ลูกเขยมังกร Royal Dragon Husband - บทที่ 233 เลือกไม่ได้
บทที่ 233 เลือกไม่ได้
เฉินเฟิงขมวดคิ้วงงแต่ไม่ได้พูดอะไร ความรู้สึกที่หลินหลันมีต่อเขานั้นมาถึงจุดแข็งตัวแล้ว ดังนั้นไม่ว่าเขาจะพูดอะไร หลินหลันก็ล้วนคิดว่าเป็นการเถียงข้างๆคูๆ
เสี้ยเว่ยกั๋วขมวดคิ้วเป็นปม เขากลับไม่ได้คิดว่าที่เฉินเฟิงมีอีกฐานะหนึ่งในตระกูลเสี้ย เพื่อสนองความต้องการของตัวเอง เฉินเฟิงอาจมีแผนการอื่นอีก พูดจากใจแล้ว เสี้ยเว่ยกั๋วไม่อยากตัวเองจะโดนแบ่งแยกจากตระกูลเสี้ย
เขาเติบโตมาในตระกูลเสี้ยตั้งแต่เด็ก ในตระกูลเสี้ยมีพี่น้องของเขาอยู่ไม่น้อย ถ้าหากเฉินเฟิงจะสร้างตระกูลเสี้ยใหม่ละก็ ไม่ต้องพูดถึงเลยความสัมพันธ์ระหว่างตระกูลเสี้ยตระกูลใหม่ กับตระกูลเสี้ยตระกูลเก่า คงเป็นเหมือนน้ำกับไฟ
“เฉินเฟิง สิ่งที่แกคิด……พ่อพอเข้าใจบ้าง แต่เรื่องนี้แกจะลองคิดดูอีกรอบไหม?”เสี้ยเว่ยกั๋วพูดเสริม:“พ่อรู้ว่าบาดแผลที่ใหญ่ที่สุดของพวกแกตอนนี้คือเสี้ยห้าว เสี้ยห้าวคนนี้ยังไม่รู้จักโตจริงๆ เพื่อให้ได้ตำแหน่งผู้ดูแลโครงการ แม้แต่กับพี่น้องยังทำกันได้”
“แต่ไม่ว่ายังไงเขาก็เป็นลูกพี่ลูกน้องของพวกแก เหมือนคำพังเพยที่ว่ากระดูกหักเอ็นยังต่อกัน พวกแกกับเสี้ยห้าวล้วนเป็นญาติกันทางสายเลือด ญาติน่ะนะไม่ต่างกับคู่สามีภรรยาหรอก เดี๋ยวทะเลาะเดี๋ยวดีกัน ไม่มีเรื่องอะไรที่ผ่านกันไปไม่ได้ ดังนั้นพ่อคิดว่าเรื่องบาดแผลของพวกแกสองคนนี้ ต้องคิดให้รอบคอบหน่อย”เสี้ยเว่ยกั๋วพูดเตือนด้วยความหวังดี เขาเป็นคนหัวโบราณมากคนหนึ่ง ความคิดเรื่องวงศ์ตระกูล มันฝังแน่นอยู่ในสายเลือดเขามานานแล้ว สำหรับเขาความสัมพันธ์ระหว่างเสี้ยเมิ่งเหยากับตระกูลเสี้ย มันเหมือนหน้ามือกับหลังมือ ล้วนมีเลือดเนื้อ จะตัดชิ้นไหนไปก็เจ็บด้วยกันทั้งนั้น
ถ้าเฉินเฟิงจะแยกตระกูลเสี้ย งั้นเขาคงต้องเป็นกลาง ไม่เบนไปฝ่ายไหนฝ่ายหนึ่ง เฉินเฟิงถอนหายใจออกมา เสี้ยเว่ยกั๋วไม่รู้เลยว่าเรื่องตอนนี้มันร้ายแรงแค่ไหน เขาคิดว่าเสี้ยห้าวแค่ไม่รู้จักโต เห็นแก่ตัว และทำร้ายพ่อน้องด้วยกัน
แต่ความเป็นจริงนั้น สำหรับเสี้ยห้าวแล้ว พี่น้องนั้นเขาไม่เห็นว่ามันสำคัญอะไร
แม้แต่เสี้ยหยุนเสิ้งตอนนี้เสี้ยห้าวก็กล้าจัดการ เขาทำให้เสี้ยหยุนเสิ้งกลายเป็นผัก ไหนจะลุงอย่างเสี้ยเว่ยกั๋ว ที่โดนเสี้ยห้าวขายให้ตระกูลเย่ ถ้าเขาไม่ยื่นมือออกไปช่วยละก็ เกรงว่าชีวิตของเสี้ยเว่ยกั๋วคงไม่หลงเหลือแล้ว
ดังนั้นเสี้ยห้าวในตอนนี้ราวกับเป็นคนบ้า เฉินเฟิงไม่วางใจให้เสี้ยเมิ่งเหยา ใช้ชีวิตร่วมชายคาเดียวกันกับสัตว์เดรัจฉานแบบเขา
“คุณเสี้ย ไม่มีประโยชน์หรอก คุณพูดเสียเวลาเปล่า ตอนนี้เขามีอำนาจแล้วนี่ เขาไม่เห็นพวกเราอยู่ในสายตาหรอก”หลินหลันพูดเหน็บแนมอีกครั้ง พอเสี้ยเว่ยกั๋วกลับมาเธอก็มีคนหนุนหลังทันที เธอพูดใส่อารมณ์กับเฉินเฟิงอย่างไม่สนใจอะไร
“หลันหลัน!พูดอะไรหน่ะ?”เสี้ยเว่ยกั๋วจ้องหลินหลันด้วยความโมโหเล็กน้อย ตั้งแต่เขาเข้ามาในบ้าน หลินหลันก็พูดเย้ยหยันเฉินเฟิงตลอด ที่สำคัญคือเขาไม่ใช่คนที่เลือกปฏิบัติ เขารู้ดีว่าเฉินเฟิงไม่ได้ทำเรื่องอะไร ที่ผิดต่อเสี้ยเมิ่งเหยาและตระกูลเสี้ยแม้แต่น้อย ดังนั้นก็เท่ากับหลินหลันโวยวายอย่างไม่มีเหตุผล
เมื่อเห็นเสี้ยเว่ยกั๋วจ้องตนเขม็ง หลินหลันก็ยิ่งไม่พอใจ เธอเอามือเท้าสะเอว และพูดอย่างเดือดดาล:“คุณเสี้ย พูดอะไรอะไรกัน?ความจริงในตอนนี้ ไม่ใช่เจ้าเศษขยะคนนี้ปีกกล้าขาแข็งจะแยกบ้านงั้นหรอกเหรอ?”
“แยกบ้านอะไรกัน?เฉินเฟิงพูดว่าเขาจะเอาเงินของตระกูลเสี้ยสักแดงหรือยัง?”เสี้ยเว่ยกั๋วพูดด้วยความโมโห
“ก็เพราะเจ้าเศษขยะคนนี้ ไม่เอาเงินสักแดงจากตระกูลเสี้ยไง ฉันถึงโกรธ!”
“คุณไม่รู้ต่างหาก ว่าเจ้าเศษขยะคนนี้มันโง่ขนาดไหน เขาแยกตระกูลเสี้ย เขาไม่เพียงไม่เอาเงินจากตระกูลเสี้ยสักบาท เขายังเอาโครงการยู่ฉวนซาน ที่เมิ่งเหยาของเราลำบากไปเซ็นมามอบให้ตระกูลเสี้ยอย่างกับไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
“นั่นมันเป็นโครงการตั้ง5ร้อยล้านนะ เขามีสิทธิ์อะไรมาทำแทนเมิ่งเหยา!”
“สำหรับฉันการแยกตระกูลเสี้ยไม่ใช่ว่าทำไม่ได้ แต่โครงการยู่ฉวนซาน เราต้องมีส่วนด้วยครึ่งหนึ่ง”
หลินหลันพูดอย่างมีเหตุผล ที่จริงเรื่องที่เฉินเฟิงจะแยกตระกูลเสี้ย เธอสนับสนุน เพราะจากที่เธออยู่ในตระกูลเสี้ยมาหลายปี เธอไม่ได้เคยมีหน้ามีตา มีเพียงการแยกตระกูลเสี้ยนี่แหละ ถึงจะทำให้เธอมีตัวตนและมีสถานะที่สูงขึ้น
ตอนนี้สิ่งที่โกรธก็คือ เงื่อนไขที่เฉินเฟิงต่อรองเรื่องแยกตระกูลกับตระกูลเสี้ย ไม่คิดว่าจะเป็นโครงการยู่ฉวนซานราคา5ร้อยล้าน สำหรับเธอโครงการพวกนี้ควรเป็นของเสี้ยเมิ่งเหยา ดังนั้นถ้าจะแยกตระกูลเสี้ย ทำไมไม่เอาไปทั้งหมด หรืออย่างน้อยก็ควรเอาไปสักครึ่งหนึ่ง เพื่อนำไปเป็นทุนของตระกูลเสี้ยตระกูลใหม่
แต่เจ้าโง่เฉินเฟิงคนนี้ กลับพูดกับเสี้ยหยุนเสิ้งว่า เพียงแค่ตระกูลเสี้ยตระกูลเก่ายอมให้แยกตระกูล เขาจะมอบโครงการราคา5ร้อยล้านนั่น ให้กับตระกูลเสี้ยตระกูลเก่า
เรื่องนี้ทำให้หลินหลันโกรธจนเกือนจะตายให้ได้ ถึงสมองน้ำเข้าก็ไม่ทำเรื่องโง่ๆแบบนี้ออกมา โครงการราคา5ร้อยล้านเขาไม่เอาสักบาทเดียว ให้คนอื่นไปหมด อีกทั้งคนที่ให้ไปยังเป็นเสี้ยเมิ่งเหยา ความใจป้ำของเธอหลินหลันจะไม่โกรธได้ยังไง?
“วุ่นวาย!”
เสี้ยเว่ยกั๋วพูดอย่างไม่พอใจ หลินหลันที่เห็นแก่เงินคนนี้ ในสายตามีแค่เงิน สิ่งที่เธอกังวลคือหลังจากแยกตระกูลเสี้ย ตัวเองจะไม่มีเงินใช้ แต่เธอไม่รู้เลยว่าตอนนี้เฉินเฟิงมีอำนาจขนาดไหน แม้แต่ตระกูลระดับต้นๆอย่างตระกูลเย่ เขาก็สามารถกำจัดได้ด้วยมือเดียว ดังนั้นการหาเงิน สำหรับเฉินเฟิงแล้วนั้นไม่ใช่เรื่องยากอะไร เสี้ยเว่ยกั๋วเดาว่า ทรัพย์สมบัติของเฉินเฟิงในตอนนี้ มีมากกว่าตระกูลเสี้ยเสียอีก ดังนั้นจึงไม่แยแสโครงการยู่ฉวนซานแม้แต่น้อย
“คุณเสี้ย!ทำไมฉันถึงกลายเป็นวุ่นวายไปได้ล่ะ!”หลินหลันโวยวาย“ที่ฉันทำไปทั้งหมดก็เพื่อครอบครัวของเรา คุณมีสิทธิ์อะไรมาว่าฉันวุ่นวาย?!”
“ถ้านี่ไม่ได้เรียกว่าวุ่นวายแล้วเรียกว่าอะไร?โครงการยู่ฉวนซานนั่น ไม่ใช่ของเมิ่งเหยาคนเดียว!”เสี้ยเว่ยกั๋วเป่าเคราพลางจ้องเขม็ง เขาก็เริ่มเดือดขึ้นมาแล้วเหมือนกัน
เมื่อเห็นว่าทั้งคู่จะทะเลาะกัน เฉินเฟิงก็อดที่จะปวดหัวไม่ได้ เขาถอนหายใจแล้วพูดขึ้น:“พ่อ แม่ พ่อกับแม่ไม่ต้องพูดแล้ว เรื่องแยกตระกูลเสี้ย ผมจะทบทวนอีกที”
“ทบทวนอีกที?มีอะไรต้องทบทวนอีก!แกจะแยกหรือไม่แยกตระกูลเสี้ยฉันไม่อยากยุ่งหรอกนะ แต่แกต้องเอาโครงการยู่ฉวนซานกลับมาให้ฉันให้ได้ มันเป็นของเมิ่งเหยา แกไม่มีสิทธิ์ไปทำแทนเธอ”หลินหลันพูดอย่างเอาแต่ใจ
“แม่ โครงการนั่นเฉินเฟิงเป็นคนช่วยเอามาจากเพื่อนของเขาหลินจงเหว่ย ถ้าจะพูดให้ถูกมันควรเป็นของเฉินเฟิง ไม่ใช่ของหนู”เสี้ยเมิ่งเหยาพูดอย่างไม่ค่อยพอใจ เรื่องนี้เธอพูดกับหลินหลันไม่ต่ำกว่า10รอบแล้ว แต่ไม่มีครั้งไหนเลยที่หลินหลันเข้าใจ ในความเป็นจริง อย่าว่าแต่โครงการไม่กี่โครงการของตระกูลเสี้ยเลย แม้แต่โครงการทั้งหมดขของยู่ฉวนซาน ล้วนเป็นของเฉินเฟิงทั้งนั้น
“เมิ่งเหยา แกพูดอะไรหน่ะ หลินจงเหว่ยไม่ใช่คนโง่สักหน่อย เพื่อนที่ไหนกันมีค่าถึง5ร้อยล้าน?ที่เขามอบโครงการให้แก นั่นก็เพราะเห็นแก่หน้าของตระกูลเสี้ย ส่วนเจ้าเศษขยะคนนี้ก็แค่ได้มาอย่างบังเอิญ”หลินหลันเบะปากพลางพูด