เขยที่โดนทิ้ง (แท้จริงแล้วเป็นประธานบริษัท!?) - ตอนที่ 561 ท้ารบ!
ตอนที่ 561 ท้ารบ!
นี่เป็นฉากที่ตลกที่สุดในภาพยนตร์เรื่องนี้ ผู้ชมจำนวนมากเห็นฉากนี้ต่างก็หัวเราะจนท้องแข็ง แต่เย่เฉินกลับสีหน้าดำคล้ำ เพราะว่าภาพยนตร์ฉากนี้นั้นทำให้เขาย้อนคิดถึงเหตุการณ์ที่เคยเกิดขึ้นกบัเขาที่ตระกูลหวังเมื่อปีก่อน
ในตอนนั้นหลังจากที่เย่เฉินหย่ากับหวังเจียเหยาแล้วกลับไปที่ตระกูลหวังอีกครั้ง
ในตอนนั้นเขาก็พูดอะไรทำนองนี้ต่อหน้าคนตระกูลหวัง แต่ว่าหลังจากที่คนตระกูลหวังได้ยินแล้วไม่เพียงไม่เชื่อแต่กลับหัวเราะเยาะเขา แถมยังหาว่าเย่เฉินดูภาพยนตร์เรื่อง Hello Mr. Billionaire มากเกินไปหรือเปล่า
“ที่แท้คำพูดที่ฉันพูดตอนนั้น มิน่าล่ะพวกเขาเลยไม่เชื่อฉัน”
เย่เฉินย้อนคิดถึงเรื่องที่ผ่านมา แล้วหัวเราะเสียงเย็น
ตระกูลหวังในตอนนั้นไม่เชื่อในศักยภาพของเย่เฉิน ผลคือพวกเขาโดนตบหน้าจนหมดสภาพ!
ในตอนนี้ก็มีหญิงชายในเมืองหลวงคู่หนึ่งที่ไม่เชื่อศักยภาพของเย่เฉิน อีกเดี๋ยวพวกเขาก็จะต้องเสียใจแน่!
“ฉันขอสาบานเลยว่าทุกคนที่เคยดูถูกเหยียดหยามฉัน ทุกคนที่ดูแคลนนตระกูลเย่ จะต้องชดใช้!”
เย่เฉินกำหมัดแน่น เย่เทียนพี่ใหญ่ของเขาเป็นพวกลิ้นสองแฉกไม่มีความจริงใจ ทำเป็นอ่อนน้อมกับพวกเจ็ดตระกูลที่เหลือ
เย่เฉินไม่ใช่แบบนั้น!
เย่เฉินต้องใช้ศักยภาพทำให้เจ็ดตระกูลที่เหลือเคารพนับถือพวกเขา ต้องการจะใช้แรงเอาคืนพวกคนตากตระกูลอื่นที่มาท้าทายเขา!
ในตอนนั้นเย่เฉินก็หวนนึกถึงพัคซุงวูจากตระกูลพัค ไอ้คนสารเลวคนนั้นที่ชนตนเองจนลอยกระเด็นไปไกลในเกม!
ในใจเย่เฉินโกรธจัด แล้วไม่ปล่อยให้รถขับเคลื่อนโดยอัตโนมัติ ถ้าจะเอาชนะอีกฝ่ายด้วยวิธีแบบนี้ทำให้เขาไม่รู้สึกมีส่วนร่วมเท่าไรนัก
เย่เฉินขับรถเองแล้วเริ่มทำการแข่งรถกับหัวจื่อ!
ในตอนนี้เอง รถพอร์ช 911RSR สีขาวก็ตามมา
เด็กหญิงในรอยสักก็กล่าว “พี่หัว รถของหมอนั่นเร็วจังเลยค่ะ รีบตามเขาไปเลยนะ!”
หัวจื่อเองก็แปลกใจไม่น้อย “เขาแต่งรถยังไงกันนะ ทำไมถึงได้เร็วขนาดนี้ แถมเวลาเจอกรวยจราจร เขาไม่เหยียบเบรกด้วยซ้ำไ บ้าแล้ว เขาทำได้ยังไงกัน!”
เด็กสาวเห็นหัวจื่อชมเย่เฉิน ก็ลนลานทันที “พี่หัว อย่าบอกนะคะว่าพี่จะแพ้เขาแล้วอ่ะ? อย่านะคะ ถ้าที่รักแพ้ฉันต้องคุกเข่าเคารพเขา ฉันไม่อยากคุกเข่าให้กับผู้ชายที่ไม่มีความสามารถแบบนี้ ฉันจะยอมคุกเข่าให้ผู้ชายที่ทั้งมีเงินและมีความสามารถแบบที่รักเท่านั้น ที่รัก ต้องชนะเขานะ แล้วเดี๋ยวคืนนี้ฉันจะคุกเข่าให้เลยสองชั่วโมง!”
หน้าของหัวจื่อเผยรอยยิ้มออกมา ทันใดนั้นเองก็มีแรงฮึดสู้ “ที่รักจ๋า สบายใจเถอะ เรื่องแข่งรถเจ้านั่นไม่มีทางเป็นคู่ต่อสู้ของฉันหรอกนะ!”
และในถนนเส้นนี้รถไม่เยอะพอดี หัวจื่อจึงเหยียบคันเร่ง เพื่อพยายามจะแซงเขา
ทว่าเย่เฉินจะปล่อยให้อีกฝ่ายแซงเขาไปง่ายๆ ได้อย่างไร?
เย่เฉินเองก็เพิ่มความเร็วเช่นกัน จนในที่สุดก็ไปขวางอีกฝ่าย
“บัดซบ ทักษะในการขับรถของเจ้าหมอนี่ใช้ได้เลย เมื่อครู่อันตรายใช้ได้เลยแต่เขาก็ไม่ได้ขับรถชน”
ขับไปเจ็ดนาที หัวจื่อก็ตกเป็นรอง
ตอนนี้หัวจื่อเองก็เริ่มมีสมาธิ เด็กสาวก็ร้อนรนกว่าเดิม “พี่หัว ไม่งั้นพี่ปล่อยฉันลงก่อนดีไหม ฉันอยากเข้าห้องน้ำ อีกเดี๋ยวฉันเรียกรถไปหา”
หัวจื่อฟังออกว่าเด็กสาวคิดว่าตนเองน่าจะแพ้เย่เฉิน เลยอยากจะหนีเอาตัวรอด เพื่อจะได้ไม่ต้องโดนบังคับให้ตบหน้าและปากตัวเองให้ขายหน้า
เด็กสาวคนนี้ไม่ได้มีหน้ามีตาอะไรในเมืองหลวงอยู่แล้ว หนีก็รอดตัวไป แต่หัวจื่อเองคิดเอาเองว่าตัวเขาเองเป็นคนสำคัญในเมืองหลวง ถ้าหากว่ารับปากแล้วบิดพลิ้วเอาในตอนสุดท้าย ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไป เขาจะอยู่ในวงสังคมได้อย่างไร?
ดังนั้นเขาจึงกล่าวว่า “ที่รักไม่ต้องไป ฉันไม่แพ้หรอก!”
พูดพลางหัวจื่อก็เอาสัญญาณรถตำรวจที่เตรียมเอาไว้ออกมา ก่อนจะวางมันลงบนหลังคารถ
“หว่อ วี๊ หว่อ…”
เสียงเตือนดังขึ้นทันททีท แล้วรถคันนี้ของหัวจื่อก็กลายเป็นเหมือนรถตำรวจในทันที!
“แต่กๆ…”
หัวจื่อเองก็เปิดไฟขอทาง เพื่อให้รถคันหน้าและคนที่สัญจรไปมาหลบให้เขา พอเจอไฟแดงเขาก็ฝ่าไฟแดงออกไป
สวบ!
หัวจื่อรีบขับแซงหน้าเย่เฉิน
พอเห็นสัญญาณเตือนบนหลังคารถอีกฝ่าย เย่เฉินก็สบถออกมา “ต่ำช้าจริงๆ!”
แข่งรถในเมือง ก็เพื่อที่จะแข่งกันว่าในเหตุการณ์รถเยอะแยะ จะสามารถหลีกเลี่ยงและควบคุมเวลาเพื่อที่จะถึงจุดหมายปลายทางให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้
แต่ลูกไม้ที่หัวจื่อเลือกใช้ไม่ต่างอะไรกับการโกง!
ถ้าทำให้รถตัวเองกลายเป็นรถตำรวจ ทุกคนต่างก็หลบให้
ด้วยอำนาจของตระกูลของหัวจื่อในเมืองหลวงคาดว่าต่อให้ร้องเรียนไป เขาก็คงไม่โดนอะไร
และในตอนนี้เองผู้ช่วยอัจฉริยะของรถพอร์ชก็กล่าวว่า “ตรวจพบรถเป้าหมายแซงไปข้างหน้าแล้ว จพให้เปลี่ยนสภาพรถเป็นรถตำรวจหรือว่ารถโรงพยาบาลหรือเปล่าคะ?”
รถพอร์ช 888 คันนี้ ไม่เพียงแต่สามารถเปลี่ยนสีได้อย่างรวดเร็ว แต่ยังสามารถปรับสภาพรถเป็นรถได้หลายรูปแบบด้วยไปจนถึงขั้นที่ว่าสามารถปลอมแปลงปกปิดสถานะได้ด้วยซ้ำ
ทว่าที่นี่ผู้คนและรถราจอแจ เย่เฉินไม่อยากจะตกเป็นเป้าสายตาคนอื่น
เย่เฉินจึงกล่าวว่า “ไม่ต้องหรอก ให้เขานำไปเถอะ ฉันชอบเห็นท่าทางของคนที่คิดว่าตัวเองจะชนะแล้วผลกลายเป็นว่าเขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้”
บนรถพอร์ช 911RSR
เด็กสาวในรอยสักดีใจร่าเริง แล้วเปิดกระจกรถพลางชูนิ้วกลางให้เย่เฉิน
หลังจากนั้นเด็กสาวในรอยสักก็หันมาหอมหัวจื่อที่กำลังขับรถอยู่อย่างเบิกบานใจ “ที่รัก นายนี่สุดยอดไปเลย! ฮ่าๆ ตอนนี้เราเป็นรถตำรวจ รถทุกคันต้องหลบให้เรา เราชนะแน่ๆ!”
หัวจื่อมองรถของเย่เฉินผ่านกระจกมองหลัง หลังจากนั้นก็มองสถานการณ์บนถนน
และในเวลานี้เองหัวจื่อก็โทรหาเพื่อนๆ ของเขา
“เพื่อนๆ ตรงทางแยกข้างหน้า เป็นจุดสำคัญในการแข่งรถของฉัน พวกนายฟังฉันนะ ด้านหน้ามีสามแยก เดี๋ยวเราเลี้ยวซ้าย เลี้ยวขวาแล้วก็ตรงไปนะ ทางตรงเป็นทางไปวิลล่าซีซานที่ใกล้ที่สุด แล้วก็เป็นทางที่ตรงที่สุดด้วย ส่วนถ้าเลี้ยวขวาเป็นทางตรงไปขึ้นทางยกระดับรถติดสุดๆ เราต้องบังคับให้เย่เฉิน มันเลี้ยวขวาไป”
เพื่อนของหัวจื่อในตอนนี้ขับรถเฟอร์รารี หลังจากที่ได้รับข้อมูลจากอีกฝ่ายแล้วก็ตอบกลับไปว่า “ไม่มีปัญหา เราแต่ละคนช่วยๆ กันบีบให้เขาเลี้ยวขวา!”
หัวจื่อพยักหน้ารับ “ขอแค่เขาเลี้ยวขวา เราชนะแน่!”
ส่วนในตอนนี้เย่เฉินเองก็กำลังดูเส้นทางที่รถแนะนำให้กับเขา
ผู้ช่วยอัจฉริยะของรถพอร์ชของเขาเองก็บอกให้เขาตรงไปเหมือนกัน
“ตรงไปที่ปากทางด้านหน้า ทางเส้นนี้เป็นทางไปถึงเป้าหมายปลายทางที่เร็วที่สุด”
ทว่าในตอนนี้เองก็มีเฟอร์รารีคันหนึ่งโผล่มาที่ด้านหลังแล้วขับมาขนาบข้างรถของเขา จากนั้นก็พยายามเบียดมาทางด้านของตัวรถเย่เฉินไม่หยุด
ส่วนรถของหัวจื่อเองก็ขวางหน้าเย่เฉิน ไม่ยอมให้รถเขาไปด้านหน้า
“พวกเขาอยากให้ฉันเลี้ยวขวาเหรอเนี่ย”
เย่เฉินสังเกตเห็นแผนการของคนพวกนี้ได้ทันที
ผู้ช่วยอัจฉริยะของรถพอร์ชกล่าว “เส้นทางของฝั่งขวารถค่อนข้างติด ถ้าไปทางขวาจะสามารถเปิดโหมดบินได้”
ทันทีที่เลือกใช้โหมดเครื่องบินแล้ว การแข่งขันในครั้งนี้จะไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงใดๆ อีก!
แต่ว่ารถเยอะแยะมากมาย เย่เฉินบินไปจะต้องทำให้เกิดเสียงฮือฮาแน่ๆ
เย่เฉินยังไม่อยากจะเป็นเป้าสายตาคนอื่นขนาดนี้
ทันใดนั้นเองเย่เฉินก็เอ่ยถาม “ถนนทางฝั่งซ้ายไปได้ไหม?”