novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座) - บทที่ 3 ฝ่ามือกรีดกรายฉิน

  1. Home
  2. ราชันบัลลังก์เลือด(原血神座)
  3. บทที่ 3 ฝ่ามือกรีดกรายฉิน
Prev
Next

บทที่ 3 ฝ่ามือกรีดกรายฉิน

ซูเฉินเหลือบมองจีหานเยี่ยน จากนั้นมองซ้ายมองขวา ก่อนจะเอ่ยถามขึ้นอย่างระมัดระวัง “เจ้า…… มาหาข้า…… ใช่หรือไม่ ?”

“ยังมีใครที่นี่อีกหรือไม่เล่า ?” จีหานเยี่ยนเอ่ยถาม ยกมือขึ้นกอดอก

หอเมฆสงบแต่ละชั้นมี 4 ห้อง แต่ละห้องอยู่สี่มุม ซูเฉินมองไปจนทั่ว รู้ดีว่าตนเป็นคนเดียวที่ยืนอยู่ตรงนี้

เขาถอนหายใจออกมาอย่างสิ้นหวัง “หากเจ้าต้องการต่อสู้กับข้าก็ไร้ประโยชน์ ข้าไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเจ้าได้”

“ข้าไม่ได้มาเพื่อต่อสู้กับเจ้า ข้าอยากถามว่าเจ้าไปเรียนทักษะต้นกำเนิดเพลิงปักษาที่ใช้ต่อสู้กับข้ามาจากที่ใด ?”

“เจ้าอยากรู้เรื่องนั้นหรอกหรือ ?” ซูเฉินชะงักไปเล็กน้อย “เหตุใดเจ้าจึงสนใจ ?”

“ข้าสนใจทักษะต้นกำเนิดทั้งหมดที่สามารถเทียบขั้นกับทักษะต้นกำเนิดจากสายเลือดได้” จีหานเยี่ยนตอบตามตรง

ตอนนี้ระเบิดเพลิงปักษาเป็นทักษะต้นกำเนิดที่ทรงพลังมากที่สุดที่ซูเฉินมีอยู่ อีกทั้งระเบิดเพลิงปักษาที่ได้รับการเสริมพลังขึ้นยังสามารถใช้ต่อกรกับฝ่ามือเหมันต์ของจีหานเยี่ยน นับเป็นทักษะต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากสายเลือดที่ทรงพลังอย่างหาได้ยาก

จีหานเยี่ยนรู้จักวิชาและทักษะของตนเองดี ดังนั้นจึงไม่แปลกที่นางมีความสนใจในวิชาที่มีความแข็งแกร่งเทียบเท่ากับวิชาของนาง

ซูเฉินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนตอบ “ข้าสร้างทักษะต้นกำเนิดนี้ขึ้นมาจากการรวมทักษะต้นกำเนิดเข้าด้วยกันสองวิชา”

“เจ้าสร้างขึ้นหรือ ?” จีหานเยี่ยนนัยน์ตาเริ่มเป็นประกาย “เจ้าสร้างทักษะต้นกำเนิดของตนเองขึ้นได้ด้วย ?”

“ข้าเพียงโชคดีเท่านั้น” เด็กหนุ่มเอ่ยอย่างถ่อมตน

“ข้าอยากเรียน เจ้าคิดเท่าไหร่ ?” จีหานเยี่ยนถามขึ้นในพลัน

เป็นเช่นนี้นี่เอง ซูเฉินหัวเราะขื่นอยู่ภายในใจ

สตรีผู้นี้ชอบระเบิดเพลิงปักษาของเขา ไม่แปลกที่นางอุตส่าห์มหาเขาถึงที่นี่

เรื่องเช่นนี้ไม่ใช่เรื่องน่าประหลาดนัก อย่างไรทักษะต้นกำเนิดจากสายเลือดจะมีแต่ผู้ที่มีสายเลือดเท่านั้นที่จะสามารถควบคุมได้ ทั้งยังมีจำนวนวิชาไม่มาก หากนางต้องการเดินหน้าไปให้ไกลขึ้นอีก การเรียนทักษะต้นกำเนิดจากสายเลือดที่ไม่ได้มาจากสายเลือดก็เป็นทางเลือกที่ดี

ซูเฉินไม่คิดจะเก็บวิชาระเบิดเพลิงปักษาไว้ใช้เองคนเดียวอยู่แล้ว เมื่อไหร่ที่เขาเชี่ยวชาญตำรากฎแห่งบรูค ต่อไปยังสามารถสร้างทักษะต้นกำเนิดขึ้นได้อีก อีกทั้งระเบิดเพลิงปักษาขั้นปรับปรุงยังมีประโยชน์แค่เพียงในตอนนี้ อีกไม่ช้าไม่นานคงถูกโยนทิ้ง เป็นวิชาที่ไม่ได้ใช้ไป หากเขาสามารถใช้มันมาทำการค้า นำมาแลกทรัพยากรในการบ่มเพาะพลังได้ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว

เขาครุ่นคิดก่อนเอ่ยขึ้น “ทักษะต้นกำเนิดนี้แยกออกเป็นสามส่วน สองส่วนเป็นวิชาโบราณอาร์คาน่า คือทักษะลูกไฟและรูปร่างพลังต้นกำเนิดเพลิง ส่วนสุดท้ายคือฝ่ามือดอกไม้บิน สองส่วนแรกคุยได้ไม่ยาก แต่ส่วนสุดท้ายนั้นยากหน่อย”

“ฝ่ามือดอกไม้บินแห่งอสรพิษทะยานตระกูลกู่หรือ ?” แววตาจีหานเยี่ยนเผยแววตกตะลึง

“ใช่แล้ว” ซูเฉินพยักหน้า “ส่วนอื่น ๆ ข้าสอนให้เจ้าได้ แต่วิชานั่นข้าสอนไม่ได้ ทว่าหากเจ้ามีทักษะต้นกำเนิดที่ใช้แทนฝ่ามือดอกไม้บิน นั่นก็สามารถทำได้เช่นกัน”

“สามารถใช้วิชาอื่นแทนฝ่ามือดอกไม้บินได้ด้วยหรือ ?”

“ลักษณะเฉพาะของระเบิดเพลิงปักษาคือรูปร่างพลังต้นกำเนิดเพลิงที่สามารถทำให้เปลวเพลิงมีรูปร่างจริงได้ อีกทั้งพลังต้นกำเนิดจากฝ่ามือดอกไม้บินจะยิ่งเพิ่มพลังระเบิดให้เพลิงปักษา ว่ากันหลักแล้วก็ควรจะสามารถใช้ทักษะต้นกำเนิดที่คล้ายคลึงกันมาแทนได้ แต่ข้าต้องใช้เวลาในการวิเคราะห์ และผลที่ออกมาสุดท้ายอาจได้แตกต่างกัน”

จีหานเยี่ยนนิ่งเงียบไป

นางมองซูเฉินไม่เอ่ยคำใด ตกลงสู่ภวังค์ความคิดของตนเอง สุดท้ายนางก็เอ่ยขึ้น “เข้าใจแล้ว หากข้าสามารถหาทักษะต้นกำเนิดมาใช้แทนฝ่ามือดอกไม้บินได้ เจ้ามั่นใจหรือไม่ว่าจะสามารถผสานมันให้กลายเป็นทักษะต้นกำเนิดใหม่ได้ ?”

เด็กหนุ่มอยากบอกว่าเขามั่นใจ แต่สุดท้ายกลับเอ่ยออกมาว่า “ข้ามั่นใจสามในสิบส่วน”

“เช่นนี้ได้หรือไม่ ?” จีหานเยี่ยนพลิกฝ่ามือ นิ้วมือนางทำท่าเหมือนนกพลังดีดบางอย่างที่มีรูปร่างคล้ายกู่ฉิน ริ้วลมจากนิ้วมือนางพาดเป็นกากบาทเข้าด้วยกัน หากแต่ริ้วพลังนั้นกลับไปจางหายไป มันก่อร่างขึ้น กลายเป็นใยอยู่บนท้องฟ้า

ซูเฉินไม่คิดว่านางจะมีวิชาเช่นนี้จึงชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะเปิดปากถาม “คืออะไรกัน ?”

“ฝ่ามือกรีดกรายฉิน ใช้เป็นท่านิ้วได้ เหมือนกับสายของกู่ฉินลอยอยู่กลางอากาศ” จีหานเยี่ยนตอบ

ซูเฉินนัยน์ตาเป็นประกาย

ฝ่ามือกรีดกรายฉินและฝ่ามือดอกไม้บินนั้นแตกต่างกันมาก การนำมาใช้แทนฝ่ามือดอกไม้บินนั้นแทบเป็นไปไม่ได้ แต่จีหานเยี่ยนและซูเฉินไม่ใช่พวกหัวโบราณคร่ำครึ พวกเขาไม่ได้ต้องการให้ผลออกมาเป็นเหมือนเพียงระเบิดเพลิงปักษา

เด็กหนุ่มตอบ “ข้าจะลองดู แต่ข้าไม่ขอรับรองว่าจะสำเร็จหรือไม่”

“เจ้าคิดเท่าไหร่ ?” จีหานเยี่ยนเอ่ยถาม

นางเป็นคนตรงไปตรงมานัก ไม่เอ่ยคำอื่นใดให้เสียเวลา

ซูเฉินคิดอยู่ชั่วครู่ก่อนเอ่ยตอบนาง “ฝ่ามือกรีดกรายฉินถือเป็นค่าตอบแทนที่จ่ายมาก่อน หากข้าทำสำเร็จข้าจะสอนวิชาใหม่ให้เจ้า เจ้าต้องนำวิชาที่แข็งแกร่งเทียบเท่ากับ ฝ่ามือกรีดกรายฉิน มาเป็นค่าตอบแทน”

“ตกลง” จีหานเยี่ยนโยนตำราเล่มเล็กเล่มหนึ่งให้ มันคือ ฝ่ามือกรีดกรายฉิน

นางพลันเดินจากไปอย่างรวดเร็ว ไม่แม้แต่จะถามว่าซูเฉินต้องใช้เวลานานเท่าไหร่ในการสร้างวิชานี้

ซูเฉินมองตามแผ่นหลังนาง สีหน้าครุ่นคิดไม่แปลกที่นางไม่คิดถาม ทักษะต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากสายเลือดที่มีความสามารถทรงพลังทั้งหลายนั้นพบเจอได้ยากนัก ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดทุกคนต่างมองมันเป็นดั่งสมบัติล้ำค่า เก็บวิชานั้นเป็นความลับ กระทั่งอาจารย์ส่วนตัวของจีหานเยี่ยนยังมีทักษะต้นกำเนิดที่ไม่ได้มาจากสายเลือดเพียงหนึ่งวิชา แต่มันเป็นวิชาระดับสูง ไม่เหมาะให้ผู้เชี่ยวชาญพลังต้นกำเนิดขั้นพลังด่านก่อเกิดลมปราณเรียน

การแลกเปลี่ยนทักษะต้นกำเนิดระดับธรรมดาสองวิชาเช่นวิชา ฝ่ามือกรีดกรายฉิน แลกกับทักษะต้นกำเนิดอันทรงพลัง นับว่าฝ่ายนางได้เปรียบอยู่มาก

เป็นเพราะเหตุนี้ จีหานเยี่ยนจึงไม่กดดันซูเฉินเรื่องเวลา สำหรับนางแล้ว ครั้งนี้นับเป็นการลงทุนที่มีค่าใช้จ่ายสูง แต่ก็มีผลตอบแทนสูงมากเช่นกัน แม้ความเสี่ยงจะสูงนัก แต่หากสำเร็จก็มีผลตอบแทนทีเกินกว่าจะบรรยาย

หลังจากจีหานเยี่ยนจากไปแล้ว เขาก็มองตำราฝ่ามือกรีดกรายฉินที่ราวกับถูกส่งมาจากฟ้า ซูเฉินนิ่งไป เริ่มเข้าใจท่าทีเด็ดขาดฉับไวของนางขึ้นอีกเล็กน้อย

ดังนั้นเด็กหนุ่มจึงได้เดินเข้าไปยังห้องตนเองได้เป็นครั้งแรก

ห้องที่ทางสถาบันมังกรซ่อนเร้นเตรียมไว้ให้เหล่าศิษย์มีพื้นที่กว้างขวางนัก มีทั้งห้องนอน ห้องนั่งเล่น และห้องสำหรับฝึกบ่มเพาะพลัง หอเมฆสงบถูกสร้างขึ้นด้วยหินหล่อทองทั้งยังมีค่ายกลพลังต้นกำเนิดล้อมรอบ มันมั่นคงมาก ไม่ว่าศิษย์สำนักจะทำสิ่งใดก็ไม่อาจกระทบถึงตัวหอได้

หลังจากเดินเข้าห้องไปแล้ว ซูเฉินก็เริ่มทำความสะอาดห้องก่อน จากนั้นวางสัมภาระต่าง ๆ ลงก่อนจะเดินไปยังห้องบ่มเพาะพลัง ห้องบ่มเพาะพลังนี้มีค่ายกลพลังต้นกำเนิดขนาดเล็กฝังอยู่ภายใน ทำให้สามารถดึงพลังต้นกำเนิดมาหล่อเลี้ยงพื้นที่โดยรอบได้มากขึ้น อันเป็นสิทธิ์ที่มีเพียงหน่ออ่อนของสถาบันที่จะสามารถใช้ได้ ทำการบ่มเพาะพลังที่นี่นั้นดีกว่าทำการบ่มเพาะพลังในสถานที่ไหน ๆ ไม่ว่าศิษย์คนใดต่างก็อยากได้ห้องเช่นนี้ไว้ฝึกบ่มเพาะพลังตน

หากแต่ซูเฉินไม่คิดใช้ค่ายกลพลังต้นกำเนิดนี้ในการบ่มเพาะพลัง

เขาเปิดแหวนดู ก่อนจะดึงเตาปรุงยาออกมาวางไว้ภายในค่ายกลพลังต้นกำเนิด จากนั้นก็หัวเราะออกมา “คราวนี้ข้าจะได้สามารถใช้เตาปรุงยาต้นกำเนิดระดับหกนี้ได้อย่างเต็มความสามารถเสียที”

ซูเฉินชิงเตาปรุงยาต้นกำเนิดระดับหกนี้มาจากปรมาจารย์เฟิง ในการใช้จำต้องมีค่ายกลพลังต้นกำเนิดล้อมรอบ เตาปรุงยาต้นกำเนิดแบ่งออกเป็น 9 ระดับเหมือนเครื่องมือต้นกำเนิด เตาปรุงยาต้นกำเนิดระดับหกชิ้นนี้นับเป็นของที่มีมูลค่าสูงที่สุดของเด็กหนุ่มเลยทีเดียว

เขานั้นไม่เชี่ยวชาญด้านค่ายกลเท่าไหร่ อีกทั้งปัจจุบันยังไม่มีความจำเป็นต้องใช้ค่ายกลพลังต้นกำเนิดในการปรุงยา ดังนั้นซูเฉินจึงปล่อยมันไปก่อน แต่คาดไม่ถึงว่าจะมีค่ายกลพลังต้นกำเนิดอยู่ในสถานที่แห่งนี้ ทำให้เขาสามารถนำเตาปรุงยานี้มาใช้ได้

เด็กหนุ่มเริ่มหยิบของออกจากแหวนมาเรื่อย ๆ โต๊ะประดิษฐ์ ขวดแก้วขวดใส่ยาต่าง ๆ ทั้งยังส่วนผสมทั้งหลาย ไม่นานทั้งห้องก็เต็มไปด้วยสิ่งของมากมาย ห้องบ่มเพาะพลังชั้นดีกลายเป็นห้องปรุงยาเล่นแร่แปรธาตุไปในพลัน

สุดท้ายเขาก็หยิบตารางเวลาออกมาดู คิดวิเคราะห์ว่าภาคเรียนที่จะมาถึงตนจะเลือกเรียนวิชาใด

ขณะที่เขากำลังนั่งคิดอยู่นั่นเอง ภายนอกห้องพลันก็มีเสียงสองเสียงดังขึ้น

“ซูเฉิน ซูเฉิน !”

คือหวังโต้วซานกับจินหลิงเอ้อร์นั่นเอง

ซูเฉินถอนหายใจ ดูท่าวันนี้เขาคงไม่มีเวลาพักผ่อนหย่อนใจเสียแล้ว