ภายใต้การนำของเอไนน์หวังเย่าก็ได้เข้าไปในมิติลับ แฟนธอมได้กลายร่างเป็นเงาและตามหวังเย่าไปด้วย