หมอหญิงจ้าวดวงใจ - ตอนที่ 523 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (1) / ตอนที่ 524-1 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย
- Home
- หมอหญิงจ้าวดวงใจ
- ตอนที่ 523 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (1) / ตอนที่ 524-1 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย
ตอนที่ 523 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (1) / ตอนที่ 524-1 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (2)
ตอนที่ 523 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (1)
เวลานี้ นางยิ่งถ่ายโอนกำลังภายในที่สะสมไว้ให้ฮ่องเต้จนไม่เหลือไว้แม้แต่นิดเดียว
ทว่าเวลาผ่านไปครึ่งก้านธูป ฮ่องเต้ก็แค่นเสียงเบาๆ นิ้วพระหัตถ์ขยับเล็กน้อย จากนั้นก็พึมพำทุ้มต่ำซ้ำๆ ว่า “น้ำ น้ำ….”
“เร็ว! น้ำ!” ฮองเฮาหันไปรับสั่งก่อนเป็นคนแรก
หลินซู่มั่วพลันยื่นน้ำครึ่งถ้วยมา ฮองเฮาพลันรับป้อนให้ฮ่องเต้ และเหยาเยี่ยนอวี่ที่ส่งกำลังภายในสุดท้ายออกมาจนหมด สุดท้ายก็หน้ามืดแล้วสลบหมดสติไป
“ฮูหยิน!” ชุ่ยผิงพลันเตรียมตัวตั้งแต่เนิ่นๆ ทว่าตอนที่เหยาเยี่ยนอวี่สลบไปจริง นางยังคงขานเรียกด้วยความสลดใจ
เว่ยจางเดินหน้าไปอุ้มนางขึ้น แล้วสั่งชุ่ยผิงด้วยเสียงทุ้มต่ำ “ดึงเข็มเงินให้ฝ่าบาท” แล้วอุ้มเหยาเยี่ยนอวี่ออกไปด้านนอก
ชุ่ยผิงค่อยๆ หมุนเข็มเงินตรงขมับของฮ่องเต้พลางดึงออก ฮ่องเต้ถอนหายใจเบาๆ แล้วตรัสถาม “สืบหาความจริงแล้วหรือยัง”
ฮองเฮาไม่สนใจอะไรมากมาย แค่ร้องห่มร้องไห้ต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้ นางไม่มีบุตรชาย ดังนั้นหากฮ่องเต้ทรงสวรรคตไป ไม่ว่าองค์ชายใดจะขึ้นครองราชย์ ชีวิตของนางก็คงไม่ดีเท่าตอนนี้อยู่แล้ว
ฮองเฮาลืมพระเนตร อยากตรัสอะไร กลับผ่านไปสักพักก็ตรัสไม่ออก แค่ยื่นพระหัตถ์ไปลูบไหล่ของฮองเฮา ท่าทีเช่นนี้คนอื่นกลับไม่ทันได้สังเกตเห็น จางชางเป่ยกลับสะดุ้งตกใจ แล้วทูลถามไม่เต็มปาก “ฝ่าบาท พระ….พระเนตรของ….ฝ่าบาท….”
“เหตุใดถึงไม่จุดไฟให้สว่าง” ฮ่องเต้ถามอย่างแปลกใจ
ดั่งคาด คำพูดสั้นๆ เพียงคำเดียวราวกับฟ้าผ่าในวันที่อากาศสดใส ทำให้ทุกคนถึงกับสะดุ้งตกใจ
เหตุใดถึงไม่จุดไฟให้สว่าง เหตุใดถึงไม่จุดไฟให้สว่าง นี่เป็นตำหนักที่ประทับของฮ่องเต้! ต่อให้ตอนกลางดึกที่ฝ่าบาททรงบรรทม ไฟในตำหนักนี้ก็คงไม่ดับอยู่แล้ว!
ฮองเฮาประทับอยู่บนที่นั่งอึ้งไปทันที แล้วทอดพระเนตรไปยังฮ่องเต้ ไม่รู้ว่าตรัสสิ่งใดออกมาดี
“เสด็จพี่?” เฉิงอ๋องเดินหน้ามากุมพระหัตถ์ของฮ่องเต้ไว้ แล้วขานเรียกเบาๆ
“น้องเจ็ด?” พระเนตรของฮ่องเต้ไร้ชีวิตชีวตา นิ้วพระหัตถ์กุมพระหัตถ์ของเฉิงอ๋องไว้ “เจิ้น…เหตุใดถึงมองไม่เห็นเล่า”
“เสด็จพี่อย่าได้กังวลพระทัยไปเลย นี่คงเป็นเพราะโลหิตคั่งในพระมัตถลุงค์ หวังเฟยของกระหม่อมเดินไม่ระวังลื่นล้มตอนชมหิมะในฤดูเหมันต์ปีที่แล้ว ศีรษะได้รับการกระทบกระเทือน จึงมองไม่ค่อยเห็นไปสักระยะหนึ่ง ทว่าหลังจากที่ได้รับการรักษาจากหมอหลวงเหยา ตอนนี้อาการดีขึ้นมาเยอะแล้ว” เฉิงอ๋องตรัสอย่างระมัดระวังตัว กลัวว่าฮ่องเต้จะทนกับเหตุการณ์เลวร้ายไม่ได้
ฮ่องเต้ไม่ได้ตอบสนองใดๆ แค่นิ่งงันไม่พูดไม่จา
เจิ้นกั๋วกงก็รู้สึกลำบากใจอย่างมาก พวกเขาคิดว่าฮ่องเต้น่าจะไม่ฟื้นขึ้นมาในวันนี้ อาจต้องล่าช้าไปหลายวัน ทว่ากลับนึกไม่ถึงว่าฮ่องเต้จะฟื้นขึ้นมาแล้วไม่เห็นอะไร
องค์หญิงใหญ่หนิงหวาพลันตรัส “ไหนๆ น้องสะใภ้เจ็ดก็ยังรักษาจนหาย เช่นนั้นฝ่าบาทคงไม่ต้องกังวลพระทัยไปหรอก ฝ่าบาทเพิ่งฟื้นขึ้นมา พระวรกายยังคงอ่อนแอ จางย่วนลิ่ง เจ้าว่าควรให้ฝ่าบาทเสวยยาบำรุงอะไรหรือไม่”
“องค์หญิงตรัสถูกพ่ะย่ะค่ะ ฝ่าบาทสลบไปหนึ่งวันหนึ่งคืน ต้องบำรุงพระวรกายพ่ะย่ะค่ะ” จางชางเป่ยที่ได้ยินคำแนะนำขององค์หญิงใหญ่แล้ว ก็รีบสั่งหมอหลวงที่อยู่ด้านหลัง “รีบไปยกข้าวต้มพุทราแดงที่ตุ๋นให้ฝ่าบาทมาเร็ว”
หลินซูมั่วพลันยกข้าวต้มพุทราแดงมาให้หนึ่งถ้วย กลับถูกฮ่องเต้ผลักทิ้ง “ออกไปให้หมด!”
ทุกคนตกตะลึง บ้างก็ยังไม่ได้สติกลับมา
“ออกไปให้หมด!” จู่ๆ ฮ่องเต้ตะโกน แม้แต่ผ้าห่มก็จะตลบออก
“ฝ่าบาท!” เฟิงฮองเฮาพลันห่มผ้าให้ฮ่องเต้ แล้วอยากซบลงไปร้องไห้บนแผงอกของฮ่องเต้
“ออกไป!” ฮ่องเต้ผลักฮองเฮา พระหัตถ์ใหญ่ผายผ่านทุกคน ตะคอกด้วยความโมโห “ออกไปให้หมด!”
จิ่นอ๋องและเยี่ยนอ๋องแลกเปลี่ยนสายตากัน เฉิงอ๋องและเจิ้นกั๋วกงก็สบตากัน องค์หญิงใหญ่หนิงหวาทอดพระเนตรไปยังบุรุษรอบๆ สุดท้ายก็ถอนหายใจเบาๆ แล้วลุกขึ้นเสด็จออกไปด้านนอกก่อน จากนั้นท่านอ๋องและเจิ้นกั๋งกงต่างก็ติดตามองค์หญิงใหญ่ออกไป
ทุกคนต่างรู้ดี ฮ่องเต้ทนรับเรื่องตาบอดไม่ได้ จึงได้เกรี้ยวโกรธดั่งเพลิงกาฬเช่นนี้ ปล่อยให้เขาได้ระบายความโกรธออกมาก็ดี เพียงแต่ว่าฮองเฮายังรู้สึกไม่พอพระทัย อยากอยู่เคียงข้างฮ่องเต้ กลับถูกฮ่องเต้ผลักหนึ่งที “เจ้าก็ออกไป!”
ทุกคนออกจากมุ้งตามลำดับ สีหน้าของแต่ละคนเศร้าหมองและประหม่ายิ่งนัก
เฉิงอ๋องเรียกจางชางเป่ย แล้วถามว่า “เจ้ามองเรื่องนี้อย่างไร”
“ดั่งที่ท่านอ๋องตรัส โลหิตที่คั่งในพระมัตถลุงค์ของฝ่าบาทยังจัดการไม่หมด ทำให้พระเนตรบอดเพียงชั่วคราวเท่านั้น ทว่า…” จางชางเป่ยพูดถึงตรงนี้ ก็ถอนหายใจเบาๆ
“ทว่าอะไร!” องค์หญิงใหญ่หนิงหวาถามอย่างกังวลพระทัย
“แต่ว่าเหยาเยี่ยนอวี่ใช้กำลังภายในจนหมด อีกอย่างครั้งนี้ไม่เหมือนทุกครั้ง ไม่รู้ว่านางต้องใช้เวลานานเพียงใดถึงจะฟื้นฟูกลับมาได้ กระหม่อมใช้วิธีการฝังเข็มอู่หลงขับเลือดที่คั่ง ทว่า…การฝั่งเข็มอู่หลงไม่เร็วเท่าการฝังเข็มแบบไท่อี่อยู่ดี”
“ไม่ใช่ว่าเหยาเยี่ยนอวี่ยังมียาสูตรใหม่ที่เพิ่งวิจัยออกมาหรือ” เยี่ยนอ๋องตรัสถาม
“พ่ะย่ะค่ะ ทว่าฤทธิ์ยามีจำกัด ต้องใช้เวลานานพอสมควร” จางชางเป่ยพูดอย่างลำบากใจ
องค์หญิงใหญ่ถามอย่างกระวนกระวาย “เช่นนั้นหากใช้ยาและการฝังเข็มอู่หลงของเจ้า เมื่อใดฝ่าบาทถึงจะกลับมามองเห็นอีกครั้ง”
“นี่…” จางชางเป่ยพึมพำสักพัก แล้วส่ายหัว “กระหม่อมไม่กล้ารับปาก อย่างไรก็ต้องการให้ฝ่าบาทให้ความร่วมมือ ดูจากตอนนี้ ฝ่าบาทเหมือนจะกระวนกระวายอย่างมาก นี่น่าจะยากต่อการฟื้นฟูให้กลับมาเป็นเหมือนเดิม”
“เฮ้อ!” เฉิงอ๋องถอนหายใจแรงๆ ภายในใจกำลังคิดว่า แย่แล้ว! หรือว่าต้องเลือกองค์ชายมาสืบทอดบัลลังก์จริงๆ
ตอนที่ 524-1 เยี่ยนอวี่ลาพักร้อน หมิงชั่นได้บุตรชาย (2)
นึกไม่ถึงว่าตอนกลางคืน กลับเกิดเรื่องกะทันหัน ฮ่องเต้องค์ที่สี่ของแคว้นต้าอวิ๋นไม่ใช่สวรรคตไป ทว่าเป็นเพราะพระเนตรบอดจนต้องหลีกตำแหน่งให้คนอื่น! นี่คงจะกลายเป็นเรื่องที่น่าอับอายที่สุดในประวัติศาสตร์ราชวงศ์ต้าอวิ๋นหรือเปล่า!
ฮ่องเต้กอดพระชานุประทับอยู่บนเตียงไปนานมาก ไม่รู้ว่าจู่ๆ นึกถึงอะไร จึงหันหลังเสด็จลงเตียง เหตุเพราะสะดุด ทั้งตัวจึงโน้มไปด้านหน้า
หลินซู่มั่วสะดุ้งตกใจ จึงรีบกระโดดไปด้านหน้าแล้วพยุงพระกฤษฎีของฮ่องเต้ไว้ “ฝ่าบาท ระวังเพคะ”