หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 399 กลั่นแกล้งสหาย เปิดโปงคดีลับ (2)
ตอนที่ 399 กลั่นแกล้งสหาย เปิดโปงคดีลับ (2)
“ขอบคุณพี่สะใภ้จริงๆ ” รองแม่ทัพถังรู้สึกหวาดระแวงที่ได้รับการโปรดปรานเช่นนี้ จึงรีบวางสุราลงแล้วยกชามมารับอาหารไว้
เหยาเยี่ยนอวี่สั่งสาวใช้ด้านข้างอีกครั้ง “รินเหล้า”
สาวใช้ด้านข้างไปยกเหยือกมารินเหล้า เหยาเยี่ยนอวี่ชูจอกสุราตนเองแล้วพูดขึ้นยิ้มๆ “เซียวอี้ พี่สะใภ้ดื่มหนักไม่ได้ จึงดื่มเป็นเพื่อนเจ้าครึ่งจอก เจ้าดื่มหนักได้ ก็ดื่มเยอะๆ เถอะ”
ต่อหน้าเว่ยจาง เหยาฮูหยินคำนับกับถังเซียวอี้ด้วยสุราเช่นนั้น เขาจะกล้าชักช้าได้อย่างไร จึงรีบชูจอกสุราเดินหน้าพลางค้อมตัวลง “พี่สะใภ้เกรงใจเกินไปแล้ว”
ทั้งสองชนจอกกัน เหยาเยี่ยนอวี่กลับจิบไปครึ่งจอก ถังเซียวอี้ถูกเว่ยจางกวาดมองเพียงปราดเดียว ทันใดนั้นก็รู้สึกไม่สบายใจ เลยรีบดื่มเหล้าในจอกจนหมด
หลังจากดื่มและกินอาหารไปสักพัก รองแม่ทัพเว่ยนั่งนิ่งไม่อยู่อีกต่อไป ภายในใจนึกย้อนถึงเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ที่ตนทำในช่วงนี้ ไม่ได้รู้สึกว่าตนเองทำผิดอะไรนี่!
สุดท้ายเขาก็ยังนึกไม่ออกจริงๆ ว่ามีเรื่องอะไรผิดปกติไป จึงนึกขึ้นได้ทันทีว่าก่อนหน้านี้เหล่าสหายต่างบอกว่ารอให้แม่ทัพสู่ขอฮูหยินเข้าจวน คงจะรังเกียจพวกเขาเป็นแน่ ทว่า…ปกติตนเองน่าจะปฏิบัติตนได้ไม่เลวหรือเปล่า หรือว่าฮูหยินแม่ทัพจะรังเกียจจ้าวต้าเฟิงและเก๋อไห่
ทว่าดูอย่างไรเหยาฮูหยินก็ไม่เหมือนคนประเภทนั้นนี่!
ถังเซียวอี้คิดหน้าคิดหลังไปหนึ่งรอบ สุดท้ายก็ยังไม่ได้คำตอบ ดังนั้นทำเพียงเอ่ยถามอย่างแจ่มแจ้ง
เพราะในสายตาของเขา เหยาฮูหยินเป็นคนที่มีเหตุผล ดูจากท่าทางของนางแล้ว ต้องมีเรื่องลำบากแน่เลย ไม่เช่นนั้นก็คงไม่ทำเช่นนี้ มีเรื่องอะไรก็ขอให้พูดออกมา ไม่ว่าเรื่องอะไรก็ปรึกษาหารือกันได้
“พี่สะใภ้ ท่านมีอะไรอยากบอกข้าหรือ” ถังเซียวอี้ถือโอกาสใช้ฤทธิ์สุรา เอ่ยถามขึ้นอย่างไร้มารยาท
“เฮ้อ!” เหยาเยี่ยนอวี่ถอนหายใจเบาๆ
เหยาฮูหยินถอนหายใจ ก็ยิ่งทำให้ถังเซียวอี้มั่นใจในความคิดตนเอง ดังนั้นรองแม่ทัพถังจึงผายมือใหญ่ขึ้น “พี่สะใภ้มีเรื่องอะไรที่ทำให้ลำบากใจเช่นนี้เชียวหรือ หากอยากสั่งการอะไรพวกเรา ก็บอกมาได้เลย ต่อให้ข้าต้องบุกน้ำลุยไฟ ก็จะไม่ยอมถอย”
“มีเรื่องหนึ่งที่ไม่บอกกับเจ้าไม่ได้” เหยาเยี่ยนอวี่มองถังเซียวอี้ด้วยความลำบากใจ
“พี่สะใภ้ว่ามาเถอะ”
“วันนี้เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าจวนอัครเสนาบดีมาที่สำนักแพทย์” เหยาเยี่ยนอวี่ขมวดคิ้ว กล่าวคำพูดนี้จบก็ถอนหายใจ
“จวนอัครเสนาบดีกระนั้นหรือ” ถังเซียวอี้จับจุดไม่ถูก เรื่องอื่นก็ค่อยยังชั่ว ทว่าหากว่าจวนอัครเสนาบดีเกิดเรื่องอะไรขึ้น ก็คงจนปัญญา เขาเข้ากับขุนนางฝ่ายบุ๋นไม่ได้จริงๆ
“เป็นเช่นนั้น…ฮูหยินผู้เฒ่ามาเพื่องานสมรสของเหิงเอ๋อร์!”
“เหิงเอ๋อร์…คุณหนูสามซูหรือ!” ถังเซียวอี้เข้าใจกระจ่างแจ้งทันที ตอนแรกภายในใจยังรู้สึกรื่นเริงยินดี ทว่าพอเห็นเหยาเยี่ยนอวี่ปั้นหน้าหมองเศร้า ดวงใจดวงนี้ค่อยๆ หม่นหมองลงตาม สีหน้าก็ดูหมองเศร้าเช่นเดียวกัน
จวนอัครเสนาบดีมาคุยเรื่องสมรสของซูอวี้เหิง เฟิงฮูหยินผู้เฒ่าถึงกับออกหน้าด้วยตนเองเช่นนี้ จะมาเพื่อใครกัน เพื่อหมั้นหมายให้คุณชายรองเฟิงเช่าเจิ้น คุณชายขี้โรคคนนั้นหรือไร
“พี่สะใภ้! เจ้าอย่า…” ถังเซียวอี้กระวนกระวายใจขึ้นมา
เหยาเยี่ยนอวี่เอาเหยือกรินเหล้าให้ถังเซียวอี้กับมือ แล้วพูดแทรกคำพูดเขา “เซียวอี้ เจ้าวางใจเถอะ พี่สะใภ้คนนี้จะหาแม่นางดีๆ ให้เจ้าเอง”
“พี่สะใภ้…” รองแม่ทัพถังส่ายหน้าด้วยยิ้มขมขื่น “ไม่เร่งรีบ”
“จะไม่เร่งรีบได้อย่างไร! สำหรับข้า ตอนนี้งานสมรสของเจ้าถือเป็นเรื่องสำคัญที่สุด” เหยาเยี่ยนอวี่กล่าวขึ้น แล้วเอ่ยถามเว่ยจาง “แม่ทัพว่าใช่หรือไม่”
เว่ยจางมองนางเพียงแวบเดียวอย่างจนหนทางแล้วพยักหน้า เขาคงสีหน้านิ่งเฉยเหมือนเดิม ถึงแม้เขาไม่รู้ว่าเหตุใดฮูหยินตนเองต้องกลั่นแกล้งสหายตน ทว่ามีคำๆ หนึ่งกล่าวไว้ว่าสหายเอาไว้บังดาบมิใช่หรือไร
“พอเถอะ อย่าคุยเรื่องนี้อีกเลย” ถังเซียวอี้ชูจอกสุราด้วยรอยยิ้มขมขื้นไปตรงหน้าแม่ทัพเว่ย “พี่ใหญ่ ดื่มสุรากันเถอะ”
แม่ทัพเว่ยยกจอกสุราอย่างเงียบๆ ดื่มก็ดื่มสิ
ดังนั้น คืนนี้แม่ทัพเว่ยดื่มสุราไปไม่น้อย แน่นอนว่าถังเซียวอี้ดื่มเยอะกว่าเขาเป็นหลายเท่า
สุดท้าย ตอนที่เว่ยจางเห็นฉังเหมาพยุงร่างถังเซียวอี้ จึงนวดหว่างคิ้วพลางเหลือบมองเหยาเยี่ยนอวี่
เหยาเยี่ยนอวี่ถูกสายตาของแม่ทัพเว่ยจับจ้องไปไม่นาน ก็สารภาพความจริงออกมาเอง “เฟิงฮูหยินผู้เฒ่ามาคุยเรื่องสมรสของเหิงเอ๋อร์ เพื่อให้หมั้นหมายกับเซียวอี้”
“ข้าไม่ถามเรื่องนี้” สำหรับเรื่องนี้แม่ทัพเว่ยเดาออกตั้งแต่เนิ่นๆ แล้ว ซูอวี้เหิงมีบิดามารดาและพี่ชาย หากเฟิงฮูหยินผู้เฒ่ามาเพื่อบุตรหลานของตน คงไม่มีทางมาหาเหยาเยี่ยนอวี่อยู่แล้ว นางมาหาเหยาเยี่ยนอวี่เช่นนี้ แน่นอนว่าต้องมาเพื่อคนที่อยู่รอบข้างนาง และคนคนนั้นไม่ใช่ถังเซียวอี้แล้วจะเป็นใครได้
เหยาเยี่ยนอวี่ยิ้มจางๆ “เช่นนั้นเจ้าจะถามอะไร”
“เหตุใดเจ้าถึงต้องกลั่นแกล้งเขา”
“ข้าไม่ได้ให้เขาดื่มสุราเต็กปี่ก็ดีแค่ไหนแล้ว นี่เรียกว่ากลั่นแกล้งหรือ”
เว่ยจางเผยยิ้มจนปัญญา “สู้ให้เขาดื่มสุราเต็กปี่จะดีกว่า”
เหยาฮูหยินเอาผ้าเช็ดมุมปากอย่างสง่างาม แล้วพูดยิ้มๆ “วางใจเถอะ ข้ามีของดีกว่านั้น เพียงแต่ว่ายังไม่ถึงเวลาก็เท่านั้น”
แม่ทัพเว่ยทอดถอนหายใจเงียบๆ แทนสหายของตน เซียวอี้ เจ้าช่วยตนเองเถอะ
เช้าวันถัดไป ตอนเหยาฮูหยินออกจากจวนก็สั่งการฉังเหมา “ไปซื้อที่ดินเปล่าข้างจวนแม่ทัพเฮ่อซีไว้ แล้วสั่งให้คนมาออกแบบโครงจวน จากนั้นสร้างจวนให้รองแม่ทัพถังหนึ่งหลัง ส่วนเรื่องเงินก็ไปเอากับเหล่าเฝิง”
เมื่อคืนฉังเหมาเป็นคนพยุงถังเซียวอี้กลับเรือน จึงเห็นความโศกเศร้าผิดหวังของรองแม่ทัพถังอย่างชัดเจน เขาได้ยินฮูหยินบอกว่าจะหาแม่สตรีดีๆ ให้รองแม่ทัพถังสร้างครอบครัวแล้ว เพียงแต่ว่า…พ่อบ้านเอกลอบมองสีหน้าของฮูหยินอย่างระมัดระวัง แล้วเอ่ยถามอย่างกล้าๆ กลัวๆ “ไม่ทราบว่าฮูหยินโปรดปรานสตรีตระกูลใดหรือ”
เหยาเยี่ยนอวี่ปรายตามองพ่อบ้านเอก แล้วเอ่ยถามอย่างเยือกเย็น “ทำไมหรือ รองแม่ทัพจะสู่ขอสะใภ้ มันเกี่ยวข้องกับเจ้าหรือ”
ฉังเหมาโค้งตัวลงทันที แล้วตอบกลับด้วยรอยยิ้มที่รู้สึกผิด “บ่าวจะบังอาจได้อย่างไร เรื่องทั้งหมดในจวน ฮูหยินเป็นคนตัดสินเอง บ่าวเป็นตัวอะไร จะกล้าไปยุ่งเกี่ยวกับเรื่องของรองแม่ทัพได้อย่างไร” ขณะที่กล่าว จึงเดินตามเหยาเยี่ยนอวี่ด้วยรอยยิ้มชื่นบาน พร้อมทั้งกล่าวว่า “ฮูหยิน แม่ทัพได้เก็บเงินหนึ่งก้อนไว้ให้รองแม่ทัพถังแล้ว บอกให้ใช้ตอนปลูกจวนให้เขาขอรับ”
“อืม เงินก้อนนั้นของแม่ทัพเก็บไว้ให้เขาใช้ในภายภาคหน้าเถอะ จวนถือเป็นของขวัญที่ข้าให้เขาแล้วกัน” เหยาฮูหยินกล่าวจบ ก็ควบหลังเถาเยามุ่งหน้าไปสำนักแพทย์ทันที
ฉังเหมาโค้งคำนับให้แล้วมองฮูหยินจากไปอย่างมีสง่าราศี จึงอดเปรยไม่ได้ ฮูหยินมีเงินอย่างคาดคิดไว้ไม่มีผิด! ถึงกับให้ของขวัญเป็นที่อยู่อาศัย!
หลายวันมานี้รองแม่ทัพถังดูหมองเศร้ายิ่งนัก ตอนฉังเหมาส่งภาพวาดโครงจวนมาให้เขาดู ก็ยิ่งทำให้เขาไม่สบอารมณ์
“สร้างจวนบ้าอะไรเล่า! ไสหัวไปให้พ้น ช่างน่ารำคาญยิ่งนัก!” รองแม่ทัพถังนั่งอยู่บนราวระเบียงยาวด้วยความเศร้าใจ เขาพิงเสาแล้วยกมือปัดกระดาษภาพวาดที่ฉังเหมายื่นไป
“คุณชายรอง! นี่เป็นจวนที่ฮูหยินให้ท่าน” ปกติฉังเหมาจะเรียกเฮ่อซีว่าคุณชายใหญ่ และเรียกถังเซียวอี้ว่าคุณชายรอง
“ฮูหยิน?” ถังเซียวอี้หรี่ตาลง “ให้ข้ากระนั้นหรือ”
“ขอรับ เหล่าเฝิงให้หนึ่งหมื่นตำลึงเงินมาแล้ว ยังบอกว่าถ้ายังไม่พอก็ให้ไปเอาอีก คุณชายรองคิดให้ดี! นี่เป็นของขวัญงานแต่งงานที่ฮูหยินให้ท่านแน่ะ”