สืบล่าหาผู้ใช้ศาสตร์ความตาย - ตอนที่ 24
ฉันเฝ้ามองดวงจันทร์
มันเริ่มจากคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งมาเยือนเพียงเดือนละครั้ง หลังจากที่เด็ก ๆ หลับสนิทแล้ว ฉันก็แอบกระโดดขึ้นไปสูง ๆ แล้วลงมาอยู่ที่หลังคาของสถานเลี้ยงเด็กกำพร้าแม้จะคิดว่ามันเป็นกิริยาที่ไม่งามก็เถอะ
หลังคาสกปรกเพราะถูกลมฝนเป็นประจำ แต่ฉันก็ยังนั่งลงตรงนั้นแล้วมองไปยังท้องฟ้า
ฉันทำให้เสื้อคลุมสีขาวต้องเปรอะตรงก้น เลยรู้สึกเหมือนกำลังทำเรื่องไม่ดีอยู่หน่อย ๆ
แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เพราะคราบนี้ก็ขจัดออกง่าย
จากนั้นฉันก็ทำแค่เพียงเฝ้ามองดวงจันทร์
แน่นอนว่าดวงจันทร์ไม่ใช่สิ่งสวยงาม หากจะเปรียบกับอัญมณีก็คงมีรูปลักษณ์เหมือนของคุณภาพต่ำที่มีสิ่งเจือปน หากจะเปรียบกับคนก็คงเหมือนคนที่หน้าเป็นหลุม
แต่ถึงอย่างนั้น ดวงจันทร์ก็ยังลอยเด่นอยู่บนนภาอย่างสง่างาม ด้วยเหตุนั้นดวงจันทร์ถึงดี
โลกนี้ไม่มีอะไรที่สมบูรณ์แบบ พวกเราที่มีแต่ข้อบกพร่อง และฉันก็รู้สึกเหมือนว่าดวงจันทร์ยอมรับพวกเราที่เป็นเช่นนั้น
มาคิด ๆ ดู ตอนเด็ก ๆ ฉันพยายามจะเป็นคนที่สมบูรณ์แบบ
เป็นคนที่เหนือกว่าใคร งดงามกว่าใคร และมีค่ามากกว่าใครทุกคน
บางทีอาจเป็นเพราะฉันรู้สึกต่ำต้อยกว่าใครที่ตัวเองเป็นของเอาไว้ขาย
เพราะงั้นฉันเลยอยากบอกว่า “ถึงจะเป็นของขาย แต่ฉันก็มีค่า!”
‘ใครบางคน’ ที่ฉันอยากบอกประโยคนั้นให้ฟัง คงจะเป็นฉันตัวน้อยที่มักจะตื่นขึ้นมากลางดึกแล้วนั่งกอดเข่า
ความจริงฉันไม่จำเป็นต้องตั้งเป้าเป็นคนสมบูรณ์แบบอย่างนั้นด้วยซ้ำ
แต่เพราะฉันตั้งใจจะเป็นอย่างนั้น ถึงได้มีฉันในทุกวันนี้
ฉันภูมิใจและไม่รู้สึกเสียใจเลย
ฉันได้พบกับผู้คนมากมาย
ใบหน้าของผู้คนเหล่านั้นทยอยปรากฏขึ้นมาให้เห็นราง ๆ บนดวงจันทร์ที่ฉันกำลังเฝ้ามองอยู่
เมสัน มอลลี่ โดโรธี อาจารย์ ลูเซียน่า รัถ คิเลียน อาจารย์ใหญ่ และพวกเด็ก ๆ ทั้งหลาย
เนื่องจากความทรงจำมันเลือนราง ฉันเลยอดคิดไม่ได้ว่า “หน้าตาแบบนี้จริง ๆ เหรอ” แต่แสงจันทร์ที่ส่องสลัวก็ช่วยกลบเกลื่อนส่วนที่คลุมเครือเหล่านั้นเอาไว้ได้ ดวงจันทร์นี่ดีจริง ๆ
ทุกคนเป็นคนแปลกอยู่หน่อย ๆ แต่ก็เป็นคนดี ตัวฉันเองก็เป็นเช่นนั้น
เราทุกคนต่างก็ไม่ใช่คนปกติธรรมดา ไม่ต้องพูดถึงว่าสมบูรณ์แบบไหม ขนาดฉันใช้ชีวิตมาอย่างยาวนาน ก็ยังไม่เคยเห็นใครที่ปกติธรรมดาหรือสมบูรณ์แบบเลย
‘ราชาผู้ยิ่งใหญ่ที่สุด’ อย่างรัถก็เป็นคนหยิ่งยโสและน่ารังเกียจ
‘จอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน’ อย่างอาจารย์ใหญ่ก็เป็นคนที่แปลกมาก
แต่ถ้ารัถไม่หยิ่งยโส ฉันว่าเขาก็คงไม่ตั้งเป้าที่จะเป็นราชาผู้ยิ่งใหญ่ เพราะความหยิ่งยโสนี้เองที่ทำให้เขาตั้งเป้าไปสู่จุดสูงสุด
อาจารย์ใหญ่ก็เช่นกัน การที่เขาเป็นคนแปลกที่อุทิศทั้งชีวิตให้กับเวทมนตร์และยังคงมีความสุขกับมันได้นี่แหละ ที่ทำให้เขากลายเป็นจอมเวทผู้ยิ่งใหญ่ในตำนาน
ฉันว่าเป็นเพราะรัถกับอาจารย์ใหญ่แปลกกว่าคนอื่นมาก เลยทำให้พวกเขากลายเป็นคนที่น่าเหลือเชื่อ
คืนนี้ดวงจันทร์มองเห็นได้อย่างชัดเจน เดิมทีฉันก็มีสายตาดีอยู่แล้ว แต่พอกลายมาเป็นราชาอมตะก็มองเห็นได้ไกลขึ้นและชัดเจนขึ้น
ชื่อลูน่าของฉันมีความหมายว่าดวงจันทร์
ยิ่งดวงจันทร์เห็นชัดมากเท่าไร ความไม่บริสุทธิ์ก็ยิ่งชัดเจนมากขึ้นเท่านั้น จนรู้สึกเหมือนมันทับซ้อนกับฉัน
มันเป็นความขุ่นมัวที่ไม่มีวันจางหายไปพร้อมกับความเป็นนิรันดร์ได้
ขอสารภาพว่าหลังจากที่รัถตาย ฉันก็ลังเลเล็กน้อยว่าจะเปลี่ยนศพของเขาให้กลายเป็นกูลดีไหม
แต่ฉันไม่ค่อยชอบกูลเท่าไร แถมถ้าทำไปก็คงถูกลูเซียน่าด่าเละแน่ เลยล้มเลิกความคิด
หลังจากที่รัถถูกฝัง ฉันก็แอบย่องเข้าไปในสุสานขนาดใหญ่ของเขาแล้วยืนอยู่หน้าโครงกระดูกนั่น จากนั้นก็ลังเลว่าจะเปลี่ยนให้กลายเป็นสเกเลตันดีไหม ในเมื่อเข้ามาในสุสานแล้ว ก็ไม่ต้องกังวลว่าลูเซียน่ากับคนอื่น ๆ จะรู้
ลองคิดดูสิ ฉันเป็นราชินีแท้ ๆ แต่กลับไม่ได้อยู่ด้วยกันกับรัถมากเท่าไหร่
ไม่ว่าจะเป็นรูปแบบไหน ฉันก็อยากอยู่ด้วยกันให้นานขึ้นอีกนิด ใครหน้าไหนจะมาตำหนิฉันได้
──ความรู้สึกแบบนั้น มันก็เป็นส่วนที่ขุ่นมัวของฉันเช่นกัน
แต่ฉันสังหรณ์ใจว่ารัถจะโกรธแล้วโจมตีใส่ฉันทันทีที่ฉันเปลี่ยนเขาให้กลายเป็นอันเดด ฉันเลยหยุดไว้ที่การเอาปลายกระดูกนิ้วก้อยมา
แค่นี้ก็น่าจะพกพาง่ายและกำลังพอดีแล้วละ
ฉันหยิบกระดูกชิ้นเล็ก ๆ ของรัถออกมาจากกระเป๋าเสื้อแล้วยกขึ้นส่องกับแสงจันทร์
ถึงจะเป็นแค่กระดูก แต่มันก็น่ารัก
“แบบนี้ ดูเป็นผู้ใช้ศาสตร์ความตายไหมนะ”
ฉันหันไปพึมพำกับดวงจันทร์