อัจฉริยะหญิงเทพสมุนไพร - ตอนที่ 650 จบบริบูรณ์
ตอนที่ 650 จบบริบูรณ์
วันที่หนึ่งตุลาคม เย่ว์จือเหิงกับกู้หานจัดงานแต่งงานที่เมืองหลวง
วันที่หนึ่งพฤศจิกายน พวกเขาได้จัดงานแต่งขึ้นอีกครั้งที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์
สามเดือนต่อมา กู้หานพาเย่ว์จือเหิงกลับไปเยี่ยมญาติที่เมืองหลวง จากนั้นสองสามีภรรยาก็ไปหมู่บ้านเถาหยวน
เย่ว์จือเหิงอยู่ที่หมู่บ้านเถาหยวนไม่กี่วันก็กลับเผ่าคนเดียว ส่วนกู้หานทุ่มเทให้กับการวิจัยและพัฒนาชิป
ในช่วงปิดเทอมหน้าหนาว เริ่มต้นปีใหม่ ปาเฝ่ยกับถังถังก็แต่งงานกันที่บ้านเก่าของตระกูลถัง
คู่สามีภรรยาข้าวใหม่ปลามันพักอยู่ที่บ้านตระกูลถังเกือบหนึ่งเดือน พ้นช่วงตรุษจีนถึงกลับเผ่า จากนั้นก็จัดงานเลี้ยงฉลองที่หมู่บ้านตระกูลปากันอีกครั้ง ที่เหลือก็แค่รอเปิดเทอมไปเรียนปริญญาเอกที่วิทยาลัยการแพทย์ตระกูลปา
เวลานี้กู้หานได้ส่งข่าวดีมาบอก
ช่วงปิดเทอมหน้าร้อนในปีเดียวกัน เฉิงอันนั่วกับปาอิน จั่วอีเหิงกับหลินเหอเฟิงศิษย์หลานของซย่าโหวโซ่วจัดงานแต่งงานที่หมู่บ้านเถาหยวน
ถังถังอาเจียนอย่างหนักในงานเลี้ยง ตรวจพบว่ากำลังตั้งครรภ์
คนตระกูลถังดีใจกันยกใหญ่!
ผู้อาวุโสที่อายุเกินร้อยสามสิบปีดีใจจนหลั่งน้ำตา
คำสาปเรื่องทายาทสืบทอดตระกูลถังได้ถูกเหลนสาวคนเล็กทำลายลงแล้ว!
ตระกูลถังแทบทุกรุ่นต้องแต่งงานหลายปีกว่าจะมีลูก บางคนต้องรอถึงสิบปีขึ้นไปด้วยซ้ำกว่าจะตั้งท้อง แต่เหลนสาวคนเล็กเพิ่งแต่งได้ครึ่งปีก็มีข่าวดีแล้ว!
เขาไม่ผิดต่อบรรพบุรุษที่ล่วงลับแล้ว!
เขาสนับสนุนให้เด็กสองคนนี้คบกันมาตลอด คนอื่นๆ รวมถึงพ่อแม่ของถังถังต่างไม่ยินดีที่ว่าที่ผู้สอบทอดของตระกูลถังจะแต่งงานไปอยู่ไกลๆ แต่ติดตรงที่ผู้อาวุโสของบ้านไม่คัดค้าน ต่อให้พวกเขาไม่เห็นด้วยอย่างไรก็ไม่กล้าพูดออกไป กลัวว่าจะทำผู้อาวุโสโมโหจนเป็นอะไรไป
อันที่จริงอย่าว่าแต่คนอื่นๆ ในตระกูลถังเลย ตอนแรกปู่ทวดถังก็ไม่เห็นดีเห็นงามด้วย ไม่ใช่ว่าเขาไม่ชอบปาเฝ่ย ก็แค่ระยะทางมันไกลกันเกินไป กลัวเหลนสาวที่ตัวเองเลี้ยงตั้งแต่เด็กมาจนโตถูกรังแกแล้วจะไม่มีใครรู้
ไม่ใช่ว่าคนตระกูลปาจะทรมานลูกสะใภ้ แต่สามีภรรยาเหมือนลิ้นกับฟันที่ย่อมมีเรื่องกระทบกระทั่งกันบ้าง แต่เหลนสาวที่เขาทะนุถนอมเหมือนแก้วตาดวงใจ ต่อให้ถูกสามีดุนิดหน่อยเขาก็ปวดใจแล้ว!
อีกอย่าง นับแต่โบราณมาตระกูลถังของพวกเขาเชี่ยวชาญแต่เรื่องพิษ นี่เป็นศาสตร์ในแง่ลบในสายตาของคนสมัยปัจจุบัน พวกเขากลัวคนอื่นๆ ในตระกูลปาจะไม่ชอบถังถัง จึงไม่อยากให้ถังถังแต่งไปอยู่บ้านตระกูลปา หรือแต่งเข้าบ้านไหนก็ตาม เดิมทีความคิดของพวกเขาคือหาลูกเขยแต่งเข้ามา
แต่หลังจากที่สองครอบครัวเจอกันบ่อยขึ้น ปู่ทวดถังก็สบายใจ
และยังมีอีกสาเหตุหนึ่งที่สำคัญ ก็คือคนเผ่าหมาป่าพระจันทร์มีลูกง่ายมาก
สิ่งที่ตระกูลถังของพวกเขาขาดแคลนก็คือลูกหลาน!
ตอนนี้สบายใจได้แล้ว!
ต่อมาเย่ว์จือกวงกับตี้อู่หลันฉือ มู่หว่านกับน่าหลานอวิ๋นไค ตี้อู๋โยวกับเจียงเฟิงเหมียน หรือแม้กระทั่งฟางฝ่างก็แต่งกับเซี่ยซิงเฉิน โจวซือหย่วนแต่งกับอวิ๋นสุ่ยเหยา พี่ชายอวิ๋นสุ่ยเหยาแต่งกับน่าหลานอวิ๋นเสี่ยง…
ในระยะเวลาสองสามปีนี้ แต่ละคู่ทยอยแต่งงานกัน ทยอยมีลูกตามกันมา ตี้อู๋เปียนรอแล้วรอเล่า ก็ยังไม่ถึงคิวตัวเองสักที เขาอาละวาดด้วยความอิจฉา แม้แต่หมาแมวก็ไม่ได้อยู่เป็นสุข ยิ่งไม่ต้องพูดถึงคนเลย
ความงอแงของเขาเล่นเอาแม้แต่เย่ว์หลั่งก็หมดความอยากจะอัดให้น่วมอีก ยอมอนุญาตอย่างฝืนๆ
ครั้นแล้วแต่ละฝ่ายก็เริ่มวางแผนจัดงานแต่งงานกัน
งานแต่งครั้งนี้ยังเป็นโอกาสที่มู่เถาเยาจะปรากฏสู่สายตาชาวโลกในฐานะว่าที่ผู้สืบทอดเผ่าหมาป่าพระจันทร์
จึงใช้เวลากันหนึ่งปีเต็มๆ กว่าจะจัดงานแต่งงานสองครั้งที่ทั้งโลกต้องจับตามองในขณะที่มู่เถาเยาอายุยี่สิบเจ็ดปี แต่งกับตี้อู๋เปียนชายหนุ่มรูปงามที่สุด
ในงานเลี้ยงตอนเย็นได้รวบรวมผู้คนที่มีชื่อเสียงจากหลากหลายวงการไม่ว่าจะเป็นวงการทหาร การเมือง ธุรกิจ การแพทย์ กีฬา บรรยากาศครึกครื้นแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน
พวกหมาป่าในเผ่าได้ถูกเจ้าขาวเจ้าเทา ขาวน้อยและสองเทาน้อยเรียกมารวมตัวกันที่ตำหนักพระจันทร์ ส่งเสียงหอนเพื่ออวยพรให้บ่าวสาวทั้งคู่
ตามมาด้วยสัตว์ต่างๆ ที่เป็นสัญลักษณ์ของความมงคลในเผ่า เช่น สิงโต ช้าง นกกระเรียนขาว นกสาลิกา และอื่นๆ มารวมตัวกัน (แน่นอนว่านี่เป็นผลงานพลังวิเศษของตี้อู๋เปียน)
บรรยากาศอลังการมาก ชวนให้จดจำ
สถานะของลูกสาวแห่งชาติกับตี้อู๋เปียนถูกเปิดเผยอย่างสิ้นเชิงในงานแต่งงานครั้งนี้ ชื่อเสียงโด่งดังถึงขั้นสุด
ตกกลางคืนภายในห้องหอ ตี้อู๋เปียนมองเจ้าสาวของเขา ขอบตาเริ่มแดง
มู่เถาเยากะพริบตาปริบๆ “เป็นอะไรไป”
“ซาลาเปาน้อย ในที่สุดฉันก็มีวันนี้! ฉันเฝ้ารอวันนี้มาตลอดนับตั้งแต่หายดี!”
มู่เถาเยาลูบหางตาของเขาที่ยกขึ้นเล็กน้อย เธอยิ้มพูด “เมื่อก่อนก็มีโอกาสให้คุณขอเรื่องนี้ไม่ใช่เหรอ ทำไมคุณไม่ใช้ล่ะ ถ้าตอนนั้นขอ ฉันก็จะรับปาก แถมจะคุยกับคุณพ่อให้ด้วย”
อันที่จริงไม่ต้องเกลี้ยกล่อมพ่อก็ยังได้ ขอแค่เธอยืนหยัด เขาก็ย่อมตอบตกลง เพราะเขาไม่มีทางขัดใจลูกสาวที่หายไปและได้กลับคืนมาอีกครั้งคนนี้แน่นอน
ตี้อู๋เปียนโอบมู่เถาเยาที่ยังสวมชุดเจ้าสาวสีขาว “ต่อให้ขอตอนนั้น ฉันก็จะบอกรออีกสองปี เพราะเธออยากทำงานก่อน งั้นฉันก็จะให้เวลาเธอ ความฝันของเธอสำคัญกว่าความปรารถนาของฉัน”
มู่เถาเยายิ้ม “แล้วตอนนี้คุณมีความปรารถนาอะไร ฉันจะทำให้สมหวัง”
“ฉันอยากได้ลูกสาว”
“ได้”
มู่เถาเยาจับมือตี้อู๋เปียนที่โอบเอวเธออยู่ไปตรงโบว์ด้านหลังชุดแต่งงาน
วันรุ่งขึ้นคู่แต่งงานใหม่ยกน้ำชาให้ผู้ใหญ่เสร็จก็ไปดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์บนเกาะส่วนตัวที่เย่ว์หลั่งให้มู่เถาเยาเป็นของขวัญ
ครึ่งเดือนกว่าก็เตรียมตัวกลับ
เดิมทีตี้อู๋เปียนยังอยากอยู่นานกว่านี้ แต่มู่เถาเยาบอกไม่ได้ป้องกันอาจตั้งท้องได้เร็วๆ นี้ ถ้าตั้งท้องก็ไม่สะดวกเดินทางทั้งทางน้ำ บก อากาศ ยิ่งไปกว่านั้นบำรุงครรภ์บนเกาะก็ไม่ได้ด้วย
ตี้อู๋เปียนจึงเก็บของเดินทางกลับ
หนึ่งเดือนต่อมามู่เถาเยาก็ตั้งท้องจริงๆ แต่ยังดีใจได้ไม่เต็มที่อาการแพ้ท้องก็รุนแรงมาก
ย่าเย่ว์ทั้งเป็นห่วงทั้งจนปัญญา “เด็กคนนี้แสบจริงๆ ไม่เรียบร้อยเหมือนเสี่ยวเยาเยาเลย”
ปู่ตี้ ย่าตี้ ราชาตี้ คุณนายอวิ๋นเหอ อารองตี้ อาสะใภ้รอง ต่างมองพ่อของเด็กเป็นสายตาเดียวกัน
พอเห็นสายตาของคนตระกูลตี้ ทุกคนก็รู้แล้วว่าเด็กเหมือนใคร
ตี้อู๋เปียน “…”
พอพ้นช่วงระยะแรกของการตั้งครรภ์ ใบหน้าตุ๊กตาของมู่เถาเยาที่เดิมทีเจ้าเนื้อนิดหน่อยกลับเผยให้เห็นคางชัดขึ้นร่างกายที่เดิมดูผอมก็ซูบลงอย่างเห็นได้ชัด
ตี้อู๋เปียนก็เป็นแบบนี้ด้วย ไม่เพียงแต่จะผอมลงไปมาก ขอบตายังดำคล้ำเป็นวงกว้าง
ชีวิตเขายากลำบากกว่ามู่เถาเยาที่ตั้งท้องอีก
พอพ้นช่วงแพ้ท้องระยะแรก มู่เถาเยาก็กลับมาเป็นปกติอย่างรวดเร็ว แต่ตี้อู๋เปียนกลับยังคงผอม
มู่เถาเยาเริ่มเรียนรู้เรื่องงานบ้านงานเมืองในช่วงระยะกลางของการตั้งครรภ์
เธอฉลาดเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งยังเคยเป็นจักรพรรดินี พอเริ่มเรียนก็เข้าใจได้ไม่ยาก ไม่เหนื่อยเลยสักนิด
วันที่สิบสองธันวาคมเวลาสิบสองนาฬิกาสิบสองนาที คริสตัลแห่งความรักของทั้งสองคนก็ได้กำเนิดขึ้นที่เผ่าหมาป่าพระจันทร์
เด็กน้อยเหมือนแม่ มีสองสัญชาติ เป็นบุคคลพิเศษคนที่สอง
หลังจากมู่เถาเยาออกจากโรงพยาบาลกลับมาอยู่ตำหนักพระจันทร์พวกผู้ใหญ่ถึงอนุญาตให้เด็กๆ มาดูซาลาเปาน้อยๆ ที่เพิ่งถือกำเนิด
ครั้นแล้วจึงกลายเป็นภาพที่เด็กๆ อย่างเด็กโตตี้อันเหยี่ยอุ้มตี้เฉิงเหยี่ยลูกชายของเจียงเฟิงเหมียนกับตี้อู๋โยว ซย่าโหวจิ่งเหยาอุ้มเย่ว์เสียนลูกชายของเย่ว์จือกวงกับตี้อู่หลันฉือ ถังเสิ่นอวี๋อุ้มเฉิงจิ้งลูกสาวของเฉิงอันนั่วกับปาอิน ตามมาด้วยเด็กที่อายุถัดลงมาอย่างอวิ๋นเยี่ยนหัง เย่ว์อู๋ซวง เยี่ยจั๋ว ตี้จินเหยี่ย เซี่ยอวี่ฮว่า เป็นต้น จากนั้นก็เป็นเด็กเล็กอย่างตี้เหิงเหยี่ย เซี่ยอวี่หลง ตี้อู่หลันหลิน เย่ว์เวิ่น ปาเฉามู่ น่าหลานตันเฟิง เป็นต้น พากันมุงดูเย่ว์เซิงเหยี่ยที่เพิ่งเกิดได้ไม่นาน ล้อมกันเป็นวงซ้อนชั้นแล้วชั้นเล่า
แต่น่าเสียดายที่ได้ดูแค่ครู่เดียวพวกเด็กๆ ก็ถูกพ่อของซาลาเปาน้อยๆ ไล่ออกจากห้อง
เด็กแรกเกิดไม่มีภูมิคุ้มกันมากเท่าไร พวกเด็กๆ ชอบปีนป่ายเล่นคลุกขี้ฝุ่น ไม่รู้เสื้อผ้าไปเลอะอะไรมาบ้าง ตี้อู๋เปียนมีเหรอจะวางใจให้ลูกสาวแก้วตาดวงใจใช้อากาศร่วมห้องกับลิงทโมนพวกนี้
หลังจากซาลาเปาน้อยๆ เย่ว์เซิงเหยี่ยอายุครบหนึ่งเดือนใบหน้าก็ขยายขึ้นมาก เครื่องหน้าเหมือนถอดแบบมาจากพ่อไม่มีผิดยกเว้นรูปหน้า
พวกเด็กๆ ไม่มีกะจิตกะใจจะเรียนหนังสือกันแล้ว อยากมารุมเล่นกับน้องสาว สุดท้ายได้อวิ๋นเยี่ยนหังที่มีวิญญาณเป็นผู้ใหญ่ทั้งหลอกทั้งกล่อมพาพวกเด็กๆ กลับไปใช้ชีวิตตามปกติ
เวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เย่ว์เซิงเหยี่ยที่น่ารักยิ่งกว่าตุ๊กตาบาร์บี้ก็ฉลองวันเกิดอายุสองขวบ
ไม่นานก็ถึงวันเกิดอายุครบสามสิบของมู่เถาเยา ในวันนี้เองเธอได้ประกาศรับตำแหน่งหัวหน้าเผ่าหมาป่าพระจันทร์อย่างเป็นทางการ
หลายปีต่อมานอกจากให้กำเนิดตี้อิ๋งเหยี่ยลูกคนที่สองแล้ว เธอยังจัดการเรื่องปกครองบ้านเมือง งานวิจัย ใช้ชีวิต สามด้านนี้ได้อย่างสมเหตุสมผล อีกทั้งยังหาเวลาทิ้งลูกๆ ออกไปเที่ยวกับตี้อู๋เปียนได้บ่อยๆ
สิบปีต่อมาไม่เพียงแต่เผ่าหมาป่าพระจันทร์จะมีตัวตนที่แข็งแกร่งมากในสายตาบรรดาประเทศมหาอำนาจ แม้แต่หมู่บ้านชายขอบที่อยู่ทางใต้อย่างหมู่บ้านเถาหยวนก็กลายเป็นหมู่บ้านอายุยืนที่สุดในโลก หมู่บ้านที่ร่ำรวยที่สุด และหมู่บ้านแชมป์เปี้ยน
ใช่แล้ว หมู่บ้านแชมป์เปี้ยน
ในการแข่งขันกีฬาระดับนานาชาติ นักกีฬาของประเทศเหยียนหวงส่วนใหญ่มาจากหมู่บ้านเถาหยวน อีกทั้งแต่ละคนยังคว้าแชมป์มาได้!
จางหยางประธานประธานสมาคมกีฬาประเทศเหยียนหวงยังได้มามอบป้าย ‘หมู่บ้านแชมป์เปี้ยน’ ให้หมู่บ้านเถาหยวนด้วยตัวเอง
ศูนย์วิจัยการแพทย์ของหมู่บ้านเถาหยวนก็จัดอยู่ในอันดับหนึ่งบนชาร์ตสถาบันวิจัยชีวการแพทย์ระดับโลก เพราะยาหลายชนิดที่ที่นี่วิจัยออกมาสามารถเอาชนะโรคร้ายแรงได้หลายชนิด
ชื่อของมู่เถาเยากลายเป็นสุดยอดของวงการแพทย์
สำนักแพทย์โบราณโด่งดังไปทั่วโลกอีกครั้งเพราะมู่เถาเยา หลังจากที่หมอเทวดาหยวนเคยทำได้มาแล้ว
ในวันเกิดอายุครบห้าสิบปี มู่เถาเยาที่ใบหน้ายังเหมือนคนอายุยี่สิบกว่าได้ลงจากตำแหน่ง ยกหน้าที่ให้เย่ว์เซิงเหยี่ยรับช่วงต่อในวัยยี่สิบสองปี
จากนั้นสองสามีภรรยากับบรรดาเพื่อนวัยเดียวกันก็ยกขบวนพาเหล่าคนสูงวัยที่อายุเกินร้อยปีขึ้นไปออกไปท่องเที่ยวทั่วโลก