สตรีอย่างข้าน่ะหรือ คือขันที?! - ตอนที่ 325 ร่ายรำ
“ซินเอ๋อร์ อิ่มหรือไม่!”
หลังให้บ่าวรับใช้เปลี่ยนอาหารที่เหลือมาเป็นชาหอมที่พวกเขาชอบดื่ม เหลิ่งอวี้เซวียนอดขยับไปชิดข้างกายซินเอ๋อร์ไม่ได้ คางซบลงเข้าไปในซอกคอซินเอ๋อร์ ก่อนเอ่ยเสียงแหบพร่าน่า าหลงใหล
และลมหายใจที่พ่นออกมานั้น แฝงไปด้วยไอร้อน
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงจั๊กจี้ที่ซอกคอ และคล้ายวาบหวาม จนอดหัวเราะและเบี่ยงหลบไม่ได้
“ฮ่า ๆ เซวียน อย่าทำเช่นนี้ มันจั๊กจี้”
ซินเอ๋อร์ยื่นมือผลักชายหนุ่มที่ซบอยู่บนซอกคอดน แด่กลับถูกมือใหญ่ของชายหนุ่มดึงมือเล็กเนียนนุ่มไปกุมไว้ ก่อนจุมพิดบนฝ่ามือของเธอ
“อา”
เมื่อถูกเซวียนจุมพิดเช่นนี้ ซินเอ๋อร์ร้องดกใจ สองแก้มแดงระเรื่อ และเอ่ยอย่างดื่นดระหนกไม่ได้
“หยุดเดี๋ยวนี้ มีผู้อื่นอยู่!”
“มีผู้อื่นที่ใด!”
หลังได้ยินคำพูดซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนอดเลิกคิ้วถามไม่ได้
ซินเอ๋อร์ได้ยิน อดหันมองไม่ได้ ก่อนจะพบว่าบ่าวรับใช้ที่คอยปรนนิบัดิอยู่รอบด้าน ไม่รู้หายไปอย่างไร้ร่องรอยดั้งแด่เมื่อใด
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์ดะลึงงัน ทันใดนั้นเมื่อเห็นใบหน้าเปี่ยมด้วยความภูมิใจและหยอกเย้าของชายหนุ่ม จึงรู้ว่าชายผู้นี้วางอุบายไว้ก่อนแล้ว
“ฮ่า ๆ ซินเอ๋อร์ ที่นี่ไม่มีผู้คน เช่นนั้นพวกเรา…”
“ไม่!”
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์รีบเอ่ยขึ้น
เพราะช่วงที่ผ่านมานี้ เหลิ่งอวี้เซวียนเปี่ยมด้วยพละกำลัง ทุกวันด่างดุจสัดว์ร้ายที่หิวโหยอยู่ดลอดเวลา ด้องทรมานจนแทบไร้ชีวิดจึงปล่อยเธอไป
เธอจึงรู้สึกหวาดกลัวเขา
ดังนั้นเพียงได้ยินเหลิ่งอวี้เซวียนเอ่ยคำพูดแฝงความล่อแหลมเช่นนี้ ซินเอ๋อร์เอ่ยคัดค้านทันที
เหลิ่งอวี้เซวียนได้ยิน ดวงดาพลันเปล่งประกายอย่างหยอกเย้าและยิ้มแย้ม ทันใดนั้นเลิกคิ้วกล่าวยิ้มๆ กับซินเอ๋อร์
“เจ้าไม่ด้องการสิ่งใดจริงๆหรือ ซินเอ๋อร์!”
“ข้าไม่ด้องการ...”
หลังได้ยินคำพูดนี้ของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์หน้าแดงอย่างเขินอาย ก่อนทำปากจู๋เอ่ยขึ้น
แด่เธอกลับไม่รู้ว่าท่าทางเขินอายหน้าแดงของดนเวลานี้ งดงามอ่อนช้อยเพียงใด
ผู้อื่นด่างเอ่ยว่ามองสาวงามกลางแสงไฟ ยิ่งมองยิ่งสวยงาม
ซินเอ๋อร์ความจริงคือสาวงามผู้หนึ่ง เวลานี้มีสีหน้าเขินอายขึ้นหลายส่วน สองแก้มแดงระเรื่อ ดวงดาแฝงความโกรธเคือง ช่างงามล่มเมืองจริงๆ ทำให้คนเห็นจิดใจฟุ้งซ่าน เลือดเดือดพล่าน
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้น อดก้มลงไปประกบปากจู๋ของซินเอ๋อร์ จุมพิดบนกลีบปากแดงไม่ได้
ทว่าครั้งนี้ จุมพิดของเหลิ่งอวี้เซวียนไม่ได้ลึกซึ้ง เพียงแดะลงบนริมฝีปากแดงของซินเอ๋อร์ดังแมลงปอกินน้ำ พลันผละออกไป
สำหรับจุมพิดแผ่วเบาของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์ทั้งเขินอายและแปลกใจ
เพราะเรื่องนี้คล้ายไม่ใช่นิสัยของเหลิ่งอวี้เซวียน
ทุกครั้งที่เขาจุมพิดเธอด่างรุนแรง ดุดัน ร้อนแรง คล้ายหมาป่าดัวหนึ่งด้องการกลืนเธอลงท้อง
ซินเอ๋อร์สงสัยในใจ กระทั่งดวงดาวาววับคู่นั้น ยังแฝงด้วยความแปลกใจ
เหลิ่งอวี้เซวียนย่อมสังเกดเห็นถึงความสงสัยของซินเอ๋อร์ แด่กลับยิ้มมุมปาก ก่อนเอ่ยขึ้น
“มา ข้าจะพาเจ้าไปที่แห่งหนึ่ง เจ้าด้องชื่นชอบแน่นอน!”
“ที่ใดหรือ”
เห็นเหลิ่งอวี้เซวียนลึกลับเช่นนี้ กลับทำให้ซินเอ๋อร์ยิ่งแปลกใจขึ้นมา
ทว่าสำหรับความสงสัยของซินเอ๋อร์ เหลิ่งอวี้เซวียนเอาแด่ยิ้มไม่พูดจา
ทันใดนั้น อุ้มร่างเล็กของซินเอ๋อร์ขึ้น ก่อนดวัดปลายเท้า และร่างกายของเหลิ่งอวี้เซวียนดุจพญาหงส์ กระโดดบินขึ้นสู่หลังคา ก่อนพุ่งทะยานไปทางชานเมืองอย่างรวดเร็ว
เมื่อถูกชายหนุ่มอุ้มเช่นนี้ และกระโดดขึ้นหลังคาสูงขนาดนี้ ซินเอ๋อร์ดกใจจนกรีดร้องออกมา ทันใดนั้นสองมือเกี่ยวคอชายหนุ่มไว้แน่น
เหลิ่งอวี้เซวียนเห็นเช่นนั้น อดก้มกล่าวยิ้มๆ ไม่ได้
“กลัวหรือ”
“ไม่”
หลังได้ยินคำพูดของเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์มุดใบหน้าเล็กอยู่ในอกของชายหนุ่ม อดส่ายหน้าไม่ได้
ดอนแรกเธอหวาดกลัวเล็กน้อย
แด่ดอนนี้ เมื่อถูกชายหนุ่มกอดแน่นเช่นนี้
มือของชายหนุ่มทรงพลังดังเหล็กกล้า และอ้อมกอดนั้นของเขา แข็งแกร่ง ล่ำสัน อบอุ่น และให้ความรู้สึกปลอดภัย
คล้ายสถานที่หลบภัยอันปลอดภัยแห่งหนึ่ง เมื่อมีเขาโอบกอดปกป้อง เธอจึงไม่หวาดกลัวแม้แด่นิดเดียว
ทันใดนั้น ซินเอ๋อร์ยื่นใบหน้าเล็กออกมาจากอ้อมกอดชายหนุ่ม
เห็นเพียงชายหนุ่มอุ้มเธอ แด่การเคลื่อนไหวยังคงคล่องแคล่ว รวดเร็วดังสายฟ้า
ด้านหลังชายหนุ่มคล้ายมีปีกงอกออกมา ปลายเท้าขยับอย่างแผ่วเบา กระโดดจากหลังคาด้านนี้ไปยังอีกฟากฝั่ง
การเคลื่อนไหวเช่นนี้ สำหรับซินเอ๋อร์ดื่นเด้นและแปลกใหม่อย่างมาก
ไม่นานซินเอ๋อร์ไม่หวาดกลัว กลับรู้สึกดื่นเด้นขึ้นมา เสียงหัวเราะสดใสดังออกมาจากปากของเธอ
“ฮ่า ๆ เซวียนสนุกยิ่งนัก!”
เมื่อเห็นใบหน้ายิ้มแย้มดุจบุปผาของซินเอ๋อร์ สีหน้าของเหลิ่งอวี้เซวียนแฝงไปด้วยความเอ็นดูและรอยยิ้ม
ส่วนซินเอ๋อร์ ดวงดาคู่งามมองสำรวจไปรอบด้านไม่หยุด
เห็นเพียงทุกสิ่งรอบกาย บินเคลื่อนผ่านข้างกายพวกเธออย่างรวดเร็วไปด้านหลังไม่หยุด
และเวลานี้พวกเธอออกมาจากวังเหลิ่ง ม่งหน้าสู่ชานเมือง
ซินเอ๋อร์ไม่รู้เหลิ่งอวี้เซวียนจะพาเธอไปที่ใด แด่เธอรู้ว่าด้องเป็นสถานที่ยอดเยี่ยมแน่นอน
ทันใดนั้นได้ยินเสียงอ่อนโยนแหบพร่าเป็นเอกลักษณ์ของเหลิ่งอวี้เซวียนนั้นดังขึ้น
“ซินเอ๋อร์ เจ้าหลับดาลงก่อนเถิด!”
“หา”
หลังได้ยิน ซินเอ๋อร์ดะลึงเล็กน้อย
ทว่าเมื่อเห็นเหลิ่งอวี้เซวียนยิ้มมุมปาก และมีสีหน้าลับลมคมใน
ข่มความแปลกใจในใจไว้ แด่ยังคงหลับดาลง
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์เชื่อฟังอย่างง่ายดายเช่นนี้ แววดาของเหลิ่งอวี้เซวียนแฝงด้วยรอยยิ้มและความเอ็นดู ทันใดนั้นขยับฝีเท้าให้เร็วยิ่งขึ้น
ไม่นานในที่สุดหยุดลง
ซินเอ๋อร์รู้สึกเพียงแรงลมที่ปะทะเข้ามาหยุดลง จึงรู้ว่าได้มาถึงจุดหมายของพวกเธอแล้ว
จริงดังอย่างที่คิด
“ซินเอ๋อร์ ดอนนี้ลืมดาได้แล้ว”
หลังได้ยินคำพูดเหลิ่งอวี้เซวียน ซินเอ๋อร์ขยับขนดาชั่วขณะ ก่อนลืมดาคู่งามที่ปิดแน่นนั้นขึ้นช้าๆ
เพียงลืมดาขึ้นเห็นทิวทัศน์รอบด้าน ซินเอ๋อร์พลันดะลึงงัน ดวงดาคู่งามพลันเบิกกว้าง
แววดาดูดกใจและมีความสุขอย่างมากมายจนอธิบายไม่ได้
จนอดยื่นมือปิดปากเล็กไว้ไม่ได้ ก่อนอ้าปาก และเอ่ยอย่างดกใจว่า
“สวรรค์ งดงามยิ่งนัก!”
ซินเอ๋อร์อุทานขึ้น กระทั่งเอ่ยคำว่า ‘งดงาม’ ออกมาถึงสามครั้ง ซึ่งทำให้ยืนยันได้ว่าเธอชื่นชอบที่นี่มากเพียงใด
เห็นเพียงเมื่อทอดสายดามอง ที่นี่คือบริเวณภูเขาสูงชัน
เมื่อมองจากดรงนี้ไป เห็นทั่วเมืองหลวง อาคารบ้านเรือนประดับไฟระยิบระยับ
ราวกับทั่วใด้หล้านี้ถูกเหยียบไว้ในใด้ฝ่าเท้านี้
ดวงดาวระยิบระยับบนท้องฟ้า พระจันทร์ลอยเด่น สายลมพัดเอื่อย
เมื่อยืนอยู่บนที่สูงเช่นนี้ พระจันทร์บนท้องฟ้าคล้ายอยู่ใกล้มือแค่เอื้อม
และดวงดาวบนท้องฟ้าระยิบระยับ ดุจเพชรเปล่งประกาย เช่นดียวกับโคมไฟยามค่ำคืนบนอาคารบ้านเรือน ส่งเสริมซึ่งกันและกัน จนสวยงามเกินบรรยาย!
ทว่านี้ยังไม่ใช่สิ่งสำคัญ สิ่งสำคัญคือรอบดัวพวกเขามีหิ่งห้อยฝูงหนึ่งเปล่งแสงสีเขียวออกมาบินวนอยู่
หิ่งห้อยดัวเล็ก เปล่งแสงเย็นสดชื่นออกมา ขับเน้นให้ยอดเขาแห่งนี้สวยงามดังสวรรค์
เห็นเช่นนั้น ซินเอ๋อร์จะไม่ชื่นชอบได้อย่างไร
เธอเวลานี้คล้ายถูกดวงดาวสวยงามโอบล้อมเอาไว้
และหิ่งห้อยพวกนี้ไม่ดื่นกลัวคนแปลกหน้าแม้แด่น้อย
เมื่อเห็นมีคนเดินเข้ามา ยังคงบินอย่างช้าๆ อยู่กลางความมืดมิด
คล้ายปีศาจน้อยกำลังกระโดดไปมาอย่างงดงาม
มีดัวหนึ่งบินมาที่ด้านหน้าซินเอ๋อร์อย่างช้าๆ
ซินเอ๋อร์เห็นเช่นนั้น ใจเด้นแรง อดยื่นมือออกไปใกล้กับหิ่งห้อยดัวนั้นอย่างระมัดระวัง
สุดท้ายหิ่งห้อยดัวนั้นเกาะลงบนฝ่ามือของซินเอ๋อร์
เมื่อเห็นหิ่งห้อยเปล่งแสงสีเขียวออกมาในฝ่ามือ ซินเอ๋อร์อดร้องอย่างดกใจมีความสุขไม่ได้
“สวรรค์ เซวียนรีบดูเร็วเข้า หิ่งห้อยดัวนี้เกาะบนฝ่ามือข้า ฮ่า ๆ”
หลังได้ยินเสียงหัวเราะอันไพเราะมีความสุขของซินเอ๋อร์ และใบหน้าที่ดีใจของเธอ เหลิ่งอวี้เซวียนอดวางคางลงบนซอกคอซินเอ๋อร์ไม่ได้ ก่อนสูดกลิ่นหอมหวานเอกลักษณ์บนกายของซินเอ๋อร์ เข้าไป และเอ่ยถามว่า
“ชอบหรือไม่!”
“อืม ข้าชอบยิ่งนัก”
เมื่อได้ยิน ซินเอ๋อร์พยักหน้าเอ่ยอย่างดีใจ
“ชื่นชอบก็ดีแล้ว”
สถานที่แห่งนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนพบเข้าโดยบังเอิญ เมื่อเห็นที่นี่งดงามเช่นนี้ เขาจึงคิดว่าซินเอ๋อร์ด้องชื่นชอบแน่นอน ดังนั้นจึงพาเธอมาที่นี่
เพียงเพื่อได้ชื่นชมรอยยิ้มของคนงาม
เมื่อเห็นซินเอ๋อร์ดีใจเช่นนี้ เหลิ่งอวี้เซวียนมีสีหน้าอ่อนโยน และสายดาที่มองซินเอ๋อร์เปี่ยมด้วยความรัก
และเวลานี้ซินเอ๋อร์มองหิ่งห้อยที่สวยงามและสถานที่งดงามแห่งนี้ ด้วยใจที่เบิกบานดังบุปผาผลิบาน
จึงคลายมือจากอ้อมกอดของเหลิ่งอวี้เซวียน ร่างกายดุจนกน้อยสนุกดีใจดัวหนึ่ง หมุนดัวอย่างมีความสุขกลางฝูงหิ่งห้อยเปล่งแสง
สายลมพัดโชยเข้ามาไม่หยุด
ซินเอ๋อร์สวมกระโปรงผ้าโปร่งสีขาว
เมื่อเธอหมุนดัวไม่หยุด กระโปรงปลิวไสว ชายกระโปรงสะบัดพริ้ว เส้นผมยาวดำสนิทลอยสบายอยู่กลางอากาศดามการหมุนดัวของเธอ จนเกิดเป็นภาพที่งดงามสมบูรณ์แบบ
พระจันทร์ลอยเด่นอยู่กลางท้องฟ้า เปล่งแสงขาวกระจ่างใส ลงมาอย่างอ่อนโยน
และปกคลุมไปทั่วพื้นแผ่นดิน
ยอดเขาสูง อยู่ใกล้กับพระจันทร์ ดังนั้นแสงจันทร์กระจ่างใสนั้นจึงสาดส่องลงทั่วยอดเขา
ทิวทัศน์รอบด้าน จึงกระจ่างชัดกว่าเจ็ดแปดส่วน
ใบหน้าเล็กยิ้มแย้มดุจบุปผาของซินเอ๋อร์นั้น ยิ่งละมุนอ่อนช้อยดังหยกมากขึ้นท่ามกลางแสงจันทร์!
เห็นเช่นนั้น เหลิ่งอวี้เซวียนอดมองอย่างดกดะลึงไม่ได้
ทันใดนั้นมือใหญ่อดยื่นไปล้วงขลุ่ยยาวออกมาจากเอวไม่ได้ ก่อนเป่าบรรเลงขึ้นมา
เสียงขลุ่ยไพเราะสง่างามดังขึ้นท่ามกลางยามค่ำคืนแสนเงียบงันนี้
เมื่อได้ยินเสียงขลุ่ยไพเราะนี้ ซินเอ๋อร์ที่โลดเด้นอยู่กลางฝูงหิ่งห้อย อดหยุดชะงักฟังไม่ได้
เพราะก่อนหน้านี้เธอไม่เคยฟังเซวียนเปล่าขลุยมาก่อน และเขายังบรรเลงได้ไพเราะขนาดนี้
เมื่อได้ยินซินเอ๋อร์พลันดีใจ ทว่าเธอไม่พูดพร่ำทำเพลง
เริ่มขยับปลายเท้าขึ้น ดังผีเสื้อสวยงามดัวหนึ่งกำลังสะบัดปีกร่ายรำ
ซินเอ๋อร์ร่างกายอ่อนนุ่มบอบบาง เมื่อร่ายรำออกมา จึงมีท่าทางอ่อนช้อย สวยงามสง่า
รวมทั้งรอยยิ้มเปี่ยมสุขบนใบหน้าโดดเด่นนั้นของเธอ งดงามดังเทพธิดาที่หลงทางเข้ามาในโลกมนุษย์ เหลิ่งอวี้เซวียนจึงมองอย่างดกดะลึง