novel-lucky | นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย PDF
  • หน้าหลัก
  • ดูอนิเมะ anime
  • anime
  • โดจิน
ค้นหานิยาย
Sign in Sign up
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
  • จันทร์
  • อังคาร
  • พุธ
  • พฤหัสบดี
  • ศุกร์
  • เสาร์
  • อาทิตย์
  • ทุกวัน
  • จบแล้ว
  • นิยาย PDF
Sign in Sign up
Prev
Next
hotgraph Hydra888 xoslotz ดูบอลสด UFAC4 PANAMA888 lotto432 ufabet london168 newyork UFAZEED UFA1919 PG freefire เว็บหวยฮานอย ซื้อหวยฮานอย SSGAME350 เล่นเซ็กซี่บาคาร่า AE SEXY เว็บบาคาร่าดีที่สุด dgthai nowbet หวยออนไลน์

เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此] - บทที่ 321 หัตถ์เทพเจ้า

  1. Home
  2. เซียนกระบี่มาแล้ว![剑仙在此]
  3. บทที่ 321 หัตถ์เทพเจ้า
Prev
Next

บทที่ 321 หัตถ์เทพเจ้า

“ฆ่านางซะ”

ถังกู่จินตะโกนออกคำสั่ง

เมื่อกลายร่างเป็นปีศาจแล้วก็จะต้องเป็นปีศาจตลอดไป

และปีศาจต้องถูกลงโทษ

เจ้าหน้าที่มือปราบซึ่งมีพลังอยู่ในขั้นปรมาจารย์ระดับที่หกจำนวนหลายนาย กรูเข้าไปห้อมล้อมเยว่หงเซียงที่นอนหมดสติอยู่บนพื้นดิน

ทุกคนเข้าใจว่าเวลาตายของเด็กสาวได้มาถึงแล้ว

เคล้ง! เคล้ง!

ทันใดนั้น ประกายไฟสาดกระจาย

ปีกกระบี่กางออกกว้างปัดป้องการโจมตีทั้งหมด

“หืม?”

ถังกู่จินสีหน้าเปลี่ยนไปทันที พูดว่า “นักพรตหญิงชิน ทำแบบนี้หมายความว่าอย่างไร?”

ปรากฏว่านักพรตหญิงชินกำลังกางปีกบนแผ่นหลังกว้างห่อหุ้มร่างกายของเยว่หงเซียง

“นักพรตหญิงชิน ท่านกำลังทำอะไรอยู่? ในฐานะนักพรต ท่านจะปกป้องปีศาจได้อย่างไร?” ไป๋ไห่ชินพูดออกมาเสียงเข้ม

นักพรตหญิงชินไม่ได้ชำเลืองมองเซียนกระบี่จากเมืองไป๋หยุนเลยแม้แต่น้อย

ใบหน้าขาวผ่องของนางหันมาจ้องมองที่ถังกู่จินด้วยแววตาปราศจากความรู้สึก

“นางเป็นผู้บริสุทธิ์”

นักพรตหญิงชินพูดด้วยน้ำเสียงหนักแน่น

ว่าไงนะ?

หลิงจุนเซวียน องค์ชายเจ็ดและเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ต่างก็ตกตะลึงเมื่อได้ยินคำพูดนั้น

ก็เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเด็กสาวผู้นี้กลายร่างเป็นปีศาจ แล้วนางจะเป็นผู้บริสุทธิ์ได้อย่างไร?

หลังจากนั้น นักพรตหญิงชินก็หันกลับไปหาเยว่หงเซียงที่นอนหมดสติ แล้วนางก็บริกรรมคาถาบางอย่าง มวลอากาศรอบกายเกิดความปั่นป่วน รูปปั้นเทพีกระบี่ที่ตั้งเรียงรายอยู่สองข้างฝั่งปรากฏลำแสงเรืองรอง แล้วมวลพลังทั้งหมดในวิหารเทพกระบี่ก็ไหลมารวมกันที่นักพรตหญิงชินเป็นหนึ่งเดียว

บัดนี้ นักพรตสาวมีร่างกายที่เปล่งแสงสว่างไสวจนทำให้สายตาของทุกคนพร่ามัว

ทุกคนรับรู้ได้ถึงพลังศักดิ์สิทธิ์ที่เกิดขึ้นในจิตใจ

ในเวลาเดียวกันนี้ บริเวณหลังมือของนักพรตหญิงชินได้ปรากฏรอยอักขระสีเงินยวงขึ้นมาอย่างช้าๆ

รอยอักขระเหล่านั้นรวมตัวกันจนเกิดเป็นรอยสักรูปฝ่ามือข้างหนึ่งบนหลังมือซ้ายของนักพรตหญิงชิน มันเป็นรอยสักที่มีรายละเอียดชัดเจน แม้แต่เส้นลายมือของฝ่ามือนั้น ก็ยังสามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า

พลัน ดวงตาของนักพรตหญิงชินยิงลำแสงออกมาสองสาย

นางบริกรรมคาถาต่อเนื่อง

เสียงสวดมนต์ของนักพรตหญิงชินดังกังวานทั่ววิหารเทพกระบี่

พลังปราณศักดิ์สิทธิ์แผ่กระจายไปรอบบริเวณ

แล้วรอยสักรูปฝ่ามือบนหลังมือของนักพรตหญิงชินก็ค่อยๆ ลอยตัวขึ้นไปในอากาศ

พลังปราณศักดิ์สิทธิ์ที่แผ่ออกมาจากตัวของนักพรตหญิงชิน สาดเป็นลำแสงสว่างเหมือนแสงจันทร์ เมื่อรวมเข้ากับฝ่ามือที่ลอยอยู่ในอากาศ มันก็มีสภาพเหมือนมือสีขาวบริสุทธิ์ข้างหนึ่ง

“นี่มัน…หัตถ์เทพเจ้าไม่ใช่หรือ?” องค์ชายเจ็ดเบิกตาโตด้วยความตื่นตะลึง จดจำได้ดีว่านี่คือสุดยอดวิชาที่เคยถูกกล่าวถึงแต่ในตำนานเท่านั้น ทว่า เมื่อเขาได้มาพบเห็นด้วยสองตาของตนเอง องค์ชายหนุ่มก็ถึงกับอ้าปากค้าง

แต่หลิงจุนเซวียนตกตะลึงยิ่งกว่าใครทั้งหมด

เมื่อพิจารณามือเทพเจ้าที่ลอยตัวอยู่ด้านบน หลิงจุนเซวียนก็พบว่าสิ่งที่ควรเป็นเพียงรอยสักบนหลังมือของนักพรตหญิงชิน บัดนี้มันกลับกลายเป็นมือข้างหนึ่งที่มีลักษณะโปร่งแสง มวลพลังแข็งแกร่งพวยพุ่งออกมาจากนิ้วทั้งห้า และทันทีที่มือข้างนี้ปรากฏออกมา บรรดารูปปั้นเทพีกระบี่ที่อยู่รอบบริเวณก็เกิดอาการสั่นสะเทือนเหมือนแผ่นดินไหว

รูปปั้นเหล่านั้นระเบิดลำแสงสีเงินออกมารอบทิศทาง

นี่คือรูปปั้นเทพีกระบี่ที่ยืนตากแดดตากลมมานานหลายร้อยปี แต่ในเวลานี้ พวกมันกลับเปล่งประกายเหมือนเป็นสิ่งมีชีวิต

เหล่านักบวชสาวของวิหารเทพกระบี่พร้อมใจกันคุกเข่าลง

แม้แต่ชาวเมืองที่กำลังวิ่งหนีกันอย่างวุ่นวายโกลาหล เมื่อได้อาบไล้ลำแสงศักดิ์สิทธิ์สีเงินจากรูปปั้นรอบบริเวณ พวกเขาก็อยู่ในอาการสงบและคุกเข่าลงบนพื้นดินแสดงความเคารพเช่นกัน

ถังกู่จินใบหน้ากระตุกด้วยความเหลือเชื่อ

ไป๋ไห่ชินมีแววตาเคร่งเครียดขึ้นมาทันที หัวใจเต้นไม่เป็นจังหวะ

ทันใดนั้น

มือโปร่งแสงที่ลอยตัวอยู่ในอากาศก็ค่อยๆ เอื้อมลงมาสัมผัสหน้าอกข้างซ้ายของเยว่หงเซียง นิ้วมือทั้งห้าของมันทะลวงเข้าไปหาหัวใจของเด็กสาวผู้กลายร่างเป็นปีศาจ จากนั้น หัตถ์เทพเจ้าก็กระชากมวลพลังงานสีดำออกมาจากร่างกายของเด็กสาวอย่างรุนแรง

น่าแปลกก็ตรงที่บนร่างกายของเยว่หงเซียงไม่เกิดบาดแผลเลยสักรอยเดียว

เมื่อพลังงานสีดำถูกดึงออกมาจากร่างกาย รอยอักขระปีศาจตามเนื้อตัวของเยว่หงเซียงก็จางหายไปในพริบตา ร่างกายที่โป่งพองพลันหดแฟบกลับมาเป็นปกติ ผิวที่เคยปกคลุมด้วยหมอกดำขมุกขมัวก็กลับมาขาวผ่องเป็นยองใย กรงเล็บมือที่ยาวเหมือนกระบี่พลันแตกสลายเป็นผุยผง…

“กะ…เกิดอะไรขึ้นกับข้าน้อยหรือเจ้าคะ?”

เยว่หงเซียงร้องครางในลำคอด้วยความเจ็บปวด กวาดตามองรอบตัว ถามออกมาเหมือนเพิ่งตื่นจากฝันร้าย

หน้ากากครึ่งซีกที่เด็กสาวสวมใส่แตกหักไปนานแล้ว บัดนี้ใบหน้าส่วนที่มีรอยแผลเป็นของนางจึงปรากฏออกมาต่อสายตาชาวเมือง เสื้อผ้าที่นางสวมใส่ก็ขาดกระจุยตอนที่กลายร่างเป็นปีศาจ ส่งผลให้บัดนี้เยว่หงเซียงมีสภาพอยู่ในลักษณะกึ่งเปลือยกาย…

นักพรตหญิงชินถอดเสื้อคลุมของตนเองออกมาคลี่คลุมร่างกายบอบบางของเยว่หงเซียง

“ไม่เป็นไรแล้ว ทุกอย่างจบลงแล้ว”

นักพรตสาวปลอบประโลมอย่างอ่อนโยน

คำพูดของนางเหมือนวาจาศักดิ์สิทธิ์ เยว่หงเซียงซึ่งเสียเลือดเป็นจำนวนมากพลันมีสีหน้าผ่อนคลายลง ก่อนที่ดวงตาจะหรี่ปิด และหลับไหลไปในอีกไม่กี่อึดใจต่อมา

“อ๊าก!”

ได้ยินเสียงร้องแสบหูดังออกมาจากมือเทพเจ้าที่ลอยกลับขึ้นไปอยู่ในอากาศอีกครั้ง

ขณะนี้ มวลพลังงานปีศาจเมื่ออยู่ภายในกำมือของหัตถ์เทพเจ้า มันก็หดตัวลงไปเรื่อยๆ จนมีสภาพเป็นเหมือนแมลงสีดำขนาดเท่าเล็บมือตัวหนึ่ง และมันก็พยายามดิ้นรนพร้อมกับส่งเสียงกรีดร้องออกมาตลอดเวลา

“นี่มันแมลงปีศาจไม่ใช่หรือ!” หลิงจุนเซวียนอุทานออกมาด้วยความเหลือเชื่อ

“มิผิด นี่คือแมลงปีศาจ” นักพรตหญิงชินกล่าวน้ำเสียงราบเรียบ “เยว่หงเซียงกับมี่หรู่หยานต่างก็ถูกแมลงปีศาจแฝงตัวอยู่ในร่างกาย เหตุผลที่พวกนางกลายร่างเป็นปีศาจ ก็เป็นเพราะแมลงเหล่านี้เอง”

เมื่อประโยคนั้นถูกเอื้อนเอ่ยออกมา ทุกคนที่ได้ยินก็ถึงกับตกตะลึงไปแล้ว

คำพูดของนักพรตหญิงชินเป็นเหมือนสายฟ้าที่ฟาดใส่จิตใจของทุกคน

ฉู่เหิน พานเว่ยหมิน หลิวฉีไห่ และคณะอาจารย์คนอื่นๆ จากสถานศึกษากระบี่ที่สาม พร้อมใจกันถอนหายใจออกมาด้วยความโล่งอก

เอาล่ะ

อย่างน้อยประเด็นนี้ก็คลี่คลายลงแล้ว

อาจารย์อาวุโสทั้งสามท่านรีบวิ่งเข้าไปดูอาการไป๋ชินหยุนกับฮันปู้ฟู่

“พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง?”

“ยังหายใจ… หัวใจเต้นอ่อนมาก แต่อย่างน้อยก็ยังไม่ตาย”

“เฮ้อ เมื่อสักครู่นี้ ข้าตกใจกลัวแทบแย่”

หลังตรวจสอบอาการของลูกศิษย์เป็นระยะเวลาสั้นๆ อาจารย์อาวุโสทั้งสามท่านก็ทิ้งตัวนั่งลงบนพื้นอย่างหมดแรงและโล่งใจ

ภาพเหตุการณ์ที่พวกเขาพบเห็นมันน่ากลัวมากเกินไป เสื้อคลุมของไป๋ชินหยุนกับฮันปู้ฟู่ถูกย้อมด้วยเลือดสีแดงสด นับเป็นปาฏิหาริย์ที่เด็กสองคนนี้ยังรอดชีวิต และบาดแผลบนร่างกายก็จางหายไปแล้ว พลังลมปราณแทบไม่มีเหลือ หัวใจเต้นอ่อนล้า ใบหน้าปราศจากสีเลือด…

แต่อย่างน้อยฮันปู้ฟู่กับไป๋ชินหยุนก็ยังมีชีวิตอยู่

“วงแหวนวารีของหลินเป่ยเฉินเป็นสิ่งที่ช่วยชีวิตพวกเขาเอาไว้แท้ๆ”

ฉู่เหินพูดออกมาด้วยสีหน้าหนักใจ

ไม่มีใครรู้เลยว่าทั้งตัวเขา พานเว่ยหมินและหลิวฉีไห่กำลังคิดอะไรอยู่

อาจารย์อาวุโสทั้งสามท่านได้แต่ภาวนาว่าข้อกล่าวหาเหล่านั้นคงไม่เป็นความจริง

หลินเป่ยเฉินคงไม่ใช่สาวกปีศาจหรอกกระมัง?

มิเช่นนั้น เขาจะช่วยชีวิตไป๋ชินหยุนกับฮันปู้ฟู่เอาไว้ทำไม?

เมื่อคิดย้อนดูให้ดี อาจารย์ทั้งสามท่านต่างก็มั่นใจว่าสีหน้าวิตกกังวลของหลินเป่ยเฉินในขณะนั้นไม่ใช่การแสดง แต่มันมาจากการที่เขาเป็นห่วงสหายทั้งสองคนนี้อย่างแท้จริงต่างหาก

“ปรากฏว่าเป็นฝีมือของแมลงปีศาจตัวนี้นี่เองสินะ”

ถังกู่จินพูดด้วยสีหน้าประหลาดใจ

เขาจ้องมองแมลงสีดำในมือเทพเจ้า จากนั้นก็ขมวดคิ้วขบคิดอะไรบางอย่าง ก่อนพูดออกมาว่า “เท่าที่ข้ารู้ การจะใช้แมลงปิศาจให้เล่นงานใครสักคน ผู้ที่ปล่อยแมลงปิศาจต้องเป็นคนสนิทของเหยื่อ มิฉะนั้นแล้ว คงไม่สามารถปล่อยแมลงใส่พวกนางโดยที่เด็กสาวทั้งสองคนนี้ไม่รู้ตัวได้เด็ดขาด… เรื่องนี้คงหนีไม่พ้นเป็นฝีมือของหลินเป่ยเฉินแน่นอน เขาตั้งใจจะให้พวกนางช่วยเหลือตนเองหลบหนี ช่างน่าเวทนาเด็กสาวทั้งสองคนนี้เหลือเกิน ที่ตกเป็นเครื่องมือของตัวชั่วร้ายอย่างหลินเป่ยเฉินอีกแล้ว”

พูดจบ ดวงตาที่จ้องมองหัตถ์เทพเจ้าของผู้ตรวจการมณฑลก็มีความเคียดแค้นใจมากกว่าเดิม

ให้ตายสิ

ถังกู่จินรู้ดีอยู่หรอกว่านักพรตหญิงชินมีฝีมือสูงส่งเป็นนักพรตรุ่นใหม่ที่น่าจับตามอง แต่เขาไม่มีทางคิดเลยว่านางจะแกร่งกล้าจนสามารถใช้วิชาในตำนานอย่างหัตถ์เทพเจ้าได้เต็มประสิทธิภาพอย่างนี้

โชคดีที่สถานการณ์ทุกอย่างผ่านไปแล้ว

แผนการของเขาไม่ถูกเปิดโปง

หากนักพรตหญิงชินสังเกตเห็นสิ่งผิดปกติเข้าล่ะก็ คงได้เกิดเรื่องใหญ่ขึ้นแน่ๆ

นักพรตหญิงชินไม่ได้แสดงความคิดเห็นใดกับข้อกล่าวหาของถังกู่จินที่มีต่อหลินเป่ยเฉิน

นางยกมือขึ้นอย่างเชื่องช้า

แล้วหัตถ์เทพเจ้าในอากาศก็กำมืออย่างแรง

“อ๊าก!” แมลงปีศาจส่งเสียงร้องโหยหวนก่อนที่มันจะถูกบีบจนร่างกายแตกสลายหายไป

นักพรตหญิงชินอุ้มร่างของเยว่หงเซียงขึ้นจากพื้น นางหันมาหาพวกของฉู่เหินและคิดอะไรอยู่เล็กน้อย ในที่สุดก็พูดว่า “อาการบาดเจ็บของเด็กหนุ่มเด็กสาวทั้ง 2 คนนั้น ก็ต้องได้รับการรักษาอย่างเร่งด่วนเช่นกัน โปรดนำตัวพวกเขาตามข้าเข้าไปข้างในวิหารเถิด”

ฉู่เหิน พานเว่ยหมินและหลิวฉีไห่อุทานออกมาด้วยความดีใจ

แต่ในทันใดนั้นเอง

“ช้าก่อน” เสียงพูดของใครคนหนึ่งดังขึ้น “นักพรตหญิงชิน คนอื่นท่านสามารถพาไปได้ตามสบาย แต่สำหรับฮันปู้ฟู่ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของพวกเราเอง”