ราชินีพลิกสวรรค์ - ตอนที่ 103 เก่งกาจจริงๆ ด้วย!
หันเหยากวง คุณชายเหยากวงเป็นคนที่โดดเด่นจริงๆ
ทันทีที่เขาปรากฏตัว บรรดาศิษย์ที่รอคอยเป็นเวลานานในฮวงเสินก็กลับมาดูสดชื่นและกระตือรือร้นอีกครั้ง
และเมื่อเขาก้าวขึ้นสนามประลองแรก ศิษย์ของฮวงเสินที่มีระดับการฝึกฝนเช่นเดียวกับเขากล้ามเนื้อไหล่กระชับขึ้น และดวงตาปรากฏความเคร่งขรึมออกมาให้เห็น
ดูเหมือนเขาจะเป็นผู้ทดสอบ และหันเหยากวงเป็นผู้ประจำสนามประลอง
“คุณชายเหยากวง ข้าเคยได้ยินชื่อนี้มานานแล้ว แต่ไม่คิดว่าจะมีโอกาสได้วัดฝีมือในวันนี้” ผู้ประจำสนามประลองพูดอย่างกระตือรือร้น
หันเหยากวงไม่ได้พูดอะไร ยืนตรงข้ามกับบุคคลนั้น ราวกับว่ามีแสงประกายอยู่บนร่างกายของเขา
เขาปลดปล่อยระเบิดเป็นวงกลมพร้อมกับได้ยินเสียงกรีดร้องและสิ้นสุดการท้าประลอง
โอ้โห!
เร็วมาก!
มองผ่านน้ำตก ผู้คนที่เห็นการเคลื่อนไหวของหันเหยากวงนิ่งเงียบไปชั่วครู่ คนที่อยู่บนจุดสูงสุดของ หลิงจงกลับพ่ายแพ้ต่อหันเหยากวงเพียงกระบวนท่าเดียว
“หันเหยากวงผู้นี้แข็งแกร่งสมคำล่ำลือจริงๆ!”
มีคนพึมพำด้วยความตกใจ
ในท่ามกลางฝูงชน เจียงเฮ่าขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาคิดว่าคนที่โดดเด่นที่สุดในการทดสอบของศิษย์ใหม่ครั้งนี้ควรเป็นเจียงหลีน้องสาวของเขา นึกไม่ถึงว่าจะมีหันเหยากวงผู้นี้โผล่มาอย่างไม่คาดคิด การโจมตีชั่วครู่ของหันเหยากวง เขาแทบจะมองเห็นไม่ชัด ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนอื่น
“คุณชายเหยากวงยอดเยี่ยมมาก!” เจิ้งหยวนกล่าวอย่างตื่นเต้นอยู่ที่เชิงเขาหนานซาน ราวกับว่าผู้ชนะคือเขาเอง
ส่วนใบหน้าของเจียงหลียังคงดูสงบนิ่ง แต่รู้ถึงระดับฝีมือของหันเหยากวงบ้างแล้ว
บนเขาหนานซาน ดวงตาของหันเหยากวงยังคงปกติเช่นเคย และเดินขึ้นสนามประลองที่สอง
สนามประลองที่สองยังคงเป็นหลิงจงขั้นสูงสุด แต่ฝีมือโดยรวมน่าจะแข็งแกร่งกว่าสนามประลองแรก
ทันทีที่หันเหยากวงยืนบนสนามประลอง เขาก็เตรียมพร้อมและแกว่งหอกยาวในมือจนเกิดแสงประกาย “หึ หันเหยากวง ข้ายอมรับว่าเจ้าเป็นอัจฉริยะ แต่เจ้าจะจองหองเกินไปแล้ว”
ฮึ่ม!
ทันทีที่พูดจบ เขาก็เริ่มโจมตี
ความพ่ายแพ้ของสหาย ยังคงติดตา เขาจะปล่อยให้หันเหยากวงเริ่มโจมตีก่อนได้อย่างไร
หอกยาวเข้าโจมตีกะทันหันและพุ่งไปทางหันเหยากวงทันที
ดวงตาของหันเหยากวงเป็นประกายและดวงตาที่สงบนิ่งก็ฉายแสงเจิดจ้า เขายกมือขึ้นโบก พลังวิญญาณที่ร้อนแรงพุ่งเข้าใส่อีกฝ่ายทันที
แสงสีทองส่องประกายออกมาจากด้านหลังของหันเหยากวงเบาๆ วิญญาณยุทธ์ของนกสามขา ส่องแสงแพรวพราวในเนตรญาณของเขา
“อีกาทองสามขา!” เจียงหลีอุทานหลังจากเห็นวิญญาณยุทธ์นั้น
เจิ้งหยวนพยักหน้าอย่างแรง ใบหน้าตื่นเต้นอย่างมาก “ใช่แล้ว นี่คือหนึ่งในวิญญาณยุทธ์ของหันเหยากวง อีกาทองสามขา”
อ๊ากกก! คลื่นร้อนแผดเผาโหมเข้าใส่ ผู้แข็งแกร่งประจำสนามประลองรับความร้อนนี้ไว้ไม่ไหว จึงก้าวถอยหลังอย่าต่อเนื่องและกรีดร้องด้วยความเจ็บปวด
หอกยาวในมือของเขาร้อนเกิน หากไม่จับแน่น จะตกลงสู่สนามประลองอย่างแรง
หันเหยากวงที่เป็นฝ่ายได้เปรียบรีบตามโจมตี เขายกมือและหายใจเข้า ถือหอกยาวที่ตกอยู่บนพื้นไว้ในมือ ออกอาวุธสวนด้วยการใช้หอกอย่างดุดัน บังคับให้ผู้ประจำสนามประลองที่แข็งแกร่งต้องถอยหนีจนมุม
วิชาหอกชุดนี้สวยงามมาก จะเห็นได้ว่าความเข้าใจทักษะการต่อสู้ของหันเหยากวงนั้นยอดเยี่ยมมาก
ในทั่วบริเวณ ทุกคนพากันตะลึง
“หันเหยากวงชำนาญในวิชาหอกด้วยหรือ”
“เขาสามารถระเบิดคู่ต่อสู้ด้วยกระบวนท่าเดียวเช่นเดียวกับสนามก่อนด้วยซ้ำ แต่เขากลับไม่ทำ และแสดงพรสวรรค์ของทักษะการต่อสู้แทน ดูเหมือนว่าความทะเยอทะยานของเขาจะไม่น้อยเลย!”
“ใช่แล้ว การทดสอบเข้าสำนัก ไม่ใช่แค่ทดสอบว่าศิษย์คนไหนสามารถไปถึงจุดสูงสุดได้เร็วที่สุด แต่ต้องแสดงความแข็งแกร่งรอบด้านออกมาให้เห็น ด้วยผลงานของหันเหยากวง เป้าหมายของเขาน่าจะเป็นตำหนักเย่ว์”
“…”
ในระหว่างการสนทนา หลักจากหันเหยากวงออกอาวุธหอกเสร็จสิ้นแล้ว เขาก็ชนะการทดสอบของสนามประลองที่สอง
ร่างของเขาเปล่งประกายและปรากฏบนสนามประลองที่สาม
ในการทดสอบครั้งนี้ เขาเป็นคนแรกที่ขึ้นสู่สนามประลองที่สาม เมื่อเมฆหมอกสลายไป เจียงหลีมองเห็นชัดเจนขึ้น บนสนามประลองที่สาม มีคนสองคนรูปร่างหน้าตาเหมือนกันยืนอยู่
“ฝาแฝด” เจียงหลีได้ข้อสรุป มีคนเคยกล่าวว่าระหว่างสองฝาแฝดมองตาก็รู้ใจซึ่งเป็นทักษะที่คนธรรมดาอย่างพวกเราไม่มี ในระหว่างการประลอง ความแข็งแกร่งของทั้งสองรวมกัน ไม่ใช่หนึ่งบวกหนึ่งอย่างแน่นอน ดังนั้น บนสนามประสองที่สามนี้ ทดสอบการตอบสนองต่อการเผชิญหน้ากับภัยอันตราย
ทันทีที่ทั้งสามเผชิญหน้ากัน ไม่มีคำพูดใดๆ ก็เริ่มโจมตีเลย
แน่นอนว่าฝาแฝดคู่นี้ซึ่งมีความแข็งแกร่งเช่นเดียวกับหันเหยากวง เมื่อร่วมมือกันแล้ว มีความเข้าคู่กันได้ดีมาก ทั้งสองคนหนึ่งโจมตี คนหนึ่งป้องกัน จนต้านทานการโจมตีของหันเหยากวงได้จริงๆ
สนามประลองที่สามเป็นสนามสุดท้ายสำหรับการทดสอบ หากผ่านการทดสอบนี้ ก็สามารถขึ้นสู่จุดสูงสุดและรอผลการเลือกจากสามตำหนัก
เจียงหลีรู้สึกว่าด้วยความแข็งแกร่งของหันเหยากวง จะผ่านสนามประลองที่สามไปได้ แต่ปัญหาคือจะเอาชนะอย่างสวยงามได้อย่างไร
ณ เวลานี้ ในฮวงเสิน ทุกสายตาจับจ้องไปที่ใบหน้าของหันเหยากวง ต้องการเห็นการประลองรอบสุดท้ายของการทดสอบนี้อย่างชัดเจน และอยากเห็นกับตาว่าเขาแข็งแกร่งแค่ไหน!
หันเหยากวงไม่ทำให้พวกเขาผิดหวัง เขาใช้พลังของคนหนึ่งคนต่อสู้กับสองฝาแฝด โดยไม่ตื่นตระหนก แต่ทำมันออกมาได้ดี
“หันเหยากวงไม่ได้มีดีแค่ชื่อ เขาเป็นผู้ถูกเลือกของรุ่นจริงๆ” ระหว่างการประลอง เจียงเฮ่าแสดงความคิดเห็นด้วยเสียงหนักแน่น
ลู่เสวียนไม่พอใจและพูดกับเจียงเฮ่าว่า “พี่เฮ่า ซ้อเล็กของข้ายังไม่ได้เข้าร่วมการทดสอบเลย พี่ยกยอผู้อื่น ทำลายความน่าเกรงขามของตัวเองได้อย่างไร”
เจียงเฮ่าค่อยๆ ส่ายศีรษะ “เจ้าตั้งใจดูให้ดี เมื่อดูอย่างผิวเผินแล้วเหมือนว่าฝาแฝดของตระกูลอวี๋กำลังกดดันหันเหยากวงอยู่ แต่ในความเป็นจริง หันเหยากวงต่างหากที่เป็นคนคุมจังหวะโดยไม่รู้ตัว”
ลู่เสวียนเบิกตากว้างด้วยความประหลาดใจและมองไปที่ฉากในน้ำตกนั้น
เขามองเห็นความผิดปกติบางอย่าง “ในเมื่อเขาสามารถเอาชนะได้ ทำไมต้องหยอกล้อสองฝาแฝดนั่นด้วย”
“ไม่ได้หยอกล้อ เขาต้องแสดงความสามารถของตน เพราะเป้าหมายของเขาไม่ใช่แค่ตำหนักเย่ว์ แต่เป็นตำหนักเย่า” เจียงเฮ่ากล้ายืนยัน
“ตำหนักเย่า!” เหวินเหรินชิ่งชิ่งพูดด้วยความประหลาดใจ ตำหนักเย่าไม่ได้รับศิษย์มานานหลายร้อยปีแล้ว วันนี้จะเปลี่ยนแปลงเพราะเขาหรือไม่”
“พรสวรรค์ของเนตรญาณทั้งแปด ประกอบกับฝีมือที่หลากหลาย อาจเข้าตาตำหนักเย่าก็เป็นได้” เจียงเฮ่ากระซิบ
“มีผู้แข็งแกร่งมากมาย ข้าคงต้องฝึกฝนให้หนักขึ้นแล้ว” ลู่เสวียนเก็บสีหน้าความไม่พอใจไว้ และดวงตาเปลี่ยนเป็นมุ่งมั่นขึ้นแทน
เจียงเฮ่าหันมามองเขาและยิ้ม “ขยันเข้าไว้! ”
“อืม!” ลู่เสวียนพยักหน้าอย่างแรง
ด้านล่างของเขาหนานซาน มีเพียงสองคนเท่านั้นที่แหงนมองไปที่สนามประลองที่สาม
“ฝาแฝดสองคนนี้แข็งแกร่งมาก! พวกเขาสามารถต่อสู้กับคุณชายเหยากวงได้” เจิ้งหยวนกล่าวด้วยความประหลาดใจ
มุมปากของเจียงหลีกระตุกเล็กน้อย สายตาอะไรของเขาน่ะ เห็นได้ชัดว่าคุณชายเหยากวงของเจ้าเป็นคนคุมจังหวะทั้งหมดและกดดันพวกเขาทั้งสอง เกรงว่าตอนนี้ในใจของฝาแฝดทั้งสองคงหดหู่มากแน่
เจียงหลีคาดเดาถูก ฝาแฝดของตระกูลอวี๋ที่กำลังต่อสู้อยู่กับหันเหยากวงนั้น มีใบหน้าที่ดูแย่มากและดวงตาของพวกเขาก็มืดมิด
“หันเหยากวง เจ้าทำเช่นนี้ หมายความว่าอะไร” ผู้พี่อดไม่ได้ที่จะถาม
หันเหยากวงกลับไม่สนใจราวกับว่าไม่เคยได้ยินมันมาก่อน
“พี่ใหญ่ อย่าพูดพล่ามกับเขาเลย ไล่กวดเขาลงไปเถอะ” ผู้น้องพูดอย่างฉุนเฉียว
สองพี่น้องปลดปล่อยพลังอันน่าสะพรึงกลัวที่สุดพร้อมๆ กัน และระเบิดเข้าใส่หันเหยากวง…